จบกันไปแล้วกับงานบรรยายล่าสุดจากทางเว็บ LCDTVTHAILAND ในหัวข้อ “ครั้งแรกในประเทศไทย กับหนัง 4K HDR บนโทรทัศน์” ที่ทีมงานได้นำทีวี 4K HDR มาเปิดทดสอบกับคอนเทนต์ 4K HDR จริงๆ ไม่มีเจือปน Full HD ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับจากมิตรแท้แฟนออนไลน์กันอย่างหนาแน่นเช่นเคย โดยงานจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2016 เวลา 13.00-15.00 ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท ภายในงานแสดงเครื่องเสียง BAV HI-END SHOW 2016


ขอขอบคุณทุกท่านมากครับ
สำหรับวันนี้ผมขอนำภาพบรรยากาศและเนื้อหาโดยสรุป มาฝากท่านที่ไม่ได้ไปร่วมงาน เพื่อที่จะได้นำมาคุยกันในเว็บบอร์ดได้อย่างต่อเนื่องไม่ตกเทรนด์
หัวใจหลักของงานบรรยายคราวนี้ คือการสาธิตประสิทธิภาพ “4K HDR” หรือภาพยนตร์ความละเอียดสูงที่มาพร้อมเรนจ์สีที่กว้างขึ้น จาก Samsung SUHD TV ผ่านการเล่นคอนเทนต์จากแผ่นบลูเรย์ ที่ถูกบันทึกมาพร้อมฟีเจอร์เดียวกัน โดยมีทีวีสองรุ่นไฮไลท์ Samsung ซีรีส์ 9 ทั้ง 78KS9800 : Full Array LED Backlight และ 78KS9500 : Edge LED Backlight เป็นตัวชูโรง แล้วก็มีตัวท็อปอย่าง 65KS9000 รองท็อป 65KS7500 และ ซีรีส์ 6 รุ่นกลางทั้ง 55KU6500 กับ 55KU6000 มาเรียงหน้าชนทดสอบ โดยทีวีทั้ง 6 ตัวนั้นถูกวางเรียงกันเพื่อให้เกิดการ “เปรียบเทียบภาพ” แบบซีรีส์ต่อซีรีส์ มาดูสิว่าแฟนๆจะเห็นความแตกต่างกันหรือไม่ ?
ภายในงาน มีการทดสอบภาพแบบ “เจาะลึก” หลากรูปแบบทั้ง
1) ระดับความดำ : Black Level
2) ความสว่าง : Peak Brightness
3) ขอบเขตสี : Color Space
4) ความคมชัด : Resolution
5) หนัง 4K HDR : High Dynamic Range
ท่านใดอยากปูพื้นฐานเรื่อง HDR ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เชิญศึกษาได้ที่นี่เลยครับ


เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้บรรยายและคนฟัง


โดยหัวหอกหลักเป็นสองตัวกลาง KS9800 และ KS9500 ขนาดใหญ่ 78 นิ้ว

แผ่น 4K HDR แท้ๆ มาจากเว็บ Amazon ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่ “ดีที่สุด” ที่พึงจะหาได้ในตอนนี้

จึงบอกได้ว่า “เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะได้ยลภาพ 4K HDR แท้ๆ”

เปิดให้แฟนๆ LCDTVTHAILAND ได้รับชมแบบ Exclusive

นอกจากนี้ก็คือความละเอียดแบบ 4K ขอบเขตการแสดงสีสันที่กว้างขึ้นนั่นเอง

“An HDR Video is Playing” ทีวีกำลังเล่นคอนเทนต์ HDR อยู่นะ


ที่ได้รับการรับรองจากกลุ่ม UHD Alliance และได้มาตรฐาน Ultra HD Premium อีกด้วย
จึงสามารถแสดงระดับความสว่าง ความดำ และขอบเขตของสีได้ดีกว่าทีวี 4K ทั่วไป

และสีสันจากภาพยนตร์แบบ 4K HDR แบบใกล้ชิดติดจอ


เพราะเรนจ์สีที่กว้างขึ้น ก็จะช่วยให้ทีวีสามารถแสดงโทนสีนั้นๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติและใกล้เคียงกับที่ตามนุษย์เห็น

ความวาววับเจิดจรัสได้อย่างเห็นผลหากเทียบกับทีวีที่ไม่มี 2 เทคโนโลยีภาพข้างต้น

โดยในรุ่นเรือธงจะเป็น HDR 1000 ที่ให้ความสว่างสูงสุดได้มากกว่า 1,000 nits
จะเห็นได้ว่าแม้ปิดไฟ ห้องก็ดูสว่างไสว ด้วยแสงระดับ Peak Brightness จากจอทีวี

ช่วยให้อาการภาพสะท้อนลดลง และสามารถเก็บสีสันได้ไม่มีตกหล่น
อย่างเช่นในสถานการณ์ด้านบนที่เราเปิดหน้าต่างทั้งหมดเพื่อปล่อย “แสงอาทิตย์จากภายนอก”
เข้ามาในห้องแบบเต็มสตรีม ทีวีก็สามารถสู้แสงได้อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ