ช่วงท้ายๆ ของการบรรยายคุณชานมได้ทำการเปิดเผยแนวทางการปรับภาพของทีวี Samsung ในปี 2016
ทำให้ทุกคนต้องยกมือถือขึ้นมาถ่ายแบบนี้ สำหรับท่านที่ไม่ได้ไปก็…อดครับ!
.
.
.
.
.
.
.
.
อ่ะ ล้อเล่นนน ผมเก็บมาฝากตามตารางด้านล่างเลยครับ
จากค่าด้านบนจะเห็นว่ามีค่าๆ นึงที่แต่ก่อนเราจะแนะนำให้ปิดไว้ แต่สำหรับทีวีแบบ HDR เราจะแนะนำให้เปิดก็คือ Dynamic Contrast สาเหตุก็เพื่อขับความเปรียบต่างของแสงให้ชัดเจนยิ่งขึ้นแล้วยังช่วยขับส่วนสว่างของทีวีแบบ HDR ให้ดูเจิดจรัสยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างระหว่างคอนเทนต์แบบ HDR กับคอนเทนต์ทั่วไปได้ดี แต่ถ้าท่านไหนต้องการความแม่นยำของ Gamma ก็อาจจะต้องพิจารณาเป็นกรณีไปครับ อย่าลืมนะครับว่าแนวทางด้านบนเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น ทางที่ดีเราควรจะนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ตรงหน้าอีกทีว่าควรจะใช้อะไรแบบไหน
ส่วนผลการทดสอบเปรียบเทียบว่าตัวไหนดีกว่ากัน ? ก็ขอตอบว่า “คุณภาพก็แปรผันตามราคา” ยิ่งซีรีส์เลขสูงก็ให้ภาพที่ดีกว่าซีรีส์ที่รองลงมา เทคโนโลยีด้านภาพแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น HDR, Quantum Dot และ 4K Upscaler ก็ส่งผลต่อคุณภาพของภาพอย่างยิ่งยวดทั้งนั้น ภาพทีวีตัวท็อปของ Samsung ในปี 2016 ก็ดีกว่าปี 2015 แบบเห็นต่างได้ไม่ยาก ส่วนข้อจำกัดที่มีก็บ้างอย่างเช่นมุมมองการรับชมด้านข้าง อาจจะไม่ได้กว้างนัก มุมมองการรับชมที่ดีที่สุดคือมุมมตรง 90 องศา เฉกเช่นการรับชมปกติในบ้าน ฉะนั้นหากจะเลือกซื้อซักเครื่องหนึ่ง ก็คงขึ้นอยู่กับงบประมาณและความพอใจต่อคุณภาพของภาพในแต่ละรุ่นของแต่ละคนแล้วหละครับ
Series 9 : KS9000 ภาพดีมาก สดสว่าง มีทุกฟีเจอร์ครบ ดีไซน์สวยทุกองศาตั้งแต่หน้าจรดหลัง
Series 7 : KS7500 ภาพก็ดีเยี่ยมเช่นกัน ดีไซน์ขาตั้งแบบใหม่ เสียบล็อคได้ทันทีไม่ต้องขันน็อต
Series 6 : KU6500 ภาพแอบดีเกินความคาดหวัง ถึงแม้ไม่ใช่ SUHD TV แต่ก็ได้กลิ่นอายน้องๆเลยแหละ (ทีมงานยกให้เป็น Best Value in The Show)
Series 6 : KU6000 ภาพอยู่ในระดับปานกลาง ไม่มี Local Dimming เป็น 4K รุ่นไฟท์ติ้งเน้นความคุ้มค่าซะมากกว่า