เมื่อวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ LCDTVTHAILAND ร่วมกับโซนี่ไทย ได้จัดงานเปิดตัว Sony 4K OLED TV รุ่น A9G กับ A8G ที่เป็น OLED TV ใหม่ล่าสุดปี 2019 ซึ่งงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานเปิดตัวเท่านั้น แต่ทางเรายังเปิดช่วงบรรยายทดสอบประสิทธิภาพ OLED TV ทั้งสองรุ่น พร้อมเทียบภาพกับ LED TV ให้เห็นกันชัดๆ ในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเรื่องการใช้งาน Android TV, การดูภาพยนตร์ และการเล่นเกม
งานบรรยายครั้งนี้นำทีมโดยคุณโรมัน และคุณชานม คู่หูดูโอ้ประจำเว็บไซต์ของเรา ในช่วงเริ่มงานเราได้พาไปทำความรู้จักกับระบบปฏิบัติการ Android TV ที่ติดตั้งอยู่บน Sony TV นอกจากความเร็วที่ปรับปรุงขึ้นแล้ว ความพิเศษของ Android TV ในปีนี้คือ Google Assistant มีความฉลาดมากขึ้น รองรับคำสั่งเสียงภาษาไทยได้มากกว่าเดิม การสั่งงานพื้นฐานต่างๆ เช่น เปิดทีวี ปิดทีวี เปิดเพลงที่ชอบบน YouTube หรือจะเปิดหนังที่อยากดูบน Netflix ก็ทำได้เลย
ขึ้นชื่อว่าเป็น OLED TV ที่เม็ดพิกเซลสามารถเปิด/ปิด หรี่แสงเองได้ ย่อมหมายความว่าเรื่องระดับสีดำจึงมั่นใจได้หายห่วง แต่ถึงอย่างนั้นก็เชื่อว่าทุกคนคงอยากเห็นการเปรียบเทียบแน่ๆ ว่า ถ้า OLED TV เทียบกับ EDGE LED และ Full LED TV จะเป็นยังไง โดยเฉพาะ Full LED TV ที่สามารถควบคุมหลอด LED ได้เป็นโซนๆ
Sony 65A9G ยังมีโหมดภาพพิเศษสำหรับคนที่ชื่นชอบดู Netflix โดยเฉพาะอีกด้วย มีชื่อว่า “Netflix Calibrated mode” สำหรับโหมดภาพนี้มีจะปรับภาพเวลาชมคอนเทนท์บน Netflix ให้เป็นธรรมชาติ สีสันสบายตา ลดความหยาบกร้าน และรายละเอียดส่วนเกินที่ไม่ควรมีในภาพออกไป อย่างในวันงานก็ยกภาพตัวอย่างจากฉากคุณนายวีลเลอร์ เทียบโหมดภาพกันระหว่างโหมด Dynamic > Netflix calibrated mode ซึ่งความแตกต่างก็แสดงออกมาอย่างที่อธิบายไปในข้างต้น
ในเรื่อง HDR ปีนี้ Sony เองก็ได้ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยศักยภาพที่สามารถขุดรายละเอียดในส่วนของสว่าง และมืดได้ดีมากกว่าเดิม ในงานบรรยาย ได้ยกตัวอย่างในฉากที่ Wonder Woman ได้ใช้แส้บ่วงบาศก์แห่งสัจจะ จับซุปเปอร์แมนเอาไว้ ถ้าเป็นทีวีที่ให้รายละเอียดดีจะสังเกตเห็นได้เลยว่าบนแส้ยังคงเห็นลายของเส้นเชือกอยู่ หากเป็น HDR TV ทั่วไป รายละเอียดตรงนี้ก็จะไม่เห็นเป็นเพียงแค่แสงสว่างเท่านั้น
ด้านการเล่นเกม Sony OLED TV A9G และ A8G ก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เพราะ input Lag ประมาณ 22ms เท่านั้น ทำให้เวลาเราต่อทีวีเข้ากับพวกเครื่องเล่นเกมคอนโซลทั้งหลายจะไม่สะดุดเวลาเรากดปุ่มคำสั่งบนคอนโทรลเลอร์ ในโอกาสนี้เราก็ขอเชิญผู้ร่วมงานสี่ท่านมาสนุกร่วมกันสักหน่อย ดูสิว่าจะมีใครสามารถมาล้มเซียนเกมของทีมงานไปได้!!
ต้องบอกว่าถ้าไม่นับตัว A9F ที่ออกมาก่อนหน้า A9G รุ่นนี้นับเป็นทีวีรุ่นเดียวในตลาดที่สามารถต่อสายลำโพงเข้ากับชุดเครื่องเสียงภายในบ้านได้ ทำให้เราไม่ต้องพึ่งลำโพงเซ็นเตอร์อีกต่อไป กำลังขับเดิมๆ ของลำโพงนั้นอยู่ที่ 60 วัตต์ ถือว่าเกินพอสำหรับที่จะฟังภายในบ้านอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องคุณภาพของเสียงก็ไม่ต้องกังวลสามารถแทนลำโพงเซ็นเตอร์ที่มาพร้อมกับชุดโฮมหลักหมื่นได้สบายๆ อีกทั้ง ด้วยความที่ลำโพงของ A9G เป็นแบบ Acoustic Surface ที่ยิงเสียงออกมาจากกลางจอทีวีโดยตรง ทำให้เวลารับชมได้อรรถรสมากกว่าลำโพงเซ็นเตอร์ที่มักจะวางไว้ด้านล่างของทีวี