เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของเดือนมีนาคมกันแล้ว ซึ่งตลอดเดือนที่ผ่านมานั้น Netflix ก็เอาใจสมาชิกของบริการกันอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการจัดหนักซีรีส์, หนัง หรืออนิเมชั่นอีกหลายเรื่องให้เราได้ดูกัน และแน่นอนว่าในสัปดาห์นี้ก็เช่นกัน Netflix ก็มีคอนเทนนต์แจ๋ว ๆ ให้เราได้ดูกันอีกเพียบไม่ว่าจะเป็น Prank Encounters, Concrete Cowboy หรือจะอีกหลาย ๆ เรื่องที่มีให้ดูกันอย่างจุใจ ส่วนเรื่องไหนจะเข้าวันที่เท่าไหร่สามารถดูได้ที่ลิสต์ด้านล่างนี้เลย

แนะนำวิธีการใช้งานแอป Apple TV พาดูความแตกต่างระหว่าง แอป Apple TV กับกล่อง Apple TV ว่าแบบไหนดีกว่ากัน พร้อมสรุปข้อมูลที่คุณควรรู้ ครบจบในคลิปเดียว

คุณโรมันทดลองเล่น Apple TV+ บริการสตรีมมิ่งหนังและซีรีส์ออนไลน์โดย Apple ภาพและเสียงเป็นยังไง ? มีอะไรให้ดูบ้าง ? แล้วคุ้มกับ 99 บาทไหม ? ไปดูกัน

Netflix บริการสตรีมมิ่งขวัญใจมหาชนได้ประกาศว่าในปีนี้แพลตฟอร์มของพวกเขาจะอัดแน่นภาพยนตร์มาให้สมาชิกได้ดูกันอย่างเต็มอิ่มตลอดปี 2021 นี้โดยจะมีภาพยนตร์กว่า 70 เรื่องเข้ามาใหม่ในทุกสัปดาห์ ครอบคลุมทุกแนวโดยมีภายนตร์เด่นที่แสดงโดยนำนักแสดง Hollywood

เชื่อว่าใครที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่จะต้องเป็นหนึ่งสมาชิกของบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix แน่นอน และการดู Netflix ของหลายๆ คนนั้นจะเป็นการดูผ่านอย่าง Google Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราเซอร์หลักที่ได้รับความนิยมมาจากผู้ใช้งานนั่นเอง

เป็นอีกหนึ่งคำถามที่อาจจะยังมีใครหลายๆ คนได้สงสัยกันว่าเราควรมีอินเตอร์เน็ตความเร็วเท่าไหร้ถึงจะเพียงพอกับการรับชมบริการสตรีมมิ่งที่เราใช้งานกันอยู่ในยุคปัจจุบันทั้ง Netflix , Apple TV+, Disney+ และ Hulu

ภายในระยะประมาณ 1 ปีที่ผ่านมามีการเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งมากมายจากผู้ให้บริการหลากหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Disney+ จากค่ายภาพยนตร์ Disney, Apple TV+ จากค่าไอทีชั้นนำอย่าง Apple ซึ่งไม่ใช่แค่น้องใหม่แค่สองรายนี้เท่านั้นยังไม่อีกหลายบริการที่เปิดให้บริการมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว

หลายๆ คนคงจะเคยได้ผ่านตาสำหรับชื่อ Disney+ กันมาได้สักพักหนึ่งแล้วแน่นอน ซึ่งหลายๆ คนอาจจะยังคงไม่ทราบว่า Disney+ นั้นคืออะไรและมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ Disney ยักษ์ใหญ่ของวงการภาพยนตร์ ในบทความนี้เราจะมาคลายสงสัยและบอกเล่าถึงจุดที่เราควรรู้เกี่ยวกับบริการ Disney+ นี้

Apple TV+ บริการสตรีมมิ่งซีรีส์ ภาพยนตร์ของ Apple เริ่มเปิดให้บริการกันพักหนึ่งแล้ว เสียงพากย์มีให้เลือกเยอะ ซับไตเติ้ลเองก็มีครอบคลุมภาษาส่วนใหญ่ที่ใช้กัน เพียงแต่ติดปัญหาหน่อย เพราะซับไตเติ้ลของ Apple TV+ ถูกตั้งค่ามาให้ตัวเล็กอ่านยากไปหน่อย

หลังจากเปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับบริการสตรีมมิ่งน้องใหม่ที่มาพร้อมกับคอนเทนท์โปรดัคชั่นอลังการอย่าง Apple TV+ จาก Apple ซึ่งบริการของ Apple TV+ เองนั้นก็สามารถรับชมได้ผ่านอุปกรณ์หลากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Mac, กล่อง Apple TV, หรือผ่านเว็บเบราเซอร์บนคอมพิวเตอร์ได้

หลายคนคงต้องเคยได้ยินชื่อ YouTube Cast, Google Cast, Screen Mirroring หรือ AirPlay เหล่านี้กันมาบ้าง และเชื่อว่าต้องมีหลายคนที่สงสัยว่ามันคืออะไร? แล้วแตกต่างกันแบบไหน? เพราะเท่าที่เข้าใจมันก็คือการส่งภาพจากอุปกรณ์พกพา ขึ้นไปบนทีวีเหมือนกัน ดังนั้นบทความนี้จะมาไขข้อข้องใจให้กับทุกคน