แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ซ่องเจ๊หวี

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 173
20
ในงบนี้ได้
sony 55X9000F ภาพดีที่สุดในตัวเลือกราคานี้ เป็นจอVA วาง backlight แบบ full led
LG 55SK8500 จอ IPS มุมมองกว้าง วาง backlight แบบ full led
panasonic 55FX800T จอ ips มุมมองกว้าง วาง backlight แบบ edge led
samsung 55Q6 จอva edge led เป็น qled รุ่นเริ่มต้น

21
https://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=431834.msg1831823#new

ผมใช้รุ่น x9000f อยู่ครับ เป็นรุ่นพัฒนาต่อจาก x9000e  ทุกอย่างใกล้เคียงกันต่างกันแค่ชิป
X9000e ใช้ชิป x1
X9000f ใช้ชิป x1 extreme  ซึ่งเป็นชิปตัวเดียวกับ oled a1e ,oled a8f จะอัพสเกลภาพได้ดีกว่านิดๆ

Dead pixel ไม่เจอ แต่บางเครื่องมันก็มีแหละ
แสงรั่ว มีบ้าง ถ้าเปิด local dimming จะไม่มีแสงรั่ว แต่จะเจออาการ bloomming แทน
ข้อดีข้อเสียต่างๆ และเปรียบเทียบกับ panasonic 58ex750t ผมเขียนไว้ตามกระทู้ในlink ครับ

22
Mu9000 ปี 2017 ภาพและสเปคจอดีกว่าnu8000 ปี 2018 นะครับ
Nu8000 เทียบเท่า mu7000 ปี 2017

ผมจะเรียงลำดับให้จากห่วยไปดี ตามนี้

4k ระดับบ๊วย
Mu6100 nu7100
Mu6300 nu7300

4k ระดับรองบ๊วย
Mu6400 nu7400
Mu6500

4k ระดับกลาง
Mu7000 nu8000
Mu8000 nu8500

4k ระดับกลางบน
Qled q6
Mu9000
(Q6 แม้จะเป็น qled แต่ยังเป็นจอกึ่งมันปกติอยู่
ต่างกับ mu9000 ที่เป็นจอเงา black panel แบบรุ่นสูงๆ
ส่วนตัวผมยังใก้mu9000 เหนือกว่านิดๆ)

4k ระดับสูง
Qled q7
Qled q8
เป็นจอ black panel ทั้งคู่

4k ระดับทอป
Qled q9

23


จากกระทู้ก่อนหน้านี้ผมได้ panasonic 65FX600T มาแล้ว
ผ่านไปอีกแค่ไม่กี่วันผมก็ไปคว้า SONY 55X9000F มาไว้อีกตัว
เพราะจะได้คลายข้อสงสัย เมื่อปีที่แล้วกับคำถามที่มักพบบ่อยว่า
Sony 55X9000E กับ Panasonic 58EX750T ตัวไหนดีกว่ากัน แม้sonyจะไม่ใช่รุ่นเดิมเป๊ะๆ
แต่ก็ได้รุ่นใหม่ที่ได้พัฒนาจากseriesเดิมมาเป็นตัวแทนในการฟาดกับpanasonic



ข้อมูล
Sony X9000F เป็นLED ปี 2018 ระดับรองของรองทอป พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น X9000E
คือพื้นฐานทุกอย่างใกล้เคียงกันหมด แต่สิ่งที่พัฒนาเพิ่มคือ X9000F ใช้ชิป X1 extreme ที่ดีกว่าชิป X1 ในรุ่น X9000E
ตามข้อมูลระบุว่าเป็นจอ 10 bit
เป็นจอประเภท VA ชนิดกึ่งด้านกึ่งมัน  จอผลิตโดย บริษัท AUO ใต้หวัน

Panasonic EX750T เป็น LED ปี 2017 ระดับรองของรองทอปเช่นกัน
พัฒนามาจากรุ่น DX750 ของปี 2016 โดยการเอารุ่นทอปของปี 2016 นั่นก็คือรุ่น DX900มาเป็นต้นแบบ
แล้วย่อส่วนลงลดต้นทุนในหลายๆส่วน ให้ได้คุณภาพใกล้เคียงกับ DX900 มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชิปที่ใช้ชิปตัวทอป HCX2 ชิปเดียวกันกับ DX900 และชิปตัวเดียวกับ oled ตัวเทพอย่าง EZ1000
แม้จะเป็นชิปเดียวกันแต่ EX750 จะถูกตัดโหมดภาพ THX ,professional ออกไป เพื่อลดต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ภาพTHX
ทำให้ขายได้ราคาถูกลง
(จริงโหมดTHXมันยังมีอยู่ในเครื่องนะ แต่ถูกซ่อนเอาไว้เคยมีสมาชิกท่านหนึ่งเครื่องรวนชั่วขณะปรากฏว่าโหมดภาพมาครบเหมือนรุ่นทอปเลย)
ตัวจอเป็นจอ MVA ฉาบด้วยfilterเคลือบเงา หรือที่เรียกกันว่าจอ glossy  ผลิตโดยบริษัท INNOLUX ใต้หวัน
ตามข้อมูลระบุว่าเป็นจอ 10bitแท้ อันนี้ผมเชื่อครับ เพราะตั้งแต่อดีต Panasonic เป็นเพียงยี่ห้อเดียวที่ระบุตามจริงมาตลอด
อย่างปี 2016 ก็ระบุว่ารุ่นเดียวที่เป็น 10 bit คือ ตัวทอป DX900 เท่านั้น
ส่วนรุ่นรองลงมาอย่าง DX800 DX750 เป็นจอ 8bit+FRC ในขณะที่ยี่ห้ออื่นรุ่นรองๆก็จะระบุว่าเป็นจอ 10bit กันหมด
ซึ่งDAKO เคยทดสอบ bit จอ หลายๆยี่ห้อหลายๆรุ่น พบว่ารุ่นรองทอปมักจะเป็น 8bit+FRC ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ Samsung LG sony



X9000Fวัสดุตัวเครื่องกรอบจอทำออกมาได้เรียบร้อยงานเนี๊ยบสมราคา
เพียงแต่ดีไซน์ในส่วนของขาตั้งจะดูแปลกตาไปจาก sony เดิมๆ
คือ ขาตั้งมันดันไปคล้ายกับพวกทีวีจีนแดงซะงั้น ความสวยงามและหรูหราอาจดูไม่ค่อยเท่าไหร่
แถมขาตั้งหากติดตั้งแบบปกติก็เปลืองพื้นที่ในการวางมาก
แนะนำว่าให้ต่อขาตั้งจอแบบหันขาตั้งเข้าหากันเพื่อความสะดวกในการจัดวาง
และยังจะเปลี่ยนแนวดีไซน์ขาตั้งให้ดูลักษณะคล้ายSONYในปี 2012-2013ด้วย


^
ประกอบขาตั้งให้เป็นแบบชิดจะดูเท่กว่าแบบปกติ

EX750T วัสดุต่างๆทำได้ดีเกินราคา กรอบจอขาตั้งอลูมิเนียมสีเงินดูแวววับหรูหราสวยงาม
และมีความแข็งแรงมากๆ น้ำหนักขาตั้งนี่หนักกว่าทีวีเสียอีก
แถมขาตั้งชนิดนี้ยังสามารถหมุนจอซ้ายขวาและขยับความสูงของจอได้ด้วย งานผลิตการออกแบบเทียบเท่าทีวีระดับรุ่นทอปเลยทีเดียว

X9000F รีโมทยังคงเป็นสไตล์sonyเดิมๆ คือ สี่เหลี่ยมทื่อๆ มันทื่อจนจับไม่ถนัดมือเลย
ปุ่มกดที่โผล่ออกมานิดเดียวทำให้หดยากยังไงก็ยากอย่างนั้น เพียงแต่รีโมทรุ่นใหม่ๆจะเพิ่มปุ่มการทำงานด้วยคำสั่งเสียง
และมีปุ่มลัด Netflix ให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นเล็กน้อย
EX750T ก็เช่นกัน รีโมทยังคงเป็นสไตล์ Panasonic เดิมๆ แต่อย่างน้อยก็มีความโค้งมน
และปุ่มกดที่โผล่ออกมามากกว่า sony ทำให้กดง่ายกว่ามาก ฝาครอบที่ใส่ถ่านก็ทำออกมาสวยงามเปลี่ยนถ่านได้ง่ายกว่า
ถ้าพูดถึงความสะดวกในการกดและจับรีโมท Panasonic ดีกว่า แต่ถ้าเรื่องฟังชั่นรีโมท sony ดีกว่า

ระบบ smart TV X9000F ใช้ระบบ android TV 7.0 อย่างที่รู้ๆกันว่าลูกเล่นเยอะ แอปเยอะ ใช้งานได้หลากหลายกว่า
ระบบปฏิบัติการอื่นๆ แต่เรื่องของความเร็วก็ช้ากว่าระบบอื่นๆมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเครื่องที่ต้องบู๊ทเครื่องก่อนเป็นนาที
เสร็จแล้วก็ต้องรอต่สัญญาณอินเตอร์เน็ตอีกสักสองนาที  ใครที่ต้องการความรวดเร็วในการใช้งานอาจหงุดหงิดได้
ส่วน EX750T ใช้ระบบ my home screen ระบบไม่มีอะไรซับซ้อน ใช้งานง่าย คล่องแคล่วในระดับนึง
แต่แอปไม่มีอะไรโดดเด่น ก็มีพวก youtube Netflix และแอปพื้นฐานทั่วไป

ต่อไปจะพูดถึงหัวใจหลักของทีวีกันนั่นคือเรื่องของ “ภาพ”
มาดูที่บุคลิกแนวภาพกันก่อน X9000F ด้วยความที่เป็นจอกึ่งมันกึ่งด้าน ภาพจะออกแนวนุ่มๆนวลๆ
น้ำหนักสีกลางๆจะไม่เข้มข้นนัก อารมณ์ภาพจะไม่รุกเร้าสักเท่าไหร่
ด้วยความที่อารมณ์ภาพแนวนี้นี่แหละทำให้เราสามารถดูได้เรื่อยๆ ไม่รู้สึกเหนื่อย
แต่มันก็ “เรื่อยๆ” จนภาพบางอย่างมันก็ไม่สามารถดึงอารมณ์ของเราให้เข้าถึงภาพนั้นๆได้
เช่น ดูภาพวิว ภาพธรรมชาติ DEMO ต่างๆ มันก็ยังดูไม่สดชื่นอย่างที่ภาพต้องการจะสื่ออารมณ์ออกมาได้
หรือดูหนังโป๊ ก็ดูแล้วไม่หื่นเพราะมัน “เรื่อยๆ”จริงๆ จนบางทีก็แอบคิดว่า อารมณ์ภาพมันเรียบๆเดินสายกลาง
แบบนี้สงสัยคงเหมาะกับเปิดภาพแนวธรรมะแน่ๆเลย ๕๕๕๕๕๕๕๕
แต่ด้วยความเรียบๆของภาพนี่แหละทำให้เราดูภาพแล้วสามารถทำงานอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยกันได้โดยไม่ต้องจดจ่ออยู่ที่ภาพอย่างเดียว

ส่วนแนวภาพของ EX750T ด้วยความที่เป็นจอ glossy ภาพจะออกแนว สด ใส ฉ่ำ กระจ่าง โอ่อ่า เปิดเผยกว่า
สีสันจะอิ่มเอิบ ดูมีมวลสาร มีน้ำหนักภาพที่ดีกว่า ภาพคม หนักแน่น และจะแจ้งกว่า อารมณ์ภาพจะสื่อออกมาในทาง
ดูแล้วให้อารมณ์”สดชื่น”  ดู”ว้าววววว” มากกว่าX9000F
ถ้าเปิดไฟล์ demo ดูภาพธรรมชาติสวยๆงาม จะเข้ากับแนวภาพได้ดีมากเพราะ
สื่ออารมณ์ไปในทางเดียวกัน ดูหนังโป๊ก็ให้อารมณ์หื่นที่ดีมาก ๕๕๕๕๕ แต่ถ้าดูหนังผีหรือดูหนังที่ต้องการความดุดัน
ผมมองว่ามันจะสื่ออารมณ์ผิดไป แทนที่เราจะกดดัน จดจ่อกับเหตุการณ์ในตัวหนัง กลายเป็นว่าเราไปจดจ่ออยู่ที่ “โห ภาพสวยจัง”
ด้วยแนวภาพที่นำอารมณ์เราไปค่อนข้างมาก เราจะทำอะไรพร้อมๆกับดูภาพไปด้วยก็เป็นการยาก
เพราะดูภาพทีเราก็จะโดนอารมณ์ภาพดึงดูดให้เราไปจดจ่อกับแนวภาพสดใส สดชื่น จนหยุดชะงักในสื่งที่เรากำลังทำอยู่ไป


X9000F ให้ภาพที่ contrast ดี แสดงมิติภาพได้ดี มิติภาพมีความสมดุลทั้งแนวลึกและลอย
*แต่....X9000F จะให้มิติและ contrast ที่ดีได้ ต้องทำการเปิด local dimming เป็น ระดับปานกลาง หรือ สูงเท่านั้นนะ
ถ้าปืด local diming ละก็ มิติภาพจะไม่โดดเด่น *


EX750T ให้contrast ที่ดีกว่าเล็กน้อย การแสดงมิติภาพจะโดดเด่นมาก สามารถแยกชั้นของวัตถุกับฉากหลังได้อย่างเด็ดขาด
แม้แต่ตัวหนังสือต่างๆที่ปรากฏบนหน้าจอ ก็จะแยกชั้นมิติจากฉากในภาพได้ชัดเจนมาก
ตัวหนังสือหรือsubtitleต่างๆที่ปรากฎบนจอจะลอยเด่นชัดจนสามารถอ่านได้ง่ายแม้จะเป็นความละเอียดต่ำก็ตาม
มิติแนวลึกของทั้งสองรุ่นทำได้พอๆกัน แต่มิติที่ลอย EX750T จะทำได้ดีกว่า

ต่อไปเป็นเรื่องของสี ผมจะอ้างอิงจากค่าโรงงานโดยไม่ปรับแต่งสีเพิ่มเนื่องจากผมไม่มีเครื่องมือวัดสี
ผมทำได้แค่การปรับภาพพื้นฐานพวกค่า gamma ความสว่าง sharpness ให้ตรงตามมาตรฐานเท่านั้น
X9000F จะให้สีค่าโรงงานที่ดีมากๆ ในโหมด cinema pro,custom ก่อนหน้านี้ผมเคยใช้ รุ่น X9000C มาก่อน
ซึ่งรุ่น X9000C มันให้สีที่ถูกต้องพอสมควรแล้ว แต่ปีนี้ X9000F ทำได้ดีกว่าเดิม  มันดีเป็นธรรมชาติมากๆ  
คือ แค่ปรับแสงเงา ความสว่างให้ได้มาตรฐานแล้วปิดตัวช่วยทุกอย่างที่ทำให้เกิดรายละเอียดภาพไม่พึงประสงค์ทิ้งไป
แค่นี้ก็จะได้สีภาพที่โคตรจะธรรมชาติเลย

EX750T ก็ทำได้ดีเช่นกัน แต่สีค่าโรงงานความถูกต้องยังเป็นรอง X9000F อยู่ก้าวนึง ตรงที่ EX750T จะติดอมเหลืองหน่อยๆ
(ดูด้วยตาไม่ได้ติดอมเหลืองมากแบบในภาพที่แปะนะ)
*หากทำการ calibrate อย่างละเอียด ผลออกมา EX750T จะให้ค่าสีที่แม่นยำกว่า(อ้างอิงจาก avforums)
เพราะ EX750T สามารถปรับสีได้ละเอียดถึงในส่วนของ color management ได้
แต่X9000F รวมถึงsony รุ่นอื่นๆ จะสามารถปรับได้แค่ white balance เท่านั้น
แต่ในการทดสอบของผมจะเป็นการวัดที่ค่าโรงงานในการใช้งานแบบชาวบ้านทั่วไป
ฉะนั้นในการทดสอบของผมนี้ X9000F จึงแสดงสีได้ถูกต้องแม่นยำกว่า




^
^
ค่าโรงงานที่ยังไม่ผ่านการจูนสี  X9000F สีจะถูกต้องกว่า EX750Tที่ติดอมเหลืองนิดๆ
แต่ถ้าดูด้วยตามันใกล้เคียงกันมาก EX750Tไม่ได้ดูเหลืองเยอะแบบในภาพ

ขอบเขตความกว้างของสี ตามที่เวปนอกวัดได้ X9000F = 88% DCI P3 ,EX750T = 94% DCI P3
ในการใช้งานปกติทั่วไปผมแทบไม่เห็นความแตกต่าง จะเห็นความต่างก็ตอนเปิดพวกไฟล์ DEMO ที่เปิดโชว์ตามร้านนี่แหละ
พวกสีแปร๊ดๆ ลึกๆ EX750T จะไปได้สุดกว่านิดนึง(นิดจริงๆ)ซึ่งมันแทบไม่มีผลต่อการใช้จริงเลย

ต่อไปมาดูเรื่องที่สำคัญมากๆอีกเรื่องของทีวีนั่นคือ ระดับสีดำ
อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่า X9000F ยังไงก็ต้องเปิด local diming ในระดับกลางขึ้นไปมันจะทำให้สีดำดูดีกว่าเดิมมาก
แต่ด้วยความที่เป็นจอกึ่งมันต่อให้เปิดlocal diming ในห้องสว่างก็ยังจะมีอาการแสงฟุ้งให้เห็นอยู่
สีดำของ X9000F จะมีลักษณะดำแบบมันๆ
ต่างกับ EX750T ที่เป็นจอ glossy การใช้งานในห้องสว่างปกติ ไม่จำเป็นต้องเปิด local dimming เลย
เพราะจอชนิดนี้มันคุมอาการแสงฟุ้งได้ดีมากๆอยู่แล้ว การใช้งานในห้องสว่างปกติ จะให้สีดำที่ดำลึก
และลักษณะสีดำจะออกแนวดำใส
หากดูหนังที่มีแถบดำบนล่าง EX750T จะให้แถบดำบนล่างที่ดำสงัดกว่าX9000F ที่ยังมีแสงฟุ้งๆบ้าง
ระดับสีดำในห้องสว่างปกติ EX750T จึงทำได้ดีกว่าชัดเจน

ส่วนการใช้งานในห้องมืด แน่นอนว่าทั้งสองเป็นจอ LED    จะให้ดำสนิท 100% แบบ oled ก็คงเป็นไปไม่ได้
มันก็ต้องมีสีเทาเรืองๆบ้าง
ถ้าปิด local dimming ทั้งคู่ ระดับสีดำของ X9000F ดำลึกสู้ EX750T ไม่ได้เลยครับ
X9000F จะดูดีเมื่อเปิด local dimming ระดับปานกลางหรือเต็มที่
ส่วน EX750T จะดูดีสุดเมื่อเปิด local dimming ปานกลาง เพราะถ้าเปิดระดับสูงสุดจะมีอาการวูบวาบมาก และภาพจะดูทึมสลัวๆเกินไป
การทำ local dimming ของทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
X9000F วางหลอดไฟแบบเหลังจอ ที่เรียกกันว่า full LED
คนส่วนมากมักเข้าใจว่ามันให้ความดำที่ดีกว่าEX750T ที่วางหลอดไฟแบบตามขอบจอที่เรียกกันว่า edge LED
แต่ผลที่ได้คือ มันจะดีคนละแบบครับ
X9000F จะทำได้ดีในฉากมืดทั่วๆไปที่มีจุดสว่างบ้างมืดบ้าง แม้จะทำได้ไม่หมดจด แต่มันก็ดูดีกว่าการปิด local diming
แต่หากเจอฉากที่พื้นหลังเป็นสีดำ แล้วมีวัตถุลอยเด่นอยู่กลางจอเลยแบบนี้ X9000F จะมีอาการที่เรียกว่า blooming
คือจะมีแสงฟุ้งเรืองๆรอบวัตถุที่ปรากฏ เหมือนเราเอาไฟฉายส่องของในที่มืดสนิทนั่นแหละ ดูแล้วจะแสบตาด้วย
แต่ก็จะสามารถแสดงรายละเอียดภาพในส่วนที่มืดๆได้ดีกว่า EX750T
EX750T ฉากทั่วไปบางฉากก็ทำได้ดีแย่กว่าบางฉากก็ทำได้ดีกว่า การทำ local dimming ของรุ่นนี้
ทำสีดำได้เนียนมากแทบไม่มีอาการฟุ้ง แต่ก็มีข้อเสียคือ ภาพจะดูdimลง จนบางฉากก็ดูสลัวๆมากเกินไป
ในฉากที่พื้นหลังเป็นสีดำแล้วมีวัตถุอยู่ ฉากแนวนี้ EX750T จะได้เปรียบกว่าชัดเจน
เพราะไม่มีอาการ bloommimg จึงทำให้ภาพวัตถุดูลอยกว่า แต่ภาพก็จะดุสลัวลงกว่าเดิมมาก
ยิ่งพวก ตัวหนังสือ subtitle หรือ end credit นี่ยิ่งเข้าทางเลย แต่อย่างไรก็ตาม EX750T จะเห็นแสงรั่วตามขอบจอได้ง่ายกว่าเช่นกัน


^
เมื่อ "ปิด" local dimming ในห้องมืด ทั้งสองตัวจะให้สีดำที่ไม่สนิท แต่ EX750T ก็ยังคงให้สีดำที่สงัดกว่า


^
เมื่อ "เปิด" local dimming ฉากประมาณนี้ EX750T ก็ยังทำได้ดีกว่าเช่นกัน เพราะสีดำดำสงัดกว่า และแสงในภาพไม่มีอาการฟุ้ง
X9000F ตรงส่วนที่ไม่มีวัตถุในภาพสีดำจะสงัด แต่ตรงที่มีวัตถุจะมีอาการ blooming คือมีแสงสว่างตามขอบวัตถุ และมีอาการแสงฟุ้ง


^
เปิดไฟล์ที่นิยมใช้เทส local dimming ผลก็ออกมาเหมือนเดิม


^
ฉาก end credit ของหนังก็เช่นกัน ที่จะเข้าทาง local dimming ของEX750T มากกว่า


^
แต่ฉากมืดๆทั่วๆไปส่วนมากX9000F ทำได้ดีกว่า EX750T นะ รายละเอียดภาพที่ที่มืดแสดงออกมาได้ดีกว่าด้วย


^
 ในห้องสว่างปกติการคุมสีดำของ EX750T ก็ทำได้ดีกว่า


การอัพสเกล ทำได้ดีเยี่ยมทั้งคู่ การดูไฟล์ความละเอียดfull HD ภาพดูเนียนและคม บางไฟล์ดูก็แทบจะไม่รู้เลยว่าไม่ใช่4K
ผมทดสอบอยู่นานดูแล้วไม่สามารถตัดสินได้ว่าตัวไหนอัพสเกลได้ดีกว่ากันเพราะมันใกล้เคียงกันมากๆ
 ภาพเคลื่อนไหวถ้าดูผิวเผินจะไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ถ้าดูภาพเคลื่อนไหวในหลายๆ รูปแบบโดยเฉพาะกีฬา
จะเห็นว่า4kภาพเคลื่อนไหวของX9000F จะมีอาการเงาลากตามวัตถุ(ghost)น้อยมาก และมีอาการสั่นของภาพที่น้อย
ส่วนทาง EX750T จะเห็นghost มากกว่า และมีอาการสั่นของวัตถุมากกว่าด้วย นานๆ
โดยรวมแล้วภาพเคลื่อนไหวของ X9000F จะดีกว่าก้าวนึง

ต่อไปในส่วนของระบบHDR
X9000F จะรองรับทั้ง HDR10 และ dolby vision ส่วน EX750T จะรองรับแค่ HDR10 อย่างเดียว
จากการทดสอบพบว่าความสว่างโชติช่วงของ HDR X9000F ทำได้ดีกว่าชัดเจน
พวกแสงไฟ ดวงอาทิตย์ ดวงไฟต่างๆ  ยิ่งดวงเล็กๆ จะยิ่งทำความสว่างได้ดีกว่า EX750T อยู่หลายระดับ
(peak brightness X9000F = 900NITS, EX750T = 500 NITS)
ส่วน X9000F เมื่อใช้งาน dolby vision ภาพทั่วๆไปก็ไม่ได้ดีกว่า EX750T ที่เปิด HDR10
แต่จะดีกว่าก็ในส่วนของ peak brightness เช่นกัน
*ที่dolby vision แสดงความแตกต่างจาก HDR10 ได้น้อย อาจเป็นเพราะทีวียังคงเป็นแค่ LED
ถ้าเป็น oled คงจะแสดงประสิทธิภาพความแตกต่างได้มากกว่านี้
** X9000F รวมถึง sony android TV 2018 ที่ใช้ชิป X1 extreme การดู youtube
ผ่าน wireless บ้าน จะติดบัค ไม่สามารถแสดงภาพ HDR ได้ ต้องรอ firmware มาแก้ต่อไป


^
EX750T รองรับแค่ HDR10 ในขณะที่ X9000F รองรับทั้ง HDR10 และ dolby vision
ถ้าเปิดฉากสลัวๆแบบนี้ dolby vision ของ X9000F จะได้เปรียบทั้งรายละเอียดและมิติภาพไปก้าวนึง




^
ความสว่างของHDR จากพวกดวงอาทิตย์ แสงไฟ ต่างๆในฉาก แบบนี้ X9000F จะทำได้โชติช่วง เจิดจ้ากว่าชัดเจน

มุมมองการรับชมด้านข้างจอ
ทั้งคู่เป็นจอในประเภท VA จึงมุมมองด้านข้างที่แคบมาก
X9000F มุมมองแคบในระดับปกติ ยังพอขยับได้สัก 30 องศา สีจึงจะเริ่มเพี้ยน
EX750T มุมมองจะแคบกว่านิดหน่อย คือ ต้องนั่งกลางจอเท่านั้นจึงจะได้สีและมิติที่ดีที่สุด
การขยับจากกลางจอเพียงแค่คืบเดียวก็ทำให้ภาพdropลงได้


การกันแสงสะท้อนของหน้าจอ ทั้งสองตัวถือว่ากันสะท้อนได้ดีมากๆ
การกันสะท้อนทำได้ดีคนละแบบ X9000F เท่าที่เจอมาผมว่ามันเป็นจอกึ่งมันที่กันสะท้อนได้ดีที่สุดตัวหนึ่ง
มันจะกันสะท้อนจากวัตถุทั่วไปพวกคน สัตว์สิ่งของได้ดีมากๆ
แต่การกันแสงสะท้อนจากหลอดไฟยังเป็นรอง
คือ ถ้าแสงจากหลอดไฟสะท้อนที่หน้าจอจะมีรัศมีแสงออกเป็นวงที่กว้างกว่าปกติเล็กน้อยและแสงจะดูฟุ้งกว่า
EX750T จะสะท้อนวัตถุทั่วไปแบบกระจก คือเห็นวัตถุเห็นหน้าตัวเองชัดกว่าพวกจอกึ่งมัน
แต่การกันแสงสะท้อนจากหลอดไฟจะทำได้ดีกว่า รัศมีแสงสจากหลอดไฟจะไม่เป็นวงกว้างและมีอาการฟุ้งน้อย

เสียงลำโพง
ปกติผมจะเกลียดเสียงจากลำโพงทีวี sonyมาก เพราะส่วนใหญ่sonyมักทำลำโพงทีวีได้สากๆแห้งๆ ไม่ลื่นหู
แม้แต่รุ่น X9000C ที่ผมว่าเสียงดีรายละเอียดดีแต่พอฟังนานๆกลับน่ารำคานซะงั้น
พอผมได้ฟังเสียงลำโพงของ X9000F ผมกลับชอบมันมาก
 มันเป็นทีวีที่ให้เสียงดีรุ่นนึง สมดุลเสียงทุ้มกลางแหลม total balance ดี
เนื้อเสียงเนียน และมีความเข้มข้นที่พอเหมาะใช้งานทั่วไป ฟังเพลงyoutube เพลินๆเลยครับ
EX750T เสียงจะไม่โดดเด่นนัก  แต่ก็มีความโปร่งพลิ้วในเนื้อเสียงที่เป็นเอกลักษณ์
เสียงอาจจะติดบางนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าให้คุณภาพเสียงที่น่าพอใจ

....................


สรุป
ทีวีทั้งสองรุ่นถือว่าเป็น LED ที่ให้ภาพได้ดีมากๆ
การเปรียบเทียบภาพในแต่ละหัวข้อทั้งสองตัวทำได้ดีด้อยต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ไม่ได้ต่างกันมาก จึงเป็นการทดสอบที่ทำเอาผมเหนื่อยมากเพราะบางหัวข้อ
ก็ต้องพินิจพิเคราะห์เทียบกันอย่างละเอียดกว่าจะเห็นว่าตัวไหนดีด้อยต่างกันยังไง
.
.
.
.
จะบอกว่า X9000F
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ให้ภาพที่..........
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ดีกว่า EX750T
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ในบางจุด
.
.
.
ไม่ว่าจะเป็น  สีค่าเดิมที่ตั้งมาจากโรงงานที่ทำได้ถูกต้องเป็นธรรมชาติกว่า รายละเอียดภาพในฉากมืดๆดีกว่า
ภาพเคลื่อนไหวดีกว่า ความสว่างสูงสุดสูงกว่า HDRสว่างกว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
แต่......
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ในส่วนที่ X9000F ทำได้ดีกว่านั้นมันก็ไม่ได้ดีกว่าอย่างชัดเจนนักและมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งขององค์ประกอบภาพเท่านั้น
ซึ่งหัวใจหลักๆของภาพ ไม่ว่าจะเป็น มิติภาพ มวลภาพ แสงและเงา ฯ EX750T ทำได้ดีกว่าก้าวนึง
มันส่งผลต่อการรับชมภาพในทุกๆรูปแบบ
ที่ทำให้เราสัมผัสได้ไม่ยากว่า “ EX750T ให้คุณภาพของภาพรวมที่ดีกว่า”อยู่หนึ่งก้าว
นอกจากผมแล้วก็ยังมีผู้ร่วมตัดสินอีกสามคน ก็เห็นไปในทางเดียวกันว่า “EX750T ให้ภาพที่ดีกว่า”
โดยผู้ร่วมตัดสินอีกสามคนนั้น ไม่ท้วงติงในหลายๆหัวข้อที่ X9000F ทำได้ดีกว่าเลย
ไม่ว่าจะเป็น ภาพเคลื่อนไหวที่ผู้ร่วมตัดสินแยกไม่ออกว่าต่างกันตรงไหน ๕๕๕๕๕
รวมถึงในเรื่องความถูกต้องของสีที่ X9000F ทำได้ถูกต้องกว่า
แต่ ไม่มีใครท้วงเลยว่า EX750T สีด้อยกว่าเพราะมันติด อมเหลือง
มีแต่จะชมว่าคุณภาพเม็ดสีของ EX750T ดีกว่า เพราะสีดูเต็มมวล เข้มข้น มีน้ำหนัก มีมิติกว่า
รวมถึงการสื่ออารมณ์ภาพที่ทำได้ดีกว่าด้วย

หากจะเปรียบเปรย เมื่อเปิดภาพไฟล์เดียวกัน
EX750T ภาพจะดูเหมือนไฟล์ full rip ที่เต็ม bitrate เนื้อสีเข้มข้น หนักแน่น ดูสมจริงกว่า
X9000F ภาพจะเหมือนดูไฟล์ MKV ที่บีบอัดลดทอนbitrate จากต้นฉบับเล็กน้อย


สิ่งที่ส่งผลให้ภาพของ EX750T ดีกว่า X9000F นั่นก็คือ ตัวจอpanel  นี่แหละครับ
X9000F ยังเป็นแค่จอกึ่งมัน ถือเป็นจอที่ระดับต่ำกว่า จอ glossy ที่เคลือบฟิล์มดำเงาของ EX750T
ถ้าจะให้ระดับเท่าเทียมกับจอ MVA glossy ตัวนี้
ก็ต้องเป็นจอVA ที่มีfilter กระจก opticontrast ของsony ในรุ่น X9300D X9300E
ที่จะให้ภาพคม อิ่ม เนียน ใส สะอาด ขึ้นอีกระดับ
แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันครับ ว่า SONY ในราคาเท่าๆกันมักได้อะไรที่น้อยกว่าชาวบ้าน

ถ้าเทียบเฉพาะภาพ แน่นอนว่า EX750T ดีกว่า
แต่ถ้าเทียบรวมทุกอย่างล่ะ
คำตอบ ก็ยังคงเหมือนเดิมครับ EX750T โดยรวมคุ้มกว่า ๕๕๕๕๕๕๕๕๕
เพราะหน้าจอใหญ่กว่า ๓ นิ้วแถมยังเป็นทีวีรุ่นสุดท้ายในโลกที่รองรับ 3D ด้วย ซึ่งเป็นของแถมที่มีคุณค่ายิ่งนัก
ถ้าใช้งานฟังชั่นทั่วไปแค่ดู youtube Netflix EX750T จะทำได้คล่องกว่าเหมาะสมกว่า
แต่ถ้าต้องการลูกเล่นหลายหลาย และใช้งานแอปมากมาย X9000F ก็ตอบโจทย์ได้ดีกว่า
ในส่วนนี้ EX750T ก็เหมาะสมกับการใช้งานของสมาชิกในบ้านมากกว่าด้วย
เพียงแต่ EX750T มันไม่มีขายแล้วไง ตัวโชว์ก็ขายกันหมดสต๊อคแล้ว จะมีก็คงต้องรอสอยมือสองต่อกันเท่านั้น

ประมวลผล
.....................................55X9000F........58EX750T
แสงและเงา..............................B...................A
มวลภาพ.................................C+..................A
มิติภาพ...................................B...................B+
ความแม่นยำของสี(ค่าโรงงาน).....A..................B
ความสว่าง...............................B+..................B
ระดับสีดำ................................A....................B
รายละเอียดในที่มืด....................A...................C+
Local dimming.........................A..................B
การอัพสเกล.............................A...................A
ภาพเคลื่อนไหว.........................B+..................B
คุณภาพภาพในห้องสว่าง..............A...................A+
คุณภาพภาพในห้องมืด.................A..................B
HDR peak brightness.................A.................B
มุมมองด้านข้าง.........................D+..................D
เสียงลำโพง...............................B...................C
หน้าจอกันสะท้อน.......................B.................B+
วัสดุโครงสร้างดีไซน์...................B....................A
Smart TV................................B....................C
3D.......................................ไม่มี...................A

การทดสอบครั้งนี้ก็ได้จบลงแล้ว
ซึ่งมันก็ได้คลายข้อสงสัยกับคำถามปีที่แล้วด้วยที่ว่า "X9000E กับ EX750T ตัวไหนภาพดีกว่ากัน"
ก็ขนาดรุ่นพัฒนาอย่าง X9000F ยังพ่ายให้ EX750T อยู่ก้าวนึงในเรื่องภาพ
ยิ่งถ้าเป็น X9000E รุ่นที่เป็นชิป X1ปกติ ก็คงจะพ่ายมากกว่านี้ในบางหัวข้ออย่างไม่ต้องสงสัย

X9000F ตัวนี้จะถูกเอาไปไว้ในอักห้องที่มีผมใช้งานคนเดียว
ส่วนชั้นวางทีวีกลางบ้านยังคงใช้ EX750T ต่อไป จนกว่าจะมีทีวีตัวใหม่ที่ถูกใจสมาชิกในบ้านมากกว่า มาแทนที่...

....to be continue....

24
ห้องพูดคุยเรื่องทั่วไปเรื่อง LED TV, LCD TV / Re: sony55x7000e
« เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2018, 04:01:26 am »
W800C ภาพดีกว่า 55X7000E ครับ
แม้จะเป็น VA เหมือนกันแต่เป็น VA คนละเกรด 55X7000E จะมีปัญหาเรื่องสีขาวอมเหลือง และยิ่งมองด้านข้างยิ่งเหลืองมาก
ภาพเคลื่อนไหวก็ยังเป็นรองW800C

ส่วน X8500E ถ้าเอามาเล่นไฟล์ 1080p ก็ไม่ต่างจาก W800C ถ้าจะให้แสดงประสิทธิภาพได้ดีก็ต้องเล่น4K
แต่ก็ไม่คุ้มที่จะเปลี่ยน

แนะนำว่าควรอัพไปเล่นรุ่น X9000F ไปเลยจะดีกว่าครับ ทุกอย่างจะดีขึ้นกว่าเดิมชัดเจน ตอนนี้ราคาลงมาเยอะแล้ว หลายๆร้านเหลือแค่ 35000 บาท

25
65fx600t กับ 65nu8000 ละครับ ต่างกันมากไหมครับ ลังเล 2 ตัวนี้ครับ รีวิวได้สุดยอดมากครับ เห็นภาพและตัดออกจากตัวเลือกหลายๆตัวเหลือที่ถามครับ ขอบคุณครับ [ปลื่ม] [ปลื่ม] [ปลื่ม]

65nu8000 เหนือกว่า 65fx600t ในทุกด้านครับ
แต่สิ่งที่ 65fx600t ยังเหนือกว่าก็คือในส่วนของ panel ที่ใช้จอ mva glossy ภาพจึงดูแวววาว
อิ่มเนียนกว่า nu8000 ที่เป็นจอva กึ่งด้าน+จอพลาสติกทับอีกชั้น

26
Panasonic 65FX600T
รุ่นนี้ผมเล็งที่จะซื้อมานานแล้ว เนื่องจากเป็นทีวี4K HDR ระดับเริ่มต้นเพียงรุ่นเดียวและไซส์เดียว
ที่ใช้จอ MVA เคลือบ glossy (FX600 ไซส์อื่นๆจะเป็นจอ IPS นะจ๊ะ)
ซึงจอชนิดนี้มักจะอยู่ในรุ่นสูงๆของLED ในอดีต ที่เห็นบ่อยๆก็ Samsung รุ่นบนๆ
ที่เรียกว่าจอ ultra clear panel นั่นแหละ
ตัวจอเป็นจอชนิด MVA 8bit+FRC 2bit ผลิตโดยบริษัท innolux ใต้หวัน


ห้องนอน รกๆ


ดีไซน์แม่งไม่ต่างอะไรจาก 65EX600T ปีที่แล้วเลย ดูเผินๆเหมือนแค่เปลี่ยนสีกรอบจอจากสีดำเป็นสีเทาแค่นั้น
ซึ่งผมมองว่าดูแย่กว่า EX600T เสียอีก เพราะสีดำเดิมๆยังดูมีความหรูหราอยู่บ้าง แต่พอเป็นสีเทาแล้วมันดูเชยๆ
ออกแนวคุณลุงคุณลุงยังไงไม่รู้ แต่ก็ยังดีที่สามารถเปลี่ยนระยะการใส่ขาตั้งได้ว่าจะใส่แบบกว้างหรือแบบชิด
สำหรับคนที่ชั้นวางเล็กก็จะสะดวกขึ้นไม่ต้องหาชั้นวางใหญ่มาเปลี่ยน รีโมทก็รูปแบบตามpanasonicเดิมๆไม่เปลี่ยน
วัสดุตัวเครื่องก็สมราคาไม่ได้แย่แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่น

smart TV

ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ my home screen เวอชั่นใหม่ที่พัฒนาจากปีที่แล้ว
ซึงเท่าที่ใช้มาก็แทบไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมเลย อาจจะมีการทำงานของแอปบางตัวที่ทำได้ดีขึ้น
ที่เห็นชัดเจนก็แอป youtube ที่เข้าแอปได้ไวขึ้นกว่าปีที่แล้ว
แถม youtube สามารถแสดงหน้าปกคลิปเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยในขณะที่ปีก่อนๆจะเป็นแค่ภาพนิ่งปกติ
และอีกจุดหนึ่งที่ผมขอแสดงความยินดีกับคนใช้แอป youtube ผ่านทีวี Panasonic ทุกคน นั่นก็คือ
Youtube ของทีวีปี 2018 แก้บัคคลิปแนวตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ (ปีก่อนๆถ้าเปิดคลิปแนวตั้งสัดส่วนจะเพี้ยนมาก)
บัคนี้เป็นปัญหามาตั้งแต่ปี 2013-2017 บัดนี้ได้รับการแก้ไขแล้วซึ่งก็ใช้เวลานานกว่าครึ่งทศวรรษ ๕๕๕๕๕
Smart TV ก็ถือว่าไม่มีอะไรโดดเด่น ใช้งานได้ทั่วไป แต่หากเอาไปเทียบกับของ LG Samsung ล่ะก็ Panasonic
จะเป็นอะไรที่ห่วยไปในทันที นอกจากลูกเล่นน้อยแล้ว การตอบสนองก็ทำได้หน่วงช้ากว่าด้วย
LG samsung เวลากดพิมพ์อักษรปุ๊บก็มาปั๊บในทันทีแต่ Panasonic กดแล้วมันจะหน่วงๆประมาณครึ่งวินาที
เวลาพิมพ์หรือเลือกอะไรเร็วๆมักไม่ได้ดั่งใจ ปวดตับ



ภาพ
ด้วยความที่เป็นจอglossy ทำให้ภาพมีลักษณะ ดำเงา สีสันต่างๆจึงมีความอิ่ม ฉ่ำ แวววาวกว่าทีวีในระดับเดียวตัวอื่นๆที่เป็นจอจอกึ่งด้าน
หากเปิดภาพที่พื้นหลังเป็นสีดำแล้วมีวัตถุหรือสีอยู่บนจอ สีที่ตัดกับสีดำนั้นจะลอยเด่นขึ้นชัดเจนกว่าจอกึ่งด้านทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
มันจึงสามารถแสดงมิติภาพได้ดี แยกมิติหน้าชัดหลังเบลอได้ดีกว่าจอกึ่งด้านทั่วไป มวลภาพถือว่าทำได้ดีมากๆ
ภาพดูมีเนื้อหนังมีมวลหนา มีน้ำหนัก มีความอวบหนาของเม็ดสีทีมากกว่าทีวีระดับเดียวกัน
โหมดภาพสำเร็จรูปที่ให้มาโหมด true cinema จะให้ภาพที่สีสันถูกต้องที่สุด โดยค่าsharpness ที่ถูกต้องคือ 0
ส่วน gamma ค่าโรงงานจะอยู่ที่ 2.4 เช่นเดียวกับทีวี Panasonic ตัวอื่นๆ
แต่สำหรับรุ่นนี้ผมปรับ gamma ให้เป็น 2.2 เพื่อให้ภาพดูเปิดเผยขึ้น รายละเอียดในที่มืดดีขึ้นกว่าเดิม โดยที่ภาพไม่มีอาการฟุ้ง
แม้ว่าเม็ดสีจะดูดีมีคุณภาพ มีความฉ่ำวาว แต่หากพิจรณาในเรื่องความถูกต้องของสีแล้วก็พบว่าถูกต้องในระดับกลางๆเท่านั้น
ผมเทียบกับทีวีอีกตัวที่ผมใช้ นั่นคือ  Samsung 55mu6100 เจ้า mu6100 สีสันยังดูถูกต้องเที่ยงตรงกว่าเล็กน้อย
คือ 65FX600T สีจะเพี้ยนๆในบางเฉดสี เช่นสีแดงบางเฉดบางคลิปมันจะดูออกส้มๆ โทนสีของภาพที่มืดๆ จะออกโทนน้ำเงิน
สีเขียวก็จะเขียวสดซะส่วนใหญ่ไม่ค่อยแสดงสีเขียวแก่ให้เห็นเท่าใดนัก เป็นต้น
ซึ่งถ้าต้องการให้ได้ภาพที่สีเที่ยงตรงขึ้นก็สามารถปรับได้ใน “การตั้งค่าขั้นสูง”
ซึ่งรุ่นนี้สามารถปรับภาพได้อย่างละเอียดเทียบเท่ารุ่นสูงๆเลย แต่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการปรับภาพ
หรือจ้างช่างที่มีปุกรณ์และโปรแกรมเฉพาะมาปรับเท่านั้นนะ
ความสว่างถือว่าอยูในระดับปกติเทียบเท่า Samsung MU6100 (ประมาณ 270 nits)
ภาพจาก HDR จึงไม่ได้เจิดจรัส จัดจ้านแบบรุ่นที่ nitsสูงๆ
แต่หากเทียบกับรุ่นในระดับเดียวกันแล้ว HDR ของ 65FX600T แม้จะไม่ได้สว่าวกว่า
แต่ก็ทำHDRได้ดีกว่าเพราะจอ glossy ที่สามารถคุมแสงและเงาภาพได้ดีกว่า ภาพจึงสงัดกว่า
แสงไม่ฟุ้งแบบ HDR ของทีวีรุ่นเริ่มต้นตัวอื่นๆ
แม้ว่าFX600รุ่นนี้จะอัพเกรดเพิ่มเติมจาก EX600 ตรงที่สามารถรองรับ HDR10+ ได้
แต่มันไม่มีไฟล์ให้ดู ฉะนั้น HDR10+ ที่เพิ่มขึ้นมานี้จึงไม่ได้ถือว่าเป็นข้อดีอะไร

*มีบางคนเข้าใจผิดว่าระบบ HDR10+ ที่มากับทีวี samsung panasonic ปี 2018 ทำให้เมื่อเปิดภาพจาก HDR10ปกติ ภาพจะดีกว่าเดิม
อันนี้เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องนะครับ HDR10 ก็ส่วนHDR10 HDR10+ ก็ส่วน HDR10+ มันคนละอย่างกันครับ*



ภาพ 4K HDR จาก playstation 4 pro เกม god of war


ภาพ 4K youtube sony demo สีฉ่ำ เขียวขจีสวยงาม

ในระดับสีดำถือว่าทำได้ดีตามสไตล์จอ glossy (ตามข้อมูลพบว่า 65FX600T วางหลอดแบบ direct LED)
สีดำดีทั้งภาพตอนเปิดไฟและตอนปิดไฟในห้อง เปิดไฟในห้องก็จะดำเงาๆเนียนๆ สีดำมีน้ำหนัก
การรับชมภาพในห้องที่มืดสนิท ภาพจะด้อยลงกว่าการใช้งานในห้องที่มีแสดงไฟทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติของLED
ที่จะให้ภาพดีที่สุดก็ต่อเมื่อเปิดในห้องที่มีแสงไฟ ระดับสีดำในห้องมืดสนิททำได้ดีกว่า Samsung 55MU6100
อย่างชัดเจน แม้ในฉากโหดๆที่ภาพสลัวๆ ที่มีรายละเอียดภาพบางเบา 65FX600 ก็สามารถแสดงรายละเอียดภาพในส่วนที่มืดๆได้ดี
โดยที่ภาพยังคงดูมีมิติ มีมวลสารอยู่
แต่ถ้าเป็น Samsung MU6100 ภาพจะดูโหรงเหรงมิติแบน เห็นแสงรั่ว รายละเอียดในที่มืดก็ทำได้ไม่ค่อยดี(ดำจม)
ครั้นเพิ่มbacklightเพื่อผลักรายละเอียดภาพในส่วนที่มืดให้ออกมาดีขึ้นก็ทำได้ แต่ก็จะเสียระดับความดำแถมภาพแสงฟุ้งและสูญเสียมิติยิ่งกว่าเดิม
 ในขณะที่ 65FX600T แม้เร่ง backlight ให้สูงขึ้นภาพก็ดูไม่ฟุ้ง และยังคงให้ระดับสีดำได้ดีอยู่
65FX600T สามารถเพิ่มระดับความดำให้ดำสงัดกว่าเดิมได้เพราะมี local dimming ซึ่งอยูในคำสั่งชื่อ
“ควบคุมไฟพื้นหลังแบบแปรผัน” สามารถปรับได้๓ระดับ หากอยากให้สีดำดำขึ้นแนะนำให้เปิดเล็กน้อยถึงปานกลาง
(แต่ส่วนตัวผมไม่ใช้ local dimmig ครับ ไม่ว่าทีวีรุ่นไหนก็ตามเพราะในบางฉากมันจะทำให้แสงและเงาของภาพเพี้ยนไป)





ประสิทธิภาพการอัพสเกลเมื่อเปิดภาพความละเอียดต่ำกว่า 4K หากเป็นไฟล์ 1080p ภาพจะออกมาดูดีใช้ได้เลยทีเดียว
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพไฟล์ด้วยถ้าไฟล์ดีๆ 1080p ภาพก็สวยมาก ฟรีทีวีHD ภาพสวยเนียนมาก
(ดู workpoint HD ย้อนหลังใน youtube ภาพโคตรสวยเลย)
เมื่อเปิดไฟล์ความละเอียดเล็กลงอย่าง 720p ภาพจะเริ่มเป็นหยักๆสูญเสียความคมและรายละเอียด
แต่ก็ยังถือว่าดูได้ถ้าไม่คิดอะไรมาก แต่ถ้าเป็น 480p ภาพจะเน่าๆครับ๕๕๕  
การดูภาพความละเอียด 4K ภาพดีแต่ไม่สุดครับก็เพราะมันเป็นทีวีระดับกลางไง ๕๕๕๕๕
4K HDR ยังไงมันก็ทำได้ไม่ดีเท่าตัวรุ่นเทพที่ nits สูงๆ ขอบเขตสี(color gamut)
มันก็อยู่ในระดับปกติไม่ได้กว้างเหมือนทีวีรุ่นสูงๆที่มีเทคโนโลยี quantum dot

ภาพเคลื่อนไหวแม้จะเป็นจอไซส์ใหญ่ 65” แต่ภาพเคลื่อนไหวกลับดูปกติราบรื่น ไม่รู้สึกว่าภาพสั่นสักเท่าไหร่
คือสามารถดูได้โดยไม่ต้องเปิดระบบแทรกเฟรมภาพช่วยเลย ดูได้เรื่อยๆหลายชั่วโมงก็ไม่เวียนหัว
*(ผมว่าภาพเคลื่อนไหว65FX600T ดีกว่า OLED LG EG920Tรุ่นปี 2015 อีกนะ
OLED ตัวนั้นผมดูได้ครึ่งชั่วโมงก็เวียนหัวอยากอ๊วกแล้ว เพราะภาพเคลื่อนไหวมันสั่นมากๆ)*
การอัพสเกลกับภาพเคลื่อนไหวเทียบกับ MU6100 ผมว่าทำได้ดีเท่าเทียมกันไม่เห็นความแตกต่าง

ด้วยความที่ใช้จอ MVA แม้จะมีข้อดีหลายๆอย่างที่ดีกว่าจอ VA และ IPS
แต่ก็มีข้อด้อยจุดหนึ่งที่ด้อยมากๆนั่นคือเรื่องของมุมมองนี่แหละ
คือ มองเยื้ององศาเพียงแค่คืบเดียวคุณก็จะเห็นว่าอีกฟากของจอสีเริ่มซีดลงแล้ว(มุมมองแคบกว่าจอ VA ของ MU6100 อีกนะ)
ฉะนั้นถ้าจะให้ได้ภาพที่ดีที่สุดคุณต้องนั่งให้สายตาอยู่กลางจอพอดี และต้องไม่สูงหรือต่ำเกินไปด้วย

เสียงลำโพง เป็นเรื่องที่ผิดคาดที่ผมคิดว่าเสียงลำโพงตัวนี้จะกาก แต่พอใช้งานจริงมันให้เสียงที่ดีใช้ได้เลย
เสียงมีรายละเอียด มีเนื้อหนัง ทุ้ม กลาง แหลม สมดุล ( total balance ดี) ฟังเพลงช้าๆไพเราะดีแฮะ
จุดที่ผมชอบมากๆคือ อารมณ์เสียง  แม้มันจะไม่ใช่เสียงลำโพงทีวีที่ดีที่สุดแต่มันเป็นลำโพงทีวีที่ให้อารมณ์เสียงเป็นกลางมากๆๆๆๆๆ
ทีวีบางรุ่นบางตัวเสียงคมกว่าก็จริงแต่ฟังสักพักจะรำคานหูเพราะมันชัดไป ทีวีบางตัวเบสดี แต่มันกระแทกกระทั้นไปฟังสักพักก็เหนื่อย
แต่ทีวีตัวนี้ฟังได้เรื่อยๆไม่เครียดเลย


หากเทียบกับ Samsung MU6100 ก็บอกได้เลยว่าpanasonic 65fx600t
จะด้อยกว่าก็แค่สองจุดคือ สีโหมดสำเร็จรูปค่าโรงงานที่ mu6100 ทำได้ถูกต้องกว่า และระบบsmart TV ที่ดีกว่า
แต่ในด้านภาพ 65FX600T ให้ภาพที่ดีกว่าเป็นเท่าตัว ดีกว่าเกือบทุกด้านโดยเฉพาะมิติภาพและcontrastที่เหนือชั้นกว่ามากมาย




ในห้องที่มีแสงสว่างปกติภาพจาก 65FX600T สีจะมีความมันวาวกว่า MU6100 ระดับนึง




ในห้องมืดและเล่นหนังฉากมืดๆ 65FX600T ภาพดีกว่าเยอะ(มาก)

ถ้าเทียบกับ Panasonic 58EX750T รุ่นเทพยอดฮิตประจำปี 2017 ซึงเป็นรุ่นสูงกว่า FX600
แน่นอนว่า EX750T ภาพเหนือกว่าเกือบทุกด้านรวมๆแล้วภาพดีกว่าประมาณ 30%
แม้จะเป็นจอ MVA เคลือบเงาเหมือนกัน
แต่EX750T นั้นเป็นจอ 10bit แท้ แถมมี wide color gamut ด้วย ขอบเขตสีจึงกว้าง
ความสะอาดสะอ้านของภาพ ภาพดูมีรายละเอียดมากกว่า
ไล่เฉดสีได้ดีกว่า ค่าโรงงานสีสันมีความถูกต้องแม่นยำกว่า สีดำลึกกว่า ทำ local dimming ได้ดีกว่า
ความฉ่ำ แวววาว ความอิ่มมตัวของสี EX750T ดีกว่าชัดเจน
แต่ก็มีอยู่บางจุดที่ 65FX600T ทำได้ดีกว่านั่นคือ รายละเอียดในส่วนที่มืดๆของภาพทำได้ดีกว่า
เพราะ EX750T เป็นจอเงาวาวที่เคลือบฟิล์มทำให้สีดำลึกกว่า แต่ก็ทำให้เสียรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของภาพในส่วนที่มืดๆไปด้วย
ทำให้มีอาการจำจมเล็กน้อย แต่กับ 65FX600T ไม่มีอาการดำจม
และ EX750T เมื่อดูใกล้ๆจอประมาณครึ่งเมตรจะเห็นว่าจอมีลักษณะคล้ายฝ้า (75FX750T ก็เป็นเช่นกัน)
แต่กับ 65FX600T ไม่มีอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าว
ถ้าจะให้อธิบายตามความรู้สึกส่วนตัวผมนะ แม้ว่า EX750T ภาพจะดีกว่า แต่ผมกลับชอบแนวภาพของ 65FX600T มากกว่า
คือ EX750T ภาพมันดูแวววาววิบวับ ภาพฉ่ำ จนดูแล้วมันให้อารมณ์ภาพไปทางสดชื่นซะส่วนใหญ่ถ้าดูไฟล์ภาพธรรมชาติสวยๆ
ภาพสาวๆสวยๆมันก็เข้าทางเพราะดูแล้วสดชื่นมากๆ แต่พอดูหนังผีหรือหนังที่ต้องการความเครียด
มันไม่สามารถให้อารมณ์ที่จริงจังได้ แทนที่จะดูหนังผีแล้วได้อารมณ์ลุ้นแบบ “น่ากลัวจังเลย ผีจะออกเมื่อไหร่วะ”
กลับกลายเป็นว่า “โอ้โหหนังผีบรรยายกาศสวยจัง ตัวผีออกมาจะสวยขนาดไหนว้า” เป็นอย่างนี้ไปซะงั้น ๕๕๕๕
แต่กับ 65FX600T มันให้ภาพที่อารมณ์เป็นกลางมาก ภาพธรรมชาติก็ดึงอารมณ์ให้สดชื่นชุ่มฉ่ำได้
ภาพยนตร์ต่างๆก็ดึงอารมณ์ให้ตึงเครียดได้เช่นกัน คือมันสามารถสื่ออารมณ์ได้หลากหลายกว่า EX750T
ซึ่งพอผมดู 65FX600T สักพักแล้วกลับมาดู EX750T มันจะรู้สึกว่า ภาพEX750T มันเวอร์เกินไปนะ ๕๕๕๕๕


บน 58EX750T ภาพจะมีความอิ่มฉ่ำ สีสันถูกต้อง และเจิดจรัสกว่า แสงและเงาสวยกว่า
ล่าง 65FX600Tแม้รายละเอียดของภาพในส่วนของภาพที่มืดๆจะแสดงได้ดีกว่า แต่สีจะอมน้ำเงิน


ภาพ HDR จาก EX750T จะดีกว่ามาก แต่เชื่อเถอะ 65FX600T แสดง HDRได้ดีกว่าทีวีในระดับราคาเดียวกัน


โดยรววมแล้วกับเม็ดเงินที่จ่ายไป ๓หมื่นกว่าบาท ได้จอเคลือบเงา 65” แถมประกันสามปี   
ผมว่าคุ้มค่ามากนะ ถ้าเน้นลูกเล่น smart TV อาจจะไม่เข้าทางสักเท่าไหร่ ไป Samsung LG จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
แต่ถ้าคุณต้องการทีวีที่เน้นภาพอย่างเดียวในระดับนี้งบประมาณนี้
ผมจะไม่กล่าววว่า “ทีวีรุ่นนี้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ” แต่ผมจะบอกว่า “ทีวีรุ่นนี้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง” ครับ
*ย้ำว่ารุ่น FX600T ต้องไซส์ 65" เท่านั้นนะถึงจะเป็นจอ MVA glossy ไซส์อื่นเป็นจอ IPS*


.........................


ประมวลผล


.....................................65FX600T...........55MU6100..........58EX750T
มิติภาพ.................................B.......................D+......................B+   
วัสดุโครงสร้างดีไซน์................D+.....................C........................A
Smart TV.............................C.......................B+......................C
ความแม่นยำของสี...................C.......................C+......................B
ความสว่าง.............................C.......................C.........................B
ระดับสีดำ..............................C+......................D........................B
รายละเอียดในที่มืด.................B+.......................D+.....................C+
Local dimming......................C.......................ไม่มี.......................B
การอัพสเกล..........................C+.......................C+......................A
ภาพเคลื่อนไหว......................C+.......................C+.......................B
ห้องสว่าง..............................A..........................B   ........................A+
ห้องมืด.................................C+.......................D........................B
SDR.....................................B+.......................B.........................A
HDR.....................................C.........................D........................B
720p....................................C.........................C........................B
1080p..................................B..........................C+.....................A
4K.......................................B+........................B........................S
มุมมอง.................................D..........................C.......................D
เสียง....................................B..........................C.......................C

F = โคตรกาก
E = กาก
D = พอไปวัดไปวาได้
C = งั้นๆ
B = ก็ดีนะ
A = แจ่มแมว
S = สุดยอด

27
เป็นทุกเครื่องครับแต่ละเครื่องจะมากน้อยไม่เท่ากัน

28


กด menu ที่รีโมท ไปที่ วืธีใช้ แล้วเลือก ข้อมูลระบบ



ดูที่สถานะ4 เลขแถวแรกคือจำนวนชั่วโมงที่ใช้มา แถวที่สองคือจำนวนครั้งที่เปิดเครื่อง

29
ภาพเรียงจากดีไปห่วย

x900f จอ VA วางbacklight แบบ full led ให้ contrast สูง สีดำลึก local dimming ทำได้ดีมาก
Q6F จอ VA วาง backlight แบบ edge led ให้ contrast ดี สีดำดี
FX800T จอ IPS วางbacklight แบบ edge led ให้ contrastต่ำ สีดำไม่ลึก มิติแบน ภาพจัดอยู่ในระดับเดียวกับ X8500F เท่านั้น ยังเป็นรอง X9000F มาก

ระบบ smart TV

X9000F เป็น android tv แอปเยอะ ลูกเล่นเยอะ Q6F taisen OS คล่อง ไว สะดวก
FX800T จะบ้านๆ พื้นๆ ถ้า ดูyoutube คลิปแนวตั้ง จะติดบัค ภาพจะเพี้ยน เป็นปัญหาของ youtube panasonic มานานแล้วแต่ไม่แก้ไข
ส่วน netflix ทั้งสามยี่ห้อไม่ต่างกัน

30
ถ้างบประมาณ 7xxxxx

แนะนำ panasonic 75fx750t ครับ

ภาพดีกว่ารุ่นอื่นๆในตลาด 75” ที่ราคาไม่เกินแสน(ดีกว่ามาก)


31
ไม่ลองขยับไปตัวปัจจุบัน 55fx800t ดูครับ สเปคอยู่ในระดับเดียวกัน ตอนนี้เดอะมอลล์มีโปรหนักเหลือแค่ 34,990 บาท ถึงสิ้นเดือน

FX800 สเปคดี แต่ภาพที่ได้ยังห่างชั้นกับ EX750 อยู่มากครับ
เพราะ FX800 ใช้จอ IPS ไม่ได้ใช้จอ MVA เคลือบ glossy แบบ EX750
ความฉ่ำ แสงเงา ดำลึก มิติภาพ SDR HDR ด้อยกว่า EX750 ทุกทางเลยครับ
เมื่อเทียบกันแล้วสีของรุ่นรองอย่าง FX700 ยังจะมีความสดมากกว่า FX800 ที่ออกแนวตุ่นๆหมองๆอีกครับ

32
เชียงใหม่ยังเหลือตัวโชว์อยู่ 2 ตัว สภาพดีมากครับ
ตัวนึง 400 กว่า ชั่วโมง
อีกตัว 700 กว่า ชั่วโมง

ราคา 34990 บาท ที่ นิยวยหัวคม พานิช ครับ

33
รบกวนสอบถาม.. ครับ
49 X8500F ใช้จอแบบไหนครับ..?
49” va
ไซส์อื่น ips ครับ

34
แล้วแต่ชอบเลยครับ

แต่ไม่แนะนำ B8 จากที่ได้ลองมาแล้ว การอัพสเกลกับภาพเคลื่อนไหวแย่กว่า oled LG 2017 ครับ

35
65x9000e คุ้มกว่าครับ
ทั้งสองรุ่นใช้ panel เดียวกัน ภาพโดยทั่วไปไม่ค่อยต่างกัน ต่างแค่ x9000f ใช้ชิปตัวทอป x1 extreme ภาพอัพสเกลดีกว่านิดหน่อยแค่นั้น
ซึ่ง x9000e ก็ถือว่าอัพสเกลได้ดีมากพอแล้วครับ

36
วันก่อนได้ไปลอง b8 มาแล้วครับ ภาพเป็นรองg7 อยู่ ทั้งการอัพสเกล สี และภาพเคลื่อนไหว
แต่ยังไม่ได้เทียบกับ b7 c7 ( b7 c7 ใช้ชิปและจอเดียวกับ g7)

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 173