ให้ข้อคิดนะครับ ทีวีมีอายุ 2-3 ปีพังกลายเป็นเศษเหล็ก เงิน 2-4 -6 หมื่นหายวับไปกับตา ซ่อมได้ แต่ไม่คุ้มเกิน 4-5 ปี ซ่อมไม่ได้ ไม่มีอะไหล่
...เท่าที่สอบถามพนักงาน
...ซัมซุง แอลจี ประกัน 1 ปี
..พานาฯ และอื่นๆ ประกันบอร์ด 3 ปี ประกันจอ 1 ปี
..skywortd และอื่นๆ ประกันทั้งบอร์ดทั้งจอ 3 ปี
ซ่อมไม่ได้ เปลี่ยนอะไหล่ไม่คุ้ม ซื้อเครื่องใหม่ รุ่นใหม่ ในราคาเดิม
...ตัวเก่าทิ้ง ขายเป็นซาก มีร้านรับซื้อ ทีวี LCD LED จอเสีย จอแตก เปิดไม่ติด ฯลฯ เพื่อแกะแยกขายเป็นอะไหล่ หรือรับซ่อมทำกำไรหลายเท่า.
...คิดว่านะ ทุกบริษัทจะสำรองอะไหล่ 5 ปี ถ้าเกินกว่านั้นไม่มีให้เปลี่ยน จำเป็นต้องหาของเก่าที่เค้าทิ้งแยกชิ้นอะไหล่เหมือนเชียงกงอะไหล่ยนต์มาแทน
...ดังนั้นถ้าหากต้องการใช้งานให้คุ้มค่า 10 ปี ยอมหาอะไหล่มือ 2 มาเปลี่ยน ควรเล่นยี่ห้อที่มีคนซื้อเยอะๆ และขนาดจอที่คนนิยมเล่นกันคือ 32 นิ้ว 43 นิ้ว 48,49,50 นิ้ว
...บางยี่ห้อใช้ไป 1-2 ปี สีเพี้ยน ลายเส้นดำออก(หลอดไฟ LED ดับ) อ่านกระทู้บ่อยๆ จะรู้ว่าเป็นยี่ห้ออะไร
...แนะนำยี่ห้อตามที่ผมใช้อยู่ คือ LG ครับ ผมใช้ 42LW6500(3D) ปัจจุบันก็ยังใช้ได้ดี สีไม่เพี้ยน ทั้งๆ ที่ใช้มา 2-3 ปีแล้ว
...อีกตัวผมกำลังซื้อมาทดลองใช้ คือ LG 43UH640T(4K) ราคาอย่าตกใจ 13,294 บาท เป็นตัวโชว์จากโฮมโปร อายุการใช้งาน 2 พันกว่าชั่วโมง.
...ที่บ้านแอร์ Misubishi Inverter , Onkyo 717 สินค้าโชว์ รุสต๊อก ก็ใช้ดีจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีปัญหาใดๆ .
...สินค้าโชว์(ผ่านการใช้งาน) ดีอย่างไร
...1.ราคาถูก 50 % ผ่อนบัตร 0 % ประกันเครื่อง 1 ปีตามเงื่อนไข นับจากวันที่ซื้อตามใบเสร็จ(ประกันศูนย์ปกติทุกอย่าง เพียงแต่ภายใน 7 วันไม่มีเครื่องให้เปลี่ยนใหม่เพราะในร้านมีเพียงตัวโชว์ตัวเดียว) ปัจจุบันเกิน 7 วันไปแล้ว ใช้ดีปกติ ข้อนี้สอบผ่าน
...2. ตัวโชว์ผ่านการใช้งานถึง 2 พันกว่าชั่วโมง ถือซะว่าทางร้านเบิร์นเครื่องให้ เชื่อหรือเปล่าที่บางท่านซื้อใหม่แกะกล่องใช้ไม่ถึงเดือนซ่อม / ใช้ไม่ถึงปีซ่อม / หมดประกันพังทันที /ซ่อมไม่คุ้ม..
...ของโชว์ร้านผ่านการใช้งานจนตกรุ่น แสดงว่าเครื่องโชว์ตัวนี้หมดปัญหาจุกจิก สามารถใช้ได้อีกยาวนาน เพราะพนักงานขายยี่ห้อนี้ดูแลมาอย่างดีลอดช่วงเวลาเปิดโชว์ ตั้งแสงสี เมนูอย่างดีทุกอย่าง เราซื้อมาเปิดดูอย่างเดียวไม่ต้องยุ่งยากอะไร
...สุดท้ายถ้าใช้ซัก 2-3 ปีตราบเท่าที่มีอะไหล่เปลี่ยน เงินที่จ่าย 12,394 บาท ถือว่าคุ้ม ขายซากได้พันกว่า สรุปคือสูญเงินเพียง 1 หมื่นเยอะสำหรับตัวผม
...ทีวี 65 นิ้ว ราคา 6-7 หมื่น ใช้ได้ไม่เกิน 5 ปี จะมีค่า 2-3 พันบาทหรือกลายเป็นเศษเหล็กเก็บไว้ภายในบ้าน
...แต่ถ้ามีเงินเหลือกินเหลือใช้ ก็ไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไป.
...อนาคตไม่มีอะไหล่ ซ่อมไม่ได้ มันช้ำใจนะครับเพราะจำเป็นต้องขายเป็นซาก
...ทีวีก็เป็นประเภทเดียวกับโน๊ตบุ๊ก โทรศัพท์ พังแล้วทิ้ง ยิ่งนานราคายิ่งตก ..cpu แรงๆ ออกใหม่ 27,000 บาท เพียง ปีกว่า 2 ปี ประกาศขายในเนตฯ 7-8 พันบาท ยังหาคนซื้อยาก
..ถ้าหากเสีย นำไปซ่อมร้านทั่วไป โชคร้ายเจอช่างขาดจรรยาบรรณ แอบเปลี่ยนซิปบนบอร์ดใหม่ๆ เราไป เอาบอร์ดเก่า อะไหล่เก่าพอใช้งานมาใส่แทน(เรียกว่ายำเละ)เราก็ไม่รู้เพราะอยู่ข้างใน ใช้ไปไม่กี่เดือน พัง เราก็ไม่รู้เรื่อง คิดว่าอายุการใช้งานมีเพียงเท่านี้.
...ขออนุญาตให้ข้อคิดเกี่ยวกับการซื้อสินค้าประเภทนี้ เพียงเท่านี้ครับ.
ผมกับเพื่อนๆในกลุ่มและในบอร์ดได้อ่านแนวความคิดนี้ของคุณ bkav มาตั้งแต่ปี 2011 แล้วครับ
(บางคนอ่านไปหลายรอบจนจำได้ขึ้นใจเลย ว่าพูดถึงbkav ก็ต้องนึกถึงทีวีรุ่นนี้ไซส์นี้ด้วยนั่นคือ
LG 42LW6500)
ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง
รายได้ ฐานะ สภาพห้อง ฯลฯ แต่ที่สำคัญสุดคือ
ความพึงพอใจส่วนบุคคลบอกตรงๆเลยว่าตัวผมเองเป็นคนไม่มีฐานะ เป็นแค่พนักงานรับจ้างทั่วไป เงินเดือน ๙,๐๐๐ บาท ต่อเดือน
ผมยัง อดออมเงิน ที่เหลือจากการใช้ในแต่ละเดือนเก็บสะสมมาซื้อทีวีไซส์55" ที่คิดว่ามีประสิทธิภาพดีเพียงพอ
ล่าสุดซื้อ sony 55X9000C บอกได้เลยว่า เงินที่เก็บมา เกือบสามปี หายไปเกือบหมด
แต่ผมกลับมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้ใช้งานของที่ตัวเองปราถนาตามเป้าหมาย
ถ้าให้ผมเปลี่ยนไปซื้อ 42" รุ่นล่างๆ แม้จะทำให้มีเงินเก็บเหลือมากกว่าแต่บอกได้เลยว่าผมคงไม่มีความสุขแน่ๆครับ
ผมเชื่อว่าผู้บริโภคที่มีงบประมาณพอสามารถซื้อทีวี 65" ได้ คงไม่มีใครอยากซื้อแค่ไซส์ 42" เพราะ
"กลัวพัง" หรอกครับ
ถ้าซื้อเพราะ"กลัวพัง" คงไม่มีวันได้สัมผัสในสิ่งที่ตัวเองปราถนาแท้จริง...ครับ
................
ปล. เช็คทีวีตัวล่าสุดที่คุณซื้อดีๆครับ มันคือรุ่น 43
UF640T ไม่ใช่ 43
UH640T