ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนๆ มาช่วยกันแนะนำหนังที่พึ่งจะดูกัน น่ะครับ  (อ่าน 154249 ครั้ง)

ออฟไลน์ pratad22

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 574
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
++ เมื่อวานเช่า Dark Shadows แวมไพร์มึนยุค มาดู เป็นหนังของ ทิม เบอร์ตัน เนื้อหาสบาย ๆ ดูแล้วคลายเครียดดีครับ เสียงโดยรวม ok เลย กับฉากแรกที่นางเอกโดดลงหน้าผา เสียงน้ำทะเล โถม.มม ซัด.ดดเข้าใส่ซอกหิน.นน ดังแน่นมาก ๆ เสียงเพลงประกอบ Top Of The World ของ The Carpenters http://www.youtube.com/watch?v=DqH0mAKKU0s...feature=related เพราะดีครับ เหมือนดูหนังเพลงเลยได้บรรยากาศสุด ๆ เสียงเบสแนน ตึ๊บ ๆ ๆ และผมชอบเสียงเวลาปิดประตูคฤหาสน์ครับ ทุกครั้งที่ปิดประตู เสียงมันหนาใหญ่ ดัง.งง หนัก.กก แน่น...น ลึก.กกก ได้ใจมาก ๆ สมกับเป็นประตูคฤหาสน์จริง ๆ เลย กับอีกฉากที่พระเอกมีอะไรกันกับแม่มด กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไป - มา โยกซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง ของหล่น ของแตก.กก รอยเล็บ.บบข่วน.นน ดังหนักแน่น สมจริงมาก ๆ (จนแฟนที่นั่งดูอยู่ด้วยบอกว่า บรรยากาศเหมือนมาทำอะไรกันในห้องเราเลย อิ อิ) ยิ่งฉากตอนจบสู้กับในคฤหาสน์ ไม่ต้องบรรยายเลยครับ Sherwood ถ่ายทอดเสียง.งงง ได้ หนักแน่น เต็มอารมณ์ จริง ๆ ครับ

ปล: สำหรับท่านที่ยังไม่มีเพลงนี้ไว้ฟังครับ Top Of The World - The Carpenters http://beemp3.com/download.php?file=192701...op+Of+The+World

ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
เพิ่งดูเรื่อง  The_Warriors_Way  จบ  มันมากๆครับ


ภาพสวย    เสียงดี  เนื้อเรื่องโอเค


เพื่อเพื่อนๆใครยังไม่เคยดู  ลองหามาดูซิครับ 



หนังดีเลยเรื่องนี้     

ออฟไลน์ pratad22

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 574
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
เพิ่งดูเรื่อง  The_Warriors_Way  จบ  มันมากๆครับ


ภาพสวย    เสียงดี  เนื้อเรื่องโอเค


เพื่อเพื่อนๆใครยังไม่เคยดู  ลองหามาดูซิครับ 



หนังดีเลยเรื่องนี้     
++
ผมเพิ่งดูจบไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วครับ เป็นหนังสนุกและเสียงดี เหมือนที่คุณ can18 ได้แนะนำไว้เลยครับ สนุกตั้งแต่ฉากแรกเลยทีต่อสู้กันด้วยดาบ เสียงคมดาบฟาดฟัน หนัก แน่น สะใจดีครับ ผมชอบตอนที่พระเอกจับดาบลากไปกับพื้นที่เป็นก้อนหิน เสียง.งงง ปลายดาบกระทบแล้ว ครูด.ดดด ไปกับก้อนหิน.นน เสียงมันได้ใจจริง ๆ Sherwood ถ่ายทอดเสียงชนิดที่ว่า ถึงหลับตาฟังก็ยังฟังออกว่า เสียงดาบ ครูด.ดด กับ ก้อนหิน (เต็มพื้น) ผมชอบเด็กน้อย หน้าตาน่ารัก บ๊องแบ๋วดีครับ พากษ์ไทย ตลก มาก ๆ เป็นหนังอีก 1 เรื่องที่น่าดูครับ

ออฟไลน์ akira007

  • New member
  • *
  • กระทู้: 9
    • ดูรายละเอียด
intouchable


Intouchables คือหนังอะไร? ทำไมหนังดราม่าฝรั่งเศสเรื่องนี้ กวาดรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท!
INTOUCHABLES (อินทัชเชเบิ้ลส์) แรง! บอกต่อความยอดเยี่ยม  ขึ้นอันดับ 1  ใน 3 ประเทศ ฝรั่งเศส เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ ทำรายได้ทั่วโลกทะลุ 11,240 ล้านบาท
Intouchablesเป็นหนังดราม่าปนอารมณ์ขัน ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของเศรษฐีที่ได้รับบาดเจ็บจนเป็นอัมพาต และได้ว่าจ้างเด็กหนุ่มผิวดำมาเป็นพยาบาลส่วนตัว ก่อนที่มิตรภาพของคนสองคนที่แตกต่างกันในทุกๆ ด้านจะงอกงามขึ้นมาจนกลายเป็นเรื่องที่หลายคนประทับใจ


ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Intouchables   เรื่องนี้โหลดมาไว้แล้วครับ  เดี๋ยวจัดคิวไว้ดูต่อ


วันนี้นั่งดู  ขุนศึกตระกูลหยาง  ภาคล่าสุด   นางเอกคนสวยเล่น  จางปอจื้อ


ที่เคยเล่นเรื่อง  fly me to polaris ขอเพียง 5 วัน ให้ฉันรู้หัวใจเธอ  เป็นหนังที่ผมดูหลายรอบมาก


เสียน้ำตาทุกรอบ  เพื่อเพื่อนๆคนไหนยังไม่เคยดู   เอาไว้ดูกับแฟน  รับประกันได้เสียน้ำตา


เข้าเรื่อง  ขุนศึกตระกูลหยาง  ภาพสวย  เสียงเพลงดี ได้บรรยากาศของ ทะเลทราย


ลองหามาดูกันน่ะครับ



ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ขอเขียนนอกเรื่องนิดนึง  ไม่ได้ให้งมงาย  แต่ให้เป็นข้อคิด

คู่มือเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ
และพุทธทำนาย พ.ศ. 2555 - 2560
คำเตือนเรื่องภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
1
บทนำ - บทส่งท้าย
สิ่งที่สำคัญกว่าการตายหรือการรอดชีวิตจากภัยพิบัติ คือ การเตรียมตัว
ถ้าจะต้องตายก็ขอให้ตายอย่าง ‘เตรียมตัว’ ไม่ใช่ตายอย่าง ‘ลืมตัว’ ไม่ควร
ตายไปอย่างขาดสติโดยไม่ได้ใช้โอกาสแห่งการเกิดเป็นมนุษย์
อันที่จริง ระหว่างการเตรียมตัวตายกับการเตรียมตัวที่จะรอดชีวิตนั้น
แทบไม่แตกต่างกันเลย เนื่องจากคนที่จะรอดชีวิตจากภัยพิบัติใหญ่ในครั้ง
นี้คือคนดี อย่างน้อยคือมีศีล 5 บริสุทธิ์เป็นขั้นต่ำ มีพรหมวิหาร ปล่อยวาง
ในขันธ์ 5 คือกายและจิต มีความเคารพในพระรัตนตรัย ส่วนคนที่คิดว่า
ขอตายในภัยพิบัติดีกว่ารอดชีวิตก็ควรเตรียมตัวตายอย่างเป็นคนดี คือ มีศีล
และมีสติเช่นกันเพื่อมีสุขคติภพเป็นที่ไป ควรจะเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว
สำหรับการเดินทางเวียนว่ายตายเกิดอันยาวไกล เพื่อไม่ให้เสียทีที่เกิดมา
พบพระพุทธศาสนา แต่หากเบื่อหน่ายการเวียนว่าย เกิด แก่ เจ็บ ตายที่
วนเวียนซ้ำซากก็ต้องเจริญสติ หรือที่เรียกว่า ‘สติปัฏฐาน’
บางคนอาจเครียดถึงกับคิดฆ่าตัวตายในบางช่วง เช่นคิดว่าในเมื่อคน
ในครอบครัวตายหมดแล้วจะอยู่ไปทำไมตายเสียดีกว่า หากลองมานึกดูว่า
แม้ไม่มีภัยพิบัติใหญ่ อันที่จริงทุกคนก็ต้องตายจากกันไปเป็นธรรมดา การ
พลัดพรากเป็นทุกข์อันมีมาคู่กับการเวียนว่ายตายเกิด การฆ่าตัวตายตามกัน
ไปนั่นจึงไม่ใช่ทางออกแต่กลับเป็นทางเข้าไปสู่วังวนแห่งความยุ่งยาก ผู้ที่
2
ฆ่าตัวตายจิตใจย่อมเศร้าหมองไม่อาจหวังสุขคติภพได้เลย เป็นบาปกรรม
หนักส่งผลให้ต้องวนเวียนฆ่าตัวตายซ้ำแล้วซ้ำเล่านับครั้งไม่ถ้วน
แทนที่จะมาเสียใจว่าโชคร้ายเกิดมาในยุคภัยพิบัติใหญ่ ควรมองเห็น
โอกาสที่คนยุคอื่นหาได้ยาก นั่นคือการระลึกถึงความตายและไม่ประมาท
ในชีวิต ความจริงทุกคนเกิดมาย่อมต้องตายไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติหรือไม่
บางทีก็อาจตายตั้งแต่ยังหนุ่มสาวแต่เราก็มักจะหลงลืมความจริงข้อนี้ เมื่อ
ได้รู้ว่าอาจมีภัยพิบัติใหญ่และอาจเสียชีวิตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เป็น
โอกาสดีที่ได้รู้ล่วงหน้า บางคนอาจได้คิดมองเห็นโทษภัยของวัฏสงสาร
อันเปรียบดังมหาสมุทรใหญ่แล้วเร่งรัดตัวเองให้ก้าวหน้าในการสร้างบารมี
และปฏิบัติธรรม เลิกการใช้ชีวิตที่ไร้สาระ เลิกการเบียดเบียนกัน
จากพุทธทำนายระบุว่า ผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้จะได้พบกับ
ยุคชาววิไล คือยุคแห่งความเจริญรุ่งเรือง จะมีอริยศาสตร์เกิดขึ้น บ้านเมือง
เจริญรุ่งเรือง ผู้คนใส่ใจการบุญกุศล
พวกเราทุกคนควรดำเนินตามรอยพระมหาชนก คือ ไม่ประมาท มีสติ
เตรียมพร้อม มีความเพียร มีศีลบริสุทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมช่วยผู้ที่คิดจะ
ช่วยเหลือตัวเองก่อน ขอศีลและบุญจงรักษาทุกท่าน.
3
การเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติและพุทธทำนาย พ.ศ. 2555 - 2560
คำเตือนเรื่องภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นแล้วและนับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเพียงมีใครสักคนได้รอดพ้นจากภัยพิบัติ หรือได้รับประโยชน์จาก
เอกสารฉบับนี้ ผู้เรียบเรียงก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วกับการที่ได้สละเวลาจัดทำ
หากไม่ด่วนเชื่อหรือปฏิเสธ แต่ฉุกคิดลองสืบดูข้อเท็จจริงในอินเทอร์เน็ตก็
จะพบความจริงและคำเตือนเรื่องภัยพิบัติมากมายจากหลากหลายที่มาได้แก่
1. คำพยากรณ์ในพุทธศาสนา พุทธทำนายและพระนักวิปัสสนาหลายๆ
ท่านเตือนภัยพิบัติ พุทธศาสนาจะอยู่ถึง 5,000 ปี แต่จะมีภัยพิบัติ
ใหญ่ในช่วงกึ่งพุทธกาล พ.ศ. 2555 - 2560 (ค.ศ. 2012 - 2017)
2. คำเตือนจากมนุษย์ต่างดาวถึงเรื่องภัยพิบัติใหญ่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำและ
พระนักวิปัสสนาอีกหลายท่าน ตลอดจนผู้รู้ระดับด๊อกเตอร์ยืนยันว่ามี
มนุษย์ต่างดาว ให้สังเกตว่ามีการพบเห็น UFO บ่อยขึ้น
3. นักวิทยาศาสตร์ไทยที่ทำงานร่วมกับองค์การนาซ่ายืนยันเรื่องภัยพิบัติ
และบอกว่าต่างประเทศเตรียมตัวรับภัยพิบัติกันแล้ว ปรากฏข่าว
ต่างประเทศในอินเทอร์เน็ตเช่นในเว็บไซต์ Youtube เช่นที่อังกฤษมี
การประชุมนักวิทยาศาสตร์เพื่อรับมือพายุสุริยะ ที่ขั้วโลกเหนือมีการ
สร้างห้องนิรภัยเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช
4. ดร.สมิทธ ธรรมสโรช, ดร.อาจอง ชุมสาย และอีกหลายท่านเตือนเรื่อง
ภัยพิบัติมีแผ่นดินไหว น้ำท่วม สึนามิ โดยมีภาวะโลกร้อนเป็นตัวการ
4
สำคัญ ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นส่วนแผ่นดินกรุงเทพทรุดตัวต่ำลง คาด
ว่ากรุงเทพจะจมอยู่ใต้น้ำภายในประมาณไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า
5. ในหลวงทรงเตือนเรื่องแผ่นดินไหว และยังทรงเตือนให้รับฟังคำเตือน
ของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ซึ่งเคยเตือนภัยสึนามิเมื่อปี พ.ศ. 2547
6. นายอัล กอร์ ซึ่งเคยสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของอเมริกา ทำ
สารคดีที่ได้รับรางวัลออสการ์ เรื่องเตือนภัยจากภาวะโลกร้อน
7. ตรวจดูจากวิชาโหราศาสตร์ ดวงดาวร้ายทำมุมกันจึงพยากรณ์ว่าจะมี
ภัยพิบัติเกิดขึ้น โลกจะไม่แตกสลายแต่จะมีคนตายเป็นจำนวนมาก
ระยะภัยพิบัติอาจยาวนานเป็นเวลาประมาณ 5 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2555 -
2560 จุดที่เราต้องระวังเป็นพิเศษคือจุดเริ่มต้นประมาณปี พ.ศ. 2555 - 2556
เพราะคนยังไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้จึงอาจไม่ได้ระวังตัว ส่วนคนที่เชื่อก็ยังไม่รู้ว่า
เหตุการณ์จะรุนแรงขนาดไหนและจะเริ่มวันไหน แต่มีคำพยากรณ์ว่าคนจะ
กลายสภาพจากเดินเป็นคลาน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล อีกจุด
ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือเมื่อใกล้ถึงจุดสิ้นสุดภัยพิบัติประมาณปี พ.ศ. 2560
ซึ่งจะเป็นช่วงที่ภัยพิบัติรุนแรงที่สุด ไฟฟ้าจะดับและโลกจะมืดมิดเป็น
ระยะเวลานาน 7 วัน 7 คืน (มีบางท่านแปลความหมายว่า 7 วันเท่ากับ 1
ราตรี ซึ่งจะมืดมิด 7 ราตรีจึงเท่ากับ 49 วัน) หลังจากนั้นจึงเตรียมเข้าสู่ยุค
ชาววิไล จะมีอริยศาสตร์เกิดขึ้น ประชาชนจะผาสุก ส่วนท้ายของเอกสาร
นี้จะแนบข้อมูล “พุทธทำนาย” เกี่ยวกับภัยพิบัติซึ่งเป็นต้นฉบับที่ท่านเจ้า
คุณฯวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และผู้ใหญ่ระดับสูงอีกหลายท่าน ตลอดจน
5
อาจารย์ที่จุฬาฯ ได้จัดทำตามฉบับที่ไปคัดลอกมาจากศิลาจารึกที่ประเทศ
อินเดีย ท่านสามารถสืบค้นหาข้อเท็จจริงและรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก
อินเทอร์เน็ต
เราจะไม่เถียงกันว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่ และจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
เพราะนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ก็ยังเถียงกันไม่จบ แต่ที่แน่ๆคือภาวะ
โลกร้อนเป็นเรื่องจริงพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ส่วนเรื่องคำเตือนจาก
พระนักวิปัสสนาก็ยากจะพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ต้องรอจนกว่าเหตุการณ์จะ
เกิดขึ้น ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับศรัทธาความเชื่อของแต่ละบุคคล เอาเป็นว่าถ้า
ใครไม่ประมาทก็เตรียมพร้อม ส่วนใครที่ประมาทก็ไม่ต้องสนใจและไม่
ต้องเตรียมพร้อมใดๆ ผู้เขียนไม่อยากพูดมากซ้ำซากจึงเรียบเรียงเอกสารนี้
แจกจ่ายเฉพาะครอบครัวญาติมิตรและผู้สนใจ ส่วนจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่
กับบุญกุศลและเส้นทางชีวิตของแต่ละบุคคล
การเตรียมพร้อมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือการเตรียมภายในกับเตรียม
ภายนอก การเตรียมภายนอกนั้นสามารถที่จะรับภัยพิบัติที่อยู่ในระดับเบา
ถึงปานกลาง แต่สำหรับภัยพิบัติในระดับรุนแรงนั้นต้องมีการเตรียมภายใน
การเผชิญภัยพิบัติครั้งนี้ต้องเตรียมภายนอกและภายในควบคู่กันไป ดำเนิน
ตามรอยพระมหาชนกเป็นตัวอย่าง
6
การเตรียมภายในขอกล่าวถึงเพียงสั้นๆ คือการเตรียมจิตและบุญบารมี
ที่ไม่ขอกล่าวมากเพราะเดี๋ยวจะยืดยาวเกินไป ขอให้ท่านไปศึกษาเพิ่มเติม
สำหรับชาวพุทธก็คือการรักษาศีลและฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ฝึกปล่อยวาง
ในขันธ์ 5 คือกายและจิต ในที่นี้จะเน้นกล่าวถึงการเตรียมภายนอกได้แก่
การเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติ คนที่เชื่อและ
ไม่ประมาทก็ควรเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเป็นพิเศษ ส่วนคนที่ยังไม่เชื่อแต่
ถือหลักว่าเราไม่ควรประมาทก็อาจหาเอาของที่มีอยู่แล้วภายในบ้านมาจัดใส่
กระเป๋าเป้แบบสะพายไว้ เมื่อถึงคราวจำเป็นจะได้หยิบคว้าง่าย หากรอถึง
คราวคับขันจึงค่อยคิดทำรายการของที่จำเป็นอาจหาได้ไม่ครบ และชักช้า
ไม่ทันสถานการณ์จนต้องไปต่อคิวอยู่ท้ายขบวนอพยพ ภัยธรรมชาตินั้นไม่
ควรประมาท แม้ในช่วงวันที่เขียนนี้ (14/10/2553) ก็เพิ่งมีข่าวอ่างเก็บน้ำ
แตก ส่วนที่โคราชและหลายจังหวัดน้ำท่วมฉับพลัน ต้องปล่อยน้ำในเขื่อน
ออกมาเพราะกลัวเขื่อนแตกส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มในภาคกลาง ลอง
สมมติว่าหากเกิดเขื่อนศรีนครินทร์หรือเขื่อนสิริกิติ์แตก ถ้าอ่างเก็บน้ำแตก
แล้วจะอพยพอย่างไร ถ้าหากเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลในเขตอ่าวไทยจน
เกิดคลื่นสึนามิเข้ากรุงเทพ ภาคกลาง และภาคใต้ หากต้องอพยพออกจาก
จังหวัดที่อยู่ภายใน 6 - 12 ชั่วโมงจะทำอย่างไร ถ้าครอบครัวพลัดหลงกัน
จะไปเจอกันที่ไหน ในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นทุกอย่างอาจสับสน ระบบ
การสื่อสารต่างๆอาจล่ม การเดินทางอาจยากลำบากติดขัด ลองนึกถึงช่วง
เทศกาลสงกรานต์ ถ้าทุกคนต่างก็อพยพหนีตายพร้อมๆกันมันจะชุลมุน
ขนาดไหน ไหนจะเกิดความขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม คนที่เตรียมตัวนั้น
7
ก็อาจดูเหมือนคนบ้าในสายตาของบางคนที่ไม่เตรียมตัว แต่คนที่ไม่เตรียม
ตัวนี่ล่ะที่จะต้องรอคอยความช่วยเหลือและเป็นภาระของผู้อื่น ที่สำคัญคือ
หากภัยพิบัติเกิดขึ้นรุนแรงทั่วโลกพร้อมกัน ทุกคนก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง
ก่อนที่จะไปช่วยเหลือคนอื่น แต่ทุกคนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
แผนการเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ
1. คนที่มีภาระหน้าที่การงาน ต้องทำมาหากินก็ให้ทำงานไปตามปกติแต่
ให้คอยสังเกตสถานการณ์ เก็บเงินไว้ให้มากที่สุดเพื่อซื้ออุปกรณ์ของ
ใช้จำเป็นและเสบียงอาหารเตรียมไว้ในยามมีภัยพิบัติ อาจต้องซื้อที่ดิน
และบ้านใหม่ ผู้ไม่ประมาทควรเริ่มเตรียมกระเป๋าเป้สัมภาระทันที
ผู้เขียนเองยังต้องใช้เวลาเตรียมหลายเดือน เนื่องจากต้องค่อยๆคิดหา
สิ่งของที่จำเป็นในยามภัยพิบัติ เมืองไทยยังไม่มีร้านขายอุปกรณ์
สำหรับใช้ในภัยพิบัติโดยเฉพาะ เช่น มีดพับ เข็มทิศ ชุดชูชีพ ไฟ
ฉายแบบไม่ใช้ถ่าน ที่กรองน้ำแบบพกพาและอื่นๆ ต้องตระเวนหา
หลายที่กว่าจะได้ครบ รายการอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมจะอยู่ในเนื้อหา
ของบทความนี้
2. ชะลอการซื้ออสังหาริมทรัพย์คือบ้านที่ดินในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติรุนแรง
ได้แก่ กรุงเทพ ภาคกลางและภาคใต้จนกว่าจะพ้นช่วงภัยพิบัติ ถ้ามี
อยู่และขายได้ราคาดีก็อาจขายแล้วนำไปซื้อที่ดินในเขตพื้นที่ปลอดภัย
อาจเช่าบ้านอาศัยจนกว่าทุกอย่างจะมีความชัดเจนและปลอดภัย
8
3. ชะลอการซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยซึ่งอาจขนย้ายไปได้ไม่หมดและจมอยู่ใต้
น้ำเมื่อมีภัยพิบัติเกิดขึ้น
4. ให้รักษาศีลและเร่งรัดการปฏิบัติธรรม ถือศีล 5 ทุกวันและถือศีล 8
ในวันพระ สวดมนต์ทุกวัน ฝึกการทำวิปัสสนากรรมฐานเพื่อฝึกสติ
รู้ตัว ฝึกเจริญมรณะสติหรือปลงอสุภซากศพ จิตจะได้เข้มแข็งกับการ
เจอภาพที่น่ากลัว ให้ทำบุญด้วยการปล่อยปลา บริจาคโลหิตเป็น
ประจำ ศึกษาธรรมะ ฝึกการปล่อยวางในขันธ์ 5 คือร่างกายและจิต
มีความเคารพในพระรัตนตรัย
5. แจ้งให้คนในครอบครัวทราบถึงเรื่องภัยพิบัติและวิธีเตรียมพร้อม ควร
จัดเตรียมอุปกรณ์เสบียงอาหารสำหรับตนเองและคนในครอบครัว แต่
ถ้าใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรอย่าไปเถียงกันจะไม่เกิดประโยชน์ ให้เราคุย
เฉพาะคนที่เชื่อเพื่อวางแผนเตรียมเสบียงและที่หลบภัยนอกพื้นที่เสี่ยง
ควรอยู่ใกล้วัดเพื่ออาศัยพึ่งพุทธคุณ วัดที่มีพระอริยะเจ้าหรือพระบรม
สารีริกธาตุจะเป็นที่พึ่งเมื่อถึงคราวมีภัยพิบัติรุนแรง มีผู้แนะนำว่าตึกที่
สูงกว่า 3 ชั้นจะมีโอกาสถล่มเป็นอันตรายมาก คนแก่และเด็กควรให้
อพยพไปก่อน
6. ช่วงเวลาเสี่ยงเกิดภัยพิบัติ ตามคำพยากรณ์ระบุว่าอาจเกิดในช่วงปี
พ.ศ. 2555 - 2560 โดยเฉพาะปลายปีพ.ศ. 2555 เป็นต้นไปไม่ควร
อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรย้ายออกไปแต่เนิ่นๆเท่าที่ทำได้ ผู้เขียนตั้ง
ข้อสังเกตว่าพระนักวิปัสสนาท่านมักพูดถึงนาคเมื่อพูดถึงภัยพิบัติ เช่น
9
นาคเล่นน้ำ นาคทำงาน นาคโก่งตัว บังเอิญว่าปี พ.ศ. 2555 - 2556
ตรงกับปีมะโรง หมายถึง พญานาค
7. คนที่ยังไม่ค่อยเชื่อให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน แต่ต้องไม่ประมาท
สังเกตจากสิ่งแวดล้อม ท้องฟ้าและอาการผิดปกติของสัตว์ต่างๆ เช่น
นก งู หนู แมว หมา ปลาและอื่นๆ ปลอดภัยที่สุดคือรีบย้ายไปอยู่นอก
เขตพื้นที่เสี่ยง คนที่เชื่อควรเตรียมหาที่ทำงานและที่อยู่ชั่วคราวซึ่งอยู่
นอกเขตเสี่ยง เตรียมกระเป๋าและสัมภาระให้พร้อม คนแก่และเด็ก
เล็กให้ย้ายไปก่อนแต่เนิ่นๆ อาจถือเสียว่าย้ายไปชั่วคราวก่อนก็ได้ถ้า
ไม่มีอะไรค่อยย้ายกลับ สถานที่หลบภัยที่ดีคือวัดที่มีพระอริยะเจ้า
หรือพระปฏิบัติเคร่งครัดหรือมีพระบรมสารีริกธาตุ คนที่ยังไม่เชื่อ
อาจถือซะว่าลาพักร้อนหรือลาไปเที่ยวพักผ่อน โดยเฉพาะในช่วง
ปลายปี พ.ศ. 2555 หรือ ค.ศ. 2012 อย่างไรก็ตามเมื่อใกล้ช่วงนั้นอาจ
มีคนอพยพมากจนทำให้การจราจรติดขัดและวุ่นวาย การอพยพที่ดี
คือการอพยพก่อนจะมีประกาศว่าจะเกิดภัยพิบัติ เพราะถ้าประกาศ
เมื่อไหร่คนอาจจะแตกตื่น
8. ให้ลองหาหนังสือ ภาพยนตร์และสารคดีที่เกี่ยวกับภัยพิบัติและการเอา
ตัวรอดในภัยพิบัติมาดู เพื่อศึกษาสถานการณ์และซักซ้อมความเข้าใจ
ก่อนเผชิญสถานการณ์จริง ภาพยนตร์ที่แนะนำคือ The Day After
Tomorrow, Cast Away, The Road สารคดี Man vs. Wild ส่วนเรื่อง
2012 อาจไม่ค่อยได้ความรู้
10
คำถามที่อาจสงสัย
ถ้าเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมแล้วแต่ไม่เกิดภัยพิบัติล่ะ
อย่าลืมว่าแม้แต่คนที่เตรียมตัวแล้วก็อาจไม่รอดชีวิตจากภัยพิบัติ การ
ไม่เกิดภัยพิบัติจึงนับเป็นเรื่องดีที่สุด เพราะหมายถึงว่าไม่ต้องมีคนตายเป็น
จำนวนมหาศาล แต่ดูจากปัญหาภาวะโลกร้อนแล้วภัยธรรมชาติจะรุนแรง
ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ที่จริงแล้วโลกเราตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงภัยพิบัติเพียงแต่ภัย
ขั้นตอนสุดท้ายคือภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดพร้อมกันทั่วโลกยังมาไม่ถึง ภัย
พิบัติที่จะเกิดขึ้นคือการที่โลกปรับสมดุลครั้งใหญ่พร้อมกัน ถ้ายังไม่ค่อย
เชื่อเรื่องภัยพิบัติก็ขอแนะนำให้เตรียมอุปกรณ์เท่าที่พอหาได้ โดยเน้นหลัก
พอเพียงและประยุกต์จากสิ่งที่มีอยู่แล้ว ถ้าต้องซื้อเพิ่มเติมก็ให้เลือกของที่
คุณภาพพอใช้ได้ราคาไม่สูง เสบียงที่เตรียมไว้จะไม่สูญเปล่าเพราะอาหาร
และน้ำที่เราตุนไว้ก็เอามากินได้ มีดพับเราก็เก็บไว้ใช้หรือมีไว้ติดตัว ไฟ
ฉายและกระเป๋ายาเราก็ควรมีติดบ้านอยู่แล้ว สบู่ ยาสระผม เสื้อผ้า รองเท้า
และของอย่างอื่นๆ ที่เตรียมไว้เราก็เอาออกมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ส่วน
กระติกน้ำ หม้อสนาม ถุงนอนหรือเต๊นท์ก็คิดซะว่าเราได้อุปกรณ์แค้มปิ้งไว้
ไปเที่ยวเขาซึ่งอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิตก็น่าจะได้ใช้ไปเที่ยวภูเขา หรือ
จะเอาไปขายต่อก็ได้ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ ของบางอย่างถ้าเรากลัวไม่ได้ใช้ก็
ไม่ต้องเตรียมไว้ก็ได้ ในยามภัยพิบัตินั้นข้าวของเครื่องใช้จะหายากและมี
ราคาแพงมาก ถึงเวลานั้นคิดจะซื้อหามาใช้ก็อาจจะทำไม่ได้
11
อยากขายบ้าน ที่ดิน รถแล้วอพยพ แต่ถ้าไม่เกิดภัยพิบัติล่ะ
เราไม่ได้แนะนำให้ใครขายบ้าน ที่ดิน หรือรถที่มีทิ้ง เพียงแต่บอกให้
ชะลอการซื้อออกไปก่อนสำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อใหม่ เอาไว้ผ่านช่วง
อันตรายไปแล้วค่อยว่ากัน ดีกว่าซื้อมาแล้วต้องไปจมอยู่ใต้น้ำ ส่วนคนที่มี
อยู่แล้วถ้าประกาศขายแล้วได้ราคาที่พอใจ ก็อาจจะขายแล้วเก็บเงินไว้ก่อน
ไม่เอาไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เราไม่ได้บอกว่าโลกจะแตก เพียงแต่อาจจะมี
ภัยพิบัติใหญ่ซึ่งภาคกลางกับภาคใต้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ
เสี่ยงภัยน้ำท่วมแบบถาวร แต่มีความจริงอยู่อย่างหนึ่งคือไม่ว่าจะมีภัยพิบัติ
หรือไม่ก็ตาม กรุงเทพต้องจมอยู่ใต้น้ำในประมาณไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า
เนื่องจากปัญหาภาวะโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลายหนุนน้ำทะเลขึ้นสูง
และแผ่นดินกรุงเทพทรุดตัว ให้ลองดูสารคดีเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนและ
ข้อมูลจากในอินเทอร์เน็ต
อพยพไม่ได้หรอก ฉันมีญาติผู้ใหญ่ที่แก่มากและเด็กเล็กๆด้วย
ระหว่างการวางแผนล่วงหน้ากับการรอให้เกิดภัยพิบัติจึงค่อยคิดอพยพ
แบบไหนจะง่ายหรือเป็นไปได้มากกว่ากัน ที่จริงยิ่งมีคนแก่และเด็กเล็กยิ่ง
ต้องเตรียมการวางแผนให้ดีๆ เพราะเรากำลังมีอีกหลายๆชีวิตที่ฝากไว้กับ
เรา เรายังมีกำลัง มีสมอง มีความรู้ เราสามารถหาข้อมูลต่างๆจาก
อินเทอร์เน็ตได้ เราควรเป็นตัวแทนของคนแก่และเด็กๆในครอบครัว โดย
วางแผนล่วงหน้าว่าต้องเตรียมอุปกรณ์เสบียงอาหารอย่างไร ต้องคิดว่าทำ
อย่างไรจึงจะอพยพได้เร็วที่สุดหากมีภัยพิบัติ อาจย้ายไปอยู่กับญาติที่นอก
12
พื้นที่เสี่ยงชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ใกล้เกิดภัยพิบัติ จนกว่า
สถานการณ์จะมีความชัดเจน พระท่านมักบอกว่าถ้ามีภัยพิบัติใหญ่เกิดขึ้น
ภาคเหนือและอิสานของประเทศไทยจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่อื่น ใคร
มีญาติอยู่ต่างประเทศควรเรียกกลับมาชั่วคราวก่อน โดยเฉพาะประเทศที่
เป็นเกาะนั้นมีความเสี่ยงสูงมาก
จะเชื่อได้อย่างไรว่าจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นแน่นอน มันเหลือเชื่อ ไม่อยากเชื่อ
เราไม่ได้อยากบอกให้เชื่อ เราแค่อยากบอกให้รู้ ทั้งนี้แล้วแต่บุญกุศล
ที่จะดลจิตใจแต่ละคนให้เชื่อหรือไม่เชื่อ คนที่ไม่ประมาทจะยังมีโอกาส
เตรียมตัวรับภัยพิบัติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมช่วยผู้ที่คิดช่วยเหลือตัวเองก่อน
ดังเช่นพระมหาชนกว่ายน้ำข้ามทะเลแม้ไม่เห็นฝั่ง เครื่องมือวิทยาศาสตร์
ยังไม่ก้าวหน้าพอที่จะทำนายภัยพิบัติถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เรื่องภาวะ
โลกร้อนเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้จริง ถ้าได้ดูสารคดีของนายอัล กอร์
จะรู้ความจริง ทุกวันนี้เราได้ยินข่าวคนตายจากภัยพิบัติต่างๆที่มีแนวโน้ม
รุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้งทั่วโลก คนที่ฉุกคิดและสังเกตจะเห็นได้ว่า
ธรรมชาติและโลกกำลังผิดปกติอย่างหนัก ทุกวันนี้เรามีคนตายจากพายุ
แผ่นดินไหว คลื่นสึนามิ น้ำท่วมฉับพลัน อ่างเก็บน้ำแตก ภูเขาไฟระเบิด
ภัยพิบัตินั้นมักเป็นเรื่องเรื่องเหลือเชื่อเสมอ ก่อนปี 2547 สึนามิก็เคยเป็น
เรื่องเหลือเชื่อสำหรับเมืองไทย ตึกเวิลด์เทรดถล่มก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อ
เซ็นทรัลเวิลด์ถูกเผาก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว เราแน่ใจ
ว่าเรารู้จักโลกใบนี้และจิตใจคนมากแค่ไหน บางทีจุดเริ่มต้นของภัยพิบัติ
13
อาจเกิดจากบางประเทศที่ก่อสงครามโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ถ้ารอให้
มีข่าวออกโทรทัศน์นั่นหมายถึงสิ่งต่างๆได้เกิดขึ้นแล้ว และเราอาจไม่มี
โอกาสเตรียมตัวอีกแล้วเพราะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ
ถ้าจะมีภัยพิบัติจริง ทำไมต่างประเทศไม่เตรียมการ
ต่างประเทศมีการเตรียมการแล้ว ถ้าเราเข้าไปหาข้อมูลอินเทอร์เน็ต
โดยหาจาก Google และ Youtube เราจะพบข่าวว่าต่างประเทศมีการ
เตรียมการกันมาตลอด เช่น ทำที่หลบภัยขนาดใหญ่ใต้ดิน มีการกักตุน
อาหารและเมล็ดพันธุ์พืชโดยกลุ่มนักธุรกิจที่ร่ำรวย ในเว็บไซต์ต่างๆมีการ
ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับการยังชีพ
ทำไมราชการไม่ประกาศเตือนภัยให้คนอพยพ
ถ้ารอคำเตือนแสดงว่าเรากำลังจะฝากชีวิตไว้กับคนอื่น เป็นไปได้ว่า
พวกเขาอาจไม่รู้ ไม่เชื่อ ไม่สนใจ นักการเมืองของบางประเทศอาจไม่มี
เวลาหรือไม่มีสมองสำหรับการคิดเรื่องพวกนี้ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือภัย
คลื่นสึนามิในปี พ.ศ. 2547 ทั้งที่ได้มีการเตือนภัยล่วงหน้าโดยออกเป็น
หนังสือและมีตราประทับทางราชการรับเรื่องไว้ แต่ไม่มีการตอบสนอง
และคนที่ออกมาเตือนถูกด่า ดังนั้นเราไม่ควรฝากชีวิตเราและครอบครัวไว้
กับนักการเมือง มีรัฐบาลบางประเทศรู้และกำลังเตรียมการ แต่ให้ลอง
จินตนาการดูหรือลองไปหาภาพยนตร์มาดู แต่ละเรื่องจะประกาศภาวะ
ฉุกเฉินหรือกฎอัยการศึกในช่วงท้ายก่อนจะเกิดภัยพิบัติ เช่นในเรื่อง 2012
14
และ Knowing ถ้าประกาศออกมาล่วงหน้าจะเป็นอย่างไร อาจเกิดความ
โกลาหลวุ่นวาย เผาบ้านเผาเมืองเผาห้างเพื่อกักตุนสิ่งของ ปล้นร้าน
สะดวกซื้อ คนชั่วหลายคนจะทำเรื่องวุ่นวาย คนบางส่วนอาจหยุดทำงาน
ลูกจ้างตามบริษัทห้างร้านหยุดงาน โรงงานต้องปิด สินค้าหยุดการผลิต
ตำรวจ ข้าราชการ พนักงานไฟฟ้าประปาพากันหยุดทำงาน เกิดการหยุด
ชำระหนี้ธนาคารและบัตรเครดิต การเงินล่มสลาย เศรษฐกิจพังยับ อีก
อย่างที่สำคัญคือใครจะเสี่ยงประกาศว่าภัยพิบัติจะเกิดแน่นอนเมื่อไหร่ หาก
ประกาศไปแล้วไม่เกิดก็ซวยแน่นอน เลือกตั้งคราวต่อไปอาจไม่ได้รับเลือก
มาเป็นรัฐบาล ดร.สมิทธเคยออกมาเตือนล่วงหน้าเรื่องสึนามิในปี 2547
ปรากฏว่ากลุ่มธุรกิจและประชาชนที่ไม่เชื่อออกมาต่อต้านและประกาศห้าม
ดร.สมิทธเข้าไปในจังหวัด มิฉะนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัย ในหลวง
ก็เคยทรงเตือนเรื่องแผ่นดินไหวในประเทศไทย และท่านยังตรัสว่าให้รับ
ฟังคำเตือนของ ดร.สมิทธ พระนักวิปัสสนาท่านก็เตือนลูกศิษย์และญาติ
โยมที่ศรัทธาท่าน คนส่วนใหญ่มักไม่เชื่อและตำหนิคนที่ออกมาเตือนว่า
เป็นคนบ้าสร้างปัญหาทำให้ประชาชนแตกตื่น
ภัยพิบัติที่ต้องเตรียมตัวเผชิญมีอะไรบ้าง
พิจารณาจากพุทธทำนายปรากฏคำว่า “คนเปลี่ยนสภาพจากเดินเป็น
คลาน” “ตลิ่งพัง แผ่นดินอธรรมจะถล่มเป็นทะเล” และ “เมืองมนุษย์มืด
7 วัน 7 คืน”
15
พิจารณาจากคำทำนายในหนังสือใบลานสีคัมภีร์โบราณชื่อ “หนังสือ
อินทร์ตก – เทพทำนาย” ระบุภัยที่จะเกิดในปีจอถึงปีกุน มี 9 ประการคือ
1. ภัยพายุลมแรง แผ่นดินไหว 2. อัคคีภัย (ภัยจากไฟ) 3. อุทกภัย (ภัยจาก
น้ำ) 4. ภัยจากฟ้าผ่า 5. ภัยจากอากาศที่แปรปรวน (ร้อนจัดและหนาวจัด)
6. ภัยจากสารพิษต่างๆ 7. ภัยจากกาฬโรค (โรคระบาด) 8. ภัยจากข้าวยาก
หมากแพง 9. ภัยจากคนทำร้าย เบียดเบียนกันเอง ( ดูเพิ่มในภาคผนวก )
พิจารณาได้จากความเป็นจริงตามที่ปรากฏอยู่ในข่าวทุกวันนี้ ภัยพิบัติ
เกิดขึ้นทั่วโลก ส่วนใหญ่จะเป็นภัยจากน้ำซึ่งอาจมาในรูปของพายุฝน น้ำ
ท่วมฉับพลัน คลื่นสึนามิ และพบว่าภัยหลายชนิดมักมีความเกี่ยวพันกันคือ
มาเป็นชุด เช่น ก่อนเกิดน้ำท่วมหรือคลื่นสึนามิก็จะมีแผ่นดินไหวหรือพายุ
ก่อน หลังจากที่น้ำท่วมหรือเกิดคลื่นสึนามิแล้วภัยที่ตามมาคือโรคระบาด
และพิษจากสารเคมีที่มากับน้ำ พร้อมกับเกิดภาวะอาหารขาดแคลนข้าวยาก
หมากแพง บางพื้นที่เกิดความรุนแรงถึงกับทำร้ายเบียดเบียนกันเองเพื่อแย่ง
อาหาร น้ำดื่มและสิ่งของ
ไม่รู้จะอพยพไปอยู่ที่ไหน ทำมาหากินอะไร
อาจเป็นเพียงการหลบภัยชั่วคราวเท่านั้น คนที่ยังไม่ค่อยเชื่อก็ให้เพียง
แค่ติดต่อหรือเกริ่นๆกับญาติ หรือเพื่อนฝูงที่มีญาติอยู่นอกเขตพื้นที่เสี่ยงภัย
ว่าช่วงนั้นเราอาจไปเที่ยวหรือไปหลบภัยสักพัก ระหว่างนี้ก็ทำงานเก็บเงิน
คิดซะว่าเก็บเงินไปเที่ยว เวลาไปหลบภัยจะได้มีเงินมีเสบียงอาหารไม่เป็น
16
ภาระของคนอื่น ที่ดินต่างจังหวัดหลายแห่งราคาไม่แพงนัก ต่างจังหวัด
ตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆก็มีงานให้ทำมากมายลองหาดูในอินเทอร์เน็ต ถ้า
หาความรู้หรือฝึกฝนการนวดไทย โยคะ การทำอาหารไทย คอมพิวเตอร์
การเกษตรไว้บ้างก็ดี อยู่เมืองไทยถ้ารู้จักใช้เศรษฐกิจพอเพียงคงไม่อดตาย
เมื่อพ้นระยะเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติแล้วอาจค่อยกลับมาใช้ชีวิตปกติตามเดิม
จะต้องเริ่มอพยพเมื่อไหร่
เมื่อไหร่ที่จะอพยพนั้นขึ้นอยู่กับความพร้อม จังหวะเวลา และปัจจัย
ส่วนบุคคล เราเพียงเตือนสติให้มีการวางแผนเตรียมพร้อม งบประมาณ
เป็นสิ่งจำเป็น ควรเขียนแผนการและรายการสิ่งของที่ต้องเตรียมให้ชัดเจน
ควรมีกำหนดการล่วงหน้าแต่สามารถเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์เฉพาะหน้า
ถ้าไม่เตรียมพร้อมก็จะไม่มีวันพร้อม ถ้าอพยพทั้งที่ยังไม่พร้อมก็จะเกิด
ความเสียหาย แต่ถ้ายิ่งช้าก็อาจยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเพราะเราไม่รู้แน่นอนว่าจะ
เกิดเมื่อไหร่ ถ้ายังไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องอพยพแต่ควรเตรียมที่จะเป็นผู้อพยพ
รุ่นสุดท้ายที่รอดจากภัยพิบัติ ควรระวังเป็นพิเศษในปี 2555 โดยเฉพาะ
ช่วงปลายปี 2555 ถึงกลางปี 2556 พระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก
ของในหลวง ระบุเหตุการณ์ที่พระมหาชนกประสบภัยเรือจม ต้องว่ายน้ำ
อยู่ในมหาสมุทร ระหว่างวันที่ 2 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันพระ
ช่วงวันดังกล่าวจะมาพ้องตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ซึ่งเป็นวันพระ
เช่นเดียวกัน แม้วันคืนหมุนเวียนมาตรงกันได้บ่อยๆ แต่ก็ควรระวังภัย
ในช่วงวันดังกล่าวไว้บ้าง อีกช่วงที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือในปี 2560

ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
17
สมมติ ถ้าเริ่มมีภัยพิบัติรุนแรงในปี พ.ศ. 2555 - 2556 เมื่อลอง
คำนวณเวลาที่เหลือนับตั้งแต่ที่เรียบเรียงเอกสารนี้ (เดือนพฤศจิกายน 2553)
เราจะเหลือเวลาสำหรับเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวทั้งในภพนี้และภพหน้าดังนี้
ถ้าอพยพเดือน มกราคม 2555 เรามีเวลาเหลืออีกเพียง 14 เดือนเศษ
ถ้าอพยพเดือน เมษายน 2555 เรามีเวลาเหลืออีกเพียง 17 เดือนเศษ
ถ้าอพยพเดือน กรกฎาคม 2555 เรามีเวลาเหลืออีกเพียง 20 เดือนเศษ
ถ้าอพยพเดือน ตุลาคม 2555 เรามีเวลาเหลืออีกเพียง 23 เดือนเศษ
ถ้าอพยพเดือน ธันวาคม 2555 เรามีเวลาเหลืออีกเพียง 25 เดือนเศษ
ตัวอย่าง ถ้าวางแผนอพยพไว้ในเดือนกรกฎาคม 2555 เราจะมีเวลา
สำหรับการรักษาศีล ปฏิบัติธรรมและเก็บเงินเพียง 20 เดือนเท่านั้น
ถ้าเก็บเงินเดือนละ 1,000 บาท จะมีเงินเก็บเท่ากับ 20,000 บาท
ถ้าเก็บเงินเดือนละ 3,000 บาท จะมีเงินเก็บเท่ากับ 60,000 บาท
ถ้าเก็บเงินเดือนละ 5,000 บาท จะมีเงินเก็บเท่ากับ 100,000 บาท
ถ้าเก็บเงินเดือนละ 7,000 บาท จะมีเงินเก็บเท่ากับ 140,000 บาท
ถ้าเก็บเงินเดือนละ 9,000 บาท จะมีเงินเก็บเท่ากับ 180,000 บาท
18
ควรเตรียมเสบียงอาหาร น้ำดื่มและเชื้อเพลิงไว้อย่างน้อย 3 เดือน
หรือนานกว่านั้น
ถ้าถือศีล 8 กินอาหารและน้ำวันละ 2 มื้อ เป็นเวลานาน 3 เดือน
เท่ากับต้องมีอาหาร 180 มื้อต่อ 1 คน
ถ้าถือศีล 5 กินอาหารและน้ำวันละ 3 มื้อ เป็นเวลานาน 3 เดือน
เท่ากับต้องมีอาหาร 270 มื้อต่อ 1 คน
เช็ครายการอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพื่อเอาชีวิตรอดในภัยพิบัติ
ให้แบ่งกระเป๋าออกเป็น 3 ใบ ทุกคนควรเตรียมกระเป๋าทั้ง 3 ใบนี้
ไว้ตลอดระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2555 - 2560) เราไม่รู้ว่าอาจจะต้องอพยพ
หรือย้ายที่หลบภัยเมื่อไหร่ แต่ต้องเตรียมพร้อมที่จะขนสัมภาระขึ้นรถ
เดินทางได้ทันทีภายใน 1 - 2 ชั่วโมงหลังจากที่ทราบข่าวว่าจะเกิดภัยพิบัติ
ในเขตที่เราอาศัยอยู่ แต่อาจไม่มีการเตือนภัยก็ได้ เสบียงที่เตรียมไว้และ
อุปกรณ์นั้นไม่แน่ว่าอาจจะได้ใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 - 2556 หรืออาจต้อง
ใช้ในช่วงสุดท้ายของภัยพิบัติคือปี พ.ศ. 2560 ทุกคนควรมีกระเป๋า
สัมภาระส่วนตัวไว้เพราะหากผลัดหลงกันกับกลุ่มจะได้ไม่ลำบาก เผื่อทำ
กระเป๋าหายหรือตกน้ำก็ยังพออาศัยของคนที่เหลือในกลุ่มได้บ้าง ตรวจเช็ค
สิ่งที่เตรียมไว้เสมอ หากใกล้หมดอายุให้นำออกมาใช้และหาของใหม่มา
ทดแทน
19
1. กระเป๋าใบแรก ใบเล็กคาดเอว ติดตัวเสมอยามภัยพิบัติแม้ในเวลานอน
เผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่น มีน้ำป่าหลากหรือน้ำท่วมฉับพลันซึ่งมักเกิดขณะนอน
หลับ หรืออาจผลัดตกน้ำขณะเผลอ ถ้าคว้าเป้สัมภาระไม่ทันอย่างน้อยก็ยัง
มีอุปกรณ์ที่จำเป็นติดตัวอยู่บ้าง ควรมีกระเป๋าชุดสำรองอีก 1 ชุดไว้ท้ายรถ
หรือในที่ทำงานด้วยเพราะไม่แน่ว่าอาจไม่มีโอกาสกลับไปเอาที่บ้าน
1.1 มีด มีดเป็นอุปกรณ์สำคัญ ควรมีมีดพับเอนกประสงค์หรือมีดพกที่คม
แข็งแรงไว้ใจได้ มีดพับเอนกประสงค์ใช้ประโยชน์ได้เยอะกว่ามีดธรรมดา
มีดพับเอนกประสงค์ของสวิสหรือที่เรียกว่ามีดสวิส ราคาประมาณ 1 พัน
บาทขึ้นไป ซื้อจากร้านทั่วไปหรือตามเว็บไซต์ถูกกว่าในห้าง มีดพับราคา
ถูกอันละไม่ถึง 100 บาทก็มี แต่ต้องทดสอบคุณภาพและความทนทานให้ดี
มีดพับเอนกประสงค์ควรมีใบเลื่อยด้วย หรือซื้อเลื่อยที่เป็นเส้นลวดต่างหาก
มีขายตามร้านขายอุปกรณ์เดินป่า ลองถามดูหลายๆร้าน ถ้าจะประหยัดก็แค่
มีดทำครัวเล็กๆแบบมีปลอกซ่อนคมสักเล่ม ถ้าเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Cast
Away หรือหนังสารคดี Man vs. Wild จะเห็นเลยว่ามีดเป็นอุปกรณ์ที่
จำเป็นมาก ถ้าไม่มีมีดก็ต้องหาเปลือกหอย กระดูกสัตว์ หรือก้อนหินเอามา
ทุบหรือกะเทาะให้คม
1.2 แท่งหินจุดไฟ ไฟเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แท่งหินจุดไฟดีกว่าไฟแช็คตรงที่
แม้จะตกน้ำก็ยังใช้ได้ ไม่ต้องกลัวน้ำมันหรือแก๊สในไฟแช๊คจะหมดแต่จะ
จุดยากกว่าถ้าไม่เคยใช้งานมาก่อน ลองดูวิดีโอวิธีการใช้แท่งหินจุดไฟใน
สารคดี Man vs. Wild หรือในเว็บไซต์ Youtube ราคาประมาณ 300 บาท
แต่ควรมีไฟแช็คติดกระเป๋าเผื่อไว้ด้วย ไม่แนะนำไม้ขีดไฟเพราะถ้าชื้นหรือ
20
เปียกน้ำก็ใช้ไม่ได้แล้ว การจุดไฟและเลี้ยงไฟเป็นทักษะพื้นฐานในการอยู่
รอด ไฟให้แสงสว่างและความอบอุ่นในยามที่อากาศหนาวจัดและป้องกัน
สัตว์ร้ายบางชนิดได้ แต่ไฟแย่งออกซิเจนต้องระวังอย่าจุดไฟในที่อากาศไม่
ถ่ายเท ก่อนจุดไฟขอให้แน่ใจว่าไม่มีแก๊ซรั่ว ถ้ามีที่หลบภัยแล้วอย่าลืมนึก
ถึงฟืนหรือเชื้อไฟสำหรับก่อไฟด้วย ลองหาความรู้เกี่ยวกับการก่อไฟแบบ
ต่างๆ เช่น การก่อไฟขณะฝนตก การก่อไฟให้มีควันเยอะๆ เพื่อส่ง
สัญญาณควัน
1.3 กระติกน้ำและหม้อสนาม เป็นอุปกรณ์ที่ทหารและนักเดินป่าใช้ ราคา
ประมาณ 500 บาท หาได้ตามร้านขายอุปกรณ์เดินป่าและตามเว็บไซต์
ในช่วงภัยพิบัตินั้นแหล่งน้ำบนดินตามธรรมชาติอาจปนเปื้อนสารพิษและมี
เชื้อโรคที่ทำให้ท้องร่วงอย่างรุนแรง ควรหาน้ำจากแหล่งน้ำใต้ดินและจาก
พืช ควรกรองและต้มน้ำก่อนดื่มทุกครั้ง
1.4 เครื่องกรองน้ำแบบพกพา เดี๋ยวนี้มีแบบหลอดซึ่งมีขนาดเล็กและเบา
สามารถกรองเชื้อโรคได้ด้วย ลองหาซื้อตามร้านขายอุปกรณ์เดินป่า ราคา
ประมาณ 500 บาทขึ้นไป ควรเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้พกติดตัวคู่กับกระติกน้ำ
และหม้อสนาม แต่ถ้าพกไม่สะดวกก็ใส่ไว้ในเป้สะพายหลัง
1.5 เข็มทิศ เอาน้ำหนักเบา แต่ถ้าเล็กเกินไปไม่ดี ต้องเขย่าไล่ฟองอากาศ
ก่อนใช้ เข็มทิศบางรุ่นสามารถบอกอุณหภูมิได้ด้วย แต่ในช่วงภัยพิบัติเข็ม
ทิศอาจใช้ไม่ได้ถ้าสนามแม่เหล็กมีความผิดปกติ อาจต้องหาความรู้เกี่ยวกับ
การหาทิศจากธรรมชาติและการหาดาวเหนือไว้ด้วย
21
1.6 แผนที่ แผนที่ทางหลวง แผนที่ทั่วประเทศ แผนที่จังหวัดที่อยู่ปัจจุบัน
แผนที่จังหวัดที่วางแผนว่าจะอพยพไป เลือกแผนที่ซึ่งระบุความสูงของ
พื้นที่ด้วย จะได้รู้ว่าที่ไหนเป็นพื้นที่สูงหรือต่ำจากระดับน้ำทะเลมากน้อย
แค่ไหน ราคาประมาณฉบับละ 100 บาท ต้องมีเข็มทิศไว้ใช้ประกอบกัน
1.7 ไฟฉายที่ไม่ต้องใช้ถ่าน เป็นแบบที่ใช้มือหมุนเพื่อชาร์จไฟเก็บไว้ อัน
เล็กพกสะดวกราคาประมาณ 100 บาทขึ้นไป ไฟฉายแบบนี้ดีที่ไม่ต้อง
กังวลว่าถ่านหรือแบตเตอรี่จะหมด แต่แนะนำให้มีไฟฉายแบบที่ใช้ถ่านติด
ไว้ด้วยเผื่อกรณีฉุกเฉินต้องใช้รีบด่วน เช่น ต้องวิ่งหนีน้ำแล้วจะต้องมามัว
นั่งหมุนคงไม่ทันการณ์ เตรียมถ่านสำรองด้วย ควรเลือกถ่านแบบที่หา
เปลี่ยนง่ายๆ ถ่านก้อนจิ๋วอาจหาซื้อยากในต่างจังหวัด ไฟฉายแบบที่คาดหัว
ก็ดีเพราะทำให้มือทั้งสองข้างของเราว่าง หรืออาจดัดแปลงไฟฉายที่มีอยู่ให้
คาดหัวได้ แสงสว่างเป็นเครื่องให้ความอุ่นใจที่ดีในยามที่โลกอาจมืดมิด
ติดต่อกันนานหลายวันหลายเดือน ไฟฉายแบบตั้งโต๊ะเหมาะสำหรับการ
รวมกลุ่ม สภาพจิตอาจไม่ค่อยดีหากต้องอยู่ในที่มืดนานๆ ดังเช่นกรณีคนที่
ติดในเหมืองต้องอยู่ในที่มืดนานกว่า 2 เดือน ไฟฉายแบบอันใหญ่ๆสว่างดี
แต่เทอะทะไม่คล่องตัว ถ้าจะประหยัดก็เอาไฟฉายที่มีอยู่ไม่ต้องซื้อใหม่แต่
เตรียมถ่านสำรองไว้เปลี่ยนด้วย ไฟฉายควรกันน้ำหรือใส่ถุงพลาสติกใสไว้
เพื่อกันน้ำ
1.8 นกหวีด สำหรับเป่าขอความช่วยเหลือ นกหวีดยี่ห้อดีๆอาจมีราคาสูงถึง
ตัวละ 200 กว่าบาท แต่เสียงจะดังไปไกลมาก ใช้แรงเป่าน้อยแต่เสียงดัง
ดีกว่าตะโกน นกหวีดที่ดีจะเป่าให้มีเสียงได้แม้มันเปียกน้ำ
22
1.9 กระจกเงา สะท้อนแสงเพื่อส่งสัญญาณความช่วยเหลือ สะท้อนแสงให้
เห็นแต่ไกลแม้คนบนเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยกู้ภัย ใช้กระจก
เงาธรรมดาหรือจะซื้อกระจกที่ทำไว้โดยเฉพาะก็ได้ อาจประยุกต์ใช้สิ่งของ
ที่เงาวาวเพื่อสะท้อนแสง เช่น มีด แผ่นซีดี เงาสะท้อนบนบัตร ATM
1.10 ชุดชูชีพ เพื่อการลอยตัวในน้ำแม้ว่าจะว่ายน้ำคล่องก็ต้องมีไว้ เพราะ
อาจต้องลอยคอและรอคอยความช่วยเหลือเป็นเวลานาน ในช่วงวิกฤติอาจ
ต้องใส่นอนเพราะน้ำท่วมฉับพลันอาจเกิดขึ้นในขณะกำลังนอนหลับ ราคา
ประมาณ 400 - 500 บาท ถ้ามีเรือเตรียมไว้ด้วยยิ่งดี ราคาประมาณ 3,000
บาทขึ้นไป ปัญหาเมื่อมีภัยน้ำท่วมคือออกไปขอความช่วยเหลือไม่ได้
1.11 มีดใหญ่ (มีดเดินป่า) และอาวุธป้องกันตัว เช่น หอก ปืน ธนูหน้าไม้
แต่ไม่แนะนำเครื่องช๊อตไฟฟ้า เพราะต้องรู้วิธีช๊อตให้ถูกจุดในร่างกายจึง
ได้ผลและต้องใช้ระยะประชิดตัว ใช้สเปรย์พริกไทยจะดีกว่า อาวุธมีไว้
เพื่อป้องกันไม่ใช่เพื่อขู่ ถ้าใช้ขู่ระวังจะโดนแย่ง ป้องกันตัวแล้วหนีไม่ใช่มี
ไว้ลุยสู้เพื่อฆ่าชีวิตเป็นการเบียดเบียนกัน หากโดนสเปรย์พริกไทยให้ใช้
ของเหลวที่มีไขมัน เช่น นมชนิดไม่พร่องมันเนยล้างหน้า มีดใหญ่มีไว้
ป้องกันภัยและใช้ผ่าฟืน ถ้ามีปืนและลูกกระสุนไว้ป้องกันตัวด้วยจะดีมาก
1.12 ไม้ยาวๆสักอันมีประโยชน์มาก เช่น ใช้เอาไว้ไล่งู ขู่หมา ผูกกับมีดก็
จะกลายเป็นหอก ใช้พยุงตัว ทำคานหามสัมภาระ แขวนหม้อสนามเวลาหุง
ข้าว ทำราวตากผ้า ใช้เกาะแทนเชือกได้ในบางกรณี เวลาช่วยคนจมน้ำต้อง
ใช้อุปกรณ์ เช่น โยนเชือกให้หรือยื่นไม้ให้เขาจับ อย่าเอาตัวเราเข้าไปให้จับ
23
เพราะเป็นอันตรายถึงชีวิต ใช้ไม้หยั่งพื้นเวลาลุยน้ำดูว่าน้ำตื้นหรือลึก ใต้น้ำ
อาจมีหลุมหรือท่อ บางครั้งพื้นดินที่อยู่ใต้น้ำอาจทรุดตัวลงเป็นหลุม
1.13 กล้องส่องทางไกล อาจไม่จำเป็นแต่ถ้ามีจะดีมากเพราะช่วยให้เราได้รู้
สถานการณ์รอบๆที่หลบภัยและในพื้นที่ไกลๆว่าทางข้างหน้ามีอันตรายจาก
ภัยธรรมชาติหรือภัยจากคนร้ายที่ดักซุ่มรอปล้นชิงหรือไม่ ราคาประมาณ
2,000 บาทขึ้นไป
1.14 พระเครื่องหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นกำลังใจ พระเครื่องนำมาแช่ในน้ำ
สวดมนต์ขอพึ่งบารมีพระพุทธเจ้าเพื่อทำน้ำมนต์ขับไล่โรคภัยความเจ็บป่วย
และสิ่งชั่วร้าย แนะนำพระที่สร้างโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำหรือตามที่เชื่อถือ
ศรัทธา ในพุทธทำนายให้เขียนอักษรพระคาถาลงบนผ้าขาวว่า " หิตะชิรา
ทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน " ใช้ติด
ไว้ที่หน้าบ้าน หัวนอน พันศีรษะ ในยามคับขันคนที่รอดมักเป็นคนที่มีสติ
และมีกำลังใจดี ในเรื่องพระมหาชนกท่านมีสติ ไม่ร้องไห้ ไม่คร่ำครวญ
ท่านมีความเพียรและทรงสมาทานศีล 8 ในวันพระ แม้ในขณะว่ายน้ำอยู่
ในมหาสมุทร จนกระทั่งเทพธิดาชื่อมณีเมขลามาช่วยไว้ แสดงให้เห็นว่าผู้
มีความเพียร มีศีล มีกำลังใจ มีสติอาจรอดพ้นจากภัยพิบัติ พุทธทำนาย
ยังระบุด้วยว่าคนที่มีศีลครบบริสุทธิ์ จิตใจมีเมตตากรุณาไม่ประทุษร้ายผู้อื่น
จึงจะรอดพ้นภัยพิบัติ จึงให้หมั่นสวดมนต์ อาราธนาศีล 5 หรือศีล 8 มี
ความเคารพในพระรัตนตรัย
1.15 หนังสือสวดมนต์เล่มเล็กๆหรือเป็นแผ่นพับเล็กๆ คาถาพาหุงมหากา
ชินบัญชร อุปปะสันติ หนังสือรวมบทสวดพระสูตรและพระปริตรต่างๆที่มี
24
พุทธคุณต่างกัน เช่น รัตนสูตรใช้ทำน้ำมนต์ ขันธปริตรช่วยป้องกันงูและ
สัตว์มีพิษ เป็นต้น การสวดมนต์ในครอบครัวยามมีภัยพิบัติคืออาจล้อมวง
กันแล้วสวดมนต์ไปพร้อมๆกัน บทอิติปิโสภะคะวา สวดง่ายและศักดิ์สิทธิ์
แต่อย่าคิดว่าสวดมนต์แล้วอยู่เฉยๆจะปลอดภัย ถ้าภัยมาก็ต้องแก้ไขด้วยสติ
และความเพียรเช่นพระมหาชนกเป็นตัวอย่าง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมช่วยผู้ที่คิด
จะช่วยเหลือตัวเองก่อน การสวดมนต์ช่วยให้มีสติป้องกันจิตไม่ให้ฟุ้งซ่าน
หรือเสียสติเวลาที่พบกับสถานการณ์ที่บีบคั้น จิตคนเราที่ฟุ้งซ่านจะเป็นบ้า
ได้ง่ายๆ ดังเช่นเหยื่อที่รอดชีวิตจากภัยสึนามิและคนงานในเหมืองที่ชิลี ยัง
มีพุทธทำนายว่าให้ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมและยึดถือคาถาของอาตมาจะ
พ้นภัยพิบัติให้เจริญภาวนาดังนี้ " หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละ
สา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน "
1.16 อุปกรณ์ของใช้อื่นๆ ที่จำเป็น เช่น หน้ากากปิดจมูกป้องกันเขม่าควัน
แว่นตาว่ายน้ำใช้ป้องกันควันไฟ ลมแรงพัดฝุ่นละอองเข้าตา หรือเวลาต้อง
ลอยคออยู่ในน้ำนานๆ ยาแก้โรคประจำตัว แว่นสายตา นาฬิกากันน้ำแบบ
เข็มไม่ใช่แบบดิจิตอลเพราะอาจเสียได้จากพายุสุริยะ ช้อนกินข้าว พลั่ว
สนามขนาดเล็ก กระดาษทิชชู่ ผ้าอ้อม ของใช้สำหรับเด็ก ผ้าสามเหลี่ยม
แบบที่ลูกเสือใช้ ผ้าสารพัดประโยชน์ที่สุดคือผ้าขาวม้า มีผู้แนะนำให้
เตรียมที่อุดหูกันเสียง เพราะอาจมีเสียงดังมากเกิดขึ้นทำให้เสียขวัญหรือเสีย
สติ อาจเป็นเสียงของระเบิดหรือเสียงธรรมชาติเตือนก่อนเกิดแผ่นดินไหว
ครั้งใหญ่
25
1.17 เงินสดและทองคำ ถอนเงินจากธนาคารแล้วแปลงเป็นเสบียงอาหาร
หรือทองคำ มีแนวโน้มว่าเงินอาจจะมีค่าน้อยลงหรือกลายเป็นเศษกระดาษ
ควรขายหุ้นและแชร์ ควรมีเงินสดไว้บ้างเผื่อจำเป็นต้องใช้ระหว่างเดินทาง
เพื่อซื้อของใช้ เสบียงอาหาร เติมน้ำมัน ส่วนบัตรเครดิตและ ATM อาจ
หมดประโยชน์
อุปกรณ์ที่อาจเสียหายเมื่อโดนน้ำให้เก็บในถุงพลาสติกใสกันน้ำ เช่น
ถุงแบบ Zip Lock หรือใส่ถุงแล้วมัดหนังยางกันน้ำเข้าก่อนใส่ในกระเป๋า
สัมภาระ ควรเก็บของให้เป็นหมวดหมู่และเลือกใช้ถุงพลาสติกใสเก็บของ
เพื่อสะดวกเวลามองหาสิ่งของที่เก็บไว้ได้ง่ายเวลาต้องรีบหยิบใช้ หลีกเลี่ยง
การลุยน้ำและตากฝนเพราะจะมีสารเคมีและเชื้อโรค ถ้าต้องเดินลุยน้ำต้อง
ใช้ถุงพลาสติกใส่เป็นถุงเท้าก่อนจะใส่รองเท้าเพื่อป้องกันโรค เช่น โรคน้ำ
กัดเท้าและโรคร้ายแรงอื่นๆ หลังจากนั้นให้ใช้ด่างทับทิมชำระล้างร่างกาย
ทุกครั้ง ในการเดินให้ใช้ไม้หยั่งดูพื้นใต้น้ำว่าปลอดภัยหรือไม่ พื้นอาจมี
หลุมมีบ่อมีท่อหรือพื้นทรุดตัว ต้องระวังงู ตะขาบ สัตว์มีพิษ รวมถึง
จระเข้ที่อาจหลุดออกมาจากฟาร์มด้วย
หากเป็นไปได้ควรมีอุปกรณ์ที่จำเป็นและมีขนาดเล็ก เช่น มีดพับ
เอนกประสงค์ แท่งหินจุดไฟหรือไฟแช๊ค ไฟฉาย เข็มทิศ แผนที่
นกหวีด กระจก ควรมีไว้ติดตัวเสมอ ส่วนกระติกน้ำ หม้อสนามและ
26
อื่นๆควรใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ติดท้ายรถหรือมีเก็บไว้ในที่ทำงาน เพราะไม่
แน่ว่าเราอาจไม่มีเวลาหรือไม่มีโอกาสกลับไปเอาสัมภาระที่เตรียมไว้ที่บ้าน
ถ้ามีอุปกรณ์แต่ไม่มีความรู้ในการประยุกต์ อุปกรณ์ก็อาจไร้ประโยชน์
แนะนำให้ดูสารคดี Man vs. Wild (มีขายในอินเทอร์เน็ต) จะเห็นว่าสิ่งที่
ผู้เชี่ยวชาญในรายการต้องมีติดตัวเสมอขาดไม่ได้เลยคือ มีดพับ แท่งหินจุด
ไฟ กระติกน้ำและหม้อสนาม (แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเราอาจต้อง
ขอเพิ่มไฟแช๊ค ไฟฉาย เครื่องกรองน้ำ ยาฆ่าเชื้อโรคในน้ำและอื่นๆ)
เทคนิคที่สำคัญคือการขึ้นที่สูงเช่นต้นไม้หรือภูเขาเพื่อสำรวจสภาพโดยรอบ
ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและควรไปทางไหน ควรไปในที่มีแหล่งน้ำ ที่ไหนมีน้ำ
ที่นั่นคือโอกาสรอดเพราะจะมีแหล่งชุมชน ทักษะที่สำคัญคือการจุดไฟ
หาอาหาร หาแหล่งน้ำ อย่าทำอะไรเสี่ยงๆ ให้หลบในที่มั่นคงอบอุ่นและ
ปลอดภัยเพื่อมีชีวิตรอดให้นานที่สุดจนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือ เช่น
ในหนังเรื่อง The Day After Tomorrow อย่าลืมส่งสัญญาณขอความ
ช่วยเหลือด้วย สัญญาณควันไฟ สัญญาณแสง สัญญาณเสียง แต่ใน
ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติมักแสดงให้เห็นว่าการเจอกับคนก็อาจไม่โชคดี
เสมอไป เขาอาจมาช่วยเหลือหรืออาจมาซ้ำเติมก็ได้ ความอดอยากอาจทำ
ให้คนบางคนกลายเป็นโจรปล้นชิงในยามที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวาย
การเลือกอุปกรณ์มีหลักดังนี้คือ เรามีเงินพอที่จะซื้อ (อันนี้สำคัญที่สุด)
อุปกรณ์เล็กเบากะทัดรัดแต่เชื่อถือได้ว่าทนทานพอควร สามารถใช้งานได้
27
จริงควรทดสอบใช้ดูก่อน ไม่ใช่ซื้อมาแล้วไม่เคยทดสอบเลยหรือใช้ไม่เป็น
หลีกเลี่ยงอุปกรณ์ที่เป็นดิจิตอล อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ที่ต้องชาร์จ
ไฟ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ถ่านแบตเตอรี่ อุปกรณ์ดังกล่าวเหล่านี้อาจมีไว้ใช้แต่
ไม่ควรคาดหวังว่าจะมีโอกาสได้ใช้ไปตลอด เพราะเรายังไม่รู้ว่าหนทาง
ข้างหน้าจะมีไฟฟ้าหรือมีถ่านแบตเตอรี่เปลี่ยนหรือเปล่า ระบบไฟฟ้าและ
ระบบการสื่อสารในเขตภัยพิบัติมักใช้การไม่ได้ ไม่ควรหวังว่าจะได้ชาร์จ
ไฟจากรถยนต์เพราะอาจต้องจอดรถทิ้งไว้
รถยนต์ที่มีอาจต้องจอดทิ้งไว้เพราะการจราจรอาจติดขัดมากจนบางคน
จอดรถทิ้งขวางทางไว้ จนในที่สุดทุกคนก็อาจต้องจอดรถทิ้งไว้เหมือนกัน
หมด เสาไฟฟ้าหรือต้นไม้อาจล้มขวางทาง ถนนหนทางก็อาจเสียหายหรือ
น้ำท่วมจนใช้การไม่ได้ สภาพอากาศอาจแย่มากจนมองไม่เห็นหรือถนน
ลื่นจนเกิดอุบัติเหตุกีดขวางถนน รถที่ใช้ได้ดีน่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์แต่ต้อง
เตรียมน้ำมันสำรองและต้องพยายามวิ่งเลี่ยงฝูงชน เพราะอาจโดนทำร้าย
เพื่อชิงรถได้ เห็นได้จากภาพยนตร์เรื่อง War of the World ควรเตรียมสิ่ง
ต่างๆให้พร้อมแต่ไม่ควรทำให้โดดเด่นล่อตาพวกโจร นอกจากนี้ยังอาจ
ต้องเตรียมเรือไว้เป็นยานพาหนะช่วยให้ปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้าที่รั่วจาก
สายไฟที่ขาดตกลงไปในน้ำ
ระวังอุปกรณ์ที่เป็นแบบสารพัดประโยชน์ในเครื่องเดียว ตัวอย่างเช่น
อุปกรณ์ที่เป็นทั้งไฟฉาย ไฟฉุกเฉิน มีด วิทยุ เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ ข้อดี

ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
28
คือเอนกประสงค์แต่ข้อเสียคือ ถ้าหากพังหรือสูญหายก็หมายความว่ามันจะ
เสียหายใช้การไม่ได้เกือบทั้งหมด ดังนั้นอุปกรณ์ใดที่คิดว่ามีความจำเป็น
มากๆ ควรมีชุดสำรองแยกเก็บไว้ในที่ปลอดภัยใส่ในถุงพลาสติกใสกันน้ำ
2. กระเป๋าใบที่สอง เป้แบบสะพายหลัง เป็นเป้สัมภาระที่ใช้สะพายหลัง
เพื่อที่มือทั้งสองข้างจะได้ว่างเอาไว้ปีนป่ายหรือยึดเกาะสิ่งต่างๆ เป้ใบนี้ใช้
เพื่อบรรทุกอุปกรณ์ที่มีความสำคัญรองลงมา หรือของสำคัญที่ใหญ่เกินกว่า
จะใส่กระเป๋าคาดเอวใบแรกได้ กระเป๋าใบนี้อาจมีความจำเป็นต้องสละทิ้ง
หรือเอาของบางอย่างทิ้งในยามคับขันเพื่อให้คล่องตัว ของทุกอย่างควร
แยกใส่ถุงพลาสติกใสกันน้ำ แบ่งเป็นหมวดหมู่เพื่อความรวดเร็วในการ
หยิบมาใช้ หรือเพื่อสะดวกในการหยิบทิ้งเมื่อต้องการความคล่องตัว ต้อง
แน่ใจว่ากระเป๋าเป้รับน้ำหนักสัมภาระไหว กระเป๋าเป้ขาดเป็นเรื่องยุ่งยาก
ในการเดินทาง
2.1 เครื่องกรองน้ำแบบพกพา ถ้าเอามาใส่ในเป้สะพายหลัง ควรมีกล่อง
เหล็กหรือกล่องพลาสติกกันแตกหักจากการถูกกระแทกในระหว่างหลบภัย
2.2 ชุดอุปกรณ์สำรองเผื่อชำรุดสูญหาย ได้แก่อุปกรณ์สำคัญคือ มีดพับ
แท่งหินจุดไฟหรือไฟแช๊ค ไฟฉาย นกหวีด กระจก เข็มทิศและอื่นๆของ
พวกนี้เล็กจึงอาจโดนยืมหรือหล่นหายง่ายๆ แต่เนื่องจากมันเล็กและเบา
ดังนั้นถ้าจะมีชุดสำรองอีกสักหนึ่งชุดก็คงไม่เป็นภาระและให้ความอุ่นใจ
2.3 กระเป๋ายา กระเป๋าเล็กที่บรรจุสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภาพและการปฐมพยาบาล
เบื้องต้น เช่น ยาแก้ท้องร่วง เกลือแร่ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาใส่แผลสด
ผ้าพันแผล สำลี พลาสเตอร์ปิดแผล กรรไกร ถุงมือยางกันติดเชื้อ ยาฆ่า
29
เชื้อโรคในน้ำสำหรับดื่ม ยาหยอดตาแก้โรคตาแดง ยาแก้เท้าเปื่อยน้ำกัดเท้า
ยาแก้แมลงสัตว์กัดต่อย ยาทากันยุง ยาเส้นหรือยาฉุนช่วยห้ามเลือดได้ ถ้า
ใช้ผสมน้ำทาตัวช่วยไล่ยุง แมลงและทาก เมื่อน้ำท่วมยุงจะชุมและดุ งูและ
สัตว์มีพิษจะหนีน้ำออกมา ควรมี[^_^]ประเภทวิตามินรวม สาหร่าย
น้ำมันรำข้าว ของทั้งหมดอย่าลืมใส่ในถุงพลาสติกใสกันน้ำ ครีมทาผิว
ป้องกันผิวแห้งแตกจากอากาศหนาว (ผิวแตกแล้วมีอาการคันและเจ็บตาม
ผิวหนัง) ด่างทับทิมและคาราไมล์ควรมีไว้เป็นจำนวนมาก มีคำแนะนำว่า
ในช่วงที่มีภัยพิบัติให้ใช้ด่างทับทิมล้างผักผลไม้ก่อนทานทุกครั้ง ส่วนคา
ราไมล์จะช่วยรักษาโรคทางผิวหนังที่เกิดในช่วงภัยพิบัติได้อย่างมหัศจรรย์
2.4 เสื้อกันฝนและเสื้อกันหนาวแบบหนาที่สุด แบบที่นักปีนภูเขาหิมะหรือ
นักเล่นสกีหิมะใช้ หรืออาจเตรียมเสื้อผ้าเนื้อหนาหลายตัว อากาศตอนนั้น
อาจจะหนาวจนใกล้ติดลบ เริ่มหนาวมากเมื่อไหร่ก็เอาออกมาใส่ ช่วงนั้น
ต้องระวังโดนปล้นชิงเสื้อกันหนาวด้วย เคยดูในภาพยนตร์เรื่อง The Road
อย่าทอดทิ้งวางไว้ เก็บซ่อนให้ดีเมื่อจำเป็นจึงนำมาใช้ ควรใส่ถุงพลาสติก
ใสกันเปียกน้ำไว้ เพราะถ้าทำเป้ตกน้ำหรือทั้งคนทั้งเป้ตกน้ำล่ะเรื่องใหญ่
แน่เพราะมันจะอุ้มน้ำและหนักสุดๆ
2.5 ผ้าห่มอวกาศหรือ Space Blanket ราคาไม่กี่ร้อยบาทแต่อาจหาซื้อยาก
ต้องสั่งซื้อจากทางอินเทอร์เน็ตเพราะในเมืองไทยไม่ค่อยนิยม ข้อดีคือมี
น้ำหนักเบาและเก็บความร้อนของร่างกายดีมากๆ สะดวกดีที่น้ำหนักเบา
เพราะเสื้อกันหนาวที่หนาจะมีน้ำหนักมาก ถ้าเปียกน้ำจะต้องตากหลายวัน
กว่าจะแห้งจึงควรมีผ้าห่มอวกาศติดไว้ด้วย ตามร้านประเภทที่ขายของทุก
30
ชิ้นในร้าน 60 บาทก็มีขายแต่อาจใช้ไม่ค่อยทน ถ้าหาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
ให้ใช้เทคนิคจากในภาพยนตร์เรื่อง The Day After Tomorrow เอาถุงขนม
ประเภทมันฝรั่ง ถุงดำใส่ขยะหรือกระดาษมายัดไว้ในเสื้อเป็นชนวนรักษา
ความร้อนของร่างกายได้เช่นกัน
2.6 ถุงนอนหรือเต๊นท์ ดีกันไปคนละแบบ ลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต
มีเอาไว้ในกรณีต้องย้ายออกจากที่หลบภัย เมื่อพบว่ามันอาจไม่ปลอดภัยอีก
ต่อไป ที่สำคัญคือพยายามเลือกแบบที่อบอุ่นและเล็กมีน้ำหนักเบา จำไว้
เสมอว่าอุปกรณ์ทุกชนิดต่อให้ดีเลิศขนาดไหน แต่ถ้ามันหนักหรือเกะกะ
เกินไปก็อาจทำให้เราต้องจำใจทิ้งไป เพราะมันจะเป็นตัวถ่วงในการเอาชีวิต
รอด ของที่ดีคือของที่เรามีโอกาสได้ใช้ ไม่ใช่ของที่เราต้องกองทิ้งไว้
2.7 ผ้าใบหรือฟลายชีต ใช้ทำที่พักชั่วคราว ทำหลังคาบังลมกันฝนกันแดด
เผื่อแผ่คนอื่นได้ดีกว่าถุงนอนและเต๊นท์ ใช้ปูพื้นรองนอนได้ด้วย การปูพื้น
ก่อนนอนนั้นมีความจำเป็น เนื่องจากร่างกายจะสูญเสียความร้อนออกไป
มากถ้าเรานอนบนพื้นเย็นๆที่ไม่ได้ปูผ้ารอง ถ้าไม่มีอย่างน้อยก็ต้องหาเศษ
หญ้าหรือใบไม้แห้งมาปูทำเป็นชนวนรักษาความร้อนในร่างกาย
2.8 แพยาง ห่วงยางเป่าลม มีไว้สำรองแทนชุดชูชีพ มีไว้ไม่หนักกระเป๋า
เวลาจะใช้ก็ค่อยเป่าลมเข้าไป เผื่อได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วย อันนี้ใช้ในกรณี
ไม่ฉุกเฉิน เรายังคงต้องมีชุดชูชีพติดตัวไว้ด้วย
2.9 พลุสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่เวลาจุดแล้วไม่ควรถือไว้เพราะอาจมี
อันตราย ของจีนแดงมีประกายไฟหรืออาจระเบิดได้ ให้ปักไว้ที่พื้น
31
2.10 อาหารและน้ำดื่ม กะปริมาณเท่าที่พอจะแบกได้ อาจจะเตรียมสำหรับ
7 วันหรืออย่างน้อยคือเพียงพอสำหรับ 3 วัน เพื่อรอความช่วยเหลือ แบก
หนักมากไปก็ไม่ดีมันจะถ่วงเดินลำบาก เดินไม่ไกล วิ่งไม่ไหว และปวด
เมื่อยตัว อาหารที่เราเก็บตุนไว้แต่แบกไม่ไหวนั้นเราจะแบ่งเอาไปใส่ใน
กระเป๋าใบที่ 3 ซึ่งมีล้อเลื่อน ถ้าน้ำท่วมก็ยกเอากระเป๋าวางบนสิ่งของที่
ลอยน้ำได้ หรือใช้แพยาง ห่วงยางเป่าลมที่เราเตรียมไว้
2.11 รองเท้าแตะ น้ำหนักเบาแบบใส่สบาย เผื่อกรณีรองเท้าหลักที่เราใช้
เดินทางเกิดขาดหรือทรยศกัดเท้าเราขึ้นมา สุขภาพเท้าเป็นสิ่งสำคัญมากใน
การเดินทางไกล เลือกรองเท้าชนิดที่ทนทานจริงๆ ควรเลือกแบบสวม
มากกว่าแบบหนีบ เพราะแบบหนีบนั้นถ้าเดินนานๆอาจเจ็บง่ามนิ้ว แบบที่
สวมแล้วมีที่ล๊อคส้นช่วยให้ไม่หลุดลอยไปกับน้ำ รองเท้าหลักที่ใช้ควรเป็น
รองเท้าเดินป่าหรือรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ เพื่อป้องกันอันตรายและสัตว์มีพิษ
รองเท้าดอกยางเล็กเหมาะกับในเมืองแต่จะลื่นง่าย เวลาเดินป่าหรือขึ้นเขา
ควรเลือกดอกยางใหญ่หน่อย และควรเอาออกมาใช้บ่อยๆจนเชื่อมั่นว่าจะ
สามารถใช้เดินทางได้จริงโดยไม่ทรยศมากัดเท้าเราจนเป็นอุปสรรค สิ่งของ
ที่ลอยมากับน้ำท่วม เช่น รองเท้า อาจนำมาใช้ได้แต่ต้องฆ่าเชื้อเสียก่อน
2.12 ของใช้ส่วนตัว เช่น แปรงสีฟัน แชมพู สบู่ ที่โกนหนวด กรรไกรตัด
ผม ชุดชั้นใน ถ้าเตรียมไว้มากเกินไปก็หนัก แต่ถ้าไม่มีเลยก็ลำบาก ของ
จำเป็นสำหรับผู้หญิงคือผ้าอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอดจะสะดวกคล่องตัว
ผ้าอนามัยแบบปกติใช้ซับห้ามเลือดได้ ถุงยางอนามัยก็อาจจะดัดแปลงใช้
ประโยชน์ได้ เช่น ใส่น้ำ ผูกมัดสิ่งของ ทำแพ
32
2.13 เชือกเส้นใหญ่ ความยาวประมาณ 10 - 20 เมตร ต่อคน สามารถใช้
ช่วยคนตกน้ำหรือผูกสิ่งของไม่ให้ลอยไปกับน้ำ มัดของที่ลอยน้ำเพื่อทำแพ
ชั่วคราว ลองทบทวนวิธีการผูกเงื่อนต่างๆไว้บ้างก็ดี
2.14 เชือกเส้นเล็ก ใช้มัดมีดติดกับไม้ยาวๆทำเป็นหอกป้องกันตัวหรือสอย
เก็บผลไม้ อาจใช้ขึงผ้าใบทำเต๊นท์ชั่วคราว ใช้ทำห่วงจับงู มัดเหนือแผลที่
โดนงูกัด ต้องระวังงูและสัตว์มีพิษที่หนีน้ำท่วม ไหมขัดฟันนอกจากใช้ขัด
ฟันแล้วยังเป็นเชือกที่เหนียวดีทีเดียว
2.15 วิทยุสื่อสาร (ว. แบบที่ใช้ในหน่วยกู้ภัยหรือ รปภ.) มีไว้ติดตามข่าว
ก่อนเกิดเหตุและขอความช่วยเหลือ จะใช้ได้ในช่วงที่ภัยพิบัติยังไม่รุนแรง
แต่ปัญหาคือเมื่อไฟดับก็จะไม่มีที่ชาร์จแบต ราคาประมาณ 3,000 บาทขึ้น
ไป ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยต้องมีวิทยุ AM/FM แบบที่ใช้ถ่านหรือ
แบตเตอรี่เพื่อฟังข่าวการเตือนภัยและข่าวการให้ความช่วยเหลือ
2.16 เครื่องเล่น MP3 และวิทยุ AM/FM เอาไว้ฟังธรรมะและข่าวสารจาก
ทางราชการหรือจากวิทยุท้องถิ่น อย่างในภาพยนตร์เรื่อง I Am Legend ที่
ประกาศตามหาผู้รอดชีวิตผ่านทางคลื่นวิทยุ
2.17 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือแบบใช้มือหมุนเป็นแบบไดนาโม
ราคาประมาณ 200 บาทขึ้นไป เอาไว้ชาร์จไฟอุปกรณ์ เช่น วิทยุและเครื่อง
เล่น MP3 ที่เราบันทึกเสียงธรรมะเสียงสวดมนต์ไว้ฟัง ถึงแม้ระบบสื่อสาร
โทรศัพท์มือถืออาจจะล่มใช้การไม่ได้ แต่ก็อาจชาร์จไฟไว้เพื่อเล่นเกมส์แก้
เซ็ง แต่อันที่จริงไม่แนะนำให้เล่นเกมส์เพราะช่วงนั้นเราควรตื่นตัวระวังภัย
ตลอดเวลา ถ้าฟุ้งซ่านควรสวดมนต์ ทำจิตใจให้เป็นกุศล
33
2.18 อุปกรณ์และหนังสือการปฐมพยาบาล คู่มือการกดจุดที่เท้าและร่างกาย
การบำบัดด้วยกัวซา คู่มือการใช้สมุนไพร คู่มือการเอาชีวิตรอดในภัยพิบัติ
คู่มือเหล่านี้อาจใช้บำบัดอาการเจ็บป่วยบางอย่างได้ในยามไกลหมอ ความรู้
ด้านการแพทย์ทางเลือกระบุว่า การดื่มน้ำปัสสาวะช่วยแก้ไขอาการเจ็บป่วย
ได้มากมาย เช่น ไข้มาลาเรีย เจือจางกับน้ำใช้ทำเป็นยาหยอดตา เรียกว่า
น้ำมูตรเน่าเป็นยารักษาโรคที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสบอกไว้แก่พระสงฆ์
2.19 เสื้อผ้าชุดหลัก คือชุดที่เราใช้เดินทางไกล เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว
เพื่อป้องกันร่างกายจากการถูกขีดข่วน ป้องกันเวลาล้มตัวลงหมอบคลาน
แนะนำเนื้อผ้าแบบที่ทหารใช้ ไม่แนะนำกางเกงยีนส์เพราะอุ้มน้ำและไม่
คล่องตัวเวลาปีนป่าย รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่เหมาะกับการเดินป่า ควร
เป็นแบบที่หุ้มข้อ ควรเตรียมเสื้อผ้าไว้ในเป้เพราะไม่แน่ว่าในวันที่มีเหตุ
ฉุกเฉินนั้นเราอาจกำลังนอนหลับหรือทำงาน เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนั้นอาจ
เป็นชุดนอนหรือชุดอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกล ถ้ามีเหตุ
ฉุกเฉินเราก็เพียงคว้ากระเป๋าที่เราเตรียมไว้ ในระหว่างทางพอมีโอกาสแล้ว
เราค่อยเปลี่ยนเป็นชุดที่เราเตรียมไว้แล้วค่อยเดินทางต่อไป
2.20 เสื้อผ้าลำลอง 1 - 2 ชุด เผื่อว่าเสื้อผ้าชุดหลักเราเปียกน้ำ จะได้ไม่ต้อง
เปลือยขณะที่เรารอให้เสื้อผ้าแห้ง ไม่ควรใช้เสื้อผ้าสีดำเพราะยุงชอบ
2.21 ถุงเท้า ถุงมือ หมวกไหมพรม ส่วนปลายของร่างกายเป็นจุดที่ร่างกาย
สูญเสียความร้อนได้ง่าย ถุงมือยังช่วยในการปีนป่าย การจับไต่เชือก
2.22 หมวกนิรภัยแบบวิศวะกรหรือหมวกกันน๊อค ป้องกันลูกเห็บ ของแข็ง
ตกใส่ คนปาหินทำร้าย
34
2.23 บุหรี่ ใช้ผูกมิตรกับใครบางคน เอาไปแลกกับอะไรบางอย่าง อาจแกะ
มวนบุหรี่เพื่อเอาเส้นยาสูบออกมามาผสมน้ำทาตัวช่วยไล่ยุง แมลงและทาก
3. กระเป๋าใบที่สาม กระเป๋าเสบียงอาหาร กระเป๋าใบนี้ควรเป็นกระเป๋าที่มี
ล้อเลื่อนเพื่อให้เราเข็นหรือลากได้ หรืออาจใช้รถเข็นแบบที่ใช้ในซุปเปอร์
มาร์เก็ต หรือรถเข็นแบบพับได้ที่แม่ค้าขายเสื้อผ้าแถวประตูน้ำใช้ กระเป๋า
นี้เราจะบรรทุกเสบียงอาหารและน้ำที่เรามีทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆที่
เราแบกไม่ไหว กระเป๋านี้ควรมีกันทุกคนเผื่อว่าต้องอพยพออกจากบ้านหรือ
ที่หลบภัยแล้วหากเกิดพลัดหลงกันหรือกระเป๋าบางส่วนเกิดสูญหาย
3.1 อาหารแห้งหรืออาหารกระป๋องที่กินได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องปรุงหรือ
ก่อไฟ เก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น อย่าลืมดูวันหมดอายุ เลือกอาหาร
ที่เบาหรือชิ้นไม่ใหญ่แต่ให้พลังงานสูง เช่น พวก Energy Bar และ
พวกช็อคโกแลต ส่วนผลไม้อบแห้งบางอย่างเช่น ลูกเกด ก็ให้พลังงานสูง
อาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบรไฮเดรตให้พลังงานไม่นานเท่าโปรตีนและ
ไขมัน เนยถั่วแบบที่ใช้ทาขนมปังจึงเป็นตัวเลือกที่ดี มีทั้งน้ำตาล โปรตีน
และไขมัน พระมหาชนกเมื่อท่านทรงทราบว่าเรือจะจม ท่านก็เตรียมคลุก
น้ำตาลกรวดกับเนยเป็นเสบียงเสวยจนเต็มท้อง มีผู้แนะนำว่าในช่วงวิกฤติ
ของภัยพิบัตินั้นห้ามกินเนื้อสัตว์ กินได้แต่ผักผลไม้แต่ต้องใช้ด่างทับทิม
ล้างก่อนทุกครั้ง โปรตีนจากถั่วช่วยทดแทนโปรตีนจากสัตว์ได้
3.2 น้ำดื่ม น้ำเปล่าดีที่สุด อย่างน้อย 1 – 2 ลิตร / ต่อคน / ต่อวัน น้ำมีไว้
สำหรับดื่มเท่านั้น อาจไม่มีการอาบน้ำ ล้างจาน ราดส้วมหรือใช้ฟุ่มเฟือย
35
คนเราอดอาหารได้เป็นเดือนแต่ถ้าขาดน้ำ 7 วันเราก็ตายได้ อาจต้องมีการ
นำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ นั่นคือการเก็บน้ำปัสสาวะของตัวเองไว้
3.3 สัมภาระอื่นๆ เช่น เครื่องปั่นไฟ เชื้อเพลิงจุดไฟ น้ำมัน แบตเตอรี่
เอกสารความรู้ต่างๆที่มีประโยชน์ ถุงขยะสำหรับขับถ่ายและใส่ขยะ ใน
ยามที่น้ำท่วมอาจไม่มีที่ให้ทิ้งขยะและไม่มีห้องน้ำให้ใช้ขับถ่าย เมล็ดพันธุ์
พืช เครื่องมือซ่อมแซมที่หลบภัย เช่น ค้อน ตะปู ลวด เทปกันน้ำ
4. ยานพาหนะ มอเตอร์ไซค์อาจคล่องตัวกว่ารถยนต์ อย่าลืมน้ำมันสำรอง
ถ้าใช้จักรยานอย่าลืมที่สูบลมและยางในล้อจักรยานไว้เปลี่ยน เรือก็มีความ
จำเป็นเพราะถนนหนทางโดนน้ำท่วมพังพินาศ เรือช่วยไม่ให้ถูกตัดขาด
จากโลกภายนอกและปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้าในน้ำ ในช่วงแรกที่เกิดน้ำ
ท่วมฉับพลันรุนแรง เจ้าหน้าที่อาจยังไม่ได้ตัดกระแสไฟ ต้องระวังว่าเสาไฟ
ที่ล้มหรือสายไฟที่ขาดปล่อยกระแสไฟลงสู่น้ำ
5. ที่หลบภัย นำมากล่าวไว้สุดท้ายแต่มีความสำคัญที่สุดเพราะต่อให้มีการ
เตรียมตัวดีอย่างไร แต่ไม่มีการเตรียมสถานที่หรือไม่อพยพไปสู่สถานที่ซึ่ง
ปลอดภัยก็ย่อมมีอันตรายอย่างแน่นอน ทุกพื้นที่อาจได้รับภัยพิบัติทั้งหมด
แต่ความรุนแรงจะแตกต่างกันไป ในยามมีภัยพิบัติอาจมีทั้งหน่วยราชการ
โรงเรียนและวัดที่เปิดรับเป็นที่ให้พักพิงหลบภัย แต่แนะนำให้อยู่ในเขตวัด
ที่อยู่บนภูเขาสูงและมีพระอริยะเจ้าซึ่งปฏิบัติเคร่งครัด แผนการรับภัยพิบัติ
ที่ดีที่สุดคือการหลบภัยพิบัติ อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงก่อนจะเกิดภัยพิบัติ
36
พระพุทธพจน์ทำนาย
คณะธรรมทูตผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระศรีมหาโพธิ์ที่
ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้คัดลอกพระพุทธพจน์ทำนายจากศิลา
จารึก เขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน แปลได้ดังนี้
(หมายเหตุจากผู้เรียบเรียง : ปีพ.ศ.ในพุทธทำนายต่อไปนี้จะต้องบวกด้วย
48 เสียก่อนจึงจะเท่ากับปีพ.ศ.ตามแบบที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ปีพ.ศ.แบบ
ของไทยที่ใช้อยู่นี้เร็วเกินจริง อ่านรายละเอียดเรื่องนี้ที่ส่วนท้ายของเอกสาร
นี้)
สาธุ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกซึ่งเกิด
มาล้วนแต่ลำบากยิ่งนัก ในคราวที่พระองค์ใกล้ถึงพระชนมายุย่างเข้าพระปริ
นิพานตามกาลเวลา จึงตรัสแก่พระอานนท์ผู้ศิษย์อันสนิทพากเพียรพยาบาล
ว่า
ดูกรอานนท์ สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดมาล้วนแต่ลำบาก ทุกชาติ ทุก
ศาสนา ตามธรรมชาติที่หมุนเวียนของโลก โลกหมุนไปใกล้ความแตก
ทำลายจนถึงสมัยที่อาตมานิพพานไปแล้วได้ ๕,๐๐๐ ปี
37
เมื่อโลกไปใกล้กึ่งจำนวนที่อาตมาทำนายไว้ (๒,๕๐๐ ปี) มนุษย์และ
สัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่งในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิก
ชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หินถูกสาปให้หลับก็กลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก
เมื่อใกล้กึ่งศาสนาของอาตมาก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอก
ศาสนาก็จะมารบราฆ่าฟัน กันถึงเลือดนองแผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศ
ก็มีอำนาจภัยจากฟ้าทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะ
ต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะ
เดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลัง
ด้วยกันตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึ่งกำเนิดมาจากสัตว์ป่าอำมหิต
ส่วนศาสนิกชนผู้ขวนขวายในทางบุญตามเดิมวัจนะของอาตมาก็จะ
สามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดที่เคารพสักการะพระศรีมหาโพธิ์และ
กาสาวพัสตร์ จะได้รับวิบัติเบาบางลงแต่จะหนีธรรมชาติไม่พ้น
เริ่มแต่ศาสนาอาตมาล่วงมาได้ ๒,๔๘๕ ปีเป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทาง
ทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้าน
จะเข้าป่า สัตว์ป่าจะเข้ากรุง เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้า
เป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำสงครามจะ
ทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอด
อยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ

ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
38
ราชตระกูลอำมาตย์ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรมไม่
เคารพหลักธรรมโดยปรวนแปรนิยมเชื่อถือถ้วยคำของคนโกง คนกล่าวคำ
เท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต
ผู้ดีมีศีลธรรมประพฤติชอบไม่มีเสียง (อธรรมพูดจ้อ แต่ธรรมเป็นใบ้) จะ
เกิดการจลาจลวุ่นวาย ลูกจะพลัดแม่ แม่จะพลัดจากลูก โคกจะเป็นน้ำ ผี
โขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะเข้าไพร เทวดาจะเรียกแมลงบี้
เหล็กโกฏิหนึ่ง ผีเสื้อเหล็กแสนหนึ่ง มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ
เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพ
เดินเป็นคลาน ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะ
ถล่มเป็นทะเล ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลก
ดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉา
พยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และ
ยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติให้เจริญภาวนาดังนี้
หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน
ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้
หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศีรษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์ ดูกร
อานนท์ อาตมาสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้นที่มีอายุขัยอยู่ได้ใกล้ยุคกึ่งยุค
39
เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๑๒ (ปีจอ) พระจันทร์จะเริ่ม
เปล่งแสงฉายโลก ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี พวก
อธรรมคือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไป
เพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ครุฑจะบิน
กลับถิ่นสถาพร คนที่จรจะกลับเข้ากรุงบำรุงธรรม ธรรมจะชนะ พระจะ
อยู่บ้านเมืองต่อไป การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ซึ่งไม่ต้อง
เบียดเบียนแรงผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรมและชีวิตผาสุก มหา
กษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง จะเกิดภายในความอุปภัมถ์
ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ ทั้งสององค์นั้นจะจัดการบำรุงศาสนาของ
อาตมาในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" พระมหาเถระโพธิสัตว์จะเกิดในสมัยของ
อาตมาล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี
เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ พระมหากษัตริย์ธรรมิกราชจะมาเกิด
ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ
ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์
นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้ สมณชีพราหมณ์จะเสด็จมา
๘๔,๐๐๐ รูป
ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำ
ทำนายของอาตมานี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ
40
หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไปนับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่าง
สิ้นสุดกันตามกาลเวลา ผู้ใดปรารถนาจะได้เห็นหรือทันมีบุญ ให้รักษาศีลห้า
ประการหนึ่งยำเกรงบิดา มารดา รู้จักบุญคุณท่านผู้มีคุณ หนึ่งให้เจริญ
ภาวนาในพรหมไตรสภาพหนึ่ง คาถาว่าดังนี้
" พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติปารมิตา ติสา อิติ
สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม "
----------------------------------------------------------------
หมายเหตุ : ปี พ.ศ. ที่ระบุตามพุทธทำนายข้างต้นนี้ต้องเอาไปบวกเพิ่มด้วย
48 จึงจะตรงกับปี พ.ศ.ที่เรากำลังใช้อยู่ตอนนี้ หมายความว่าปี พ.ศ. ที่เรา
ใช้ปัจจุบันนี้เร็วเกินกว่าในคำทำนายไป 48 ปี เช่น ถ้าปีในคำทำนายคือ ปี
มะโรง พ.ศ. 2507 จะตรงกับปีในแบบปัจจุบันคือ ปีมะโรง พ.ศ. 2555
(2507 + 48 = 2555)
ปี พ.ศ. ที่ไทยเราใช้อยู่นั้นกับปี พ.ศ. ของบางประเทศนั้นไม่ตรงกัน
ทั้งที่ต่างก็นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน มีผู้รู้กล่าวว่า พ.ศ. แบบที่เรา
ใช้อยู่ปัจจุบันนี้มีความคลาดเคลื่อนเร็วเกินกว่าความเป็นจริง
41
มีข้อมูลที่สนับสนุนว่าอาจมีความคลาดเคลื่อนในการนับปีพุทธศักราช
เชิญผู้ที่สนใจลองค้นหาดูจากอินเทอร์เน็ต
ความคลาดเคลื่อนนี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการนับพุทธศักราชที่ใช้กันใน
ปัจจุบันนั้น ประเทศศรีลังกาเป็นผู้จัดทำขึ้นในช่วงประมาณ 1,000 ปีหลัง
พุทธกาล โดยนำข้อมูลเทียบกับระยะเวลาการครองราชย์ของกษัตริย์ลังกา
แต่ละพระองค์ แต่ช่วงหนึ่งลังกาถูกพวกทมิฬจากอินเดียยกทัพบุกยึดเป็น
เมืองขึ้น และเกิดสงครามกลางเมือง ผลของสงครามอาจทำให้การบนั ทึก
ข้อมูลการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ลังกาในช่วงนั้นคลาดเคลื่อนไป
บางความเห็นก็ว่าความคลาดเคลื่อนนี้อาจเกิดจากวิธีนับรอบปีใหญ่ซึ่ง
เรียกว่า “การนับพฤหัสบดีจักร” ที่นับแตกต่างกันหนึ่งรอบ
เนื่องจากโลกตะวันตกมีการจดบันทึกปีคริสต์ศักราชที่แน่นอน เราจึง
ตรวจสอบเวลาที่คลาดเคลื่อนนี้โดยยึดตามเหตุการณ์สำคัญคือพระเจ้าอโศก
มหาราชทรงขึ้นครองราชย์เมื่อ 267 ปีก่อนคริสตกาล และระยะเวลาในยุค
พระเจ้าอโศกมหาราชห่างจากช่วงที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน 218 ปี
ดังนั้นถ้า ค.ศ. ปัจจุบันคือ ค.ศ. 2010 นำมาบวกด้วย 485 (267 + 218
= 485) จะได้ปี พ.ศ. ที่แท้จริงคือ พ.ศ. 2495 ไม่ใช่ พ.ศ. 2553 ซึ่งมีความ
คลาดเคลื่อนไปถึง 58 ปี
42
มีความเป็นไปได้ที่มีความคลาดเคลื่อนในการนับปีพุทธศักราช แต่ใน
ไม่แน่ว่าจะคลาดเคลื่อนไป 58 ปี เพราะได้พบหลักฐานสำคัญคือพุทธ
ทำนายจากศิลาจารึกที่ทำให้อาจเชื่อได้ว่า พ.ศ. ตามแบบที่เราใช้ในปัจจุบัน
นั้นคลาดเคลื่อนเร็วเกินจริงไป 48 ปี
ถ้าเรานับตามความเป็นจริงคือเอาปี พ.ศ. แบบที่เราใช้อยู่มาลดจำนวน
ปีลง 48 ปีแล้วนำมาเทียบกับปี พ.ศ. ตามในพุทธทำนายก็จะได้ปีนักษัตรที่
ตรงกับในพุทธทำนายพอดี หรือในทางกลับกันถ้าเรานำปี พ.ศ.ตามพุทธ
ทำนายมาบวกเพิ่มด้วย 48 ก็จะได้ปี พ.ศ. ตามแบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น
ในพุทธทำนายได้กล่าวเอาไว้ว่าปี พ.ศ. 2512 (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด 7
วัน 7 คืน เมื่อเราเอาปี พ.ศ.2512 มาบวกเพิ่ม 48 ปี ก็จะได้เป็นปี พ.ศ.
2560 ซึ่งตรงกับปีระกาตามในพุทธทำนาย
43
หากเราเอาจำนวนปี พ.ศ. ในคำทำนายมาแปลงเป็นปี พ.ศ.แบบที่เราใช้
ในปัจจุบันจะได้ดังนี้
๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คือประมาณปี พ.ศ. 2555
คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน
๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) คือประมาณปี พ.ศ. 2556
ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล
๒๕๑๒ (ปีระกา) คือประมาณปี พ.ศ. 2560
เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ
๒๕๑๒ (ปีจอ) คือประมาณปี พ.ศ. 2560 (ช่วงต่อปีระกา - ปีจอ)
พระจันทร์เริ่มเปล่งแสงฉายโลก
๒๕๑๓ - ๒๕๑๔ (ช่วงต่อปีจอ - ปีกุน) คือประมาณปี พ.ศ. 2561
พระธรรมมิกราชจะเสด็จมา
๒๕๑๕ (ปีชวด) คือประมาณปี พ.ศ. 2563
พวกอธรรมจะหมดไป (กลับเป็นปกติสุข "ยุคชาววิไล")
44
เทียบปีนักษัตรสำหรับปี พ.ศ. ในแบบปัจจุบัน
(เพื่อใช้ประกอบการอ่านคำทำนาย)
13 เม.ย. 2555 – 12 เม.ย. 2556 ตรงกับปีมะโรง
13 เม.ย. 2556 – 12 เม.ย. 2557 ตรงกับปีมะเส็ง
13 เม.ย. 2557 – 12 เม.ย. 2558 ตรงกับปีมะเมีย
13 เม.ย. 2558 – 12 เม.ย. 2559 ตรงกับปีมะแม
13 เม.ย. 2559 – 12 เม.ย. 2560 ตรงกับปีวอก
13 เม.ย. 2560 – 12 เม.ย. 2561 ตรงกับปีระกา
13 เม.ย. 2561 – 12 เม.ย. 2562 ตรงกับปีจอ
13 เม.ย. 2562 – 12 เม.ย. 2563 ตรงกับปีกุน
13 เม.ย. 2563 – 12 เม.ย. 2564 ตรงกับปีชวด
- จบ -
45
ส.ค.ส พระราชทาน
46
(ภาคผนวก)
ปู่ฤษีมณีรัตน์ (สมเด็จรุ่ง) ค้นพบ
“หนังสืออินทร์ตก-เทพทำนาย” (โดยย่อ)
หนังสือใบลานสี ได้ถูกตกมาในวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอัตตะบือ (ประเทศลาว)
ข้าพเจ้าได้รับรู้จากพระอาจารย์ผู้ทรงศีลองค์หนึ่งเผยแพร่ให้ เลยเกิดความศรัทธาเสียสละ
ทรัพย์พิมพ์แจกจ่ายมายังพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นกุศลและเพื่อพิจารณาญาณด้วย
ตนเองถึงเหตุการณ์มหันตภัยของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ซึ่งจะบังเกิดขึ้นตามพุทธทำนายไว้
ดังนี้
โลชังชม โทโพโส อินโตกรุณา
พระอินทร์ พระพรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดได้รู้แจ้งจงรีบบอกให้คนอื่น
ฟัง หรือพิมพ์แจกตามกำลังศรัทธาจะเกิดมหากุศลช่วยให้ท่านได้หลุดพ้นจาก มหันตภัย
ทั้งปวง ถ้าบุคคลจะลงมาเกิดพร้อมทั้งหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าใครไม่มีไว้ในบ้านเรือน
จะมีภูตผีปีศาจเข้ามาทำลายอย่างถ่องแท้
ในปีจอถึงปีกุน เมื่อคืนเดือนหงายจะมีงูพิษเหนือศีรษะ ฉกกัดให้ถึงตายและผู้คน
ทั้งหลายจะเกิดความเดือดร้อนหลายประการ
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนศึกสงครามบ่แล้ว
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนน้ำและไฟ
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีไผสิเบิ่งไผ
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนอึดข้าวปลาอาหาร
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนผัวเมียบ่เห็นหน้ากัน
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนมีคนตายตามทุ่งนา
47
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีผู้เฒ่า
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนไปต่างประเทศบ่สะดวก
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนนอนบ่หลับ
ในปีจอนี้ในเมืองจันทร์จะมีฤาษีองค์ทองดำ สิขาลาเพศออกมาเป็นพ่อค้า ในปีจอ
ขึ้น 8 ค่ำ ห้ามบ่ให้ตักน้ำอาบ น้ำกิน ตามห้วย หนอง คลอง บึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน
(ก่อนค่ำ) พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นใส่โลกมนุษย์
ในปีจอเมืองกรุงเทพจะแตกพังทลายตอนเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกตหัวเชียงเมี้ยง
ข้าวเม็ดใหญ่จะกลับสู่เวียงจันทร์ นี่คือคาถาของพระอินทร์ พรหม ยมราชได้เขียนไว้บน
ใบลาน จงเก็บรักษาไว้ให้ดีเพื่อช่วยหลุดพ้นจากภัยพิบัติได้ในยามเกิดเหตุการณ์มหันตภัย
พระคาถาเขียนไว้ว่า
ปะโต เมตัง ปะระชีวินัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นิพพานัง สุคะโต จุติ
(บางฉบับว่า... ปะโต เมตัง ปะละชิมิมัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นินะนัง สุคะโต จุติ)
พระคาถาบทนี้เขียนลงในใบลาน แผ่นทอง หรือแผ่นผ้าก็ดี ติดไว้ที่ประตูบ้านหรือ
ในรถหรือโพกศีรษะ ยามเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้หลุดพ้นจากภัยอันตราย
ในกาลเวลานี้ เทพเจ้าเหล่าเทวดาผู้รักษาคุ้มครองโลกได้กราบทูลต่อพระอินทร์ว่า
โลกมนุษย์ทำกุศลเพียง 3 ส่วน ทำบาปกรรมถึง 7 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้องค์อินทร์จะสั่ง
ลงโทษมนุษย์ผู้ใจบาปถึง 9 ข้อ นับแต่ปีจอถึงปีกุน ดังนี้
1. จะเกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหว
2. จะเกิดอัคคีภัย
48
3. จะเกิดอุทกภัย
4. จะเกิดฟ้าผ่า
5. จะเกิดร้อนเกินไป หนาวเกินไป
6. จะเกิดสารพิษต่างๆ
7. จะเกิดกาฬโรคต่างๆ
8. จะเกิดข้าวยาก หมากแพง
9. จะเกิดอาฆาตพยาบาทเบียดเบียนกันเอง
มหันตภัย 9 อย่างนี้จะหลุดพ้นได้เฉพาะผู้มีบุญ คนที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น หากผู้ใดรู้แล้วจงบอกต่อกันไปให้รีบทำความดีมากๆ ถ้า
เลยปีจอ ปีกุนไปแล้ว ทุกคนพร้อมทั้งลูกหลานจะได้รับความสุขกายสบายใจทุกคนให้ทุก
คนเคร่งครัดในศีล 5
นอกจากหนังสืออินทร์ตก ที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีพระผู้ทรงศีลอีกองค์หนึ่งได้พบ
เห็นคำสอนที่จารึกไว้บนแผ่นศิลา ที่เพิ่งพบในภูเขาแห่งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าได้เดินธุดงค์
วิปัสสนากรรมฐานผ่านไป พระผู้ทรงศีลกล่าวว่า พี่น้องทั้งหลายถ้าไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่
ดวงจิต เพราะถึงเวลาแล้วที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าเชื่อก็เป็นกุศล รู้เพียงเท่านี้ข้าพเจ้า
จึงขอบอกเล่าสู่ท่านฟังตามคำกล่าวของพระผู้ทรงศีลรูปนี้ว่า ในแผ่นศิลาเขียนโดยพระ
มหากัสสะปะว่าในปีระกา ปีจอ ปีกุน เดือน 7 - 8 จะเกิดเหตุการณ์ร้ายบนถนนหนทาง
ในเดือน 9 - 10 คนใจบาปจะถูกล้างผลาญให้หมดไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่ มีข้าวแต่ไม่
มีคนกิน มีทางแต่ไม่มีคนเดิน
สุดท้าย พระผู้ทรงศีลได้กล่าวย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหนังสืออินทร์ตกเพิ่มเติมว่า
ถ้าท่านเคารพบูชา หรือบนว่าจะบอกแก่ผู้อื่นหรือพิมพ์แจกจ่ายให้สาธุชนทั้งหลายได้รับรู้
แล้วท่านปรารถนาสิ่งใดก็จะได้สมใจ จึงปราศจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดไป
49
พบพระผู้มี "อภิญญา" มีฤทธิ์มาก
ท่านฝากเตือนมาว่า เวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว (ก่อน พ.ศ. 2560)
คัดข้อมูลบางส่วนจากข้อความของ นางสาว เปรมสุดา (เมย์)
พบพระผู้มีอภิญญาฤทธิ์นามว่า"หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านฝากเตือนมาว่าเวลาของ
โลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว น่าสงสารสัตว์โลก พระผู้มีอภิญญาฤทธิ์ ลูกศิษย์เรียกท่านว่า
"หลวงปู่ประเสริฐ" สำนักสงฆ์ของท่านอยู่ติดกับ "วัดซับปลากั้ง"
"หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านมีอภิญญาสูง มีฤทธิ์มาก เมย์เห็นมากับตาหลายครั้งและ
ลูกศิษย์ก็เห็นมาหลายคน แต่วันนี้เมย์จะไม่เล่าเรื่องอภิญญาของหลวงปู่ แต่เมย์จะเล่า
เรื่องวาระสุดท้ายของโลกมนุษย์ค่ะ หลวงปู่ท่านอายุน่าจะ 80 ปีได้ค่ะ รูปร่างสูงสง่างาม
(น่าจะสูงเกิน 180 ซม.) ดูท่านใจดี ลักษณะการเดินของท่านดูสูงส่งมากค่ะ (เดินสง่างาม
น่าเลื่อมใส อธิบายไม่ถูก) น้ำเสียงที่นุ่มนวล ท่านบอกกับทุกคนว่า "เอาล่ะนะ" ถึงเวลาที่
ฉันจะบอกเรื่องสำคัญล่ะนะ ทุกคนตั้งใจฟังให้ดีๆ แล้วไปเตือนผู้คนและคนอื่นๆ
ท่านก็เริ่มเทศนาว่า.......แท้จริงประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลก น่าจะพบกับ
ความหายนะครั้งใหญ่จากภัยธรรมชาติใหญ่ ซึ่งผู้คนต้องตายเกือบหมดโลกตั้งแต่ พ.ศ.
2545 แต่ที่มันไม่เกิดก็เพราะว่ามีพระผู้ทรงอิทธิฤทธิ์หลายท่าน รวมไปถึงเทวดาผู้รักษา
โลกมนุษย์ช่วยกันอธิษฐานจิตให้เหตุการณ์ผ่านพ้นไปก่อน ซึ่งในความเป็นจริงมันได้แค่
เลื่อนออกไปเท่านั้น ยังไงๆ เหตุการณ์ภัยธรรมชาติใหญ่และความหายนะครั้งใหญ่ต้อง
เกิดขึ้นแน่นอน
นับแต่เวลานี้ พ.ศ. 2552 แรงอธิษฐานมันหมดกำลังลงแล้ว และจะไม่สามารถ
อธิษฐานเลื่อนได้อีกแล้ว ต่อจากนี้ไปภัยธรรมชาติและความหายนะครั้งใหญ่จะค่อยๆ
50
ปรากฏตัวเพิ่มมากขึ้นๆมากขึ้นๆ โดยเริ่มทีละน้อยจาก พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป จะค่อยๆทวี
ความรุนแรงขึ้นๆ สารพัดภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว, พายุ, ภูเขาไฟระเบิด, น้ำทะเลสูง
ท่วมแผ่นดิน, หมู่เกาะทั้งหมดจะจมใต้ทะเลทั้งหมดและสารพัดอย่างจะประดังเข้ามา ฯลฯ
ทุกอย่างจะจบสิ้นก่อนปี พ.ศ. 2560 มนุษย์ที่ศีลไม่ครบจะถูกภัยธรรมชาติใหญ่
คร่าชีวิตทั้งหมด และมนุษย์ที่รอดชีวิตนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้น และคนที่รอดชีวิตส่วนมากจะ
เสียสติไปเลยเพราะตกใจกับเหตุการณ์แบบสุดชีวิต หลวงปู่บอกว่า เอายังงี้แล้วกันนะ คน
จะตายกันเกือบหมดโลกเลย แต่ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุด คือรอดประมาณ 20-30 %
ของประชากรไทย ไปคำนวณกันเอาเอง พูดง่ายๆ ตายเกือบหมดประเทศนั่นแหละ จะ
เหลือแค่คนมีศีลธรรมจริงๆ เท่านั้นเอง
หลังปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป มนุษยชาติจะเข้าสู่ยุคใหม่เรียกว่ายุคศิวิไลซ์เนื่องจาก
คนไทยจะเหลือมากที่สุด (20-30%) ต่อไปประเทศไทยจะได้เป็นมหาอำนาจ และเป็น
ศูนย์กลางของโลก เมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ผู้คนยุคนั้นจะเปลี่ยนทัศนะคติในการดำเนินชีวิต
ใหม่ทั้งหมด ในยุคนั้นผู้คนจะไม่สนใจเงินทองอีกเลย แต่จะมาแข่งขันในเรื่องของการ
บำเพ็ญบุญ-กุศล
ท่านว่าเวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว เหตุการณ์มันกำลังจะมาถึงแล้วนะ จะ
ทำอะไรก็รีบๆ ทำ เลิกใช้ชีวิตแบบโง่เขลาเบาปัญญาเสียที สิ่งที่จะติดตัวเราไปมีเพียง
บุญ-บาป เท่านั้น จำไปบอกต่อๆ กันด้วยนะลูกหลาน ขอให้เอาชีวิตรอดให้ได้นะ ฉันก็
มีเรื่องจะบอกเท่านี้นะ เจริญพร.......
หมายเหตุจากผู้เรียบเรียง : ปัจจุบันหลวงปู่มรณภาพแล้วแต่กายสังขารยังคงตั้งอยู่ที่วัดให้ผู้ศรัทธา
หลวงปู่ได้ไปกราบไหว้บูชา

ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
พอดีได้อ่าน  แล้วมันคล้ายๆกับการได้ดูหนัง  ทั้งการเปรียบเทียบกับหนัง  การยกตัวอย่าง



เลยอยากให้เพื่อนๆ  ได้ดู  ได้อ่าน  กันบ้าง




ออฟไลน์ Basketman

  • LCD TV member
  • **
  • กระทู้: 106
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
http://www.youtube.com/watch?v=Mv2VZi5RD6c&feature=player_embedded

ผมดูเรื่องนี้เมื่อคืน สนุกมากครับ เสียงปืนแน่นเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงเลยครับ

ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
http://www.youtube.com/watch?v=Mv2VZi5RD6c&feature=player_embedded

ผมดูเรื่องนี้เมื่อคืน สนุกมากครับ เสียงปืนแน่นเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงเลยครับ



เรื่องนี้โหลดมาแล้วครับ  ยังไม่ได้ดูเลยครับ


วันนี้ตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้ดูหนัง 


พอฝนหยุดตก  ก็มานั่งดูกับลูสาว  ลูกสาวอยากดูหนังผี 


เลยเปิด  The Grudge ผี...ดุ   ดูภากษ์ ENG  เสียงดีมาก


ใครอยากทดสอบ  ลำโพง  เซอร์ราว  เรื่องนี้จัดเต็ม 


พอดีที่ดูภาพไม่ใช่  HD   เลยบอกไม่ได้ว่าภาพสวยไม๊    แต่ส่วนตัวถือว่าใช้ได้



เนื้อเรื่องน่ากลัว  ไม่เคยเปลี่ยนแปลง


อยากให้แฟนกลัว  ลองหาเรื่องนี้มาดูน่ะครับ

ออฟไลน์ MoChe

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 36
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
วันนี้ไปโดนมาแล้วครับ ตกลงจบที่น้องเชอ 

ชุด 4 ครับ 29xxx

http://img6.uploadhouse.com/fileuploads/15282/152822231c264217d2a50cb6e0a1794932f468d4.jpg

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 27, 2012, 11:52:29 pm โดย MoChe »

ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
วันนี้ไปโดนมาแล้วครับ ตกลงจบที่น้องเชอ 

ชุด 4 ครับ 29xxx

http://img6.uploadhouse.com/fileuploads/15282/152822231c264217d2a50cb6e0a1794932f468d4.jpg




ยินดีด้วยครับได้ของดีราคามิครภาพอีกคนแล้วครับ


ไม่ต้องรีบน่ะครับ  ค่อยๆปรับไปเรื่อย ๆ  รอให้พ้นเบริน์ 


เดี๋ยวเสียงจะมาเต็มกว่าตอนแรกอีกครับ

ออฟไลน์ MoChe

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 36
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
วันนี้ไปโดนมาแล้วครับ ตกลงจบที่น้องเชอ 

ชุด 4 ครับ 29xxx

http://img6.uploadhouse.com/fileuploads/15282/152822231c264217d2a50cb6e0a1794932f468d4.jpg




ยินดีด้วยครับได้ของดีราคามิครภาพอีกคนแล้วครับ


ไม่ต้องรีบน่ะครับ  ค่อยๆปรับไปเรื่อย ๆ  รอให้พ้นเบริน์ 


เดี๋ยวเสียงจะมาเต็มกว่าตอนแรกอีกครับ

สอบถามหน่อยครับ ขาตั้งลำโพงนี่มันจำเป็นไหมครับ

ใจผมว่าจะเอา ชั้นไว้มาตีเป็น ขั้น ๆ จะดีไหมครับ

ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
จำเป็นครับ  ลำโพงเซอร์ราว  ให้อยู่เหนือหูซัก  15-30 CM  กำลังดี



คู่หน้าวางให้อยู่ระดับเดียวกัน  เซนเตอร์



แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นขาตั้งเฉพาะ  ใช้ชั้นไม้  หรือชั้นวาง  ที่มีความสูงกำลังดีก็ได้


แข็งแรงกว่า  และใส่ของได้ด้วย




ออฟไลน์ pratad22

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 574
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
http://www.youtube.com/watch?v=Mv2VZi5RD6c&feature=player_embedded

ผมดูเรื่องนี้เมื่อคืน สนุกมากครับ เสียงปืนแน่นเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงเลยครับ
++ เรื่อง SAFE  เสียงปืน เสียงต่อสู้ เตะ ต่อย เบสแน่นดีมากครับ ผมซื้อเป็น DVD มาสเตอร์ มาเก็บไว้ดูตั้งแต่ตอนออกใหม่ ๆ  ทุกวันนี้ก็ยังยังหยิบเอาขึ้นมาดูประจำ เสียงปืนดังแน่น ก้อง.งง สมจริง มาก ๆ ฉากที่พระเอกต่อสู้กับผู้ร้ายบนรถไฟเพื่อช่วยเด็กผู้หญิงชาวจีน เสียงเตะ ต่อย เบสแน่นจริง ๆ ครับ แล้วตอนที่พระเอกพูดกับตัวร้าย ว่า " ฉันไม่ใช่เด็กเก็บขยะ แต่ ฉันเป็นคนกำจัดขยะ " แล้วก็ลั่นไก เสียงกระสุนปืนดังออกลำโพงเซอร์ราวดน์  เสียงงก้อง.งงง หู !! สมจริงมาก ๆ (เหมือนยิงที่ข้างหูเลย) และผมประทับใจฉากที่ไปบุกปล้นเงินในผับ Sherwood ถ่ายทอดเสียงการดวลปืนของทั้ง 2 ฝ่าย ได้อย่างสมจริง.งงง สะใจคอหนังแอ๊คชั่น สุด ๆ ไปเลยครับ (เหมือนดวลปืนกันในห้องดูหนังของผมเลยครับ) ต้องบอกว่าได้ทั้งบรรยากาศ และได้ทั้งอารมณ์จริง ๆ ครับ 

ออฟไลน์ can18

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 592
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
The Man From Nowhere 2010  เพื่อเพื่อนๆที่ยังไม่เคยดู    หนังดีอีกเรื่องนึง 



ภาพสวย   เสียงดี  เนื้อเรื่องโอเค  มีดาไทยร่วมเล่นด้วยคนนึงครับ



พระเอกเรื่องนี้ที่เคยเล่นเรื่อง  เท กึก กี เลือดเนื้อเพื่อฝัน วันสิ้นสงคราม [taegukgi]