ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60  (อ่าน 269380 ครั้ง)

ออฟไลน์ FatboyZ...

  • LCD TV member
  • **
  • กระทู้: 106
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #180 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2014, 12:37:07 am »
ไฟล์นี้ท่าน Dramin เอ๊ย! ท่าน หลั่ง รวดเร็ว ชื่อไฟล์อะไร และหาโหลดได้ที่ใดครับ





ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ออฟไลน์ ซ่องเจ๊หวี

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 5,318
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #181 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2014, 03:45:34 am »
ไฟล์นี้ท่าน Dramin เอ๊ย! ท่าน หลั่ง รวดเร็ว ชื่อไฟล์อะไร และหาโหลดได้ที่ใดครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

http://www.filecondo.com/download_regular.php?file=z8a65c1ujZRp

ชื่อไฟล์ TimeScapes

รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.imdb.com/title/tt2297031/

ไฟล์นี้เปิดกับ plasma อาจมีหนาวครับ เพราะ...หลายๆฉากมีฉากท้องฟ้าสีอ่อนๆในตอนกลางวัน จะมองเห็นรอย IR ได้ง่ายมากๆ
เปิดกับ ST30 ของผมเจอโลโก้ฟรีทีวีครบทุกช่องเลย ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

ออฟไลน์ filmman

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 657
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #182 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2014, 08:54:12 pm »
ผมเพิ่งขุดกรุเอา BD เรื่อง Se7en มาเปิด แหม Plasma มันดำได้ใจจริงๆ ครับ [ปลื่ม] [ปลื่ม]

ออฟไลน์ FatboyZ...

  • LCD TV member
  • **
  • กระทู้: 106
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #183 เมื่อ: มีนาคม 09, 2014, 10:02:41 am »
รบกวนสอบถามครับ ภาพคอนเสิร์ตชุดนี้ ชื่อไฟล์ คอนเสิร์ตอะไรครับ


ตอนนี้เริ่มหลงรักสไตล์คอนเสิร์ตเกาหลีแล้วครับ
ขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งครับ

ออฟไลน์ ซ่องเจ๊หวี

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 5,318
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #184 เมื่อ: มีนาคม 09, 2014, 12:12:54 pm »
รบกวนสอบถามครับ ภาพคอนเสิร์ตชุดนี้ ชื่อไฟล์ คอนเสิร์ตอะไรครับ
ตอนนี้เริ่มหลงรักสไตล์คอนเสิร์ตเกาหลีแล้วครับ
ขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งครับ

I am: Smtown Live World Tour in Madison Square Garden

หาโหลดไม่ได้แล้วครับ ไม่มีคนปล่อยแล้ว คงต้องซื้อแผ่นเท่านั้น

http://www.cdjapan.co.jp/product/AVXF-49859
-แผ่นแท้ limited edition มีของแถมทั้งหนังสือ(อย่างดี) โปสการ์ด(เพียบ) บัตรคอนเสิร์ตห้อยคอ
ผมสั่งซื้อไปเมื่อก่อนปีใหม่ราคารวมค่าส่ง ประมาณ 4,400 บาท

http://www.amazon.com/gp/offer-listing/B008XOECV8/ref=dp_olp_new?ie=UTF8&condition=new
-แผ่นแท้ version ธรรมดาไม่มีของแถม ราคาไม่แพง มีร้านขายเพียบ

http://www.marketbluray.com/home/index.php?fn=productdetail&p_id=002677
-แผ่นไรท์ 50GB ๒แผ่น

http://www.marketbluray.com/home/index.php?fn=productdetail&p_id=002677
-แผ่นไรท์ 25GB ๒แผ่น

http://www.marketbluray.com/home/index.php?fn=productdetail&p_id=002676
-แผ่นไรท์ 25GB แบบแผ่นเดียว(มีเฉพาะตัวคอนเสิร์ต)

http://www.marketbluray.com/home/index.php?fn=productdetail&p_id=001631
- Japan First Tour Girls' Generation 

http://www.marketbluray.com/home/index.php?fn=productdetail&p_id=003283
- Girls' Generation : Girls & Peace Japan 2nd Tour

ถ้าหาโหลดไม่ได้และไม่อยากซื้อเป็นแผ่น ก็ส่งฮาร์ดดิสมาให้ผมก๊อปให้ก็ได้ครับ

ออฟไลน์ FatboyZ...

  • LCD TV member
  • **
  • กระทู้: 106
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #185 เมื่อ: มีนาคม 09, 2014, 03:20:04 pm »
เดี๋ยวผมคงต้องไปเดินหาซื้อแผ่นเอาดีกว่า ลองไปหาโหลดแล้ว ไม่มีคนปล่อยอย่างท่านว่าจริงๆครับ

ปล. กลับมาใช้ชื่อนี้ดีแล้วครับ ฟังดูมีมนต์ขลัง ดี  [ปลื่ม]

ออฟไลน์ ซ่องเจ๊หวี

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 5,318
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #186 เมื่อ: มีนาคม 16, 2014, 12:14:37 pm »


เสริมทัพด้วย Line Conditioner-Stabilizer MAGNET IRG-600 (Rev.G)(Black)

กำลังงัดกับ Line Conditioner ... .... 1se อยู่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 10, 2015, 01:31:26 am โดย dramin »

ออฟไลน์ filmman

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 657
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #187 เมื่อ: มีนาคม 16, 2014, 07:14:17 pm »
ระวังภาพคมจนบาดมือนะครับ  [หื่น] [หื่น]

ออฟไลน์ ซ่องเจ๊หวี

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 5,318
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #188 เมื่อ: เมษายน 10, 2014, 08:06:21 pm »
*ขออนุญาต นำคอมเมนท์จากห้อง home มาลงไว้ในกระทู้นี้จะได้ง่ายต่อการค้นหา
เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจของท่านอื่นๆ

เครื่องกรองไฟหลักๆที่ผมเคยใช้มีอยู่ ๒ ตัว คือ

- magnet IRG 600 REV.G
- c l e f cleansorce 1se (ปัจจุบัน ขายไปแล้ว)

.......


จาการแกะดูอุปกรณ์ภายในเครื่องพบว่า...

magnet IRG 600 REV.G ใช้เต้ารับcooperรุ่นบ๊วย๓ตัว และใช้เต้ารับsalzerที่เสียบปลั๊กหัวกลมได้๒ตัว
และที่ด้านหลังเต้ารับแต่ละตัวจะมีC filter ติดอยู่ ยกเว้นเต้ารับในช่อง hi power non filtered จะไม่มี C filter
ถ้าเป็นรุ่นเก่าอย่าง REV.F เต้ารับที่เสียบปลั๊กขากลมได้ จะใช้เต้ารับของ panasonic เนื้อทองเหลือง
ซึ่งคุณภาพทั้งภาพและเสียงเป็นรอง salzer แถมยังทำการเปลี่ยนเต้ารับได้ยากด้วย (ควรจะใช้ salzer มาตั้งนานแล้ว!!!)
IECท้ายเครื่องดูเหมือนจะเป็นเกรดธรรมดาทั่วไป สายไฟที่ใช้เดินภายในเครื่องเป็นของ thaiwonderful
รวมถึงสายACรุ่นหัวกลมที่แถมมาก็เป็นของ thaiwonderful เช่นกัน

... cleansorce 1se ใช้เต้ารับcooperรุ่นheavy duty ๔ตัว ซึ่งวัสดุตัวปลั๊กและแท่งกราวด์แข็งแรงกว่า cooperรุ่นบ๊วย
เต้ารับทุกตัวมี C filter ใส่เอาไว้ IEC ท้ายเครื่องใช้ของด.... เนื้อโรเดียม
สายไฟในส่วนที่เดินจาก IEC ไปที่วงจรหลักใช้สายไฟเส้นใหญ่ดูแข็งแรงมาก(น่าจะเป็น....)
สายไฟที่เดินภายในเครื่องส่วนที่เหลือเป็นของ thaiyazaki และสายACที่แถมเป็นแบบหัวแบนของ thaiwonderful
ในส่วนของอุปกรณ์ที่กล่ามานี้จะเห็นว่า c l e fใช้อุปกรณ์เกรดค่อนข้างดี จึงส่งผลต่อแนวภาพและเสียงที่ถูกปรุงแต่งให้มีบุคลิกโดดเด่นมากมากขึ้น


....................


magnet IRG600 rev.G

ในแง่ของเสียง ให้เสียงแนว ราบเรียบ ไล่ความถี่ต่ำสุดไปจนสูงสุดได้อย่างเรียบเีนียนไร้รอยต่อและไม่มีสะดุด
ไม่มีเสียงช่วงความถี่ไหนที่โดดเด่นกว่ากัน(total balanceดี) เนื้อเสียงมีมวลอิ่มหนาเล็กน้อย
จึงทำให้อิมมเมจเสียงค่อนข้างใหญ่และเวทีเสียงกว้างขวาง เบสมีปริมาณเยอะความถี่ต่ำสามารถลงได้ลึก
เสียงกลางอิ่มหนามีมวล เสียงแหลมเรียบเนียนรายละเอียดดีไม่กุดด้วน ลดความหยาบกระด้างในเนื้อเสียงได้มากเมื่อเทียบกับการต่อผ่านปลั๊กโดยตรง
อาการอั้นของเสียงเมื่อเทียบกับเครื่องกรองไฟตัวอื่นๆที่ผมเคยใช้มารวมถึงตัวที่แพงกว่าด้วย ก็ถือว่า IR600นั้นมีอาการอั้นน้อยมากๆ
ในด้านภาพIRG600ให้ภาพที่ราบเรียบโอนเอียงไปทางfilmlook
โทนสีขาวจะติดอุ่นเล็กน้อย และสีหลักๆจะดูเคร่งขรึม มิได้ให้สีที่สดเด้งแต่อย่างใด
ภาพมีความสว่างมากกว่าการใช้ปลั๊กทั่วไปรวมทั้งการต่อกับปลั๊กผนังโดยตรง แต่ในความสว่างนั้นก็ดูนุ่มนวลไม่ได้สว่างจ้าจดแยงสายตาเลย
ภาพจะดูมีมวลสาร น้ำหนักภาพดีมาก
ช่วยลดอาการดำจมได้ในระดับหนึ่ง ขอบภาพขอบวัตถุดูโค้งมนเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ปรุงแต่งให้ภาพคมกริบจนเสียสมดุล
จึงทำให้เสียงฟังได้เรื่อยๆไม่ล้าหู ภาพดูได้นานไม่ล้าสายตา

แต่ข้อเสียก็มี นั่นคือ...สีสันเมื่อเทียบกับเครื่องกรองไฟยี่ห้ออื่นจะดูช่วงสีแคบกว่า
สีจะออกตุ่นๆ ขรึมๆ ไม่ค่อยแวววาว หวือหวา สำหรับคนที่ชอบความสดใสจะไม่เข้าทาง
และด้วยความราบเรียบในบุคลิกนี่แหละ จึงทำให้ผู้ใช้รู้สึกเบื่อได้ง่ายมากๆ

*ช่อง isolated แม้จะระบุว่าจ่ายไฟได้ 600va แต่ในการใช้งานจริงพบว่าการต่ออุปกรณ์เข้าไปมากกว่า๑ชิ้น แม้จะกินกำลังไฟน้อยแค่ไหนก็ตาม
จะทำให้คุณภาพของภาพและเสียงลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับการต่ออุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว
ฉะนั้นถ้าต้องการภาพและเสียงที่ดีที่สุด สำหรับช่อง isolated filtered จึงควรพ่วงต่ออุปกรณ์ที่คุณคิดว่าสำคัญที่สุดเพียงชิ้นเดียวเท่า่นั้น
ช่อง high power filtered ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ เนื้อภาพเนื้อเสียงและความเป็นธรรมชาติ อาจจะเป็นรองช่องisolatedอยู่บ้าง
แต่ high power filtered ก็ให้เสียงที่มี dynamic คม กระจ่าง จะแจ้งกว่า และรองรับอุปกรณ์ที่บริโภคกระแสไฟได้มากกว่าด้วย

**ระบบคุมแรงดันไฟฟ้าให้นิ่ง 220-230v จะทำงานเฉพาะช่อง isolated เท่านั้น ช่องอื่นๆไม่มีผล

*** plasma 65นิ้ว กินไฟแค่ 300w โดยประมาณเท่านนั้นนเองครับ(มากสุดก็ไม่เกิน450w) ต่อผ่านช่อง isolated ของ IRG600 ได้สบายๆ
อ้างอิงจาก http://www.lcdtvthailand.com/review/detail.asp?desc=3&param_id=1634


.......................


c l e f cleansorce 1se

สเกลเสียงนั้นจะเล็กกว่าIRG600 แต่เนื้อเสียมวลเสียงของcleansorceนั้นจะกระชับ ควบแน่น เสียงขึ้นอิมเมจเป็นรูปเป็นร่างดูเป็นสามมิติมากกว่า
IRG600 นั้น ทั้งบรรยากาศและเสียงหลักจะไหลไปพร้อมๆกัน ส่วนcleansorceตัวเสียงหลักๆจะลอยลำดูเด่นกว่าบรรยากาศเสียง
เสียงเบสแม้ปริมาณจะไม่มากเท่า IRG600 แต่เบสของcleansorce จะกระชับแน่นเป็นลูกๆมากกว่า ได้แรงปะทะจากต้นเบสโคนเบสที่ฟังดูรุกเร้า
เสียงกลางมีเนื้อเสียงที่เข้มข้นเสียงฟังดูจริงจัง ความหนาแน่นในเนื้อเสียงดีมาก เสียงแหลมเก็บตัวเร็วจนดูห้วนๆไปบ้างสำหรับการฟังเพลง
รายละเอียดเสียงแหลมอาจจะเก็บได้ไม่หมดเหมือน IRG600 แต่ cleansorceก็ให้เนื้อเสียงแหลมที่กระชับเป็นรูปเป็นร่างไม่แตกเป็นฝอยๆ
dynamicเสียงแบบฉับพลันของcleansorceสามารถทำได้ดี อารมณ์เสียงที่สื่อจะออกแนวดิบๆ กระด้างๆไปบ้าง
โดยรวมแล้วสไตล์เสียงของ cleansorce ก็จะแนวเดียวกับรุ่นเล็กอย่าง c l e fตระกูล p o w e r b r i d g e ทั้งหลาย
แต่ cleansorceนั้นจะเหนือกว่ามากในทุกๆด้านโดยเฉพาะเนื้อเสียงที่หนาแน่นฟังดูมีพลังและมีน้ำหนักมากกว่า
ในด้านภาพ  cleansorce 1se ให้ภาพที่มีสีสัน สว่าง  เจิดจ้า ภาพดูมีชิตชีวาแนวสีจะออกไปทาง digital
อุณหภูมิสีจะติดไปโทนเย็น สีขาวอมฟ้านิดๆ(IRG600 สีขาวจะอมเหลืองติดโทนอุ่น)
มิติภาพแม้จะดูแล้วเสมือนถูกปรุงแต่งไปหน่อย แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่โดดเด่นดีมาก คือ ตัววัตถุกับฉากจะถูกแบ่งlayerออกเป็นชั้นๆแยกตัดกันอย่างชัดเจน
ขอบภาพจะดูคมขึ้น แม้ว่ารายละเอียดในที่มืดจะดูไม่โดดเด่นนัก แต่ cleansorceก็เด่นในเรื่องของ contrast มาก
โดยฉากที่มีแสงและเงาตัดกันภาพในส่วนที่เป็นเงาจะดูเข้มลึก และภาพในส่วนที่เป็นแสงก็จะดูเจิดจ้า
ภาพจึงไม่ค่อยดูเหมือนภาพจริงๆที่สายตาเาๆเห็นกันสักเืท่าไหร่ แต่ภาพจะเสมือนภาพถ่ายผ่านกล้องราคาแพงที่ผ่านการจัดแสงและเงามาอย่างดี - -"
ข้อเสีย - อารมณ์เสียงเหมือนจริงจังดูเน้นๆหนักๆไปหน่อย จนฟังดูเครียดไป ภาพดูปรุงแต่งจนเสียความเ้ป็น analogไป
และcontrastภาพค่อนข้างสูงมาก(อานิสงจากIEC โรเดียมของ ....) ดูนานๆแล้วทำให้ล้าสายตาได้

...............


ก่อนหน้านี้ผมลังเลระหว่าง magnet IR600 กับ magnet iso clean 1000

แต่จากการได้สอบถามทั้งทาง magnet และคุณชานมlcdtvthailand ทั้งสองบอกเหมือนกันว่า...
ในแง่ของการกรองขยะไฟฟ้าทั้งสองรุ่นทำได้ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ IRG600 ช่อง isolated จ่ายไฟได้ 600vaและคุมแรงดันไฟได้
ในขณะที่ iso clean 1000 ช่อง isolated จ่ายไฟได้ 1000va แต่ไม่คุมแรงดันไฟ
ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะแรงดันไฟฟ้าที่บ้านผมวิ่งอยู่ที่ 224-234V ซึ่งถือว่าปกติ
ดังนั้นผมจึงตัดสินใจว่าจะเอา iso clean 1000 เนื่องจากรับโหลดกระแสไฟฟ้าในช่อง isolated ได้มากกว่าแถมราคาถูกกว่าด้วย

แต่...พอมาพิเคราะห์ดูที่เต้ารับตรงหลังเครื่อง พบว่าmagnet iso clean 1000 มีช่อง high power filtered แค่๑คู่(เสียบได้๒ช่อง)
ซึ่งในการใช้งานจริงนั้นน้อยเกินไป แล้วช่องhigh power non filtered ก็ดันมีให้ถึง ๒คู่(๔ช่อง) ซึ่งก็มากเกินความจำเป็น
เพราะอุปกรณ์ที่ไม่ต้องการผ่านระบบกรองนั้น จะมีจริงๆก็แค่ amp กับ subwoofer เท่านั้น
แล้ว sub woofer ก็ควรจะเสียบต่อที่ปลัี๊กผนังโดยตรงก็ให้ผลดีกว่าด้วย
ฉะนั้น iso clean 1000 ที่ออกแบบมาให้ช่อง high power filtered เสียบได้ ๑ คู่ high power non filtered เสียบได้ ๒ คู่ มันดูผิดปกติไปหน่อย
น่าจะสลับเป็น high power filtered เสียบได้ ๒ คู่ high power non filtered เสียบได้ ๑ คู่ เหมือนกับ IRG600 ถึงจะดูสมดุล

สุดท้ายผมจึงตัดสินใจเลือก IRG600 ด้วยเหตุนี้แหละครับ

IRG600 rev.G


iso clean 1000



............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2016, 03:03:21 pm โดย คุณลุงUFO »

ออฟไลน์ ซ่องเจ๊หวี

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 5,318
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #189 เมื่อ: เมษายน 10, 2014, 08:08:27 pm »
รวมคอมเม้นท์ปลั๊กไฟ เท่าที่มีและได้ลองใช้มานะครับ



wattgate 381 gold (5500บาท)
เบสเยอะ กลางใหญ่ แหลมละเอียดดี(แต่ไม่แสบหู) dynamicเสียงกินขาดปลั๊กอื่นๆในตลาดแบบขาดลอย
สามารถแจกแจงรายละเอียดของดนตรีที่มีความซับซ้อนสูง หรือมีเครื่องดนตรีเยอะๆ จำพวก ออเครสต้า หรือ โอเปร่าได้ดีมาก
รูปวงใหญ่ เวทีเสียงโอ่อ่า อลังการ ความกระชับของเนื้อเสียงดีมาก การหักลำ +ควบแน่น +เข้มข้น ของเสียงสุดยอดไร้ตัวเปรียบ
อิมเมจเสียงขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง ชี้ตำแหน่งดนตรีได้ชัดเจน จึงให้เสียงที่มีความเป็นกึ่งสามมิติสูง
ข้อเสีย - ให้เสียงแนว "ยอมหักไม่ยอมงอ" อารมณ์เสียงจจริงจัง บ้าพลัง แรงปะทะสูง มีความกระด้างในเนื้อเสียง
ด้วยความกระชับของเนื้อเสียงที่สูงมาก เสียงจึงมิใช่แนวออดอ้อนพิรี้พิไร เพราะให้เสียงร้องที่จริงจังมาก
เหมือนฟังการแสดงสดที่เค้นพลังในตัวโน๊ตซะมากกว่า
ใช้กับระบบภาพให้ รายละเอียดและcontrastสูงกว่าปลั๊กทั่วไป การไล่เฉดสีแม่นยำ รายละเอียดดี
แต่ก็มีอาการเนื้อภาพกระด้างอยู่บ้า




wattgate 381 RH (7000บาท)
โดยรวมแล้วพื้นฐานของเสียงจะคล้ายๆ 381 gold แม้ว่า RH จะให้ไดนามิค ที่น้อยกว่า goldอยู่บ้าง
แต่ RH ก็ดีกว่าในภาพรวมไม่ว่าจะเป็น เนื้อเสียงที่สะอาด ฉ่ำ เนียนกว่า และมีความกระด้างในเนื้อเสียงน้อยกว่า gold
ให้เสียงที่ฟังแล้วผ่อนคลายกว่า โดยที่ ไดนามิคของเสียงก็ยังถือว่าสูงตามสไตล์ยี่ห้อ wattgate
ให้ช่องไฟที่เป็นธรรมชาติไม่บีบเค้น เน้นแรงปะทะจังหวะโคนเกินไป
และ RH เมื่อใช้กับระบบภาพจะให้ภาพที่กระจ่าง สว่าง สะอาด contrastสูงมากๆ สีสันมีความสดเข้ม
การใช้งานนั้นครอบคลุมทุกประเภททั้งภาพและเสียง อย่างที่ปลั๊กตัวอื่นๆในตลาดไม่สามารถทำได้
สำหรับผมแล้วwattgate 381 RH ถือเป็นปลั๊กที่ประสิทธิภาพดีที่สุดตัวหนึ่งเลยครับ

เสียง wattgate 381RH ดีกว่า  wattgate 381AU(gold)
ภาพ wattgate 381RH ก็ดีกว่า  wattgate 381AU(gold) เช่นกัน

..............



oyaide R1 (3800บาทไม่มีกล่อง 4300บาทมีกล่อง)
เด่นในแง่ของความกลมกลืนต่อเนื่องของความถี่ ต่ำ-กลาง-สูง น้ำหนักเสียงดีมากๆ มีการแยกความอ่อน-แก่ ของเสียง
เสียงจะออกแนวเรียบร้อยนิ่งๆ เหมาะกับเพลงช้าๆ เครื่องดนตรีน้อยชิ้น
ใช้กับระบบภาพ ให้ภาพที่สีมีความเป็นธรรมชาติสูง มวลภาพหนา ภาพดูมีเนื้อหนัง มีน้ำหนัก และมีความเป็น filmlookสูงสุดเท่าที่ลองเทียบมา
ข้อเสีย แม้จะไล่เสียงความถี่ต่ำ กลาง สูง ได้ดี แต่เนื้อเสียงยังคงมีความแข็งกระด้างอยู่
timming ค่อนข้างช้า จังหวะโคนเสียงต่างๆจึงดูไม่แม่นยำ ความสดใสในเนื้อเสียงมีน้อย เสียงขาดความฉ่ำน้ำ
จึงฟังแล้วเหมือนเนื้อเสียงด้าน บวกกับ timmingที่อืดช้า น้ำหนักเสียงเยอะ นั่นทำให้ฟังแล้ว"บางคน"รู้สึกอัดอัด
r1เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเครื่องกรองไฟ โดยใช้กับแหล่งต้นทางจำพวก player หรือ source ต่างๆจะให้ผลลัพธ์ไปทางบวก



oyaide GX (3300 บาท)
แม้จะเป็น ยี่ห้อเดียวกับตัวข้างบนนี้ แต่แนวเสียงนั้นกลับไม่เหมือนกันเลยสักนิด
เวทีเสียงและรูปวงนั้นจะใกล้เคียงกัน คือเป็นรูปวงกลม โดยที่สเกลเสียงGXเล็กกว่าR1เล็กน้อย
แต่ GX ให้เสียงที่  อิ่ม เนียน ฉ่ำ เนื้อเสียงมีความสด โดดเด้ง เกลี้ยงเกลา เสียงจึงดูมีชีวิตชีวา ฟังง่าย ไม่อึดอัด
ข้อเสีย เสียงฟังดูเด้งๆเกินไปหน่อย จนเสียความเป็นธรรมชาติ และไม่เหมาะกับระบบภาพเป็นอย่างยิ่ง
เพราะทำให้สีเพี้ยนออกแนวสีสังเคราะห์ไปซะหมด มิติภาพแม้ว่าดูมีมวลแต่ก็จะดูเรียบๆเท่ากันไปหมด

* oyaide เป็นปลั๊กที่เสียบสายไฟแน่นที่สุดเลยครับ ถอดออกยากมากๆ

...............




ps audio power port premier
(3000บาท)
เบสกระชับ เสียงกลางเนียนเด่น แหลมเนียน เนื้อเสียงมีความละเมียดละไมสูง จังหวะโคนเสียงแม่นยำ คล่องแคล่ว ช่องไฟของตัวโน๊ตทำได้ดีมาก
เวทีเสียงวางตำแหน่งเหมือนกับ oyaide แต่ในแง่ของการชี้ตำแหน่งเครื่องดนตรีนั้นๆ ps audio แม่นยำกว่ามาก
เสียงหลักๆจะลอยเด่นแล้วถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศเสียงรอง
คือเนื้อเสียงหลักจะกลมกลึงขึ้นเป็นรูปเป็นร่างคล้ายๆ wattgate 381 gold
และที่โดดเด่นที่สุด คือ ลีลาเสียง เสียงร้องและเสียงดนตรีจะมีอารมณ์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ที่โด่ดเด่น
เป็นอารมณ์เสียงที่ผสานระหว่างความพิรี้พิไรและความคล้องแคล่วกระฉับกระเฉงไว้อย่างลงตัว(ไม่มียี่ห้อไหนทำได้)
เสียงเพลงร้องจึงมีความออดอ้อน แต่ยังคงมีเรี่ยวแรง มีไดนามิค จึงสามารถฟังเพลงได้ทุกแนว
ดูหนังการโยนเสียงข้ามลำโพง และการชี้ตำแหน่งวัตถุก็เหนือกว่าปลั๊กตัวอื่นๆแทบทั้งหมด
ใช้กับระบบภาพสีจะอิ่ม สด เนียน ออกโทน digital มิติระหว่างวัตถุกับฉากก็ตัดแบ่งชั้นกันอย่างเด็ดขาด
และปลั๊กตัวนี้ผลิตโดยบริษัท hubbell เป็น isolate ground จึงทำให้หน้ากากและน๊อตที่ใช้ร่วมไม่ว่าจะใช้แบบไหนก็แทบไม่มีผล
เทียบคุณภาพกับราคาแล้ว power port premier เป็นปลั๊กที่ครอบคลุม คุ้มค่าที่สุด และประสิทธิภาพก็ถือว่าสูงกว่าปลั๊กหลายๆตัวที่แพงกว่าด้วย
ข้อเสีย - เนื้อเสียงจะกระทัดรัด ติดบางนิดหน่อย ต้องจัดวางระบบเสียงให้ดี เพราะมันขี้ฟ้องมาก
และเนื่องจากเอกลักษณ์เสียงที่โดดเด่นเกินไป จึงอาจทำให้เสียงของsystemเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ
ระบบภาพถ้าใช้กับทีวีประเภท plasma จะทำให้เสียสมดุลสีในความเป็นfilmlook



ps audio power port premier
รุ่นเก่า
เป็นปลั๊กผนังที่มีนักเล่นเครื่องเสียงบางกลุ่มตามหากันซึ่งในปัจจุบันไม่มีขายแล้วจึงกลายเป็นของ rare ไปโดยปริยาย
เนื้อเสียงมีความละเมียดละไมและมีความนุ่มนวลมากกว่า power port premier รุ่นใหม่หน้ากากสีเทาตัวข้างบนไปอีกเล็กน้อย
โดยที่ความกระฉับกระเฉง และความกระชับ จะผ่อนปรนกว่า จึงทำให้รุ่นนี้จะเหมาะสมในการฟังเพลงมากกว่ารุ่นด้านบน
ส่วนเรื่อง colour และส่วนอื่นๆในระบบภาพนั้นแทบไม่ต่างกัน นั่นคือให้สีออกโทน digital และมิติที่แบ่งชั้นระหว่างฉากกับวัตถุได้ดี



ps audio power port classic (1700บาท)
เอาเป็นว่า ห่วยกว่า power port premier ในทุกด้านเลยละกัน เสียงบางกว่า แห้งกว่า แสบหูกว่า
ความละเมียดของเสียง เวทีเสียง รายละเอียดเสียง รวมทั้งระบบภาพไม่มีอะไรสู้ power port premier ได้
ถ้าจะเล่นปลั๊ก ps audio ให้เก็บเงินเพิ่มแล้วไปเล่นรุ่น power port premier ดีกว่า ๕๕๕๕๕๕๕๕

...............



.... FPX gold (3000บาท)
เสียงจะออกโทนbright เจิดจ้า เปิดโปร่ง สะอาด เด่นในแง่ของ บรรยากาศอณูเสียงที่ห่อหุ้มรอบตัวโน๊ต เวทีเสียงจะกว้างฉีกไปทางด้านข้าง
รายละเอียดเสียงถือว่าสูงมากๆเมื่อเทียบกับปลั๊กในระดับค่าตัวเดียวกัน เสียงเล็กๆน้อยๆหยุมหยิบได้ยินครบ
เสียงในแต่ละตัวโน๊ตมีความกังวานสูง ปลายแหลมพลิ้ว ทอดตัวไปได้ไกล ระยิบระยับดีมาก
ไดนามิคเสียงก็ถือว่าโดดเด่น ในช่วงที่เสียงคนร้องpeakก็เค้นอารมณ์ได้ดีมาก
และในช่วงที่เสียงดนตรีโหมกระหน่ำเช่นเพลงพวกโอเปร่า ก็ขยายเวทีเสียงจากแผ่วเบาที่สุดไปยังเสียงดังที่สุดได้ดีเยี่ยม
โดยรวมแล้วแนวเสียงจะคล้ายๆกับการเปิด loundness หรือ stereo wide ของเครื่องเสียงยุคเก่าๆประมาณนั้น
ข้อเสีย - ใช้กับระบบภาพแล้วกากมากๆ ภาพสว่าง คม แสงฟุ้ง ดูมั่วๆไปหมด
เนื้อเสียงบางมากๆ เบสบางไม่กลมกลึงขึ้นเป็นลูกๆ คนที่ชอบเสียงแนวมีเนื้อมีหนังไม่น่าชอบ
และ FPX gold เป็นปลั๊กที่ขี้ฟ้องมากตัวหนึ่ง ต้องจัดเสียงใน system ให้เหมาะสม
เนื่องจากแนวเสียงของมันเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆได้ยากพอสมควร

.............



hubbell ig8300 ( 1100-1700บาท)
ปลั๊กยอดนิยมของคนเริ่มเล่นเครื่องเสียง
hubbell เสียงจะออกแนวดิบๆ เนื้อสากๆ เนื้อๆ
เหมาะสำหรับชุดที่ต้องการเสียงที่ไม่แต่งแต้มสีสันอะไรมาก เพื่อทดสอบเสียงที่บริสุทธิ์ที่สุด
สำหรับรุ่นที่ผ่านการ cryo ราคาจะสูงขึ้น และเสียงจะเปลี่ยนไป แหลมไปได้ไกลขึ้น รายละเอียดดีขึ้น
แต่เนื้อเสียงจะบางลง และมิติเวทีเสียงจะค่อนข้างแบน
ใช้งานกับระบบในส่วนของภาพได้กลางๆครับ

...........



Copper Colour EX-126 HE BE (1400บาท)
เสียงเบสเรื่อยๆกระชับเล็กน้อย กลางเนียนอิ่ม แหลมรายละเอียดดี เสียงมีไดนามิคและมีเนื้อหนังกำลังงาม
ใช้กับระบบภาพแล้ว สีมันดูเนียนแบบแปลกๆ ดูแล้วเหมือนอุณหภูมิสีมันเพี้ยนๆ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน๕๕๕๕
รอยต่อระหว่างเสียง ทุ้ม กลาง แหลม อาจจะยังไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะเสียงแหลมในบางความถี่ที่ฟังดูจะมีเสียงซิบๆ ซ่าๆ แตกๆหน่อย
แต่ถ้าฟังเอาสนุก มีรสชาติ ไม่จืดชืด ปลั๊กรุ่นนี้ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียวครับ



J living power (ปัจจุบันราคา 2400บาท)
หรือปลั๊ก american denkiเดิม ที่ผ่านการอัพเกรดโดยเคลือบน้ำยา j liquid และเคลือบ platinum ที่ช่อง N
นักเล่น audiophile หลายๆท่านชอบปลั๊กรุ่นนี้มากกว่า wattgate 381RH เสียอีก
แต่ถ้าถามว่า J living power ดีกว่า wattgate 381RH หรือไม่ คำตอบคือ ดีกว่าในบางแง่เท่านั้นครับ
ปลั๊ก J living power เด่นในเรื่องของการฟังเพลง audiophile จำพวกเพลงร้องช้าๆเครื่องดนตรีน้อยชิ้นซะมากกว่า
เสียงร้องจะลอยเด่นไหลลื่นต่อเนื่อง total balance ดีมากๆ ไม่มีเสียงย่านไหนเด่นล้ำหน้าไปกว่ากัน
แนวเสียงออกไปทางอะคูสติก จูนเสียงให้โปร่ง ลอย เสียงทุ้มปริมาณพอดี เสียงกลางนุ่มนวล เสียงแหลมทอดตัวกังวานไปได้ไกล
ปลายเสียงจางหายไปอย่างช้าๆเป็นธรมชาติ  ให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากกว่ารุกเร้าจริงจัง
แต่สำหรับการดูหนังรวมไปถึงเพลงที่เครื่องดนตรีเยอะๆ หรือเพลงที่ต้องการไดนามิคของเสียงที่รุนแรง อาจจะไม่ได้โดดเด่นนัก
อีกทั้งผลต่อระบบภาพก็ยังไม่โดดเด่นเช่นกัน
ในขณะที่ wattgate 381RH นั้นจะครอบคลุมการใช้งานทุกอย่างตั้งแต่ดูหนัง ฟังเพลงทุกประเภท รวมถึงระบบภาพด้วยครับ



f u ru t e c h GTX D RH
ราคาหิ้ว 5500 บาท ราคาร้านค้า 7000+

GTX D RH จะเด่นตรงรายละเอียดเสียงที่โดดเด่น โดยเฉพาะเสียงกลางแหลม
เสียงเอฟเฟคต่างๆนั้นจะมีความเด่นชัดมากๆ เนื้อเสียงมีความใส แวววาว ฉูดฉาด เวทีเสียงกว้าง
bodyเสียงคมขึ้นขอบ เนื้อเสียงมีความกระชับ แต่มิได้ควบแน่นกลมกลึงขึ้นเป็นรูปเป็นร่างแบบ wattgate
เครื่องดนตรีดนตรีต่างๆเสียงจะออกแนวอิเลคโทรนิคเป็น digital มากกว่า analog

GTX D RH ให้รายละเอียดภาพที่โดดเด่น เห็นรายละเอียดเล็กๆได้หมดจด ภาพคมขึ้นขอบ
ภาพในส่วนที่เป็นวัตถุกับฉาก ตัดกันอย่างชัดเจน
ภาพจึงมีความจัดเจน จะแจ้ง กระจ่างดีมาก เพราะโฟกัสภาพชัดมากขึ้น
แต่ภาพในบางลักษณะจะดูเหมือนเป็นการไปเร่ง sharpness ให้คมขึ้นจนดูแปลกๆ
สีสัน จะออกโทน digital  ด้านskintone(ผิวหนังคน)ทั่วๆไปจะดูเนียนๆขึ้น แลดูคล้ายกับผิวคนที่ทารองพื้นบาใบหน้า



Acoustic Revive Receptacle Plug "Oyaide s R1 Special Version" ราคา 8xxx บาท

ความโดดเด่นที่สุดของปลั๊กตัวนี้ นั่นคือ รายละเอียดอันพรั่งพรูมหาศาล ที่เหนือกว่าปลั๊กอื่นๆในตลาดอย่างชัดเจนครับ
ไดนามิคเรจ ไดนามิคคอนทราส มากกว่า wattgate 381 AU หรือแม้กระทั่ง fuutech GTX D RH เสียอีก
เสียงกลางในจะเจือด้วยความหวานฉ่ำ และโรแมนติก สามารถฟังเพลงได้ทุกประเภท
รวมไปถึงใช้ในระบบเสียง home theater ก็ให้ผลดี

แต่ข้อเสียอย่างยิ่งยวดนั่นคือ เป็นปลั๊กที่มีเนื้อเสียงน้อยมากๆ เบสมีปริมาณน้อย
ดังนั้นคนที่ต้องการฟังเสียงแบบ อิ่มเอิบ อวบหนา คงจะไม่ถูกจริตนัก

สำหรับด้านภาพ ปลั๊กตัวนี้ต้องยอมรับเลยว่าให้รายละเอียดสูงที่สุดและแสดงเฉดสีได้เที่ยงตรงแม่นยำที่สุดในบรรดาปลั๊กที่เคยผ่านมือผมมา
ปลั๊กส่วนใหญ่ที่เด่นเรื่องภาพมักจะมีสองกรณีเกี่ยวกับskintone คือ 1ใช้แล้วผิวคนเนียนเกินจริงเหมือนทาแป้งหรือรองพื้นดูเป็นdigitalเกินไป
2 ใช้แล้วผิวคนเข้มข้นมาก จากต้นฉบับที่เป็นคนเอเชียผิวเหลือง ดูกลายเป็นคนผิวแทน บ้างก็ดูเหมือนคนเพิ่งกินเหล้ามาจนหน้าแดงไปหมด๕๕๕
แต่กลับปลั๊กตัวนี้มิใช่เลยครับ มันสามารถแสดงskintoneได้อย่างสมจริง ผิวคนมีความชุ่มฉ่ำที่พอดี เฉดสีที่กว้างไล่สีอย่างเป็นธรรมชาติ
เสมือนกับว่าคุณกำลังดูภาพจากต้นฉบับอยู่ รายละเอียดหยุมหยิมเล็กน้อยสามารถแสดงให้เห็นได้อย่างหมดจด
ข้อด้อยเรื่องภาพ คือ มิติที่ค่อนข้างแบนราบไปทางฟิล์มภาพยนตร์ วัตถุมิได้ลอยเด้งจนตัดกับฉากหลัง เหมือนปลั๊กรุ่นอื่นที่เด่นเรื่องภาพ
และเนื้อภาพที่ค่อนข้างน้อย มิได้อิ่มเอิบ ซึ่งเป็นข้อด้อยในลักษณะที่ไปในทิศทางเดียวข้อด้อยเรื่องเสียง


.........

ถ้าได้ทอดสอบปลั๊กใหม่ๆเพิ่มเติมจะทยอยมาอัพเดทนะครับ  [หื่น] [หื่น] [หื่น]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2015, 12:33:32 am โดย แมวเหมียว »

ออฟไลน์ น้าSirota..มาแว้ว!

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 8,429
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #190 เมื่อ: เมษายน 11, 2014, 01:14:07 pm »
 [มากมาย]  เยอะ 55555

ออฟไลน์ Paramount

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 36
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #191 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2014, 11:15:18 am »
ท่าน Dramin รีวิวได้แซ๊บมากๆ เลยครับ ไม่รู้ว่าท่าน Dramin ได้รีวิว Sigma VS Mervel ไว้ที่ไหนบ้างหรือเปล่าครับ?
ผมกำลังตัดสินใจซื้อแต่เลือกไม่ถูก "รักพี่เสียดายน้องจริงๆ" ยังไงรบกวนท่าน Dramin แนะนำอีกหน่อยน่ะครับ [ปลื่ม] [ปลื่ม] [ปลื่ม]


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2014, 02:35:29 pm โดย Paramount »

ออฟไลน์ ซ่องเจ๊หวี

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 5,318
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #192 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2014, 10:35:53 pm »
ท่าน Dramin รีวิวได้แซ๊บมากๆ เลยครับ ไม่รู้ว่าท่าน Dramin ได้รีวิว Sigma VS Mervel ไว้ที่ไหนบ้างหรือเปล่าครับ?
ผมกำลังตัดสินใจซื้อแต่เลือกไม่ถูก "รักพี่เสียดายน้องจริงๆ" ยังไงรบกวนท่าน Dramin แนะนำอีกหน่อยน่ะครับ [ปลื่ม] [ปลื่ม] [ปลื่ม]

sigma เคยใช้ dune HD base 3D

marvel เคยใช้ cengrand 5i 360

เทียบเรื่องภาพและเสียง cengrand 5i 360 ดีกว่าพอสมควรครับ ภาพสว่างกว่า contrastสูงกว่า สีสันสดใส เข้มข้น คมชัดกว่า รายละเอียดดีกว่า
เสียงจะเปิดกว้าง กระฉับกระเฉง สด อิ่ม เนียน เด้งดึ๋งดั๋ง มีเรี่ยวมีแรงกว่า
ในขณะที่ dune HD base 3D ภาพออกแนว ตุ่นๆ ดูอบอุ่น ไม่หวือหวา เสียงก็ใช้ได้ ดีกว่าชิป realtek ในแง่น้ำหนักเสียง รายละเอียด
แต่ก็ยังไม่ถึงกับโดดเด่นเหมือน cengrand 5i 360
เพียงแต่ในแง่ความเสถียรของการเล่นไฟล์ MKV นั้น dune HD base 3D ดีกว่ามาก เล่นได้แทบทุกไฟล์ไม่ค่อยมีปัญหา
ในขณะที่ cengrand ความเสถียรในการเล่นไฟล์ mkv เข้าขั้นกาก ไฟล์เก่าๆกว่า 40% ไม่สามารถอ่านซับไตเติ้ลได้
และในแง่ของไฟล์ 3D ISO จากการทดสอบหลายๆไฟลฺพบว่า cengrand ทำได้ดีกว่า ไม่มีอาการสะดุด
ถ้าเป็น dune HD base 3D บางเรื่องจะพบอาการสะดุดบ้าง

* โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบแนวสีที่แสดงผลของ dune สักเท่าไหร่ เพราะถ้าเทียบกับสีมาตรฐานของเครื่องเล่นอื่นๆที่แสดงผลออกมาแล้ว
dune แลดูสบายตาก็จริง แต่สีดูตุ่นไปมาก ซึ่งถ้าอยากใช้ hd player ชิป sigma ที่สีสดๆ ก็ลอง popcorn รุ่น A410 ดูนะครับ(ผมยังไม่เคยลอง)


ออฟไลน์ Paramount

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 36
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #193 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2014, 02:32:47 pm »

ถ้าจะ Modify สายไฟ AC หลัง  LED TV มีวิธีทราบได้ไงว่าเส้นไหนเป็น L หรือ N ครับท่าน dramin  [จิ้ม]

ออฟไลน์ ซ่องเจ๊หวี

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 5,318
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #194 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2014, 12:11:51 am »

ถ้าจะ Modify สายไฟ AC หลัง  LED TV มีวิธีทราบได้ไงว่าเส้นไหนเป็น L หรือ N ครับท่าน dramin  [จิ้ม]

แต่ถ้าเป็น LED จะดูยากครับ เพราะ สายไฟสองขามันสลับไปมาได้ ตั้งแต่สายยันปลายสาย
ลองสลับขั้วสายไฟทั้งสองแบบแล้ว สังเกตุภาพที่ปรากฎดูครับ
...ถ้าเฟสไฟถูกต้อง ภาพจะมีความนวลหนา และกลมกลึง
...ถ้าเฟสไฟสลับ ภาพจะแห้งกว่าและขอบวัตถุจะขึ้นขอบมากกว่าเล็กน้อย

ทั้งนี้ต้องใช้ประสบการณ์และความเคยชินทางสายตาจากเจ้าของเครื่องทีวีนั้นๆในการทดสอบด้วย
และการใช้อุปกรณ์ดีๆในระบบ จะทำให้จับผิดความแตกต่างได้ง่ายกว่าอุปกรณ์ราคาเริ่มต้น

ออฟไลน์ yuiisay4

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 10
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #195 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2014, 03:22:45 pm »
โอว น่าสนมาก

ออฟไลน์ ซ่องเจ๊หวี

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 5,318
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #196 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 01:59:15 pm »
กระทู้บอร์ดนี้หายไปเยอะมาก กระทู้รีวิวของคนอื่นหายไปเยอะเลย เหลืออยู่หน้าเดียวเอง

 [ร้องไห้] [ร้องไห้] [ร้องไห้]

ออฟไลน์ น้าSirota..มาแว้ว!

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 8,429
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิวแบบกากๆ กับ panasonic 55VT60
« ตอบกลับ #197 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 02:29:59 pm »
กระทู้บอร์ดนี้หายไปเยอะมาก กระทู้รีวิวของคนอื่นหายไปเยอะเลย เหลืออยู่หน้าเดียวเอง

 [ร้องไห้] [ร้องไห้] [ร้องไห้]
ของผมก็หาย [ร้องไห้] [ร้องไห้] [ร้องไห้]