29 Apr 2022
Review

รีวิว Polk MagniFi 2 เบสกระหึ่ม ฟีเจอร์แน่น ดูหนังก็ดี ฟังเพลงก็โดน


  • TopZaKo

รับชมรีวิววีดีโอได้ที่นี่

ลำโพง Soundbar เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ของคนในยุคปัจจุบันที่ต้องการจะอัปเกรดคุณภาพเสียงจากลำโพงของ TV ให้เราดูหนังฟังเพลงได้สนุกมากขึ้น แถมยังติดตั้งง่าย เพียงแค่เสียบปลั๊กต่อสาย HDMI เข้ากับทีวีก็พร้อมใช้งานแล้ว วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ Polk MagniFi 2 เป็นลำโพง Soundbar อีกหนึ่งรุ่นที่ให้คุณภาพเสียงที่ดี มีฟีเจอร์จัดเต็มพอสมควร จะมีอะไรที่น่าสนบ้าง ตามมาดูในรีวิวกันครับ

Design – การออกแบบ

การออกแบบ ของ Polk ManiFi 2 เครื่องนี้ถือว่าดูดีทีเดียวเลย ตัวเครื่องมาในโทนสีดำเทา ใช้วัสดุผ้าที่ให้เสียงผ่านได้ครอบคลุมตัวเครื่องโดยรวมไว้ ด้านข้างตัวเครื่องจะเป็นสีดำด้านตัดกับดำเงาเพื่อเพิ่มความหรูหรา มีโลโก้ Polk Audio อยู่ที่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่องด้วย

ตัวเครื่องโดยรวมจะเป็น ทรงยาว มีขนาดค่อนข้างบาง มีขนาดโดยประมาณอยู่ที่ ยาว 95 ซม. ลึก 10 ซม. และสูงเพียง 5 ซม. เท่านั้น ซึ่งถือว่าดีมากๆ เพราะเวลาเรานำตัวลำโพงไปวางใช้งานที่หน้า TV ก็จะไม่บังหน้าจอและไม่บังเซนเซอร์รีโมทของ TV สามารถนำไปใช้งานได้กับทีวีหลายรุ่นหลายขนาด แต่เนื่องจากตัวลำโพงมีความยาวค่อนข้างมากส่วนตัวผมแนะนำว่าให้ ใช้งานร่วมกับทีวีสักขนาด 55-65 นิ้วขึ้นไปจะเข้ากันได้อย่างลงตัว

ที่ด้านหน้า บริเวณตรงกลางของตัวเครื่องจะมีไฟแสดงสถานนะต่างๆ ของตัวเครื่องซ่อนอยู่ใต้ผ้ามาให้ โดยจะแสดงจำนวนไฟและเปลี่ยนสีไปตามสถานะต่างๆ เช่น สีส้ม On/PCM, เขียว Dolby Digital, เหลือง DTS, ม่วง Night Mode และ ขาว Google Chrome Cast Built-In ในการใช้งานจริงช่วงแรกอาจดูงงและสับสนเล็กน้อยว่าไฟแต่ละแบบหมายถึงอะไร แต่หากใช้งานไปสักพักก็จะสามารถเข้าใจได้ไม่ยาก สำหรับไฟสถานะต่างๆ แบบละเอียดสามารถดูตามภาพด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ตัวอย่างไฟสถานนะที่หน้าตัวเครื่อง
ไฟสถานะต่างๆ

ในส่วนของดอกลำโพงนั้นจะใช้การ วางดอกลำโพงแบบ SDA (ทาง Polk ไม่ได้มีรูปภายในออกมาให้ดูกัน) ภายในจะประกอบไปด้วย ลำโพง Midrange แบบวงรีขนาด 1 x 3 นิ้ว จำนวน 4 ดอก และลำโพง Tweeter ขนาด 0.75 นิ้ว 2 จำนวนดอก โดยลำโพง Midrange จะแบ่งเป็นข้างละ 2 ดอก ดอกหนึ่งจะยิ่งเสียงไปด้านหน้าตามปกติและอีกดอกหนึ่งจะยิงเสียงออกด้านข้างเพื่อลดทอนความผิดเพี้ยนของเสียง ให้เสียงที่สมจริง มีเวทีเสียงที่โอบล้อม กว้างกว่าวางลำโพงแบบทั่วไป ซึ่งเป็น เทคโนโลยีแบบเดียวกับลำโพงระดับ Hi-End อย่าง Polk Legend L800 เลยทีเดียว

ตัวอย่างทิศทางของเสียงการวางลำโพงแบบ SDA
Polk Legend L800

ที่ด้านบน จะเป็นปุ่มสำหรับควบคุมตัว Soundbar จะประกอบไปด้วย ปุ่ม เปิด/ปิด เครื่อง, ปุ่มเลือกสัญญาณ Input, ปุ่ม Bluetooth, ปุ่ม ปิดเสียง (Mute) และปุ่ม เพิ่ม/ลด ความดังเสียง

ด้านหลัง จะเป็นในส่วนของช่องต่อสายสัญญาณต่างๆ (เดี๋ยวจะอธิบายอีกทีในส่วนของช่องต่อ) และจะมีรูสำหรับใช้ยึดแขวนตัวลำโพง Soundbar กับผนังมาให้ด้วย

ดูที่ตัว Soundbar หลักกันไปแล้วทีนี้มาที่ลำโพง Active Subwoofer ไร้สายกันบ้าง ตัวตู้จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกคุณภาพสูง ดูแข็งแรง ขนาดกำลังดี มีดีไซน์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากลำโพง Subwoofer ทั่วไป ดูโค้งมน ด้านบนมีการทำลวดลายพร้อมโลโก้ Polk เอาไว้ด้วย ด้านหลังมีช่องต่อสายไฟกับปุ่ม Connect เผื่อสัญญาณหลุดมาให้ ตัวตู้ใช้การออกแบบดีไซน์ตัวตู้แบบ Down – Firing ยิงเสียงลงด้านล่าง โดยที่ด้านล่างจะเป็นที่อยู่ของดอกลำโพง Woofer ขนาด 8 นิ้ว ที่เป็นขุมพลังเสียงเบสของลำโพง Soundbar ตัวนี้ พร้อมท่อคายเบสอยู่ข้างๆ กัน ทำให้เสียงเบสที่ได้กระจายแผ่คลุมทั่วห้องและจุดนั่งฟังได้เป็นอย่างดี

รีโมท มีขนาดเล็กกำลังดี ให้ปุ่มมาครบครัน สำหรับปุ่มที่น่าสนใจและใช้กันบ่อย เช่น ปุ่มเลือก Input ต่างๆ , ปรับ เพิ่ม/ลดความดังโดยรวม, ปรับ เพิ่ม/ลด เสียงเบส กับ เสียงพูด และ โหมดเสียงต่างๆ ซึ่งปุ่มกดจะเป็นแบบยางอาจต้องออกแรงกดเล็กน้อยในการใช้งาน แต่จะได้ในเรื่องความพรีเมี่ยมและความแข็งแรงทนทานเข้ามาแทน

สายและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ให้มาในกล่อง

Connectivityช่องต่อ

สำหรับ ช่องเชื่อมต่อ จะอยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วย HDMI จำนวน 4 แบ่งเป็น HDMI In 3 ช่อง, HDMI Out 1 ช่อง รองรับการส่งผ่านสัญญาณภาพ Passthrough ในแบบ 4K HDR ได้ทั้ง HDR 10 กับ Dolby Vision รวมถึง รองรับฟีเจอร์ ARC ส่งเสียงย้อนกลับจากทีวีมาที่ลำ Soundbar ได้ด้วย โดยผมต้องขอชมเลยว่าการออกแบบที่เสียบสายแบบหันออกด้านหลังแบบนี้ทำให้สามารถเสียบเข้าออกได้ง่ายไม่ต้องกังวลว่าสายจะงอหรือหักแต่อย่างใด

มีช่องต่อ Optical Input สำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์รุ่นเก่าๆ , มีไฟสถานะการเชื่อมต่อ Wi-Fi, ปุ่มพร้อมไฟสถานะการเชื่อมต่อลำโพง Subwoofer กับลำโพง Surround ไร้สาย, ช่อง Service, ช่องเสียบสายไฟ และตัว Soundbar ยัง รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Wi-Fi กับ Bluetooth ได้อีกด้วย

Featuresฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Polk MagniFi 2 เครื่องนี้มีความโดดเด่นก็คือรองรับการใช้งานฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ เยอะพอสมควรมีอะไรบ้างมาไล่เรียงกันครับ

อย่างแรก เลยก็คือเนื่องจากทาง Polk ได้วางให้ลำโพง Soundbar รุ่นนี้เปรียบเสมือนเป็นอุปกรณ์ Smart Home ชิ้นหนึ่งภายในบ้านด้วย จึงมาพร้อมการรองรับการใช้งานร่วมกับแอป Google Home ด้วยนั่นเอง โดยเราสามารถใช้แอปนี้ไว้สำหรับเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือระบบ Internet ภายในบ้าน ใช้เพื่ออัปเดทเฟิร์มแวร์ ตั้งค่าและควบคุมตัวลำโพงเบื้องต้นได้

อย่างที่ 2 Polk MagniFi 2 ยังรองรับการฟังเพลงในแบบไร้สายผ่านการ Cast อย่าง Google Chrome Cast Built-In ได้ด้วยสามารถส่งเพลงต่างๆ จากมือถือผ่านแอปอย่าง Spotify, Tidal หรือ YouTube Music ขึ้นไปเล่นที่ลำโพง Soundbar ได้เลย ซึ่งการ Cast จากแอปต่างๆ จะให้เสียงที่ดีกว่าการฟังผ่าน Bluetooth อย่างแน่นอน

อย่างที่ 3 รองรับการ ใช้งานกับร่วมกับ Google Assistant ได้ คือเราสามารถสั่งงานคำสั่งเสียงผ่านอุปกรณ์อย่าง Google Home, ผ่าน Google Assistant บนมือถือหรือ TV เพื่อควบคุมสั่งงานเล่นเพลงต่างๆ บน Polk MagniFi 2 ได้

อย่างที่ 4 Polk MagniFi 2 ยัง รองรับการเชื่อมต่อลำโพง Surround ไร้สาย เพื่อรับฟังเสียงในรูปแบบรอบทิศทางที่สมจริงมากยิ่งขึ้นได้ด้วย โดยจะรองรับการใช้งานร่วมกับ Polk SR2 ซึ่งทางทีมงานไม่ได้รับมาร่วมทดสอบในครั้งนี้และดูเหมือนว่าทางผู้นำเข้าในประเทศไทยจะไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายด้วยครับ

Polk SR2