29 May 2019
Article

3 ปัญหาหลักๆ ที่ Netflix มี แต่คู่แข่งเจ้าอื่นๆ นั้นไม่มี!!


  • tormoo

แน่นอนว่าเบอร์ 1 ในวงการสตรีมมิ่งในตอนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Netflix บริการสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่จากสหรัฐที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากแฟนๆ ซึ่งแน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างยอมมีจุดอ่อนและแน่นอนว่า Netflix เองก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน มาดู 3 ปัญหาหลักๆ ที่ Netflix มีแต่คู่แข่งเจ้าอื่นๆ นั้นไม่มีจะมีอะไรบ้างมาดูกัน

1.ปัญหาเรื่องการนำเสนอ 

Netflix ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริการที่ส่งดีวีดีทางไปรษณีย์และกลายเป็นยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีที่แท้จริงเมื่อเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งในปี 2007 ต่อมา Netflix ได้สร้างสตูดิโอและเนื้อหาวิดีโอของตนเองเพื่อลดต้นทุนและขยายคลังเนื้อหาพิเศษของตัวเอง แต่ในขณะที่บริษัทอื่นๆ นั้นกลับมีเนื้อหาที่ไม่ใช่ Original Content ให้เลือกดูเยอะกว่า

และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Netflix ไม่ได้เปรียบนั่นก็คือการที่ไม่มี ecosystem เป็นของตัวเองแตกต่างจาก Amazon ที่มีอุปกรณ์อย่าง Fire TV ที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Amazon ผ่านอุปกรณ์ Fire TV ซึ่งแตกต่างจาก Netflix ที่เป็นเพียงแอปจากจำนวนหลายๆ แอปเท่านั้นไม่ได้มีอุปกรณ์และ ecosystem เป็นของตัวเอง

2. เรื่องของเงิน

การกระจายการลงทุนมีความสำคัญบริการสตรีมเป็นสิ่งที่ใหม่มากและไม่ได้กำไรอย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อเทียบกับ Apple ที่มีเงินสดในการปล่อยเนื้อหาสตรีมมิ่งใหม่จำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สำหรับ Apple TV+ ที่กำลังจะเปิดให้บริการและAmazon สามารถนำเงินจากส่วนอื่น ๆ ของธุรกิจมาลงทุนเพื่อสร้างผลกำไรได้ แตกต่างจาก Netflix ที่มีแหล่งรายเงินในมือที่มาจากเครดิตเท่านั้น 

อีกหนึ่งเรื่องที่น่าจับตามองก็คือ Netflix นั้นเป็นมีหนี้ระยะยาวมากกว่า $ 10,000 ล้านจากการรายงานเมื่อปลายปีที่แล้วและเพิ่มขึ้นเกือบ 60% จากปีที่แล้ว และเมื่อเทียบกับคู่แข่งก็ถือว่า Netflix มีหนี้อยู่ในมือมากพอสมควรบวกกับนักวิเคราะห์หลายๆ รายได้จัดให้ Netflix เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงแต่ผลตอบแทนสูง นั่นเอง เรียกได้ว่าปัญหาก็คือ Netflix นั้นไม่ได้มีเงินสดและช่องทางการกระจายรายได้ที่ดีพอเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ

3.เรื่องของผลกระทบจากการมาของบริการเจ้าอื่น

Netflix นั้นเริ่มสร้าง Original Content เพื่อที่หวังจะดึงดูดผู้ชมและทำกำในระยะยาวแต่ปํญหาก็เริ่มเกิดในระยะเร็วๆ นี้จะเห็นได้ว่าผู้ผลิตบางส่วนนั้นเริ่มตีตัวออกห่างจาก Netflix กันไปบ้างแล้ว นับตั้งแต่การเปิดตัว House of Card ซีรีส์ Original Content เรื่องแรกของ Netflix ที่ดูเหมือนว่าหลังจากซีรีส์เรื่องนี้ก็จะมีเพียงซีรีส์เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ทำกระแสได้ดีมากในระดับนั้น

กลับกันการมาของ Disney+ ที่มีทั้งค่ายภาพยนตร์, แฟนรด์ไชส์ภาพยนตร์ระดับ Blockbuster ทั้งหลายนั้นดูจะเป็นอะไรที่น่าสนใจกว่ามากในตอนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนด้วยเพราะ Disney เองไม่ได้มีเพียงแค่ภาพยนตร์แต่ยังมีค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งสวนสนุก Disney เองก็มีแต่กลับกัน Netflix เองก็เพิ่งจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่เมื่อไม่นานมานี้จึงยังไม่ได้มีความครบเครื่องในระดับเดียวกับ Disney

ที่มา : fool.com