09 Dec 2020
Article

เทียบให้แล้ว Hisense U800 vs Hisense U700 มีอะไรแตกต่างกันบ้าง!


  • Dear_Sir

Hisense U800QF และ Hisense U700WF ต่างก็เป็นทีวีตระกูล ULED (LED TV เกรดพรีเมี่ยมของ Hisense) ความละเอียด 4K รองรับ HDR ขั้นท็อป Dolby Vision ด้วยกันทั้งคู่ เพียงแต่ด้วยระดับราคาที่แตกต่างกันของทั้งสองรุ่น ก็ย่อมมีจุดแตกต่าง บทความนี้จะพาทุกคนไปดูว่าทั้งสองรุ่นมีจุดไหนที่ต่างกันบ้าง

Design

ในภาพรวมถึงแม้รูปทรงของขาตั้ง แบะตัวกรอบทีวีของทั้ง U800QF (U800) และ U700WF (U700)จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ด้วยสีสันที่ใช้ทำให้ทีวีทั้งสองรุ่นมีสไตล์ที่ต่างกัน รุ่นพี่อย่าง U800 ทำขาตั้งมาในโทนสีเทาด้าน สอดรับเข้ากับลำโพงรูปทรง Speaker Bar ทำให้ตัวเครื่องดูสุขุมนุ่มลึก ผิดกับ U700 ที่ไม่ว่าจะขาตั้ง หรือกรอบด้านล่างทีวีจะทำเป็นสีเงินแวววาว ภาพรวมจึงทำให้ตัวทีวีดูรุกเร้า สะดุดตา

U700 ขาตั้งจะชิดขอบเครื่อง

แต่มีจุดหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าชื่นชอบในตัว U800 เป็นพิเศษก็คือตำแหน่งของขาตั้งทีวี ถ้าสังเกตให้ดีตำแหน่งขาตั้งทีวีของ U800 จะขยับเข้ามาบริเวณกึ่งกลางจอ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องคิดคำนึงเรื่องความยาวของชั้นวางทีวีมากนัก ส่วน U700 ปลายของขาตั้งทีวีแทบจะพอดีกับความยาวของจอเลย ดังนั้นถ้าผู้ใช้คิดจะซื้อรุ่นนี้ต้องคำนวณความยาวของขาตั้งทีวี กับชั้นวางตัวเองให้ดี

Hisense U800 ตำแหน่งขาตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางเครื่อง

Backlight

Hisense U800 มีโครงสร้างการวางหลอด LED Backlight แบบ Full Array LED จึงทำให้สามารถควบคุมระดับสีดำบนพื้นที่การแสดงผลได้อย่างดีเยี่ยม โดยในขนาด 55″ สามารถคุมได้ 132 โซน ส่วนขนาด 65″ สามารถคุมได้ 240 โซน ขณะที่รุ่น U700 วางหลอดแบบ Edge LED สามารถคุมได้ 16 โซน ประโยชน์สูงสุดของการคุมระดับสีดำของทีวีก็คือสีสันของภาพ รวมไปถึงความสบายตาขณะดูทีวีในห้องมืดสนิท

Hisense U800 ใช้โครงสร้างแบบ Full Array LED Backlight

Picture

Hisense U800 และ U700 เป็นทีวี 4K รองรับ HDR ขั้นท็อปอย่าง Dolby Vision เหมือนกัน เป็นเพียงสองรุ่นที่อยู่ในตระกูล ULED ของ Hisense ประจำปี 2020 แต่ถึงทั้งสองรุ่นจะอยู่ในตระกูล ULED ที่เป็น LED เกรดพรีเมี่ยมของ Hisense ด้วยกันทั้งคู่ แต่มันก็ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่โดย U800 จะได้เทคโนโลยี Quantum Dot เข้ามาทำให้รุ่นนี้สามารถแสดงสีสันได้มากกว่า และยังมีความสว่างสูงสุดถึง 1,000 nits ขณะที่รุ่นน้อง U700 ทำได้ที่ 430 nits

Hisense U800 ใช้เทคโนโลยี Quantum Dot ผสานเข้ากับฟีเจอร์ WCG (Wide Color Gamut) จึงทำให้ทีวีสามารถแสดงขอบเขตสีได้กว้างกว่า จึงทำให้การไล่ระดับสีสันเวลาทีวีแสดงภาพออกมาเป็นไปอย่างเนียนตาและเป็นธรรมชาติ ขณะที่รุ่น U700 จะได้เพียงฟีเจอร์ WCG เท่านั้น

Smart TV

Hisense U800 จะใช้ระบบปฏิบัติการ VIDAA U เวอร์ชัน 4.0 ส่วน Hisense U700 จะใช้เวอร์ชัน VIDAA U 3.0 โดยในเวอร์ชัน 4.0 จะมีจุดเด่นเรื่อง user interface ที่มีความสวยงามน่าใช้งานมากกว่า และจะมีตัวเลือกแนะนำในการรับชมของแต่ละแอปฯ ขึ้นมาให้ และเมื่อกดปุ่ม Home เพื่อเข้าหน้าหลัก ตัวเมนูจะถูกดึงขึ้นมาบดบังสิ่งทีเรากำลังรับชมอยู่ในขณะนั้น ขณะที่ในเวอร์ชัน 3.0 หากเรากดปุ่ม Home ตัวเมนูที่เด้งขึ้นมาจะเป็นแบบป๊อบอัพ ซ้อนทับกับสิ่งที่เรากำลังรับชมอยู่

ระบบปฏิบัติการ VIDAA U 4.0

Sound

ถึงแม้ว่ากำลังขับของ Hisense U800 และ U700 จะเท่ากันคือ 10W x 2 แต่ต้องยอมรับว่าพลังเสียงจริงๆ ของ U800QF มีภาษีที่ดีกว่า  เพราะลำโพงที่ติดมากับรุ่น U800 นั้นได้รับการออกแบบโดย JBL จึงทำให้เรื่องมิติเสียง รายละเอียดการถ่ายทอดเสียงในด้านต่างๆ จึงเหนือกว่ารุ่นน้อง

Sound By JBL!!

ทั้งหมดนี้คือข้อแตกต่างหลักเด่นๆ ระหว่างรุ่นพี่ Hisense U800 กับรุ่นน้อง U700 ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นพี่ก็ต้องโดดเด่นกว่าในหลายๆ ด้าน และก็ย่อมมาพร้อมกับค่าตัวที่เพิ่มขึ้นมาด้วย แต่ถึงช่วงราคาจะแตกต่างกัน ทั้งสองรุ่นก็ให้สเปค คุณภาพ คุ้มค่าต่อช่วงราคาของตัวเอง ดังนั้นการเปรียบเทียบในบทความนี้จึงหวังว่าจะช่วยตอบคำถาม และข้อสงสัยว่าทั้งสองรุ่นนี้ว่ามีจุดไหนแตกต่างกันบ้าง

Hisense 55U800QF ราคาเปิดตัว 34,990 บาท

Hisense 65U800QF ราคาเปิดตัว 42,990 บาท

Hisense 55U700WF ราคาเปิดตัว 27,990 บาท

Hisense 65U700WF ราคาเปิดตัว 34,990 บาท