05 Jun 2014
Article

คำถามโลกแตก !!! LCD TV กับ Plasma TV ต่างกันอย่างไร และ อะไรดีกว่ากัน ???


  • lcdtvthailand

แล้วสรุปเลือกตัวไหนดีกว่ากันระหว่าง LCD TV VS Plasma TV ?

LCD หรือ LED TV และ Plasma TV มันไม่มีอย่างไหนดีกว่ากัน เพราะมันดีกันคนละแบบครับ !!! โดยแต่ละตัวก็มีข้อดี+ข้อด้อยแตกต่างกันออกไป  ดังนี้เราจึงต้องศึกษาอ่านรีวิว+บทความ และไปทดลองรับชมภาพจริงๆทีเพื่อเลือกทีวีที่ “เหมาะสม” กับ “ห้องของเรา” และ “ไลฟ์สไตล์ของเรา” มากที่สุดครับ

จะซื้อทีวี ต้องเข้าใจคำว่า “Matching”

การเลือกซื้อทีวีคือ “ศาสตร์” ที่เรียกว่าการ “Matching” ครับ หากคนเล่นเครื่องเสียงจะเข้าใจความหมายนี้ดี

เลือกโดยปัจจัยหลักเหล่านี้

1. ยี่ห้อ :: ความชื่นชอบ / ชื่อเสียง / แนวภาพ

2. ขนาดของจอ :: ใกล้ๆ = จอเล็ก / ไกลๆ = จอใหญ่ เป็นต้น

3. ประเภทของจอ :: LED TV / LCD TV / Plasma TV

ให้เหมาะสมกับ

1. ห้องที่เราจะเอาไปตั้ง :: ห้องนอน / คอนโด / ห้องนั่งเล่น / ห้องโฮมเธียเตอร์ / คุมแสงได้ดีหรือไม่ ?

2. ไลฟ์สไตล์ของเรา

3. งบประมาณ

Matching = การเลือกทีวีให้เหมาะสมกับตัวคุณและห้องของคุณ

และไม่จำเป็นต้องเลือกทีวีตัวที่ดีที่สุดเสมอไป และอย่างที่บอกไลฟ์สไตล์ของคนเราไม่เหมือนกัน ฉะนั้นการที่จะไป “ตัดสิน” ว่า LCD TV หรือ Plasma TV ตัวไหนดีกว่ากัน ? มันไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดของคำถามนี้บนโลกใบนี้ !!! แต่กลับกันหากเรายึดหลัก “Matching” ทีวีให้เหมาะสมกับเรามากที่สุดทั้งเรื่องของ ห้องที่จะวาง / ไลฟ์สไตล์ / งบประมาณ ทีวีเครื่องนั้นก็จะสามารถสร้างความสุขให้กับคุณได้อย่างเต็มที่โดยคุณไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลังเรื่องอื่นๆอีกเลย

ตัวอย่างการ Matching LCD TV หรือ Plasma TV ให้เหมาะสมกับผู้ใช้

1. LCD TV มันเหมาะสมกับห้องคุณมากกว่านะ เพราะว่า ตั้งไว้ในห้องรับแขก  ใช้งานตอนกลางวันซะส่วนใหญ่ คุมแสงไม่ได้ ดูหนังไฮเดฟกับเล่นเกมส์บ่อย ต่อคอมบางครั้งบางคราว LCD TV น่าเหมาะสมกว่า เพราะสว่างสู้แสงได้ดีกว่า

2. ห้องคุมแสงได้ดีระดับนึง ชอบภาพนวลสบายตา ดูหนังไฮเดฟและฟรีทีวีบ่อยมาก ขอไม่แพงนักแต่ได้จอใหญ่ๆสะใจ ==> ก็แนะนำ Plasma TV

3. เพิ่งเปิดโรงแรม ต้องการทีวีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ทนทาน+ทนไม้ทนมือแขกมือบอนที่ชอบเปิดทิ้งไว้นานๆ ไม่ร้อนง่าย เอาราคาถูกๆด้วย ==> ก็ LCD TV 32″ ไปเลยครับเพ่

4. ชอบภาพแนวโรงหนัง มิติภาพดี ขอภาพเคลื่อนไหวลื่นๆเป็นธรรมชาติหน่อย แต่ห้องคุมแสงได้ระดับนึงแต่ไม่ถึงกับดีมาก มีม่านบังตาบ้าง ==> ก็แนะนำ Full HD Plasma TV รุ่นท็อปๆที่จอกันสะท้อนได้ดี


5. ชอบภาพสีสดใส แต่ขอจอบางๆหน่อยนะ เพราะอยู่คอนโดต้องแขวนผนัง แบบว่ามีพื้นที่จำกัด และรวมถึงชอบดีไซน์บางเฉียบล้ำๆด้วย ดู Blu-ray และ DVD บ่อยๆ ดูฟรีทีวีจากจานแดงบ้าง (ติดกันทั้งคอนโด) ระยะห่างประมาณ 2 เมตร ==> แนะนำจอ LCD TV ที่ใช้หลอดไฟ Backlight แบบ LED ขนาดจอ 40″ ไปเลยครับท่าน 

หมายเหตุ :: 5 ข้อข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างจากประสบการณ์ของผมและทีมงานเท่านั้น ส่วนการ “Matching” เลือกซื้อทีวีให้เหมาะสมกันตัวท่านนั้น นอกจากศึกษาในเว็บแล้ว สิ่งที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือควรจะต้องไปดูตัวจริง ภาพจริง ดีไซน์จริงๆตามห้างร้านด้วย แต่พยายามหาห้างร้านหรือสถานที่ทดสอบที่สภาพแวดใกล้เคียงกับห้องในบ้านของท่าน เพราะในห้างร้านส่วนใหญ่มักจะเปิดไฟสว่างจ้าพร้อมปรับโหมดภาพของทีวีให้อยู่ในโหมดสว่างที่สุดเพื่อให้ดึงดูดลูกค้าที่สัญจรไปมา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสภาพแวดล้อมและโหมดภาพที่เรา “ไม่ได้” ใช้งานตามปกติ ทีวีบางประเภทอย่าง Plasma TV เมื่อโดนแสงกระหน่ำสาดเข้าไปเยอะๆ ภาพจะดูดร็อปลงไปจนเกินจริง ซึ่งหากเอาไปรับชมที่บ้าน ภาพก็จะไม่ได้ดร็อปลงขนาดนั้น หรือแม้กระทั่ง LED / LCD TV ที่มักจะถูกเร่งแสงสีให้ดูสดสว่างจนโอเวอร์ แน่นอนว่ามันจะสร้างความประทับใจยามแรกพบ แต่หากดูภาพสดสว่างขนาดนั้นนานเข้าจริงคงล้าสายตาแย่ เป็นอีกข้อพึงระวังเมื่อตัดสินใจเลือกซื้อทีวีที่หน้าร้านครับ 

โดยโหมดภาพที่เหมาะสมกับการรับชมจริงภายในบ้านและยังเป็นมิตรกับสายตาของเราทั้ง LCD และ Plasma TV คือโหมด Cinema, Movie, Expert, Professional, Photo, Custom ซึ่งโหมดเหล่านี้ให้ค่าแสงสีที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติกว่าพวกโหมด Vivid, Dynamic, Bright ซึ่งจะเร่งแสงสีมาจนโอเวอร์ หรือหากอยากให้สดใสขึ้นมาหน่อยโดยไม่ทิ้งความเป็นธรรมชาติไปมากนักก็ให้ลองโหมด Standard, Normal ดูครับ (ชื่อโหมดภาพของทีวีแต่ละแบรนด์จะเรียกไม่เหมือนกัน)

รวมถึงเรื่องไลฟ์สไตล์ด้วยครับ เป็นสิ่งที่เป็นปัจจัยแรกๆในการตัดสินใจซื้อของหลายคนมากกว่าคุณภาพของภาพด้วยซ้ำ อาทิเช่น ดีไซน์ความบาง สีของตัวเครื่อง ความชื่นชอบจงรักภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งจะยิ่งเป็นเหตุผลส่งเสริมให้คุณหาทีวีตัวที่ “เหมาะสม” กับคุณได้ง่ายขึ้นอีกระดับ


ผมยกอีกหนึ่งตัวอย่างคำถามโลกแตกเลยนะครับ (ข้อมูลปี 2011)

iPhone หรือ Blackberry อันไหนดีกว่ากัน ?

หากเป็นพวกหัวรั้น ก็จะตอบสิ่งที่ตัวเองใช้อยู่ เช่น iPhone 4 สิ จอใหญ่กว่า กล้องชัดกว่า มี Apps เยอะแยะเป็นหมื่นเป็นแสนให้โหลดให้เล่น หรือ BB สิ Chat กันทั้งกลุ่มได้นะ แล้วก็หากเหตุผลร้อยแปดมาเถียงกันจนหัวชนฝา

แต่หากมาถามผมว่าผมจะเลือกใช้อะไร ? ผมคงตอบได้เต็มปากว่า “Blackberry” มัน “เหมาะสม” กับผมมากกว่า iPhone ครับ เพราะ Lifestyle ของผมครับ ชอบมือถือที่มีปุ่มกดจริงๆ มันสัมผัสแล้วได้ความรู้สึกกดลงไป งานผมเน้นเช็ค E-Mail ซึ่งมาเยอะมากๆต่อ 1 วัน ระบบ Push mail มันรวดเร็วมาก ตอบสนองผมได้ทันใจ แล้วพิมพ์ E-Mail ตอบกลับได้ง่ายอีกต่างหาก รวมถึงเข้าเว็บไซต์นิดๆหน่อย เช็ค Facebook ขำขันได้ แถมแบตเตอรี่อยู่ทนพอสมควร ผมเป็นพวกขี้เกียจชาร์จมือถือบ่อยๆ

ดังนี้ Blackberry มันเลยตอบโจทย์ผมได้มากกว่า จึงเป็นมือถือที่ “เหมาะสม” กับผมมากกว่า แต่ผมไม่ได้บอกเลยว่ามันดีกว่า iPhone กลับกันผมคิดว่า iPhone โดยรวมแล้ว “ล้ำหน้ากว่า Blackberry” ไปหลายก้าวด้วยซ้ำ (รู้ๆกันอยู่) ลูกเล่นเยอะกว่า Blackberry ของผมมากมาย มี Apps แปลกๆให้โหลดกระจาย จอกว้างใหญ่ ดูไฮโซหรูหราอินเทรนด์สุดๆ แต่ผมพินิจพิเคระาห์แล้วว่า ด้วย Lifestyle ของผมเป็นแบบนี้ Blackberry มันจึงเหมาะกับผมมาก ทุกวันนี้ก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผมได้มากมายและมีความสุขที่ได้มีมันอยู่ในกระเป๋ากางเกงจนมาถึงทุกวันนี้ ดังนี้อย่างที่บอก “จง Matching ให้เหมาะสม” แต่จงอย่าตัดสินว่า “ตัวนั้นดีกว่าตัวนี้” !!!!

จริงๆแล้วทีมงาน LCDTVTHAILAND ก็มีประสบการณ์จัดงานบรรยายกึ่งฟันธงโดยนำพวก LED / LCD TV รุ่นท็อปมา “ปะทะ” Plasma TV ตัวท็อปมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ทดสอบทั้งแบบสภาพแวดล้อมที่ทั้งคุมแสงได้ 100% ห้องมืดสินทเหมือนในห้องนอน หรือเปิดม่านเพื่อให้แสงสาดเข้าห้องมาเหมือนเรากำลังรับชมในห้องนั่งเล่นตอนกลางวันปกติ ซึ่งผลลัพธ์คือ LED / LCD TV และ Plasma TV ตัวท็อปก็ “ผลัดกัน” ได้รับการโหวตว่า “ชื่นชอบที่สุด” โดยแฟนๆเว็บที่เข้ามารับชม บางปี LED TV ก็ได้รับโหวตว่าเป็นที่ชื่นชอบกว่า บางปีก็เป็น Plasma TV ที่ได้รับการโหวตสูงสุด หากท่านผู้อ่านสนใจงานลักษณะนี้ก็ติดตามข่าวในเว็บเราให้ดี