Mini LED คืออะไร ?
Mini LED คือ หลอด LED Backlight รูปแบบล่าสุด สำหรับใช้งานร่วมกับจอ LCD (Liquid Crystal Display) หรือ LED TV ที่เรา ๆ ท่าน ๆ เรียกกันติดปาก ความพิเศษคือ ขนาดของหลอด Mini LED ถูกพัฒนาให้เล็กลงและบางมาก สามารถจัดวางเรียงรายได้ถี่ละเอียด และมีระยะติดตั้งที่ “แนบชิด” เหมือนผสานเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับ LCD Panel
Mini LED ให้ผลลัพธ์ดีขึ้นอย่างไร ?
โดยศักยภาพของ 2021 Mini LED TV หากอิงข้อมูลจากหลายผู้ผลิตที่ทยอยเปิดเผยออกมานั้น ที่ขนาดจอภาพใหญ่สุดในปัจจุบัน คือ 85 – 86 นิ้ว จะติดตั้ง Mini LED จำนวนมากเกือบ 30,000 หลอด ซึ่งสามารถทำ Dimming Zones ได้สูงสุดราว 2,500 โซน ! เหนือกว่า Full-array LED Backlight ตัวท็อปของเจนเนอเรชั่นก่อน ที่ทำได้ 1,000 โซน เป็นอย่างมาก
และถึงแม้จะติดตั้งหลอด Mini LED จำนวนมาก ความสว่างสูงขึ้น (HDR Peak Brightness >1,000 nits เป็นคุณสมบัติขั้นต่ำ) ทว่าอัตราใช้พลังงานไฟฟ้าไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนที่ยังใช้ LED Backlight รูปแบบเดิม ดังนั้นถ้าพูดถึงประสิทธิภาพ (Efficiency) จะว่า Mini LED ประหยัดพลังงานกว่า ก็คงได้
ผลพลอยได้จากโครงสร้าง Mini LED Backlight ที่เล็ก จัดวางได้แนบชิดกับ LCD Panel ทำให้จอภาพ “บาง” ลง (เมื่อเทียบกับ Full-array LED Backlight แบบเดิม) ประเด็นนี้อาจไม่ได้ให้ประโยชน์ในแง่คุณภาพของภาพและเสียงก็จริง แต่ก็ส่งผลกับ “รูปลักษณ์ความสวยงาม” และยังลดทอนการใช้วัสดุบางส่วนลงได้ ซึ่งอาจจะช่วยให้ Packaging waste น้อยลงด้วย
Mini LED มีข้อเสียหรือไม่ ?
เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ยังมีต้นทุนสูง จึงถูกจำกัดใช้งานเฉพาะรุ่นท็อป ๆ ราคาจำหน่ายก็สูงตามไปด้วย
ถึงแม้ข้อได้เปรียบของ Mini Led คือ ขนาดที่เล็ก โครงสร้าง Backlight เรียกว่าแทบจะผนวกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ LCD Panel ทว่าก็เป็นข้อเสียหากเกิดความเสียหายกับหน้าจอ ค่าซ่อม (เปลี่ยนจอ) จะแพง เพราะอาจต้องเปลี่ยนแบบยกทั้งยวง (เปลี่ยนทั้งจอ และโครงสร้าง Backlight ไปพร้อมกัน)
ปี 2021 นี้ หลายผู้ผลิตเริ่มทยอยวางจำหน่าย Mini LED TV ให้ซื้อหาไปใช้งานที่บ้านกันแล้ว แต่จะมียี่ห้อ และรุ่นใดบ้างนั้น มาดูกันครับ…
TCL
หลายคนอาจไม่ทราบว่า TCL คือ ผู้ผลิตทีวีแบรนด์แรก ที่โปรโมตคำว่า “Mini LED TV” อย่างเป็นทางการ โดยเปิดตัวก่อนใครไปตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ในงาน CES 2020
มาถึงปี 2021 TCL Mini LED TV รุ่นที่อาจจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เผยมาแล้ว 1 รุ่น คือ C825 มาพร้อมความละเอียด 4K (3840 x 2160 pixels, 16:9) มี 2 ขนาด คือ 55 นิ้ว และ 65 นิ้ว รองรับการแสดงผล HDR10+ และ Dolby Vision ได้รับรองมาตรฐาน IMAX Enhanced ด้วย
Samsung
ถึงแม้ในระดับโลกจะไม่ใช่แบรนด์แรกที่เปิดตัว Mini LED TV แต่ Samsung เป็นแบรนด์แรกที่จริงจังกับการทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งทีวีรุ่นใหม่ประจำปี 2021 ที่ใช้ Mini LED จะมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Neo QLED วางจำหน่ายถึง 4 รุ่น ด้วยกัน
แบ่งเป็นจอภาพความละเอียด 4K (3840 x 2160 pixels, 16:9) 2 รุ่น ได้แก่ QN85A และ QN90A, จอภาพความละเอียด 8K (7680 x 4320 pixels, 16:9) 2 รุ่น คือ QN800A และ QN900A มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 50 นิ้ว ถึง 85 นิ้ว ทุกรุ่นรองรับการแสดงผล HDR10+
LG
ตามมาติด ๆ กับ LG ซึ่งเรียกชื่อทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Mini LED อย่างเป็นทางการว่า QNED (Quantum Nanocell mini-LED) โดยในปี 2021 นี้ รุ่นที่จะทำตลาดในประเทศไทย เบื้องต้น มี 2 รุ่นด้วยกัน
แบ่งเป็นรุ่นจอภาพความละเอียด 4K (3840 x 2160 pixels, 16:9) 1 รุ่น ได้แก่ QNED91 และ รุ่นจอภาพความละเอียด 8K (7680 x 4320 pixels, 16:9) 1 รุ่น คือ QNED99 มี 2 ขนาดให้เลือก คือ 65 นิ้ว และ 75 นิ้ว ทั้งหมดรองรับการแสดงผล Dolby Vision
Apple
Mini LED ไม่ได้จำกัดเฉพาะจอภาพขนาดใหญ่อย่างทีวี แต่ยังมีศักยภาพระดับที่นำไปผนวกกับหน้าจอของอุปกรณ์พกพาอย่าง Tablet ด้วย ล่าสุด iPad Pro (2021) รุ่นขนาด 12.9 นิ้ว ความละเอียด 2732 x 2048 pixels (4:3) ก็ใช้ Mini LED เช่นกัน
โดย apple ใช้ชื่อเรียกจอรุ่นใหม่นี้ว่า Liquid Retina XDR และถึงแม้จอขนาดเล็ก บางเฉียบเพียง 6.4 มม. แต่ติดตั้งจัดวาง Mini Led เรียงรายแบบจัดเต็มถึง 10,000 หลอด 2,596 Dimming zones รองรับการแสดงผล Dolby Vision ด้วย
อนาคตคงจะมีอุปกรณ์อื่นที่ใช้เทคโนโลยี Mini LED ตามออกมาอีกเป็นระยะ แว่ว ๆ ว่า Mini LED Monitor ก็กำลังจะวางจำหน่าย หากทีมงานได้ข้อมูลแน่ชัดแล้วจะมาอัพเดทให้ทราบกันครับ ติดตามกันต่อไป…
References:
https://www.tcl.com/au/en/od-zero/index.html
https://www.samsung.com/th/tvs/qled-tv/highlights
