06 Mar 2015
Article

OLED TV คืออะไร ? เทียบกับ LED TV อย่างไหนดีกว่ากัน ?


  • lcdtvthailand

OLED TV vs. Plasma TV vs. LCD/LED TV

OLED TV นั้น เปรียบดั่งการนำข้อดีของ LCD/LED TV และ Plasma TV มารวมเข้าไว้ด้วยกัน (และลบล้างจุดด้อยของทั้งคู่เช่นกัน)

ประสิทธิภาพ (Efficiency) ของ OLED TV นั้นโดดเด่น กล่าวคือไม่ต้องใช้พลังงานมากเท่า Plasma TV ทว่ายังให้ระดับความสว่างสูงเทียบเท่า LCD/LED TV ซึ่งสว่างสู้แสงได้ดีกว่า Plasma มาก

กลับกันจุดเด่นของ OLED TV ที่เหนือกว่า LCD/LED คือ เซลสร้างภาพของ OLED TV สามารถเปล่งแสงได้ด้วยตนเอง (คุณสมบัตินี้คล้ายคลึงกับเซลสร้างภาพของ Plasma TV) เมื่อไม่ต้องพึ่งไฟส่องด้านหลัง (หรือ Backlight unit) และเซลสร้างภาพควบคุมการเรืองแสงได้อิสระในระดับ Sub-pixel (RGB) จะเปิด ปิด หรี่ระดับใดก็ทำได้อย่างอิสระ ระดับ Black Level ของ OLED TV จึงดีกว่า LCD/LED TV อย่างไม่ต้องสงสัย

และโดยศักยภาพนั้นสามารถพูดได้เลยว่า การควบคุมเปิดปิดแสงภายใน Sub-pixel ของ OLED TV ทำได้ดีกว่า Plasma TV อย่างเห็นได้ชัดด้วย เนื่องจากในขณะที่เซลอยู่ในสถานะ “ปิด” (pre discharge) Plasma TV จะยังมีแสงเรืองๆ อยู่บ้าง แต่ OLED TV นั้นมืดสนิทเหมือนดั่งปิดสวิทช์เพาเวอร์กันเลยทีเดียว

นี่จึงส่งผลให้ระดับ Contrast Ratio หรือค่าความเปรียบต่างระหว่างที่จอภาพแสดงสีขาว (สว่างที่สุด) และสีดำ (มืดที่สุด) ในเชิงตัวเลขของ OLED “เป็นอนันต์” เนื่องจากไม่สามารถวัดค่าความสว่างของจอภาพในสถานะที่กำลังแสดงสีดำได้ ผิดกับ Plasma TV และ LCD/LED TV ที่ยังมีแสงเรืองเล็ดลอดออกมาอยู่บ้าง

ภาพเปรียบเทียบมุมมองด้านข้างระหว่าง OLED TV และ LED TV จากการทดสอบจริง

Luminance Uniformity หรือการให้ความสว่างที่เท่าเทียมทั่วทั้งผืนจอสำหรับ LED TV อาจพบปัญหาแสงสว่างรั่วที่มุมจอบ้างหรือไม่ก็เกิดมุมดำบ้าง โดยเฉพาะที่จัดวาง Backlight unit ตามขอบจอหรือที่เรียกว่า Edge LED นั้น จะไม่เกิดขึ้นกับ OLED TV เนื่องจากความสว่างจะถูกกำหนดโดยเซลสร้างภาพโดยตรง มิได้เกิดจากการจัดวางไฟส่องหลัง (ที่อาจไม่ได้วางทุกตำแหน่งบนจอภาพ)

เช่นเดียวกับ มุมมอง ของ OLED ก็ดีกว่า LCD/LED อย่างเห็นได้ชัด หรือหากเทียบกับ Plasma TV โดยเฉพาะเจนฯ หลังๆ ที่ทำการฉาบผิวหน้าเพื่อตัดแสงสะท้อน ส่งผลให้เมื่อมองจากมุมบนหรือล่างจะพบว่าภาพมืดลง ปัญหาเหล่านี้จะไม่พบกับ OLED

ประเด็นด้าน ภาพเคลื่อนไหว เป็นอีกจุดที่ OLED TV ทำได้โดดเด่น เดิมทีกับ LCD/LED TV ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของ Response Time จากผลของการกระตุ้นโครงสร้างผลึกเหลวให้เปลี่ยนจากสถานะโปร่งแสงไปเป็นทึบแสงยังต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อย LCD/LED TV ในบางรุ่นจึงพบปัญหาว่ามี Ghost หรือเงาซ้อนเมื่อมีการแสดงวัตถุเคลื่อนไหว ซึ่งในจุดนี้สำหรับ OLED TV การตอบสนองในช่วงสถานะเปิดและปิดการส่องสว่างของเซลสร้างภาพทำได้รวดเร็วมากในระดับ 0.1 ms ดีกว่า LCD/LED TV ที่ดีที่สุดไม่น้อยกว่า 10 เท่า และทำได้ไม่น้อยหน้า Plasma TV เลยทีเดียว

แล้วข้อเสีย?

ต้องบอกว่าเทคโนโลยี OLED TV ยังไม่ถึงกับไร้มลทินจนเพอร์เฟ็กต์ไปเสียหมด สำหรับข้อเสียของ OLED ชัดๆ ก็แน่นอนว่าเทคโนโลยีใหม่ราคาย่อมสูงเป็นธรรมดา แต่อย่างที่หลายท่านทราบว่าปัจจุบันราคา OLED TV ลดต่ำลงจนสามารถซื้อหามาใช้งานได้ไม่ลำบากนัก

ในขณะที่ประเด็นการใช้งาน มีรายงานว่า OLED ยังมีโอกาสที่จะเกิด Burn-in (Image Retention) ได้เช่นเดียวกับ Plasma TV ทว่าโอกาสเกิดน้อยกว่ามาก โดยส่วนตัวทีมงานยังไม่เคยพบปัญหา Burn-in ของ OLED TV แต่ก็ไม่ควรที่จะเป็นภาพนิ่งค้างไว้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่วน Dead/Bright Pixel นั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับจอภาพลักษณะอื่นๆ ครับ ก่อนซื้อจากร้านค้าจึงควรดำเนินการตรวจสอบเช่นเดียวกัน

OLED TV vs. OLED TV

ถึงแม้จะอาศัยพื้นฐานเทคโนโลยี OLED เหมือนกัน แต่ผู้ผลิตก็มีแนวทางการพัฒนา OLED TV ที่แตกต่างกัน โดยในส่วนของ OLED TV ทั่วไป ใน 1 เซลสร้างภาพ (1 pixel) จะจัดวางโครงสร้างของ RGB OLED ทำหน้าที่เปล่งแสงแยกกันสำหรับแต่ละแม่สี (แยกเป็น Sub-pixel อิสระ) อันเป็นวิธีที่เรียบง่ายแต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเพราะแสงสีจะพุ่งตรงสู่ภายนอกโดยไม่มีชั้นฟิลเตอร์คั่นกลาง ทว่าด้วยข้อจำกัดของอายุการใช้งานของ OLED Sub-pixel โดยเฉพาะสีน้ำเงิน ที่มักจะถูกใช้งานถี่กว่าสีอื่นๆ จึงมีช่วงอายุที่สั้นกว่า ในระยะยาวอาจจะส่งผลในเรื่องของความเสื่อมของเซลสร้างภาพ กระทบกับความเที่ยงตรงในการแสดงเฉดสีของจอภาพ เหตุนี้อีกหนึ่งผู้ผลิตจึงทำการพัฒนานำเสนอ OLED Display อีกหนึ่งรูปแบบขึ้นมา

ภาพประกอบจาก oled-display.net

จากโครงสร้างก่อนหน้านี้ที่จัดวาง RGB OLED เพื่อกำเนิดแสงสีแยกในระดับ Sub-pixel โดยตรงก็เปลี่ยนเป็นจัดวาง RGB OLED ทั้งหมดซ้อนกันเสีย OLED ทั้ง 3 สี ก็จะทำหน้าที่ “สร้างแสงขาว” ขึ้นพร้อมกันตลอดเวลา วิธีนี้ RGB OLED จึงคงอายุการใช้งานได้ไม่เหลื่อมล้ำกัน

ทว่าเมื่อได้แสงขาวเพียงอย่างเดียวแล้วจะทำอย่างไรในการถ่ายทอดแสงสี นี่จึงเป็นหน้าที่ของ Color Refiner ที่ทำหน้าที่เหมือนฟิลเตอร์กรองสีที่ต้องการในแต่ละ Sub-pixel อีกที ในจุดนี้บางผู้ผลิตมีการกำหนด Color Refiner นอกจากสีแดง เขียว และน้ำเงินแล้ว ยังเพิ่มในส่วนของ “สีขาว” มาด้วย (กลายเป็น WRGB) เหตุผลเพื่อให้ได้ Light Output ที่ดีกว่า การแสดงเรนจ์สีก็กว้างกว่า และเฉดสีถูกต้องเป็นธรรมชาติกว่า (ข้อมูลอ้างอิงจากผู้ผลิต) ทว่าเนื่องจากผมยังไม่ได้ทดสอบ OLED ที่ใช้เทคนิครูปแบบอื่นๆ จึงไม่สามารถยืนยันในเรื่องของคุณสมบัติของ WRGB ว่าจะส่งผลกับประสิทธิภาพที่ดีกว่าดังว่านี้หรือไม่

อย่างไรก็ดีความโดดเด่นของ OLED TV ก็มิใช่ราคาคุย หลายท่านคงได้สัมผัสด้วยตนเองไปแล้วในงานบรรยายของทีมงาน LCDTVTHAILAND ภายในงาน BAV Show เมื่อปีที่แล้ว อ่านรายละเอียด >>คลิก<< เช่นเดียวกับที่หลายท่านก็ซื้อหาไปใช้เองคงจะได้พิสูจน์ความจริงนี้…

อนาคตของ OLED TV

นับจากวันแรกที่วางตลาด OLED TV ราคาสูงนับหลายแสนบาท ปัจจุบันอย่างที่หลายท่านทราบว่ากำเงินไม่ถึงแสนเดินไปร้านทีวีก็ซื้อได้แล้ว อีกทั้งเทคโนโลยี OLED Display หาได้ผลิตออกมาในรูปแบบทีวีแต่เพียงอย่างเดียว ยังมีใช้งานใน Smart Phone ระดับสูงหลายๆ รุ่น และทยอยเป็นจอแสดงผลในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกหลากหลายชนิด (เครื่องเสียงก็มีนะ) เมื่อปริมาณการผลิตเพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรมจำนวนมาก ต้นทุนการผลิตลดลง ราคาก็มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ อนาคตของ OLED TV ย่อมจะสดใสขึ้น

กลับมาที่ OLED TV ความน่าสนใจคงมิใช่มีเพียงแค่ราคา ปัจจุบันผู้ผลิตทยอยนำเสนอทางเลือกด้วยทีวีรุ่นใหม่ๆ ที่มีสเป็กหลากหลายขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่จำกัด Native Resolution ของ OLED ไว้ที่ Full HD เป็นหลัก แต่ปีนี้ (2015) 4K/UHD OLED TV จะเริ่มวางตลาดให้ได้ซื้อหากัน ใครที่กังวลว่าซื้อไปแล้วจะไม่รองรับอนาคต ก็คงจะได้สมใจเสียที เช่นเดียวกับขนาดและลักษณะจอภาพที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ได้จำกัดเฉพาะจอโค้ง 55 นิ้ว เพียงอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน ซึ่งเมื่อไหร่ที่ทีมงานได้รับ OLED TV รุ่นใหม่มาทดสอบ จะมารายงานอัพเดทผลให้ทราบกันอย่างต่อเนื่องอีกครั้งครับ…

ฤา OLED คือ เทคโนโลยีจอภาพหนึ่งเดียวสำหรับอนาคต… ??

คงจะเร็วเกินไปหากจะรวบรัดสรุปความเช่นนี้ จริงอยู่จุดเด่นของ OLED TV ชัดเจนดังที่ได้เกริ่นไปแล้ว ทว่ายังมีเทคโนโลยีจอภาพอื่นที่ยังหาญกล้าออกมาท้าทาย OLED ที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะไม่พ้น “Quantum Dot Display”

อะไรคือ Quantum dot Display และศักยภาพแท้จริงของเทคโนโลยีนี้คืออะไร? เมื่อได้สัมผัสทดสอบของจริงแบบเจาะลึกแล้ว จะรีบมารายงานให้ทุกท่านได้รับทราบประกอบการตัดสินใจเช่นกันครับ…

บทความอื่นที่เกี่ยวข้องกับ OLED TV

มาเร๊ววว !! พาเที่ยวงานเปิดตัวครั้งแรกกับ
LG Curved OLED TV 55EC930T สุดยอดทีวีหรือแค่มโนไปเอง
สมศักดิ์ศรีนวัตกรรมจอภาพที่ออกมาฆ่า พลาสมาและแอลซีดี/แอลอีดี ทีวี !!!
รีวิว LG 55EA9800 Curved OLED TV