24 Nov 2023
Award

ประกาศผล Best of The Best TV Award ทีวี – เครื่องเสียง ที่ดีที่สุดประจำปี 2023-2024


  • lcdtvthailand

ปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 13 แล้ว ที่ทาง LCDTVTHAILAND จัดการประกาศรางวัล Best of The Best TV Award ที่เป็นการจัดอันดับทีวี รวมถึงเครื่องเสียง ในแต่ละสาขาที่เราได้ลองทดสอบจริง ดูภาพจริง ฟังเสียงจริง และเล่นจริงแล้วเท่านั้น ทั้งยังอ้างอิงจากผลการทดสอบตามมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพและเสียง ผ่านเครื่องมือตรวจวัดระดับมืออาชีพ จึงจะทำให้เกิดการตัดสินที่ยุติธรรมที่สุด อีกด้านหนึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การตัดสินครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อทีวีให้กับทุกคนได้

สามารถคลิกที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

1) Best of The Best TV Award : Sony QD-OLED A95L

คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณ Shinpei Nishikawa ผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาด บริษัท โซนี่ ไทย
กับถ้วยรางวัล Best of The Best TV Award

รางวัลทีวีที่ดีที่สุดแห่งปีได้แก่ Sony A95L คือเป็น “ที่หนึ่ง” ครบทุกมิติความบันเทิง แม้เปิดตัวช้ากว่า “ตัวท็อป” เจ้าอื่น แต่จัดว่าทำการบ้านมาดีมาก โดย A95L ใช้พื้นฐาน QD-OLED เจนเนอเรชั่นที่ 2 โครงสร้าง Sub-pixel แบบ RGB ร่วมกับเทคโนโลยี Quantum Dot จึงให้ระดับความสว่างและสีสันทะลุเกินมาตรฐาน OLED แบบเดิม ๆ ขึ้นไปอีกขั้น จนครอบคลุมมาตรฐานใหม่ Rec2020 (>90% coverage) จากเดิมแค่ DCI-P3 พร้อมภาพแนวสตูดิโออันเป็น เอกลักษณ์ ถ่ายทอดภาพจากหนังได้อย่างตรงไปตรงมา ให้คุณภาพของภาพอยู่ใน “เกณฑ์ดีเลิศระดับอ้างอิง” ตัวชิปประมวลผลเก่งในระดับ “หัวแถว” ทั้ง การอัพสเกลและรับมือกับโมชั่นภาพเคลื่อนไหว รองรับ 4K 120Hz จาก PS5 เต็มรูปแบบผ่านพอร์ท HDMI 2.1 จำนวน 2 ช่อง ประสานลำโพงแบบฝังเข้ากับหน้าจอ ยิงเสียงตรงหาผู้ฟังได้จริง

อีกหนึ่งกุญแจสำคัญ คือ ความครบถ้วนสมบูรณ์ของระบบ Google TV ที่ให้แอปมาเพียบพร้อมที่สุด มีแอปดูหนังบิทเรทสูงอย่าง BRAVIA CORE ให้ดูแบบ Exclusive แถมมีกล้องอัจฉริยะ BRAVIA CAM ที่ครั้งนี้แถมมาให้เลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม ราคาจะสูงกว่าตัวท็อปเจ้าอื่นอยู่บ้าง แต่คุณภาพโดยรวมครบเครื่องแฟนซีสุด ยกระดับให้ทีวีรุ่นนี้ “เป็นมากกว่าทีวี” ทางเราจึงขอสวมมงกุฎ “ราชันแห่งทีวี” ในปีนี้ให้ Sony A95L QD-OLED ไปครอง

Sony A95L : 77” & 65” | Ultra HD Premium

  • หมายเหตุ | ถ้ามีงบประมาณจำกัด สามารถลองดูเป็น Samsung QD-OLED S95C ได้ ให้ประสิทธิผลจากพาแนลชนิดใหม่เช่นเดียวกัน จะต่างกันที่ลูกเล่นและดีไซน์

2) Editor’s Choice Award : LG OLED evo C3

คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณโรมันมอบถ้วยรางวัล Editor’s Choice Award
ให้กับคุณซังกยุน คิม หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

LG OLED evo C Series คือ ทีวีให้คุณภาพของภาพ “ดีเลิศ…ในราคาที่สมเหตุสมผล” ให้ความสมดุลในแง่ของการซื้อมาครอบครองมากที่สุด จึงเป็นขวัญใจทีมงานและรวมถึงนักเล่นทั้งชาวไทยและเทศอย่างแพร่หลาย โดย C3 สานต่อความสำเร็จจาก C2 ปีที่แล้ว ใช้พาแนล OLED evo ให้ระดับความดำที่ดำสนิทและความสว่างที่สูงแบบพอเหมาะ ขับภาพ HDR เจิดจรัสเป็นธรรมชาติ รองรับมาตรฐาน Dolby Vision ขั้นท็อป เรื่องเสียงก็รองรับ Dolby Atmos และ DTS ได้เสียงอิ่มแน่นเกินความบางของตัวเครื่อง พร้อม HDMI 2.1 ถึง 4 ช่อง รองรับเกมมิ่งระดับ 4K 120Hz ครบถ้วนทุกช่อง มีขนาดหน้าจอที่ครอบคลุมทั้งการประยุกต์เป็นจอเกมมิ่งอย่าง 48” ตลอดจนไซส์ใหญ่เต็มตาอย่าง 83”

รุ่นนี้ยังมาพร้อมรีโมทขวัญใจชาวไทยอย่าง Magic Remote ใช้งานง่าย เคลื่อนไหวอิสระได้แบบแอร์เมาส์ คลิกเข้าแอปฯ หรือพิมพ์ชื่อคลิปได้ทันใจ ด้วยประสบการณ์ LG ที่รันวงการ OLED มายาวนานนับ 10 ปี หลายรุ่นที่ผ่านมาคุณภาพเป็นที่กล่าวขาน และได้รับการบอกต่อ จนกลายเป็น “ตัวจบ” ของใครหลาย ๆ คน เหมือนเช่น OLED evo C3 ตัวนี้

LG C3 : 83” 77” 65” 55” 48” | Ultra HD Premium


3) Best 8K LED TV Award : Samsung Neo QLED 8K QN900C

คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณโรมัน มอบถ้วยรางวัล Best 8K LED TV Award
ให้กับคุณธัชพงศ์ เทพาอภิรักษ์ ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์กลุ่มธุรกิจโทรทัศน์และเครื่องเสียง
บริษัทซัมซุง (ประเทศไทย) จำกัด

Samsung เป็นจ้าวแห่งทีวี 8K อีกครั้ง โดยรุ่นท็อป QN900C เป็น Neo QLED ผนึกกำลังเทคโนโลยี Quantum Dot และ Mini LED เข้าไว้ด้วยกัน ช่วยเรื่องแสงและสีให้โดดเด่นเกินใคร โดยเฉพาะความสามารถในการดิมหลอดไฟ Mini LED แบบ 14-bit (16,384 steps) คุมแสงเนียนกริ๊บที่สุดในบรรดา Mini LED ด้วยกัน เป็นหัวใจสำคัญเรื่องคุณภาพของภาพ แม้คอนเทนต์ 8K จะยังไม่แพร่หลายนัก แต่ก็ทยอยเพิ่มจำนวนขึ้น การดูคลิป YouTube 8K HDR หรือแม้กระทั่งเล่นเกมส์ 8K จาก PC จะสังเกตเห็นความคมชัด และรายละเอียดภาพที่ระยิบระยับขึ้นแบบจับต้องได้ ยิ่งจอใหญ่จะยิ่งเห็นผล (เช่น 85”)

อย่างไรก็ดีคอนเทนต์ส่วนใหญ่ใน พ.ศ.นี้ ก็ยังเป็นความละเอียด 4K อยู่ ชิปประมลผล Neural Quantum Processor สามารถอัพสเกลภาพให้คมขึ้นอย่างมีนัยยะ ดูดีแบบไม่ขวยเขิน และต้องขอชมเชยเรื่องดีไซน์แบบ Infinity One Screen ไร้ขอบที่แท้ทรู หากแขวนทีวีกับผนัง (Slim Fit Wall Mount เป็นอุปกรณ์เสริม) เหมือนภาพลอยบนอากาศปราศจากกรอบขวางกั้นสวยมาก ให้ยืนหนึ่งไปอีกปีสำหรับทีวีหมวด 8K

Samsung Neo QLED QN900C : 85” 75” 65” | Ultra HD Premium


4) Best 4K LED TV Award : TCL Mini LED C845

คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณโรมัน มอบถ้วยรางวัล Best 4K LED TV Award
ให้กับคุณจอนนี่ หยี ผู้บริหารบริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด

C845 คือ ทีวีรุ่นที่ให้คุณภาพของภาพโดดเด่นที่สุดของ TCL ประจำปี 2023 โดย Series 8 จะใช้หลอดไฟ Mini LED เจนเนอเรชั่นที่ 3 ถ่ายทอดภาพได้อย่างทรงพลังตื่นตาตื่นใจ ยิ่งเทียบกับรุ่นรองที่ไม่ใช่ Mini LED อย่างพวก C745 / C645 ยิ่งเห็นความต่าง ทั้งความสว่างและสีสันทะลุทะลวงเกินมาตรฐาน Ultra HD Premium รองรับ HDR ขั้นท็อป ทั้ง Dolby Vision และ HDR10+ ภาพ HDR ดูเปิดเผย-สด-สว่างได้อารมณ์ ไม่ติดทึมเหมือนรุ่นเริ่มต้น-กลาง มีเมนู Game Master ในการปรับแต่งภาพเวลาเล่นเกมส์ พร้อมรองรับ 4K 120Hz ไปจนถึง 1080p 240Hz พร้อม VRR ได้เป็นครั้งแรก ด้านคุณภาพเสียงได้แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำอย่าง Onkyo มาช่วยจูนลำโพง

พร้อมระบบ Google TV ที่อุดมไปด้วยแอปดูหนังและซีรีส์อย่างครบครัน รองรับ Apple Airplay เชื่อมต่อกับ iPhone ได้ สั่งงานด้วยเสียงโดยตรงกับทีวีโดยไม่ต้องใช้รีโมท เป็นรุ่นที่ให้คุณภาพระดับ “เชิดหน้าชูตา” ส่งให้แบรนด์ดังจากแดนมังกรนี้ เข้าป้าย 4K LED TV ที่ดีที่สุดแห่งปี

TCL Mini LED C845 : 75” 65” 55” | Ultra HD Premium


5) Best Midrange 4K LED TV Award : Sony Bravia X90L

คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณสุวัฒน์ชัย จารุวิทยานนท์ ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ทีวี บริษัท โซนี่ ไทย
กับถ้วยรางวัล Best Midrange 4K LED TV Award

Sony X90L คือ “รุ่นขวัญใจชาวอารยธรรม” ด้วยราคาที่ไม่โดดเท่ารหัส A ที่ใช้ OLED Panel ทว่าให้ฟีเจอร์และความแฟนซีได้อย่างครบครัน ตอบโจทย์สายดูหนัง+เกมมิ่ง พื้นฐานจอภาพใช้หลอดไฟ Full Array LED ผสานเทคโนโลยี Quantum Dot ให้ HDR Peak Brightness สว่างสูงสุดถึง 1300 nits สว่างกว่ารุ่นปีที่แล้วถึง 30% ชิปประมวลผล Cognitive Processor XR ตัวท็อป ให้ภาพแนวสตูดิโอตามสไตล์ Sony ถ่ายทอดภาพออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ติดโฉ่งฉ่าง รองรับการเล่นเกม PS5 ได้อย่างสมบูรณ์ทั้ง 4K 120Hz และ VRR มี Game Menu มาให้ปรับแต่งโดยเฉพาะ

ระบบ Google TV ของ Sony ก็ครบครัน การใช้งานเสถียรที่สุด แอปดูหนังและซีรีส์เพียบไม่มีขาด รวมถึง BRAVIA Core แอปสตรีมมิ่งดูหนัง 4K บิทเรทสูงหลายร้อยเรื่อง Sony X90L จึงเป็น 4K LED TV ระดับกลางค่อนบนที่ให้มาตรฐานสูงรอบด้าน ภายใต้งบประมาณที่พอเหมาะ ควรค่าแก่การลงทุน

Sony X90L : 85” 75” 65” 55” | Ultra HD Premium


6) Best Value 4K LED TV Award : Samsung Q70C

คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณคุณธัชพงศ์ เทพาอภิรักษ์ กับถ้วยรางวัล Best Value 4K LED TV Award

หากพูดถึงทีวีไซส์ 55” ในงบประมาณหมื่นกลาง ๆ Q70C เป็น Top Choice ของใครหลายคน เพราะให้สเปคแบบ “รองรับอนาคต” ดูหนังก็ดี เกมมิ่งก็ได้ หน้าจอ VA ให้ภาพที่เปิดโปร่ง คอนทราสต์ดี พร้อม Quantum Dot ที่ช่วยบูสท์อัพสีสัน จุดที่แตกต่างจากทีวีระดับเดียวกัน คือ หลอดไฟรุ่นนี้เป็น Dual LED จัดวางที่ขอบจอ (Edge) สามารถปรับการจ่ายแสงทั้งโทนอุ่นและโทนเย็นให้แมตช์กับอุณหภูมิสีบนจอได้ เพิ่มความแม่นยำในการแสดงโทนสีได้ดีขึ้นอีกขั้น และยังให้ HDMI 2.1 รองรับ 4K 120Hz FreeSync VRR ถึง 4 ช่อง นับว่าใจป้ำกับเหล่าเกมเมอร์อย่างยิ่ง มีสมาร์ททีวี Tizen OS พร้อมรีโมทแบบ Solar Cell ไม่ต้องคอยเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ จึงเป็นทีวีรุ่นที่ให้ความคุ้มค่าสูงพร้อมสเปคที่ถูกใจสายดูหนัง และเกมมิ่งในงบประมาณที่น่ารัก

Samsung Q70C : 85” 75” 65” 55”


7) Best Budget 4K LED TV : Samsung CU8100

คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณคุณธัชพงศ์ เทพาอภิรักษ์ กับถ้วยรางวัล Best Budget 4K LED TV Award

รางวัลทีวี 4K ราคาถูกเพื่อสายประหยัด ตกเป็นของ Samsung CU8100 แม้เป็นซีรีส์เริ่มต้น แต่ก็มีดีเทียบเคียงรุ่นระดับกลาง โดยเฉพาะสเปคของรุ่นขนาดจอภาพ 85 นิ้ว ! ประการแรก คือ ดีไซน์สวยไร้ขอบ จอแบนบางดูมินิมอล ไม่เหมือนรุ่นเริ่มต้นค่ายอื่นที่มักมีดีไซน์ที่ดูเทอะทะ เรื่องภาพสเปคน้อง ๆ QLED
ขอบเขตสีกว้าง มี HDMI 2.1 รองรับ 4K 120Hz VRR ด้วย (เฉพาะรุ่น 85”) ใช้ Tizen OS จัดรวมแอปดูหนังและซีรีส์ที่สำคัญเอาไว้ให้เข้าถึงง่าย ซึ่งรวมถึง Apple TV, Disney+ Hotstar, Netflix ฯลฯ รองรับ Airplay เชื่อมต่อกับ iPhone พ่วงด้วยรีโมท SolarCell ไม่ต้องคอยเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ นับเป็นรุ่นเริ่มต้นราคามิตรภาพที่มีดีที่หน้าตาและลูกเล่นเพียบ สายประหยัดเล่นได้ไม่ต้องคิดเยอะ Samsung Crystal UHD TV CU8100

Samsung CU8100 85” : 4K 120Hz | 75” 65” 55” 50” 43” : 4K 60Hz


8) Best Smart TV Award : Sony Google TV A95L

คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณ Shinpei Nishikawa ผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาด บริษัท โซนี่ ไทย
กับถ้วยรางวัล Best Smart TV Award

รางวัลสมาร์ททีวีที่ดีที่สุด Sony Google TV เข้าวินแบบเป็นเอกฉันท์ ด้วย Google TV ระบบปฏิบัติการที่มีจำนวนและคุณภาพของแอปดีที่สุด คือเก่งทั้ง Quantity & Quality แอปฯ ไทยและเทศจัดเต็มครบถ้วน ยิ่งได้รับการ Optimized จาก Sony เองทั้งเรื่องสปีดและความเสถียรทำได้เกินหน้าเกินตา Google TV เจ้าอื่น รองรับการเชื่อมต่อร่วมกับ 2 ค่ายสมาร์ทโฟน ทั้ง iOS & Android สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยผ่าน Google Assistant

อีกจุดที่ทำให้ Sony พิเศษไม่เหมือนใครคือ มีแอป BRAVIA CORE ดูหนังเครือ Sony Pictures ฟรีกว่า 150 เรื่อง ที่สำคัญความคมชัดสูงกว่าแอปอื่นๆ ด้วยบิทเรทสูงถึง 80 Mbps ใกล้เคียงแผ่น 4K Ultra HD Blu-ray Disc พร้อมรองรับกล้องอัจฉริยะอย่าง BRAVIA CAM ที่นอกจากใช้เป็นเว็บแคมพูดคุยวีดีโอคอลล์แบบเห็นหน้ากันได้แล้วยังสามารถตรวจจับตำแหน่งผู้รับชม และ ปรับภาพ/เสียงแบบอัตโนมัติด้วย เป็นทีวีที่มิใช่แค่ “ฉลาด” แต่คือ “อัจฉริยะ” คอยปรนนิบัติส่งมอบความบันเทิงให้กับเราได้ครบทุกมิติ

Sony A95L : 77” & 65”


9) Best Gaming TV Award : Samsung QD-OLED S95C, LG OLED evo C3

รางวัล Best Gaming TV Award ในปีนี้มีดีกันคนละด้านจนเราต้องยกรางวัลให้คู่กันไปเลย เพราะเขากินกันไม่ลงจริงๆ โดยทั้งสองรุ่นนั้นคือ Samsung QD-OLED S95C และ LG OLED Evo C3 (สมกับเป็นแบรนด์ไม้เบื่อไม้เมา) ส่วนสาเหตุว่าทำไมเราถึงให้คู่กันไปดูคำตัดสินรางวัลกันได้เลย

  • Samsung QD-OLED S95C
คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณชานม มอบถ้วยรางวัล Best Gaming TV Award
ให้กับคุณธัชพงศ์ เทพาอภิรักษ์ ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์กลุ่มธุรกิจโทรทัศน์และเครื่องเสียง
บริษัทซัมซุง (ประเทศไทย) จำกัด

Samsung คือผู้บุกเบิกพาแนล QD-OLED สร้างมาตรฐานใหม่เรื่อง “พลังภาพ” ให้กับวงการทีวี อัพเกรดเรื่องความสว่างและสีสัน สู่มาตรฐานใหม่อย่าง Rec2020 พร้อมยกระดับประสบการณ์เล่นเกมส์ให้ถึงอกถึงใจขึ้นอีกขั้น ทีมงานยกให้เป็น Best Gaming TV of The Year ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ พาแนล QD-OLED (RGB Sub-pixel) ถ่ายทอดภาพสีสดอิ่ม ขับภาพ HDR Gaming ได้สวยเจิดจรัส มุมมองรับชมกว้างมากที่สุด นั่งล้อมวงเล่นเกมก็ได้ภาพดีทุกมุม

แต่ที่พิเศษคือ รองรับ4K 144Hz FreeSync VRR ได้ครั้งแรก ( OLED TV เจ้าอื่นยังได้แค่ 120Hz) ผ่าน HDMI 2.1 ถึง 4 ช่อง ไม่มีกั๊ก มี Game Bar ในการปรับแต่งภาพสำหรับการเล่นเกมส์โดยเฉพาะ ค่า Input Lag ตอบสนองได้ไวที่สุด 60Hz = 9.1 ms และ 120Hz = 4.6 ms (144Hz ยิ่งต่ำลงอีก) รองรับทั้งสาย PC การ์ดจอแรง (4K 144Hz VRR) และสายคอนโซล PS5, XBOX Series X (4K 120hz VRR) มีแอปอย่าง NVIDIA GEFORCE NOW เล่นเกมบน Cloud ได้

Samsung QD-OLED S95C : 77” 65” 55” | Ultra HD Premium

  • LG OLED evo C3
คุณโรมันมอบถ้วยรางวัล Best Gaming TV Award
ให้กับคุณอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

อีกรุ่นที่เราขอให้รางวัลทีวีสายเล่นเกมส์ที่ดีที่สุดร่วมกันคือ LG OLED evo C3 รุ่นขวัญใจมหาชนด้วยระดับราคาที่ไม่แรงเกินเอื้อม แต่คุณสมบัติเอื้อต่อการเล่นเกมจัดเต็มไม่แพ้ใคร นอกจากความเป็นจอ OLED ที่ถ่ายทอดสีดำได้ดำสนิทและสีสันสดสวยเจิดจรัสแล้ว รุ่นนี้ยังรองรับมาตรฐาน Dolby Vision Gaming ผ่านเครื่องเล่น XBOX Series X ด้วย มีพอร์ท HDMI 2.1 ให้ครบ 4 ช่อง ไม่มีกั๊ก เล่น 4K 120Hz พร้อม G-Sync และ FreeSync VRR ป้องกันเฟรมภาพขาด มีเมนู Game Optimizer ใช้ปรับแต่งการเล่นเกมให้ยืดหยุ่นขึ้น ค่า Input Lag ต่ำ 60Hz = 12.9 ms และ 120Hz = 4.8 ms ตอบสนองการกดจอยได้อย่างว่องไว แถมมีแอปอย่าง GeForce Now เล่นเกมส์บน Cloud ได้อีก ความพิเศษของรุ่นนี้คือมีรุ่นขนาดเล็กอย่าง 48” ที่สามารถประยุกต์ใช้เป็นจอมอนิเตอร์ใช้งานร่วมกับ PC ได้ หรือแม้กระทั่งขนาด 83” ที่ขยายจาก Gaming TV สู่ Gaming Theater ใหญ่อลังการเต็มตา

LG C3 : 83” 77” 65” 55” 48” | Ultra HD Premium


10) Best Design Award : LG OLED evo G3

คลิกที่รูปเพื่อชมรีวิว
คุณอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด
กับถ้วยรางวัล Best Design Award

G Series ในปีนี้มิได้มีความหมายเพียงแค่ Gallery Design ทว่าหมายถึง Greatest OLED of All | โดย G3 เป็นซีรีส์บนสุดของ LG OLED ทั้งปวง ที่ขายในไทย นอกจากให้คุณภาพที่ดีเลิศแล้ว ด้านดีไซน์ถือว่าสวยโดดเด่นที่สุด การติดตั้ง OLED G3 คล้ายกับการนำกรอบรูปไปแขวนแนบชิดติดผนังแบบ “ไร้ช่องว่าง” ภาษาอังกฤษเรียกว่า Gapless ทาง LG แถมขาแขวนดีไซน์พิเศษใช้กับรุ่นนี้โดยเฉพาะแบบให้มาในกล่องเลย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม (แต่ขาตั้งโต๊ะและตั้งพื้นเป็นอุปกรณ์เสริม)

ภายในตัวเครื่องมาพร้อมกับ “โหมดศิลปะ” สามารถเลือกผลงานจากศิลปินชื่อดังขึ้นมาแสดงเป็น Wallpaper ได้ มันจึงกลายเป็นกรอบรูปที่ดูเรียบหรูไม่ว่าจะเปิดเครื่องหรือปิดเครื่อง โดยสรุป LG OLED evo G3 เป็นเทีวีที่ใช้โชว์ออฟความสวยสะพรั่งได้ทั้งภายใน (ภาพ/เสียง) และภายนอก (ดีไซน์) เปรียบดั่ง “นางงาม” ที่สวยสมมงอย่างแท้จริง

LG OLED evo G3 : 77” 65” 55” | Ultra HD Premium

สามารถคลิกที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่