10 Sep 2021
Review

รีวิว Polk Audio Reserve Series อีกหนึ่งตำนานที่ต้องจารึก พัฒนาการลำโพงเสียงดีล่าสุดจากแบรนด์อเมริกัน


  • ชานม

Sound – เสียง

ช่วงแรกผมลองทดสอบกับการชมภาพยนตร์แบบไม่ใช้งานลำโพงซับวูฟเฟอร์ (5.0.2) เพื่อดูว่า R700 จะตอบสนองได้ดีเพียงใด…

ไม่เสียทีที่ติดตั้งวูฟเฟอร์คู่ขนาด 8 นิ้ว ให้เบสลงได้ลึกถึงใจ เรียกว่าอีกนิดก็จะเทียบเคียง HTS12 แล้ว ในแง่ของการเติมเต็มมวลเสียงย่านต่ำลึกย่อหย่อนกว่าบ้างแต่ก็ไม่มาก หากต้องการความสมบูรณ์แบบคงต้องพิจารณาซับวูฟเฟอร์รุ่นใหญ่หน่อยจึงจะเติมเต็มย่านเสียงต่ำลึกให้กับ R700 ได้ ในแง่การตอบสนองย่านต่อเสียงความถี่ต่ำของ R700 มีความฉับไว ให้แรงปะทะดีมาก เบสต้นกระชับ หนักแน่น แม้ภาพยนตร์บางเรื่องจะมิกซ์ Low-Frequency Effects มาหนักหน่วง ก็ไม่ออกอาการผิดปกติใด ๆ ผลกระทบจากระยะตั้งห่างผนังก็ไม่ส่งผลให้เบสบวมมากเท่าลำโพงที่จัดวางท่อ Bass-reflex ไว้ด้านหลังตู้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นอานิสงส์จาก Power port 2.0 การจัดวางเพื่อให้เสียงลงตัวในห้องจึงทำได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังคงต้องเอาใจใส่อยู่นะครับ

ข้อดีของลำโพงใหญ่หากนำใช้กับชุดฟังเพลง จะให้สเกลเสียงใหญ่ เวทีโอ่อ่า ใครกำลังมองหาลำโพงแนวนี้ในราคาที่ไม่แรงจนเกินเอื้อม R700 คือ ตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ ทว่าจะต้องเผื่องบจัดหาภาคขยายที่เหมาะสมจึงจะดึงศักยภาพของลำโพงออกมาได้อย่างเต็มที่ ไดนามิกจะโดดเด่นจัดเต็ม ระลอกคลื่นความถี่ต่ำจะเป็นตัวเป็นตนชัดเจนขึ้น

Pinnacle Ring Radiator Tweeter สมกับที่ได้การันตีว่ารองรับ Hi-resolution Audio แจกแจงรายละเอียดเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ชัดเจนแต่ไม่รู้สึกถึงความรุกเร้าบาดหู เสียงร้องก็เปิดกระจ่างแต่ยังให้ความไหลลื่น ซึ่งน่าจะเป็นผลจากมิดเรนจ์แบบ Turbine Cone ภายใต้โครงสร้างแชมเบอร์แยกเฉพาะ การรับฟังในแบบ 2-channel หากสามารถไฟน์จูนตำแหน่งตั้งวางได้อิสระ มีระยะห่างระหว่างลำโพง และระยะห่างจากผนังข้าง-ผนังด้านหลัง พอเหมาะ ก็จะได้มิติเสียงที่ดี เวทีเสียงกว้างใหญ่

กรณีที่ได้ตำแหน่งเหมาะสมแล้วต้องการปรับจูนเสียงให้สมบูรณ์ขึ้นในขั้นตอนสุดท้าย อาจทดลองในส่วนของยางรอง Spike กับซิสเต็มที่เดิมฟังแล้วรู้สึกอยากเน้นความสดใสกระฉับกระเฉงมากขึ้น ลองถอดยางครอบ Spike ออก จะช่วยให้ได้รายละเอียดเสียงที่เปิดเผยจะแจ้ง เบสกระชับขึ้นเล็กน้อย

แต่ถ้าอุปกรณ์ในระบบให้ดุลเสียงติดสว่าง การใส่ยางครอบ Spike ไว้ จะช่วยลดทอนความแข็งของน้ำเสียงลงได้ และมวลเสียงความถี่ต่ำจะยิ่งอิ่มหนามีน้ำหนักขึ้น ทั้งนี้สภาพแวดล้อมที่ต่างกัน อาจให้ผลลัพธ์ชัดเจนมากน้อยแตกต่างออกไป แนะนำให้ทดลองทั้ง 2 แบบ เปรียบเทียบดูว่าแบบไหนให้ความลงตัวกับเสียงของซิสเต็มโดยรวมได้ดีกว่ากันครับ และต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด คือ ลำโพงจะต้องตั้งวางอยู่ได้อย่างมั่นคง

เมื่อจัดชุดใช้งานในแบบโฮมเธียเตอร์ ลำโพงเซนเตอร์ย่อมมีความสำคัญไม่แพ้ลำโพงคู่หน้า และ R400 ก็ให้ความกลมกลืนกับ R700 ได้ดี ด้วยศักยภาพที่ใกล้เคียง สามารถเติมเต็มบรรยากาศเสียงด้านหน้าที่มีความสำคัญมากที่สุดได้อย่างลงตัวเป็นเนื้อเดียวกัน เสียงสนทนาฟังดูอิ่มใหญ่ มีหนักหนัก ปลดปล่อยเสียงร้องออกมาได้รายละเอียดที่ชัดเจน มีพลัง อนาคตจะขยับขยายใช้งานในห้องขนาดค่อนข้างใหญ่ก็ทำได้ เพราะรองรับกำลังขับได้สูง

R200 ด้วยศักยภาพในแบบลำโพงวางขาตั้งที่สามารถใช้งานลำพังกับชุดฟังเพลง 2 แชนเนล หรือทำหน้าที่เป็นลำโพงคู่หน้าในห้องขนาดเล็ก-กลางได้เป็นอย่างดี พร้อมถ่ายทอดมิติเสียงโดดเด่น เบสเกินตัว เมื่อมาทำหน้าที่ลำโพงเซอร์ราวด์ย่อมเติมเต็มบรรยากาศเสียงโอบล้อมได้ดีตามคาด การโยนเสียงทำได้กลมกลืนไม่รู้สึกว่าด้านหลังด้อยกว่าด้านหน้า และแน่นอนว่าการชี้ชัดตำแหน่งทำได้โดดเด่น

R900 เป็นเครื่องมือเสริมบรรยากาศด้านสูง ที่ช่วยสร้างอรรถรสให้กับระบบเสียงรอบทิศทางยุคใหม่ กับลักษณะการติดตั้งแบบ On Speaker ซึ่งทำได้ง่าย หากสภาพห้องที่เหมาะสม คือ เพดานไม่เตี้ยหรือสูงเกินไปและสภาพอคูสติกไม่ก้องมากนัก อาศัยการปรับจูนเสียงอีกเล็กน้อยก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดี

ด้วยพื้นฐานตัวขับเสียงโดดเด่น การถ่ายทอดรายละเอียดเสียงในแบบ Up-firing peaker (On-speaker) ของ R900 จึงทำได้ชัดเจนกว่าลำโพงลักษณะเดียวกัน นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมอรรถรสจากบรรยากาศด้านสูงได้ดี หากใช้งาน 2 ชุด (Front + Rear Enabled Speakers) จะยิ่งเพิ่มความเป็นสามมิติให้กับแชนเนลด้านสูงในแบบ Up-firing ได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

หากต้องการ สามารถสลับการติดตั้งไปเป็นรูปแบบแขวนผนัง (Height Speaker) หรือแขวนฝ้าเพดาน (Top Speakers) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ R900 จะแสดงผลลัพธ์จากระบบเสียง Dolby Atmos/DTS:X ได้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกขั้น ถ้าไม่ลำบากเกินไปสามารถทดลองกันดูได้ครับ

Conclusion – สรุป

Polk Audio ชื่อนี้ยังคงการันตีลำโพงเสียงดีราคาคุ้มค่า ซึ่ง Reserve Series ถือเป็นพัฒนาการอีกขั้นกับคุณภาพเสียงที่ถอดแบบรุ่นเรือธง Legend Series แต่มีราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายกว่า จุดเด่นคือ R700 ลำโพงตั้งพื้นตัวท็อปที่จัดเต็มเทคโนโลยีการออกแบบลำโพงขั้นสูง ถ่ายทอดคุณภาพเสียงตลอดย่านรับฟังได้แบบถึงใจ กรณีที่มีงบประมาณไม่สูง หรือใช้งานในห้องไม่ใหญ่ ยังมีรุ่นรอง ๆ ลงมาให้เลือกใช้งานหลากหลาย สไตล์เสียงถอดแบบมาไม่ต่างกัน นับเป็นหนึ่งซีรีส์ลำโพงที่คุ้มค่ากับคุณภาพเสียงที่ได้สัมผัส

ข้อดีของ Polk Audio Reserve Series

1.  ลำโพงตั้งพื้น R700 เบสลงได้ลึก เวทีเสียงโอ่อ่า สเกลเสียงใหญ่ แรงปะทะหนักแน่น รายละเอียดเสียงชัดเจน

2. เซนเตอร์ R400 ให้เสียงอิ่มใหญ่ ศักยภาพใกล้เคียงลำโพงคู่หน้า รองรับกำลังขับสูง สามารถใช้งานในห้องขนาดกลางไปถึงใหญ่ได้

3. เซอร์ราวด์ R200 ลำโพงวางขาตั้งขนาดใหญ่ของซีรีส์นี้ แต่ตัวตู้ดูไม่เทอะทะ เบสเกินตัว มิติเสียงดี

4. R900 นอกจากใช้งานแบบ On Speaker ยังสามารถปรับเปลี่ยนไปติดตั้งแบบ Surround/Height Speaker รูปแบบอื่น ๆ ได้หลากหลาย

ข้อจำกัดของ Polk Audio Reserve Series

1. ลำโพงตั้งพื้น R700 และ เซนเตอร์ R400 น้ำหนักมาก การขยับยกย้ายจะลำบากนิด, ขนาดที่ใหญ่ ต้องการพื้นที่ตั้งวาง ไม่เหมาะกับห้องขนาดเล็ก

2. ลำโพงตั้งพื้น R700 ควรใช้ภาคขยายคุณภาพสูงจึงจะได้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยม (ภาคขยายของ AVR อาจเอาไม่อยู่)

3. ทวีตเตอร์มีโครงสร้างโลหะแหลมคมทำให้เกิดบาดแผลได้ หากเผลอไปชนหรือจับโดน

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.75
เสียง (Sound)
8.75
ลูกเล่น (Features)
8.75
ความคุ้มค่า (Value)
8.50
คะแนนตัดสิน (Total)
8.7

Polk Audio Reserve Series (2021)

8.7

ราคาเปิดตัว  Polk Audio Reserve Series*

R700 78,900 บาท/คู่

R400 22,900 บาท/ตัว

R200 24,900 บาท/คู่

R900 22,900 บาท/คู่

*ทุกรุ่นรับประกัน 5 ปีเต็ม