เรื่องย่อ
เมื่อเหล่าทีม X-Men ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าหวั่นเกรงและแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยเจอมา นั่นก็คือ จีน เกรย์ หนึ่งในสมาชิกของทีม ผู้ถูกโจมตีด้วยพลังลึกลับระดับคอสมิคขณะปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ ซึ่งแม้พลังลึกลับนี้จะมอบความแข็งแกร่งแบบไม่จำกัดให้ก็จริง แต่กลับเป็นพลังอันมหาศาลที่แม้แต่ตัวของจีนเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ ด้วยพละกำลังและอารมณ์ที่แปรปรวนเข้าขั้นวิกฤติ ทำให้จีนแบกรับต่อไปไม่ไหวแล้วระเบิดทุกสิ่งอย่างออกมา และเลวร้ายขนาดกล้าทำร้ายคนที่เธอรักมากที่สุด รวมถึงทำลายหัวใจสำคัญที่รวมทีม X-Men เข้าไว้ด้วยกัน.. เมื่อครอบครัวมิวแทนท์เริ่มแตกหักเป็นเสี่ยง ๆ ทุกคนจึงต้องหาทางกลับมาปรองดองกันอีกครั้ง ไม่ใช่แค่เพราะต้องการดึงจิตวิญญานของจีนกลับมา แต่ต้องปกป้องมวลมนุษยชาติจากกองทัพเอเลี่ยน ที่หวังโจมตีและยึดครองทั้งกาแล็กซี่ไปด้วย
บทวิจารณ์
ค่อนข้างแปลกใจที่ทางทีมงาน X-Men Dark Phoenix ทำตัวทีเซอร์ออกมาโดยที่ไม่ได้เอาฉากพี้คๆ ของเรื่องมาลง พอได้มาดูจริงถึงรู้ว่าเขาเก็บของดีเอาไว้ให้คนตีตั๋วมาดู ภาพยนตร์ตัวอย่างนี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของเรื่องเท่านั้น
ส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าภาพยนตร์เรื่อง X-Men Dark Phoenix ทำออกมาได้ดี ถึงดีมากๆ แต่ก็ไม่ได้จะบอกว่ามันดีจนหาที่ติไม่ได้หรอกนะ สำหรับเราแล้ว X-Men Dark Phoenix เป็นเหมือนกาแฟลาเต้ ที่มีฟองนมนุ่มๆ อยู่ด้านบน เข้าใจง่าย เรื่องราวค่อยๆ ถูกถ่ายทอดออกมาทีละนิดๆ พอจิบไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมีความขมออกมาแตะปลายลิ้น ทำให้เข้าใจอารมณ์ที่ตัวเอกของเรื่องต้องเผชิญ แต่ไม่ได้ถึงกับอินตามจีนไปด้วย จึงไม่รู้สึกเครียดไปพร้อมๆ กับเธอ ออกแนวสงสารซะมากกว่า ซึ่งก็สอดคล้องกับความรู้สึกที่แท้จริง ที่ครูใหญ่ของโรงเรียนเด็กพิเศษแห่งนี้มีให้ต่อเธอ ซึ่งได้เฉลยออกมาในฉากต่อๆ ไป ถือได้ว่าทางทีมสร้าง X-Men Dark Phoenix สามารถออกแบบการแสดงให้ผู้ชมรู้สึกคล้อยตามอารมณ์ที่วางเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
คอมพิวเตอร์กราฟฟิกก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ X-Men Dark Phoenix ซึ่งเราคิดว่าฉากหลังที่เป็นอวกาศและตัวเซลล์ประสาทในสมองของจีนทำได้สวยงามใช้ได้
สำหรับฉากตัวสู้ใน X-Men Dark Phoenix นั้นอาจจะมีไม่มาก แต่ก็ไม่ถือว่าน้อยเลย การสู้กันแต่ละครั้งมีที่มาที่ไป มีเหตุผลที่เหมาะสมรองรับ ไม่ใช่เอะอะๆ ตีกัน รวมๆ แล้วเราคิดว่า X-Men Dark Phoenix เป็นหนังที่มีความพอเหมาะพอดี กลมกล่อมมากๆ เลยล่ะ
สรุป
ถึงแม้ว่า X-Men Dark Phoenix จะไม่ได้เป็นภาพยนตร์ที่สนุกและชวนติดตามแบบเวอร์ๆ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าหนังเรื่องนี้สนุกจริงๆ กราฟฟิกสวย โลเกชั่นดี นักแสดงใช้ได้ ลำดับการเรียงเนื้อหาเข้าใจง่าย ฉากต่อสู้ก็กำลังดี ทำให้ X-Men Dark Phoenix เป็นภาพยนตร์ดูสบาย ผู้หญิงดูได้ ผู้ชายก็น่าจะชอบ สามารถดูรู้เรื่อง การผูกเรื่องทำได้ดี นอกจากนี้ยังทำให้เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครในภาคก่อนๆ ได้ดีขึ้น แต่ถึงจะไม่ได้ดูภาคอื่นมาก่อน ก็สามารถดู X-Men Dark Phoenix รู้เรื่อง แต่ถ้าดูมาบ้าง ก็จะอินกว่าไม่ได้ดู
คะแนน
8.5/10
