05 Sep 2019
Review

รีวิว IT Chapter 2 บทสรุปของแก๋งค์ขี้แพ้…แฟนตาซีพี้กัญชามาก เวอร์ชั่น IMAX | คะแนน 8.0 เต็ม 10


  • lcdtvthailand

สวัสดีครับทุกท่าน นายโรมันเองจ้า มีโอกาสไปดู IT : Chapter 2 รอบสื่อที่โรงภาพยนตร์ IMAX สาขาพารากอนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เอาจริงๆผมเองก็ได้ไปดูภาคแรกมาแล้วเช่นกัน แต่มันก็แอบนานพอสมควรกว่าภาค 2 จะเข้า เลยลืมชื่อและหน้าตาตัวละครไปบ้าง แต่ก็ยังดีได้เอาแผ่น Blu-ray ภาคแรกมาทดสอบพกทีวีอยู่เป็นครั้งคราว ทำให้จำได้เนื้อเรื่องภาคก่อนได้ราวๆ 50% ยอมรับว่าบางทีก็สับสนกับเรื่อง Stranger Things ใน Netflix เพราะโครงเรื่องหลักคือแก็งค์เด็กยุควินเทจขี่จักรยานปราบเหล่าอสูรกายลี้ลับเหมียนกัน 5555+

เจอะเพนนีไวส์ตัวเป็นๆ อย่าลากผมลงท่อนะเฟร้ย มีต่อยอะ 555

ภาค 2 นี้ เป็นเรื่องราวต่อจากภาคที่แล้ว ไอ้ที่เหมือนจะปราบตัวตลกเพนนีไวส์ได้ไปตั้งแต่แรก แท้จริงมันอย่างไม่ตายนะเฟร้ย แค่ “ห่างกันซักพัก” เท่านั้น และในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปถึง 27 ปี “มัน” ก็กลับมาอาละวาดในเมืองเดิมอีกครั้ง โดยแอบกำจัดเด็กในเมืองไปทีละรายสองราย ซึ่งมันก็เป็นฉากเเปิดเรื่องเลยที่ถึงพริกถึงขิงสุดฉากนึง จนมีการเรียกรวมพลเดอะแก็งค์ที่โตเป็นหนุ่มสาวหมดแล้ว แถมกระจัดกระจายย้ายที่อยู่ไปเมืองอื่นๆกันแทบทั้งหมด ให้กลับมายังเมืองบ้านเกิดเพื่อต่อกรกับ “มัน” เลยเรียกว่าไอตัวนี้ว่า “IT” นี่แหละ

สำหรับแก็งค์เด็กขี้แพ้ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ “ความกลัว” ก็มิเคยเลือนหาย กลายเป็นปมฝังรากลึกในใจ จนทำให้ Loser กลายเป็นอีกขั้นของ Loser ซึ่งตัวหนังจะค่อยๆพาเราคลายปมตรงนี้ พร้อม Flashback เรื่องราวในภาคแรกให้ซิงค์กับภาคสอง เพื่อให้เราประติดประต่อเรื่องราวได้อย่างพอสังเขป ช่วงนี้อาจมีเบื่อบ้างเพราะมีซ้ำมุขเดิม จับทางได้ง่ายไปหน่อย แต่ประทับใจสุดคือการแคสต์นักแสดงจากเด็กเล็กสู่เด็กโตที่ค่อนข้างเนียนทั้งเค้าโครงหน้าและการแสดง โดยเฉพาะ “คนแปลงร่าง” อย่างเจ้าเด็กอ้วนเบน ที่เปลี่ยนตัวเองให้ผอมเพรียวหล่อขึ้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือ รู้นะว่าที่ฟิตหุ่นซะขนาดนี้ไม่ใช่เพราะสุขภาพหรอก…..แต่เพราะหวังแอ้มสาว ! #ผ่าม

หนังถือว่าสนุกมีครบรสได้ทุกมิติของการนำเสนอ

– ฉากหลอกหลอนแบบตุ้งแช่ : Thriller

– บู๊แหลก ซัดกันอย่างลุ้นระทึก : Action

– แฟนตาซีพี้กัญชา : Fantasy

– สุขเศร้าเคล้าน้ำตา : Emotion

– มุขตลกที่ฮาจริง คอยฉุดอารมณ์ขึ้นมา : Comedy

ก่อนเริ่มฉายนั้นบริเวณหน้าโรงมีการเอาคนมาใส่ชุดคอสเพลย์เป็นเจ้าตัวตลกเพนนีไวส์พร้อมถือลูกโป่งสีแดงหนึ่งกำใหญ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความซวยในเรื่อง คอยวิ่งไปเย้าแหย่ลูกค้าสาวๆที่มาซื้อตั๋วดูหนัง ส่วนในตัวโรง IMAX มีลูกโป่งสีแดงถูกเสียบไว้ตามเก้าอี้เต็มโรงแบบเล่นใหญ่รัชดาลัย ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างบรรยากาศหลอนนอกจอ ผมถือว่าเป็นกิมมิคที่ดีนะ ดึงให้เรามีอารมณ์ร่วมก่อนดูหนังจริง ประมาณว่าเรากินเบียร์บิลด์ตัวเองก่อนดูคอนเสิร์ตร็อคแอนด์โรล  ตอนแรกว่าจะเอาลูกโป่งกลับบ้านซักลูกสองซะหน่อยเป็น “ที่ระลึก” ทว่าพอดูจบก็เปลี่ยนใจทิ้งมันไว้ในโรงอย่างนั้น กลัวเอากลับแล้วดันเป็น “ที่ระทึก” ไม่ใช่อยู่ดีๆมีตัวอะไรไม่รู้โผล่มาลากผมลงท่อไปซะอย่างงั้น !

อีกหนึ่งจุดที่ประทับใจคือความเป็นโรง IMAX คือภาพและเสียงมันจะ “จัดเต็ม” กว่าโรงปกติทั่วไป ถึงแม้หนังเรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX แต่ด้วยความที่จอมันใหญ่เต็มตา ยิ่งนั่งใกล้มันก็จะล้นตานิดๆ ความสนุกคือเวลาตัวละครลับมันผลุบๆโผล่ๆออกมาตามซอกตามมุม มันทำให้เรากวาดสายตาค้นหาแบบลุ้นตาม รวมถึงระบบเสียงที่เน้นหนักแน่นเป็นทุนเดิม ทำให้ฉากตุ้งแช่มีความกระแทกกระทั้นถึงใจ ตรงนี้แหละที่ช่วยอัพเลเวลของอารมณ์ร่วมให้สูงปรี๊ดโดยปริยาย

บทสรุป จะเป็นอย่างไร ? แก็งค์เด็กโข่งที่โตแล้วจะคว่ำเพนนีไวส์ได้หรือไม่ ? ขอแนะนำให้ไปชมในโรงเองนะครับ ทิ้งข้อคิดของหนังไว้ซักเล็กน้อย ข้อดีของการเป็น “ไอ้ชี้แพ้” คือมันไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว ฉะนั้นอยากทำอะไรก็ทำแมร่งเลย  !!!

คะแนน

8.0/10