13 Jun 2014
Review

รีวิว Acer C205 โปรเจคเตอร์เล็กจิ๋วพกพาสะดวก ไม่เสียบปลั๊กก็ใช้งานได้


  • raweepon

จากที่กระผมได้พาทุกท่านไปไล่ดูส่วนของหน้าตาและดีไซน์อันแสนจะกระทัดรัดไปแล้ว ทีนี้ก็ต้องขอพาคุณผู้อ่านมาเข้าเรื่องของภาพและการใช้งานว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง? ภาพจะสวยสดสักแค่ไหน? อันดับแรกต้องขอเกริ่นไว้ก่อนว่าตัวของ Acer C205 อาจจะไม่ลงลึกเรื่องของคุณภาพของภาพหรือการ Calibrated ภาพมากนักแต่จะขอเน้นที่ไลฟ์สไตล์การใช้งานซะมากกว่า เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปเริ่มดูที่การใช้งานกันดีกว่า

เริ่มต้นด้วยการทดสอบ Aspect Ratio หรือการแสดงอัตราส่วนของภาพ ด้วยการใช้แพทเทิร์นจากแผ่น DVE ในการตรวจสอบที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (16:9)

ทั้งนี้หลายท่านอาจจะสงสัยว่าแล้วเราจะไม่ทดสอบภาพหรือลอง Calibrated ภาพกันสักหน่อยเหรอ เนื่องด้วยขอจำกัดของตัวโปรเจคเตอร์ที่เน้นเรื่องของการใช้งานทั่วไป อย่างเช่น การต่อดูภาพยนตร์ การใช้ดูฟุตบอล และใช้พกพาไปนำเสนองานเป็นหลัก จึงทำให้บนตัวเครื่องไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้มากนักจะใช้งานได้เพียงแค่โหมดภาพสำเร็จรูปที่ใส่มาให้เท่านั้น

Acer C205 รองรับการแสดงผลสูงสุดที่ 1280 x 800 พิกเซล

ซึ่งจากภาพด้านบนทางเราได้ให้เครื่องเล่น PS3 แสดงผลภาพออกมาที่ 1080p แต่เนื่องด้วยสเปคเบื้องต้นของโปรเจคเตอร์สามารถแสดงผลได้สูงสุดที่ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล จึงทำให้เม็ดพิกเซลของภาพค่อนข้างใหญ่ไม่ค่อยคมชัดเท่าที่ควร แต่ก็ยังพอมีวิธีแก้ไขอยู่บ้างในส่วนของตำแหน่งผู้รับชมให้เว้นระยะห่างระหว่างจุดที่นั่งรับชมกับจุดที่แสงไปตกกระทบบนฉาก (จอภาพ) ประมาณ 2.5-3 เมตรขึ้นไป

ทั้งนี้ในการทดสอบการใช้งานเจ้าโปรเจคเตอร์ตัวนี้ กระผมได้เลือกใช้ PS3 สำหรับการทดสอบการเล่นเกมและดูภาพยนตร์เป็นหลัก นอกจากก็ได้ใช้คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊คเข้ามาร่วมทดสอบอีกด้วย

สำหรับโหมดภาพสำเร็จรูปที่ทาง Acer ได้ใส่มาให้กับเจ้า C205 นั้นมีทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน ซึ่งความแตกต่างของแต่ละโหมดสามารถเทียบดูได้จากภาพด้านบน
จากภาพด้านบนจะเป็นโหมดที่ให้รายละเอียดของภาพโดยรวมได้ค่อนข้างละเอียดที่สุด และให้ความสว่างมากที่สุดด้วยเช่นกันเมื่อเทียบกับโหมดอื่นๆ
โหมดภาพที่ 2 จะมีความอึมครึมและความสว่างของภาพน้อยกว่าโหมดก่อนหน้านี้ ทำให้รู้สึกว่า รายละเอียดฉากหลังไม่ค่อยชัดเจนเท่าที่ควร ซึ่งถ้าให้เลือกคิดว่าชอบโหมดแรกมากกว่านะ
มาถึงโหมดสุดท้าย Eco mode เหมาะกับการท่องเว็บและใช้งานด้านเอกสาร แต่ความรู้สึกในส่วนที่เป็นฉาก สีดำจะติดดำจมอยู่พอสมควร ทั้งนี้ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ลองใช้โหมดภาพที่ 1 หรือไม่ก็โหมดภาพที่ 2 จ้า

เข้าใจว่าตัวโปรเจคเตอร์นั้นเป็นโปรเจคเตอร์ขนาดเล็กเหมาะสำหรับการพกพา จึงทำให้มีข้อจำกัดในการใส่หลอด LED หรือแหล่งกำเนิดแสงที่มีกำลังในการส่องสว่างได้ไม่สูกมากนัก ทั้งนี้ Acer C205 นั้นก็มีอัตราความสว่างอยู่ที่ 150 ANSI lumens เท่านั้น

เข้าใจว่าตัวโปรเจคเตอร์นั้นเป็นโปรเจคเตอร์ขนาดเล็กเหมาะสำหรับการพกพา จึงทำให้มีข้อจำกัดในการใส่หลอด LED หรือแหล่งกำเนิดแสงที่มีกำลังในการส่องสว่างได้ไม่สูกมากนัก ทั้งนี้ Acer C205 นั้นก็มีอัตราความสว่างอยู่ที่ 150 ANSI lumens เท่านั้น
สำหรับฉากที่มีรายละเอียดในที่มืดมากๆ จากภาพด้านบนจะเห็นว่าการแสดงผลในที่มืดค่อนข้างจะติด ดำจมอยู่พอสมควรดูแล้วให้ความรู้สึกอึมครึม แต่ก็ไม่ได้ถึงกับมืดตึบไปเลยซะทีเดียว
ถัดมาที่ฉากสว่างกันบ้าง สำหรับฉากสว่างสามารถทำออกมาได้ดีกว่าฉากมืดอยู่เกินตัวในระดับหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่าดูแล้วเป็นธรรมชาติไม่ได้ขัดหูขัดตาผู้ใช้งานเท่าใดนัก
เปลี่ยนมาทดสอบแสงสีเสียงในคอนเสิร์ต Coldplay Live 2012 ซึ่งกระผมค่อนข้างชอบ การจัดแสงสีไฟในคอนเสิร์ตนี้เป็นอย่างมาก
สำหรับการแสดงรายละเอียดของแสงไฟถือว่าทำออกมาได้สวยสด แต่คุณภาพของภาพที่ได้นั้นอาจจะคมชัด สู้โปรเจคเตอร์รุ่นใหญ่ไม่ได้ เพราะมีข้อจำกัดอยู่หลายด้านอย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น
ขยับมาทดสอบฉากไล่ล่าในภาพยนตร์เรื่อง The Fast And Furious 6

จากภาพฉากนี้เป็นฉากที่ไม่ได้มีรายละเอียดในที่มืดมากนัก ทำให้ดูแล้วไม่รู้สึกถึงความอึมครึมของภาพเหมือนกับฉากมืดในภาพยนตร์ที่ได้ทดสอบมาก่อนหน้านี้ สำหรับฉากในที่สว่างแบบนี้ถือว่าไม่มีปัญหาเลย