07 Jan 2014
Review

แรงไม่หยุด !!! รีวิว ACER H5370BD DLP Projector (3D) เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็น


  • lcdtvthailand

ภาพ

ก่อนอื่นต้องขอแนะนำสเปคของ Acer H5370BD ก่อนครับ ตัวนี้เป็น DLP Projector หรือ (Digital Light Processing) แน่นอนว่าเหมาะสมกับการนำมารับชมภาพยนตร์ 2 มิติทั่วไปและ รวมไปถึงการรองรับไฟล์แบบ 3 มิติ ( 3D แบบ Active ) ซึ่งคุณภาพเหนือกว่าโปรเจคเตอร์ที่ใช้ในการนำเสนองานตามบริษัทหลายเท่านัก ความละเอียดของตัวเครื่อง Acer H5370BD อยู่ที่ 1280 x 720 ( Native Resolution ) ที่อัตราส่วน 16:9 Wide Screen และในด้านความสว่างก็ถือว่าสู้แสงภายนอกได้ดีในระดับหนึ่งครับคือ 2500 ANSI Lumens   

สำหรับการปรับตั้งโปรเจคเตอร์นั้นจะมีระยะที่เหมาะสมอยู่ดังภาพด้านบนนี้ ซึ่ง Acer H5370BD สามารถขยายใหญ่สุดได้ถึง 300 นิ้ว ที่ระยะ 10.3 เมตร แต่ที่เราใช้ทดสอบกันคือ 90 นิ้ว จะอยู่ที่ระยะประมาณ 3.1 – 3.2 เมตร ครับ น่าจะเป็นระยะที่พอเหมาะกับห้องโฮมเธียเตอร์ตามบ้านทั่วๆไป วิธีการติดตั้งก็ไม่ยากเลย เพียงแค่ตั้งตัวเครื่องไว้ใน “ระยะฉาย” ที่เหมาะสมแล้วทำการปรับวงแหวนซูมเข้าออกที่หน้าเลนส์ให้พอดีกับหน้าจอ ( Screen ) และสุดท้ายคือปรับโฟกัสให้แสดงผลได้คมชัด ส่วนระนาบของการติดตั้งนั้นสามารถแขวนผนังคือตั้งขนานไปกับหน้าจอได้ ( มีโหมดให้เลือกปรับในตัวเครื่อง ) และแม้ว่าการติดตั้งจะไม่สามารถวางได้พอดีแบบ เป๊ะๆ แต่ฟังก์ชั่นที่ช่วยในการปรับอย่าง Keystone ก็บรรจุมาในเครื่องนี้ด้วยเช่นกัน สามารถตั้งเป็น Auto เครื่องจะทำการปรับให้โดยอัตโนมัติเลยครับ 

ฟังก์ชั่น Keystone ที่สามารถปรับมุมมองของจอโปรเจคเตอร์ ให้ไม่ผิดเพี้ยน
โหมดภาพต่างๆ ที่มีให้เลือกใช้งาน

การเลือกใช้งานของโหมดภาพต่างๆนั้น มีให้เลือกเช่นเดียวกับ LED TV ปกติทั่วไป ถ้าเดิมๆจากโรงงานผมแนะนำโหมด USER ก็ถือว่ามีสีสันใช้ได้เลยทีเดียว แน่นอนว่าข้อจำกัดคือต้องดูในห้องที่มืดสนิทเท่านั้น เพื่อคุณภาพที่จะแสดงออกมาเต็มศักยภาพของตัวเครื่อง

Pre-Calibration
ค่าจากโหมด USER ก่อนทำการปรับภาพ
ลองปิดฟังก์ชั่น Brilliant Color ดูบ้าง ระดับ RGB Balance ดีกว่าตอนเปิดใช้งานในกราฟแรก
Post Calibration หลังจากปรับภาพในโหมด USER แล้ว ถือว่ามีความเที่ยงตรงพอสมควรทั้งค่าสีและระดับ White Balance สรุปว่าควรปิดฟังก์ชั่น Brilliant Color ไว้จะดีกว่า

ลองทดสอบดูเรื่อง Fast Five สัมผัสแรกที่ผมรู้สึกคือการนั่งดูที่บ้านแต่ให้อารมณ์เฉกเช่นรับชมในโรงภาพยนตร์เลยครับ เริ่มจากฉากเปิดตัวทีมีทีมรถซิ่งของพ่อหนุ่ม “ไบรอัน โอคอนเนอร์” ขับรถไปช่วย “ดอม โดมินิค โทเร็ตโต” องค์ประกอบหลายๆอย่างเช่นขนาดหน้าจอที่ใหญ่ 90 นิ้ว หรือแม้กระทั่งแนวภาพที่ดู “นุ่มนวล” ช่วยเสริมแต่งให้อินไปหนังมากขึ้นอีก จนพาลทำให้คิดว่า “รู้งี้ไปซื้อมาดูตั้งนานแล้ว” และอีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้เลยคือ แม้จะเป็น DLP Projector ที่ความละเอียดระดับ HD 720p แต่ความคมชัดนั้นก็ยังคมอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมค่อนข้างประหลาดใจครับ (นี่ถ้าเป็น 1080p คงจะคมกริบกว่านี้หลายเท่า) 

นั่งดู Fast Five รอบนี้ มันส์กว่าดูจาก LED ปกติ
ฉากไล่ล่า ได้อารมณ์ทีเดียว

ผ่านมาอีกเรื่องที่หยิบมาทดสอบคือ The Avenger หนังแนวซูปเปอร์ฮีโร่ ขวัญใจเด็กแนว เรื่องนี้โดยรวมแล้วเป็นหนังที่มีฉากค่อนข้างสว่างรวมถึงสีสันของทั้งตัวละครและฉากแอ็คชั่นที่ยิงกันดุเดือด พอมาดูกับ Acer H5370BD ตัวนี้แล้วก็ยังคงความถูกต้องของสีผิวตัวละครอยู่ ไม่ได้ติดอมแดง หรืออมเหลืองแต่อย่างใด ส่วนเรื่องภาพเคลื่อนไหว เวลาเจอฉากแพนกล้องก็ยังทำได้ดีครับถือว่าเหนือกว่ารุ่น P1340W รุ่นที่คุณชานมเคยรีวิวไปซะด้วย

ฉากนี้ ดร.แบนเนอร์กำลังแปลงเป็นยักษ์เขียว

สำหรับเรื่องถัดมา เราจะมาดูรายละเอียดในที่มืดกันบ้างครับ โดยอ้างอิงจาก Journey 2 ฉากเล่นอูคูเรเล่ ถือว่าทำได้ดีเกินคาด รายละเอียดพวกต้นไม้ใบหญ้าก็ถือว่าสว่างพอควร จุดสังเกตอีกที่หนึ่งคือตามรอยพับของเสื้อ ถ้าเป็นทีวีบางรุ่นหรือโปรเจคเตอร์ระดับล่างๆ จะมองไม่เห็นเลยครับ คือดำจมหายไป กลืนเป็นผ้าชิ้นเดียวไปเลย

รายละเอียดในที่มืดที่ทำได้ค่อนข้างดี

สำหรับ “ความดำ” ของภาพนั้น ถือว่าดำในระดับหนึ่งครับ ทั้งนี้ต้องพิจารณาองค์ประกอบที่ช่วยส่งเสริมความดำด้วยอีกทางก็คือตัว “จอ” ถ้ายิ่งได้จอที่มีคุณภาพดี ก็ช่วยในจุดนี้ได้เยอะ ฉะนั้นถือว่านี่คือโปรเจคเตอร์ระดับกลางที่มีคุณภาพต่อราคาที่คุ้มค่าทีเดียว   

ดูหนัง 3D บ้าง Cloudy with a Chance of Meatballs

Acer H5370BD รุ่นนี้สามารถตอบสนองการเล่นไฟล์ 3D ได้ครับ ซึ่งเป็นประเภท Active ตัวแว่นสามารถใช้แบบเดียวกับรุ่น P1340W และ H7532 ได้ ทดสอบดูในฉากที่ลูกอมตกจากท้องฟ้าก็ถือว่ามีมิติในเชิงลึกดีครับ แต่ถ้าเอาลอย ก็ยังไม่ได้ลอยออกมาแบบหวือหวา เรียกได้ว่าพอแยกมิติแต่ละชั้นของวัตถุได้พอประมาณ ที่สำคัญคือตัวแว่นนั้นออกจะกระพริบซักเล็กน้อย และเมื่อเราใช้งานในโหมด 3D ภาพโดยรวมจะมีความสว่างลดลงเล็กน้อย

ดูในห้องมืดๆนั้น ให้มิติที่อยู่ในระดับปานกลาง