07 Mar 2015
Review

กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์จอยักษ์ แต่คราวนี้ Full HD 3D นะจ้ะ !? รีวิว Acer H7532BD Full HD 3D Home Projector


  • ชานม

ช่องต่อ

ในส่วนของช่องต่อ จะพบว่ามีจุดเด่นมากกว่ารุ่นเล็กอย่าง P1340W เช่นกัน ที่ชัดเจนที่สุด คือ HDMI In ที่มีถึง 2 ช่อง ไม่ได้มีช่องเดียวเหมือนรุ่นเล็ก อีกทั้ง HDMI In อีก 1 ช่อง ที่เพิ่มเข้ามานี้ ยังรองรับมาตรฐาน MHL (Mobile High Definition Link) สำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

ในส่วนของช่องต่อ จะพบว่ามีจุดเด่นมากกว่ารุ่นเล็กอย่าง P1340W เช่นกัน ที่ชัดเจนที่สุด คือ HDMI In ที่มีถึง 2 ช่อง ไม่ได้มีช่องเดียวเหมือนรุ่นเล็ก อีกทั้ง HDMI In อีก 1 ช่อง ที่เพิ่มเข้ามานี้ ยังรองรับมาตรฐาน MHL (Mobile High Definition Link) สำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

เพิ่มเติม

ในรุ่น H7532BD นี้ มีฟีเจอร์หนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการติดตั้งได้ดีมากๆ

โดยเมื่อกดปุ่ม Menu ที่ตัวเครื่อง (ขณะที่ยังไม่ได้เสียบสายสัญญาณอินพุตใดๆ) โปรเจ็กเตอร์จะฉายภาพ แพทเทิร์น Geomatry ขึ้นบนจอ (เป็นตารางสี่เหลี่ยมและมีวงกลมตรงกลาง และที่มุมทั้งสี่ ดังรูป)

เพื่อให้เราใช้อ้างอิงปรับระยะห่างของตัวเครื่องกับจอฉาย ปรับระยะเลนส์และโฟกัสให้ภาพฉายมีขนาดพอดีกับจอฉาย ไม่ขาด ไม่เกิน ขณะเดียวกันก็เอาไว้ใช้เช็คระนาบตั้งวาง และอัตราส่วนด้วยว่าตรงดี หรือมีเอียงบิดเบี้ยวตรงไหนหรือเปล่า ก็ปรับให้เข้าที่ และใช้อ้างอิงตรวจสอบการปรับ Keystone ได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการก่อนใช้งานโปรเจ็กเตอร์เสมอ

ซึ่งขั้นตอนนี้นั้น เดิมทีมีความยุ่งยาก วุ่นวายพอสมควรเพราะต้องวิ่งจัดหาพวกอุปกรณ์แผ่นปรับภาพ (เช่น DVE Blu-ray ฯลฯ) พร้อมเครื่องเล่นบลูเรย์ หรือ Pattern Generator เพื่อส่งภาพขึ้นบนจอในการอ้างอิงติดตั้ง แต่บัดนี้มีแพทเทิร์นที่ใช้ในการติดตั้งดังกล่าว ผนวกมากับตัวโปรเจ็กเตอร์เลย ให้ความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดกว่า 

โปรเจ็กเตอร์ยุคปัจจุบันหลายๆ เครื่อง เพิ่มคุณค่า โดยติดตั้งระบบสำโพงขนาดเล็กในตัว ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวก เวลาที่ยกไปไหนมาไหน หรือสถานที่ไม่เอื้อต่อระบบเครื่องเสียงขนาดใหญ่ จะได้มีระบบเสียงประกอบ ไม่ขาดอรรถรส
.
ระดับความดังเสียงเมื่อใช้งานทั่วไปถือว่าใช้ได้
แต่ถ้าชมภาพยนตร์จะออกเบาเล็กน้อย กระนั้นในประเด็นนี้ โดยรวมระบบเสียงจาก H7532BD ให้ระดับเสียงที่ดังขึ้นกว่ารุ่นเล็ก P1340W อยู่เล็กน้อย

หมายเหตุ: กรณีที่เชื่อมต่อรับสัญญาณเสียงทาง HDMI โดยเฉพาะเมื่อชมภาพยนตร์ BD/DVD จะต้องเปลี่ยนตัวเลือกระบบเสียงดจิจทัลเอาต์พุตของเพลเยอร์ให้เป็น PCM เสียก่อน ไม่อย่างนั้นเสียงที่ได้ยินผ่านโปรเจ็กเตอร์จะเป็นเสียงซ่าที่ฟังไม่ได้ศัพท์ (ไม่มีภาคถอดรหัส Dolby, DTS ในตัว)

การใช้งานเมนูติดตั้งนั้น ท่านใดที่ไม่สันทัดภาษาอังกฤษ จะปรับให้เป็นภาษาไทยก็ได้

ภาพ

การอ้างอิงทดสอบนั้น เป็นรูปแบบเดียวกับที่ทีมงานใช้ทดสอบ P1340W ก่อนหน้านี้ โดยฉายภาพขึ้นจอฉายแบบ Fixed ขนาด 90″ อัตราส่วน 16:9 แขวนผนังในตำแหน่งกึ่งกลางห้อง เชื่อมต่อสาย HDMI ความยาว 10 ม. จาก Pattern Generator/Player/AVR ไปยังโปรเจ็กเตอร์ ที่วางห่างออกมาใกล้จุดรับชม ดังรูป

จำนวนโหมดภาพสำเร็จรูปจากโรงงานที่เลือกได้ คือ 7 โหมด น้อยกว่า P1340W อยู่ 1 โหมด ทว่าเราคงไม่วัดศักยภาพกันที่จำนวนโหมดภาพ อันที่จริงเวลาใช้งาน จะมีโหมดภาพที่ใช้งานได้จริง (อ้างอิงได้ค่อนข้างถูกต้อง สีไม่เพี้ยน) อยู่เพียงไม่กี่โหมดเท่านั้น สำหรับ H7532BD แนะนำโหมด User ครับ
ศักยภาพของโหมด User นั้น ให้บาลานซ์แสงขาวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี อาจไม่ถึงกับยอดเยี่ยมเหมือนระดับอ้างอิง ราคาสูง เนื่องจากยังติด Cool เล็กน้อย (อุณหภูมิสีอยู่ที่ราว7364°K) ส่วนหนึ่งของค่ากำหนดจากโรงงาน ที่เน้นให้ H7532BD สามารถแสดงภาพได้สว่างเจิดจ้ายิ่งขึ้น โดยจะเปิดฟีเจอร์หนึ่งเอาไว้ เรียกว่า Brilliant Color ที่ให้ผลเพิ่มขอบเขตของระดับความสว่างสูงสุด ให้สว่างมากขึ้น ความสามารถในการสู้กับสภาพแสงแวดล้อมก็จะดีขึ้น แต่หากไม่มีความจำเป็นต้องสู้แสงแวดล้อม เช่น การใช้งานในห้องมืด (ห้องโฮมเธียเตอร์) การปิดใช้งาน Brilliant Color จะช่วยให้บาลานซ์อุณหภูมิสีดีขึ้น (อยู่ที่ราว 6997°K) ตัวเลือก Brilliant Color นั้น จะอยู่ในหัวข้อ Color –> Advanced
เมื่อปิด Brilliant Color ไปแล้ว White Balance จะดีขึ้นเล็กน้อย ทำนองเดียวกับ CMS ที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน แต่แน่นอนว่าระดับความสว่างจะลดลงไป เมื่อเทียบกับ Brilliant Color – On ถึงกระนั้นทีมงานตรวจสอบดูแล้ว ด้วยศักยภาพการแสดงภาพได้สว่างมากอยู่แล้วของ H7532BD ถ้าชมในห้องที่คุมแสงได้ดี การปิดใช้งาน Brilliant Color ไป ไม่สร้างผลกระทบในการรับชมแต่อย่างใด กลับดูสบายตามากขึ้น (ไม่จ้าเกินไป)
แต่ข้อดีของรุ่นใหม่มิได้มีดีแค่ที่กล่าวไป ด้วยระดับรุ่นที่สูงกว่า การรองรับปรับอุณหภูมิสี (White Balance) ควบคู่การปรับ Color Management System แบบละเอียด (ซึ่งในรุ่น P1340W ยังไม่มี) จะส่งอานิสงส์ถึงผลลัพธ์สุดท้ายในแง่ของความเที่ยงตรงของสีสันได้ดีกว่าอย่างชัดเจน แม้จะยังไม่ถึงกับเพอร์เฟ็กต์มากนัก
หลังจาก calibrate ปรับภาพแล้ว ภาพจะดูสมจริง เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นอีกระดับหนึ่ง ซึ่งสังเกตเปรียบเทียบได้ไม่ยาก ด้วยกำลังหลอดไฟของ H7532BD ที่สูงกว่านั้น ภาพจะดูสว่างจะแจ้ง ถึงแม้ไม่ได้เปิด Brilliant Color ก็ตาม คุณสมบัติ Native Resolution ระดับ Full HD สังเกตได้ชัดว่าการถ่ายทอดรายละเอียดดีเทลในภาพ ดีกว่า P1340W ที่ยังเป็นมาตรฐาน HD Ready ตรงนี้เมื่อชมภาพยนตร์บลูเรย์ 1080p จึงได้อานิสงส์แตกต่างชัดเจนเลยทีเดียว แต่หากเทียบกับ Full HD Projector ระดับท็อปๆ ภาพของ H7532BD จะยังไม่ถึงกับคม (sharp) คือ มีการฟุ้งตามขอบพิกเซลบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ได้สร้างผลกระทบใดๆ เอกลักษณ์ของภาพจะติดนวล
กำลังหลอดไฟที่สูงนั้น ภาพที่โปรเจ็กเตอร์แสดงได้ จะสว่างเจิดจ้า แต่ก็มีประเด็นเรื่องของการควบคุมระดับแสงบริเวณส่วนมืด อาจจจะยังเก็บได้ไม่มืดสนิทนัก และระบบระบายความร้อนที่ต้องแข็งขันมากขึ้นกว่ารุ่นระดับกำลังหลอดต่ำ จากผลการระบายความร้อน ระดับเสียงพัดลมจึงอาจจะรับรู้ได้ว่าดังกว่ารุ่นเล็กอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นการรบกวน
อย่างไรก็ดีในประเด็นการให้ระดับความสว่าง เกี่ยวเนื่องถึงการระบายความร้อย สามารถปรับไปใช้ “Eco Mode” หลอดไฟจะลดกำลังแสงลงบางส่วน ทีมงานทดลองแล้วพบว่า หากเป็นในห้องมืดสนิท Eco Mode ก็ยังให้ภาพที่ยังคงสว่าง ไม่ทึมทึบ แม้ไม่สว่างจ้าเหมือนค่าโรงงาน แต่ดูแล้วสบายตา ชมได้นานกว่า อีกทั้งผลพลอยได้ คือ จะคุมดำดีขึ้นเล็กน้อย และเสียงพัดลมยังเงียบลงกว่าเดิมอีกด้วย

หมายเหตุ: โหมด Eco จะช่วยยืดอายุหลอดขึ้นไปได้ จากปกติ 2500 เป็น 4000 ชม. (จำนวนชั่วโมงอ้างอิงจากเอกสารเผยแพร่ของผู้ผลิต) และอัตราการใช้พลังงานลดลงราว 17.3%