ช่องต่อ
ในส่วนของช่องต่อ จะพบว่ามีจุดเด่นมากกว่ารุ่นเล็กอย่าง P1340W เช่นกัน ที่ชัดเจนที่สุด คือ HDMI In ที่มีถึง 2 ช่อง ไม่ได้มีช่องเดียวเหมือนรุ่นเล็ก อีกทั้ง HDMI In อีก 1 ช่อง ที่เพิ่มเข้ามานี้ ยังรองรับมาตรฐาน MHL (Mobile High Definition Link) สำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
เพิ่มเติม
ในรุ่น H7532BD นี้ มีฟีเจอร์หนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการติดตั้งได้ดีมากๆ
เพื่อให้เราใช้อ้างอิงปรับระยะห่างของตัวเครื่องกับจอฉาย ปรับระยะเลนส์และโฟกัสให้ภาพฉายมีขนาดพอดีกับจอฉาย ไม่ขาด ไม่เกิน ขณะเดียวกันก็เอาไว้ใช้เช็คระนาบตั้งวาง และอัตราส่วนด้วยว่าตรงดี หรือมีเอียงบิดเบี้ยวตรงไหนหรือเปล่า ก็ปรับให้เข้าที่ และใช้อ้างอิงตรวจสอบการปรับ Keystone ได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการก่อนใช้งานโปรเจ็กเตอร์เสมอ
ซึ่งขั้นตอนนี้นั้น เดิมทีมีความยุ่งยาก วุ่นวายพอสมควรเพราะต้องวิ่งจัดหาพวกอุปกรณ์แผ่นปรับภาพ (เช่น DVE Blu-ray ฯลฯ) พร้อมเครื่องเล่นบลูเรย์ หรือ Pattern Generator เพื่อส่งภาพขึ้นบนจอในการอ้างอิงติดตั้ง แต่บัดนี้มีแพทเทิร์นที่ใช้ในการติดตั้งดังกล่าว ผนวกมากับตัวโปรเจ็กเตอร์เลย ให้ความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดกว่า
หมายเหตุ: กรณีที่เชื่อมต่อรับสัญญาณเสียงทาง HDMI โดยเฉพาะเมื่อชมภาพยนตร์ BD/DVD จะต้องเปลี่ยนตัวเลือกระบบเสียงดจิจทัลเอาต์พุตของเพลเยอร์ให้เป็น PCM เสียก่อน ไม่อย่างนั้นเสียงที่ได้ยินผ่านโปรเจ็กเตอร์จะเป็นเสียงซ่าที่ฟังไม่ได้ศัพท์ (ไม่มีภาคถอดรหัส Dolby, DTS ในตัว)
ภาพ
การอ้างอิงทดสอบนั้น เป็นรูปแบบเดียวกับที่ทีมงานใช้ทดสอบ P1340W ก่อนหน้านี้ โดยฉายภาพขึ้นจอฉายแบบ Fixed ขนาด 90″ อัตราส่วน 16:9 แขวนผนังในตำแหน่งกึ่งกลางห้อง เชื่อมต่อสาย HDMI ความยาว 10 ม. จาก Pattern Generator/Player/AVR ไปยังโปรเจ็กเตอร์ ที่วางห่างออกมาใกล้จุดรับชม ดังรูป
หมายเหตุ: โหมด Eco จะช่วยยืดอายุหลอดขึ้นไปได้ จากปกติ 2500 เป็น 4000 ชม. (จำนวนชั่วโมงอ้างอิงจากเอกสารเผยแพร่ของผู้ผลิต) และอัตราการใช้พลังงานลดลงราว 17.3%