ภาพ
หลังจากเห็นดีไซน์และช่องต่อการใช้งานต่างๆ กันไปครบแล้ว ถัดมาดูสเปคด้านภาพของเจ้า Aconatic AN-65DU800SM กันบ้างครับ โดยทีวีรุ่นนี้มีการใช้โครงสร้างหน้าจอแบบ LED ประเภท Edge LED ที่มีการจัดเรียงพิกเซลมาแบบ RGBW พร้อมรองรับความละเอียด 4K 3840 x 2160p ซึ่งให้ความละเอียดสูงกว่า Full HD ถึง 4 เท่า อีกทั้งยังมาพร้อมค่าความสว่างสูงสุด 450cd/m2, Refresh Rate 60Hz และอัตราส่วนภาพมีให้เลือกใช้งานทั้งหมด 6 แบบ ได้แก่ 16:9, 4:3, 14:9 Cinerama, 16:9 zoom, 16:9 zoom up และ 14:9 zoom up
สำหรับโหมดภาพสำเร็จรูปต่างๆ ของ AN-65DU800SM มีมาให้ใช้งานกันทั้งหมด 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ โหมด Standard, Dynamic, Natural, Movie และ Personal ส่วนการทดสอบคุณภาพของภาพผมทดสอบเปิดแผ่นบลูเรย์ 4K UHD กับเครื่องเล่น Oppo UDP 205 ครับ โดยรวมภาพออกมาถือว่าทำได้ค่อนข้างประทับใจมากเลย สีสันสดอิ่ม งดงามใช้ได้ทุกโหมดเลย แต่โหมดภาพที่ผมขอแนะนำให้ใช้งานคือโหมด Movie เพราะว่าโหมดนี้ให้ค่าสีออกมาได้เที่ยงตรง ใกล้เคียงกับธรรมชาติ สมดุลสีจะติดโทนอุ่นนิดๆ แต่ดูดีไม่ขี้ริ้ว ขี้เหร่มากนัก และแสงสว่างนับว่าอยู่ในระดับมาตรฐานเหมาะสำหรับรับชมในจุดที่มีแสงสว่างน้อยๆ อย่างภายในบ้านได้เป็นอย่างดีเลยครับ
ถัดมาดูในเรื่องภาพเคลื่อนไหวกันบ้างครับ โดยทีวีนั้นมีตัวช่วยเรื่องภาพเคลื่อนไหวมาให้ใช้งานด้วย อยู่ในเมนูตั้งค่าภาพขั้นสูงชื่อว่า Motion Enhancement สามารถเลือกปรับเป็น Off, Low, Middle และ High ได้ แต่ขอแนะนำว่าให้ปิดไปฟีเจอร์นี้ไปเลยจะทำให้ภาพเคลื่อนไหวออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุดเพราะไม่มีการแทรกเฟรมภาพเทียมขึ้นมานั่นเอง หรือไม่ก็เปิดในระดับ Low จะได้ภาพดูมีมิติ เคลื่อนไหวดีขึ้นเล็กน้อยโดยที่ยังไม่สูญเสียความเป็นธรรมชาติจนเกินไป ส่วนผลการทดสอบค่า HDMI Input Lag ปกติจะค่อนข้างสูงอยู่ที่ 96 ms และจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 111.5 ms เมื่อเปิดใช้งาน Motion Enhancement แต่หาก On ตัวเลือก Game Mode จะลดลงมาอยู่ที่ 45.9 ms
นอกจากหน้าจอรองรับความละเอียด 4K แล้วบนสติ๊กเกอร์ที่ติดมากับหน้าจอทีวีระบุเอาไว้ว่า ทีวีสามารถรองรับ HDR (High Dynamic Range) ได้ด้วย แต่พอทางทีมงานทดสอบเปิดแผ่น 4K HDR Blu-Ray จากเครื่องเล่น 4K Blu-Ray Oppo UDP 205 และเกมคอนโซล Xbox One ปรากฏว่าช่วงแรกก่อนจะเข้าเมนูรับชมภาพยนตร์จะมีป๊อปอัพขึ้นมาแจ้งเตือนบนจอทีวีว่าทีวีไม่รองรับ HDR เหมือนในรูปภาพด้านบน สาเหตุคาดว่าน่าจะเป็นเพราะเฟิร์มแวร์ทีวีไม่รองรับ แต่ไม่แน่ว่าอนาคตอันใกล้นี้ทาง Aconatic จะออกเฟิร์มอัพเดทให้ก็ได้ครับ
ทดสอบเรื่องแรกด้วย Wonder Woman โดยเลือกฉากสุดท้ายตอนที่เจ้าหญิงไดอาน่า กำลังต่อสู้กับเอเรียส เทพเจ้าแห่งสงคราม ตัวทีวีสามารถแสดงสีสันดวงอาทิตย์ทำออกออกมาได้เหลืองอร่ามเอามากๆ แสงเปล่งประกายงดงาม
เสียง
ถัดมาในส่วนสเปคด้านเสียงของเจ้า Aconatic AN-65DU800SM ได้มีการติดตั้งลำโพงกำลังขับ 15W x 2 เอาไว้ข้างใต้และมาพร้อมโหมดเสียงสำเร็จรูปให้เลือกฟังกันถึง 5 โหมดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโหมด Standard, Music, Movie, Clear Voice และ Personal แถมยังสามารถปรับแต่งเสียงคุณภาพเพิ่มได้อีกด้วย ทั้งนี้เท่าที่ผมได้นั่งฟังโหมดเสียงต่างๆ ด้วยคอนเสิร์ตวง Linkin Park พลังเสียงลำโพงที่ขับออกมาจะขาดเสียงเบสไปนิดนึง ความถี่เสียงจะอยู่ในย่านเสียงกลาง ไปทางย่านเสียงสูง ซึ่งก็ถือว่าพอฟังได้ แต่คงไม่สะใจเท่ากับเปิดผ่านลำโพงซาวด์บาร์อย่างแน่นอน
สำหรับโหมดเสียงที่ผมคิดว่าดีที่สุดสำหรับฟังคอนเสิร์ตคือโหมด Music เพราะว่าเสียงเบสออกมาพอมีบ้าง ผสมผสานกับเสียงกลางฟังดูใสสะอาด ได้อรรถรสดีครับ ส่วนโหมดเสียงแนะนำสำหรับรับชมภาพยนตร์ภายในบ้านคือโหมด Movie ตามชื่อที่บอกเลยครับ สามารถให้เสียงได้กังวาล กึกก้องเสมือนไปนั่งรับชมหนังในโรงภาพยนตร์เลยล่ะ