25 Oct 2015
Review

รีวิว Acoustic Research AR-M2 และ KEF M500 สุดยอดเครื่องเล่นไฟล์ไฮเอ็นด์ ที่จะมาเขย่าวงการคนชอบพกพา


  • lcdtvthailand

หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมช่วงนี้ในวงการเครื่องเสียงมีแต่คนพูดถึง Hi-Res กันอยู่ตลอด โน่นก็ Hi-Res นี่ก็ Hi-Res มันคืออะไรกันหนอ? อธิบายกันแบบง่ายๆ Hi-Res ก็คือคำเรียกสั้นๆ ของ Hi-Resolution Audio ที่เป็นมาตรฐานใหม่ในการฟังเพลงยุคปัจจุบัน ด้วยความที่เราสามารถผลิตสื่อเก็บข้อมูลความจุมโหฬาร ในขนาดเล็กๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีทางเลือกน้อย ไม่ซีดีก็เทปคาสเซ็ต ทำให้เราต้องลดทอนขนาดข้อมูลลง จากที่บันทึกมา 100% ก็จะโดนตัดเหลือ 50% อะไรประมาณนี้

ทว่าในตอนนี้เรามีทั้งแฟลชไดร์ฟ มีทั้งฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กที่ความจุบิ๊กเบิ้ม ทำให้เราไม่จำเป็นที่จะต้องลดขนาดไฟล์ที่จะบันทึกมากนัก อัดมา 100% ก็อาจจะได้สัก 70-80% ไปฟังสบายๆ หรือสำหรับไฟล์ Hi-Res ที่เป็น Studio Master ก็อาจจะได้คุณภาพเกือบ 100% คล้ายว่านั่งฟังในห้องอัดเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าถ้าให้เราเลือกฟัง เราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้วใช่ไหมครับ? นี่จึงเป็นที่มาของ Hi-Res Audio เทรนด์ฟังเพลงแบบใหม่ที่กำลังมาแรงในตอนนี้นั่นเอง

ถ้าอ่านแล้วงงก็ดูชาร์ทนี้ได้เลยครับ เป็นการแสดงปริมาณข้อมูลต่อวินาทีในรูปแบบไฟล์ต่างๆ ซึ่งไฟล์ Hi-Res ก็คือบรรดาไฟล์ 24-bit ทั้งหลายนั่นแหละครับ

เสียง

ด้วยความที่เป็นเครื่องใหม่แกะกล่อง ก็เลยต้องมีการเล่นเบิร์นให้กระแสอิเล็กตรอนได้ไหลผ่านวงจรในเครื่องกันสักหน่อย ซึ่งเพลงที่ผมใช้เบิร์นก็บรรดาแทร็คที่แถมมาในเครื่องนั่นแหละครับ บวกกับแทร็ค Hi-Res ที่ผมได้ทำการดาวน์โหลดเก็บไว้จากช่วงแจกฟรีบ้าง ซื้อเก็บไว้จาก HDTrack บ้าง ก็เปิดวนๆ กันไปเรื่อยเอาแค่พอแบตหมดแล้วจึงเสียบชาร์จให้มันตื่นขึ้นมาใหม่รอการทดสอบ

ผมเริ่มฟังแทร็คแรกด้วย Janis Ian – Guess You Had To Be There โดยเปิดเทียบกับการเสียบเล่นตรงจาก MacBook ซึ่งผลต่างก็ไม่ต้องคาดเดาครับ ปริมาณเนื้อหนังที่ได้จากการเล่นผ่าน AR-M2 นั้นกินขาดหลายช่วงตัวทีเดียว น้ำหนักเครื่องเคาะจากช่วงอินโทรไปจนถึงท่อนคอรัสที่เราสัมผัสได้จากการเล่นผ่านคอมพิวเตอร์จะดูบางเบา แม้จะเร่งเสียงให้ดังแต่ก็ใช่ว่าจะทำให้มวลเสียงดีขึ้นแต่อย่างใด ได้มาเพียงความอึกทึกที่ทำให้เราเริ่มที่จะรำคาญเพียงเท่านั้น

กลับกันเมื่อมาทดลองฟังผ่าน AR-M2 ตัวแอมป์หูฟังที่ติดตั้งอยู่จะช่วยขับเค้นเนื้อเสียงออกมาปะทะเข้ากับโสตประสาทเราจนสัมผัสถึงความหนักเบาจากการสั่นพ้องของเครื่องดนตรีที่เล่นอยู่ และเมื่อลองเปิดแทร็ค Alexis Cole – Whip-Poor-Will ที่เป็นแทร็คโวค่อลแจ๊สซึ่งมีเซลโล่เป็นตัวคุมจังหวะ ซึ่งหากลองฟังกับลำโพงธรรมดาเราจะพบว่าตัวเสียงของนักร้องจะโดนเซลโล่กลบไปอยู่ด้านหลังเวที

หน้าตาของชิพ DAC PCM1794a จาก Burr-Brown

แต่เมื่อได้ฟังผ่านชิพ DAC Burr-Brown 1794a และแอมป์ประสิทธิภาพสูงที่ทำงานเข้าขากันภายในวงจรของ AR-M2 ตัวนี้ จะทำให้มิติเสียงถูกเกลี่ยให้พอดีกัน เสียงร้องก็พุ่งตรงขึ้นมาตามจังหวะที่เหมาะควร ทางด้านเบสและเมโลดี้อ้วนๆ จากบาริโทนแซ็กโซโฟนก็คอยเย้าแหย่กันแต่พอควรไม่ขึ้นมากลบนักร้องเหมือนเสียบฟังผ่านเพลเยอร์อื่นที่ไม่มีแอมป์

รูปภาพขณะทำการทดสอบเทียบกันระหว่างฟังจากแล็ปท็อปธรรมดา กับการฟังผ่าน AR-M2

 แน่นอนว่าประสิทธิภาพเสียงที่ออกมาน่าสนใจขนาดนี้ จะยกเครดิตให้กับตัวเพลเยอร์อย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะตัวหูฟัง KEF M500 ที่ทางผู้ผลิตส่งมาทดสอบคู่กัน ก็ตอบสนองการทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน เพราะตัวหูฟังเป็นแบบปิดกันลมออก ซึ่งจะเสียเปรียบเรื่องปลายเสียงที่อาจจะเปิดสว่างฟังสบายได้ไม่เท่าหูฟังที่มีไดร์เวอร์แบบเปิด แต่ทว่ามันกลับลงตัวเข้ากับคาแร็คเตอร์ของเพลเยอร์อย่างพอเหมาะ ทำให้ทั้งสองตัวทำงานเข้าขาขับกล่อมคนฟังจนทำเอาลืมเวลาไปเลยในบางที

ลูกเล่น

หากจะพูดถึงแต่เรื่องเสียงไม่เอ่ยถึงความลื่นไหลของการใช้งาน Android 4.3 ที่เป็นระบบปฏิบัติการณ์หลักของตัวเครื่องเลยก็ดูจะกระไรอยู่ แม้ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ดูล้าหลังไปหน่อยเพราะตอนนี้เรากำลังวิ่งเข้าสู่ Android 5.1 กันแล้ว แต่การใช้งานต่างๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาติดขัดอะไรมาก เพราะเป็นเวอร์ชั่นที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสำหรับการติดตั้งบนเพลเยอร์โดยเฉพาะ โดยทีมงานของ Acoustic Research 

ขนาดตัวเครื่องที่พอดีมือและจอทัชสกรีนขนาด 5″ ช่วยให้เราเลือกเล่นเพลงได้เต็มอารมณ์

ทว่าสำหรับนักเล่นมือเก๋าที่คันไม้คันมืออยากจะลองโหลดเซ็ตแอปพลิเคชั่นฟังเพลงชื่อดัง อย่างเช่น PowerAmp, ViPER4Android และ Noozxoide EIZO-rewire™ ก็ดูจะต้องใช้วิธีที่ซิกแซ็กนิดหน่อย เพราะว่าตัว OS ของ AR-M2 ไม่ได้ติดตั้ง Play Store มาให้ ต้องหาโหลด .apk มาโยนเข้าไปติดตั้งกันเอง(โชคดีที่ยังมี File Manager มาให้ใช้)

สรุป

จากที่ได้คลุกคลีอยู่กับ Acoustic Research และ KEF M500 อยู่เป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์ บอกกันตรงๆ เลยนะครับว่าทั้งสองตัวเป็นชุดฟังเพลงแบบพกพาที่ให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมที่สุดชุดหนึ่ง 

ด้วยฟีเจอร์การเล่นไฟล์ Hi-Res เกือบครบทุกนามสกุล ผ่านมาทาง Burr-Brown DAC ประสิทธิภาพสูง เพื่อแปลงสัญญาณจากดิจิตอลเป็นอะนาล็อกแล้วส่งไปยัง Headphone Amp. ที่บิ้วต์อินมาภายใน เพื่อขับเสียงออกไปยังปลายทางแบบเต็มๆ ไม่ถูกลดทอนจากการต่อพ่วงใดๆ ทำให้ AR-M2 เป็น DAP ในฝันที่ชาวหูฟังทั่วทั้งโลกต่างถวิลหาอยากเป็นเจ้าของ

ทว่าด้วยความที่ตัวเพลเยอร์ถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องเล่นไฟล์มีเดียเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นมันจึงถูกลดทอนฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ออกไปจาก Android OS ที่ลงมาในเครื่อง อย่างเช่น Play Store ออกไป แต่ผมเชื่อว่าชาวออดิโอไฟล์สามารถหาทางลากแอปฯ อื่นมาลงกันได้อยู่แล้ว ไม่เกินความสามารถแน่นอน 

อีกเรื่องที่ดูจะต้องหยุดคิดก็คือราคาค่าตัวที่ค่อนข้างสูง แต่ผมเชือว่าหากท่านเป็นหนึ่งคนที่รักในการฟังเพลงจากหูฟัง และใฝ่ฝันที่จะได้รับประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมแต่ไม่อยากที่จะมัดทั้งแอมป์ ทั้งเพลเยอร์ และ DAC รวมกันเป็นก้อนๆ แล้วพกไปไหนมาไหน นี่คือคำตอบที่ใครหลายคนกำลังตามหา เป็นเพลเยอร์เครื่องเดียวจบ ได้ทั้งนิยามแบบเครื่องเสียงไฮเอ็นด์และความสะดวกสบายในการพกพาในเครื่องเดียว

ข้อดี
– เนื้อเสียงมาเต็มประสิทธิภาพจากการทำงานร่วมกันของ DAC และ Headphone Amp. ภายในเครื่อง จัดหนักทุกไฟล์ Hi-Res ได้ฟังแล้วจะเคลิ้มจนลืมเวลา
– งานดีไซน์ตัวเครื่องหรูหราไฮเอ็นด์ ดูสมราคา ซึ่งนอกจากจะดูดีแล้ว ตัวเครื่องยังแข็งแรงทนทาน ไม่งอง่ายแน่นอน
– หน่วยความจำในตัวเริ่มต้นมา 64GB พร้อมกับยังเพิ่มได้อีกสูงสุด 128GB ผ่านทาง microSD Card ถ้าตีว่าขนาดเพลง Hi-Res ไฟล์นึงเฉลี่ยอยู่ที่ 100MB ก็น่าจะฟังได้สัก เกือบๆ 2,000 เพลง น่าจะพอฟังไปกลับ กรุงเทพ-นิวยอร์ค ได้สบายๆ(ถ้าแบตฯไม่หมดซะก่อน)


ข้อเสีย
– ตัวเครื่องเป็น Android 4.3 ที่ถูกปรับแต่งมาสำหรับเพลเยอร์โดยเฉพาะ จึงไม่มี Play Store มาให้ ต้องหาทางซิกแซ็กเอาถ้าหากอยากจะลงแอปฯ นอกเหนือจากที่ติดตั้งมาให้ในเครื่อง สำหรับท่านที่ชอบการโมดิฟาย
– ถ้ามีพอร์ต Digital Out มาเพิ่มอีกสักพอร์ตจะทำให้เพลเยอร์เครื่องนี้สารพัดประโยชน์มากขึ้นไปอีกขั้น

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
9
เสียง (Sound)
9.5
ลูกเล่น (Features)
8
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8
ความคุ้มค่า (Value)
8
คะแนนตัดสิน (Total)
8.5

Acoustic Research AR-M2

8.5

Acoustic Research AR-M2
ราคาตั้ง 39,990 บาท

KEF M500
ราคาโปรโมชั่น 13,900 บาท จาก 17,900 บาท