21 Sep 2014
Review

เมื่อพระเอกตัวจริง ขอลุยกับทีวีบ้าง!! รีวิว AJ LT-32G65 ไซส์เล็กสเปคโหดกระโดดจูน DVB-T2


  • boom

Picture – ภาพ

มาเริ่มทดสอบด้านภาพกันเลยดีกว่า โดยผมขอหยิบเอาเรื่องของดิจิตอลทีวีมาทดสอบเป็นอันดับแรกเลยเนื่องจากเป็นฟีเจอร์ชูโรงของทีวีตัวนี้ โดยที่ออฟฟิศของเราเลือกจูนช่องสัญญาณจากเสาก้างปลาที่อยู่บนหลังคาบ้าน เพื่อประสิทธิภาพการจับสัญญาณที่ดีที่สุด และจะได้ทดสอบได้หลากหลายช่องอีกด้วย

กดปุ่มเมนูขึ้นมา ไปที่ Auto Tune เพื่อจูนช่องรายการก่อนเลยครับใช้เวลาไม่นานสัก 5 นาที
เราก็ได้ช่องสัญญาณดิจิตอลทีวีที่ออกอากาศอยู่มาดูได้แบบครบๆ
เปิดไปดูรายการ “ดาราศาสตร์” ของช่อง “ไทยรัฐทีวี” พาไปลุยสวนสมุนไพร
จากค่า Picture Mode ที่ติดเครื่องมาจะเห็นว่าสีเขียวนี่โดดเด่นเป็นสง่าอย่างแรง
ตอนแรกเข้าใจว่าความเขียวนั้นมาจากขั้นตอนการถ่ายทำของทีมงานหรือเปล่า เลยลองสลับไปดูช่อง “อัมรินทร์ ทีวี”
ซึ่งผลที่ออกมาก็ชัดเจนครับ ว่าทีวีตัวนี้ให้ความสดของสีเขียวมาค่อนข้างเยอะเลย
หลังจากลองดูมาซักพักจะพบว่าทีวีตัวนี้แสดงภาพของดิจิตอลทีวีได้ค่อนข้างใสกระจ่าง
ค่าความคมชัดที่ถูกปรับมาจากโรงงานก็อยู่ในระดับที่พอดี ไม่ต้องเพิ่มลดอะไรมาก
จากการดูประสิทธิภาพของดิจิตอลทีวี ต้องบอกว่า AJ LT-32G65 ตัวนี้ให้สีสันที่กำลังดี
รายละเอียดก็สว่างได้อย่างเหมาะสม เรียกว่ายกมาเสียบจูนช่องก็แทบจะดูดิจิตอลทีวีได้ทันที ไม่จำเป็นต้องปรับค่าอะไรให้เยอะแยะ
ภาพจากช่อง 3 HD ช่องที่ตอนเป็นอะนาล็อกดูเหมือนจะพร้อมสำหรับดิจิตอลมากที่สุด
แต่ตอนนี้กลับตามช่องน้องใหม่อย่าง PPTV หรือ Thairath ไม่ทันในเรื่องคอนเทนต์ (สงสัยเอาเงินไปลงละครหมด​)
ใครที่กำลังประสบปัญหามึนงงกับช่องทีวีดิจิตอลอันมากมาย ก็สามารถกด Channel List บนรีโมท
เพื่อเรียกดูช่องรายการทั้งหมดแบบเป็น List ได้ โดยจะแสดงชื่อด้านหน้าด้วยว่าช่องนั้นๆ เป็นของสถานีอะไร

หลังจากอิ่มหนำกับการดูทีวีดิจิตอลไปแล้ว ก็ได้เวลาสลับมาเล่นแผ่นบลูเรย์กันบ้างครับ ซึ่งแม้ว่า 32G65 ตัวนี้จะมีขนาดของจอเพียงแค่ 32 นิ้ว แต่ก็ได้พกพาเอาความละเอียดในระดับ HD Ready 720p ติดตัวมาด้วย ทำให้การเข้าถึงอรรถรสของภาพยนตร์จากแผ่นบลูเรย์ทำได้อย่างน่าพอใจ

The Avengers ขาประจำการทดสอบ ประจำออฟฟิศเรา
สลับโหมดภาพให้ดูความแตกต่างของสีสันและความสว่าง

ภาพยนตร์ที่เราหยิบขึ้นมาใช้ในการทดสอบก็คือ The Avengers พร้อมกับเซ็ต Aspect Ratio ที่ตัวจอให้เป็น Just Scan เพื่อให้จอแสดงรายละเอียดให้ตรงกับที่ออกมาจากแผ่นบลูเรย์แบบ 1:1 ไม่มีการตัดภาพออก ซึ่งหากเราดูในรูป GIF ด้านบนจะเห็นว่าทุกๆ โหมดจะมีอัตราการกินไฟที่เท่ากัน สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าตัวทีวีไม่สามารถควบคุมการเปิดปิด Backlight แบบละเอียดได้ การใช้ไฟในแต่ละโหมดจึงออกมาเท่ากันอย่างที่เห็นครับ

สำหรับเอกลักษณ์สีของโหมดภาพที่มาจากโรงงาน ถ้าเน้นที่ความสดและสว่างแน่นอนว่าต้องเป็น Dynamic ถ้าเห็นว่าสว่างเกินไปก็คงจะต้องเป็น Standard ส่วนใครที่ชอบแบบนิ่มๆ ไม่เน้นสว่างมากไว้สำหรับดูกลางคืนก็สามารถปรับเป็นโหมด Mild ที่ให้แสงสีกำลังดีไม่จ้าจนเกินไป

อัตราส่วนภาพที่มีมาให้ ถ้าอยากได้ครบๆ ก็เลือกเป็น Just Scan ไปง่ายที่สุดครับผม

นอกจากเรื่องของโหมดภาพแล้ว ตัว 32G65 ยังมีโหมดเลือกอุณหภูมิสี (Color Temperature) ติดเครื่องมาให้ครับ โดยมีให้เลือกด้วยกัน 4 โหมด Normal, Warm, User และ Cool ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้เราสามารถปรับสีสันของภาพที่แสดงได้ สำหรับค่าที่ทางทีมงานอยากจะแนะนำก็ให้เลือกเป็น user เพื่อให้เราสามารถเพิ่มลดค่า RGB ได้อย่างอิสระ แล้วลดสีเขียวลงมาสัก 10-20 จากค่าเดิม จะช่วยให้ภาพที่สีเขียวจ๋าดูสมจริงเป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ

เรื่องของภาพเคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์พอใช้ เมื่อทดสอบกับหนังที่มุมกล้องสุดโหดอย่าง Zero Dark Thirty
ยังคงมี Ghost ให้เห็นบ้างประปรายเป็นสัจธรรมของทีวี

Sound – เสียง

จบจากภาพไปแล้วก็มาดูเรื่องเสียงกันซักหน่อย เพราะทีวีไม่ได้มีดีแค่เรื่องภาพอย่างเดียว เสียงที่เปล่งออกมาจากลำโพงก็สำคัญไม่แพ้กัน อันดับแรกขอเริ่มฟังจากคอนเสิร์ตของวง Air Supply ที่เพิ่งมาแสดงสดที่เมืองไทยไปเมื่อไม่นานมานี้

เริ่มฟังจากโหมด Standard ที่ค่าความถี่ไม่ได้ถูกปรับอะไรเลย ซึ่งเมื่อลองฟังดูเสียงก็ชัดเจนดี เพียงแต่จะติดอู้นิดๆ เลยลองสลับมาเป็น Music ที่ดันย่านความถี่สูงเพิ่มขึ้นมาก็ช่วยให้เสียงเปิดสว่างขึ้นพอสมควร นอกจากนี้ยังมีโหมด Movie ที่จะเป็นการยกย่านความถี่ต่ำให้เด่นขึ้น และ User ที่ปล่อยให้เราปรับเองตามใจชอบทั้ง Bass และ Treble แต่ส่วนตัวผมแนะนำว่า Standard นั้นน่าจะเพียงพอและให้เสียงที่ดูเหมาะสมกับการรับชมทั่วไปที่สุดแล้วครับ

โหมดเสียง Standard “คุณค่าที่คุณคู่ควร”