Asguard BTH-100 มีราคาอยู่ที่ 1,550 บาท
พิเศษสุดสำหรับแฟน LCDTVTHAILAND ซื้อได้ในราคา 990 บาท เท่านั้น
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อมาที่ LCDTVTHAILNDSHOP ได้เลย
หรือทาง Line : @ prismathai และ Prisma Official Shop @ shopee
Facebook : PrismaThai
Line ID : @prismathai
Asguard ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็น… ลำโพง !!! คำนี้ Thor ไม่ได้กล่าวไว้ แต่ผม TopZaKo (ท๊อปซาโกะ) เป็นคนกล่าวเอง ในสมัยนี้ผมมีความเชื่อว่าทุกคนย่อมมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง และในเวลาพักผ่อนจากการทำงาน นอนเล่นฟังเพลงดูหนัง เสียงของลำโพงในตัวมือถือที่เราใช้อยู่ต่อให้เป็นรุ่นใหญ่แค่ไหนหรือแบรนด์อะไร ก็ย่อมสู้เสียงจากหูฟังหรือลำโพงภายนอกไม่ได้อยู่ดี และในบางครั้งเวลาใส่หูฟังนานๆ อาจเจอกับอาการเจ็บหู หรือรำคาญสาย ดังนั้นการเลือกใช้ลำโพงพกพาสักตัว จึงน่าจะเป็นคำตอบที่ดีครับ
Asguard BTH-100 ลำโพง Bluetooth พกพา จาก Asguard แบรนด์ผลิตภันฑ์เครื่องเสียงในเครือเดียวกับ Prisma ผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเจ้า Asguard BTH-100 นี้จะมาเพิ่มพลังเสียงทำให้การฟังเพลงดูหนังจากมือถือของคุณสนุกมากขึ้นกว่าเดิม
Design – การออกแบบ
ในส่วนของการออกแบบ Asguard BTH-100 ได้รับรางวัล Product Design Award 2015 จากสถาบัน iF WORLD DESIGN พร้อมรองรับมาตราฐานกันน้ำแบบ IP 54 ที่สามารถ กันฝุ่นละอองที่ไม่เป็นอันตรายกับตัวเครื่องทุกชนิดและกันละอองน้ำจากรอบทิศทางได้
การออกแบบตัวเครื่องโดยรวมมีความสะอาด สวยงาม มีขนาดความกว้าง 160 มม. ความยาว 77 มม. และ ความหนาของตัวเครื่อง 29 มม. ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปในการพกพา วัสดุของตัวเครื่องเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ตัวผิวทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีการออกแบบให้ดูลักษณะคล้ายหนัง มีลวดลายตามขอบเหมือนตะเข็บเย็บผ้า
ด้านหน้าเป็นช่องลำโพงที่มี ดีไซน์เป็นรูปวงกลมลวดลายสวยงาม ด้านหลังมีโลโก้ยี่ห้อ Asguard มีน็อตยึดทั้ง 4 มุม และด้านล่างมียางที่มีลักษณะเหนียวเล็กน้อยเพื่อช่วยยึดเวลาตั้งลำโพงให้ไม่ลื่นไหลไปมา
ส่วนด้านบนของตัวเครื่อง ทางด้านซ้ายสุดเป็นสัญลักษณ์การรองรับ NFC ที่ทำให้การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่รองรับได้สะดวกมากขึ้น ถัดมาปุ่มแรกเป็นรูปสัญลักษณ์ Bluetooth มีไว้เพื่อกดเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนรวมถึงอุปกรณ์ Bluetooth ต่างๆ กับ รวมถึงใช้เป็นปุ่มกด รับสาย/วางสาย แบบ Hands-Free ต่อมาเป็นปุ่ม ลด/เพิ่ม ความดังเสียง กับปุ่มสุดท้าย ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และ ทางด้านขวาสุดเป็นไมโครโฟนที่ไว้ใช้เวลาคุยโทรศัพท์ นั่นเอง ซึ่งทำได้ดีมากพูดความดังปกติในระยะทั่วไปก็ได้ยินเสียงที่ชัดเจน ผ่ายตรงข้ามก็ได้ยินเสียงจากเราชัดเจนเช่นกัน
สำหรับช่องต่อของตัวเครื่องจะอยู่ทางด้านขวา มีทั้งหมด 2 ช่อง ช่องแรกจะเป็น Micro USB เพื่อชาร์จไฟ ช่องที่ 2 จะเป็นช่องต่อ InPut 3.5 มม. ไว้เชื่อมต่อกับ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ รวมถึง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่สามาารถเชื่อมต่อ Bluetooth หรือเพื่อต้องการรับฟังเสียงแบบเต็มประสิทธิภาพ โดยในกล่องก็ได้แถมสาย Micro USB และ สาย 3.5 มม. มาให้ด้วย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มให้ยุ่งยาก