27 Dec 2017
Review

รีวิว Denon AVR-X1400H และ X2400H สองรุ่นเริ่มต้นที่ให้ฟีเจอร์ครบครัน จนนึกว่ารุ่นสูงมาเอง!


  • lcdtvthailand

Setup – การติดตั้ง

ครั้งนี้ทีมงาน HOMETHEATERTHAILAND มาการทดสอบ AVR ทั้ง 2 รุ่นกันที่โชว์รูมมหาจักร ซอยนานา ได้ใช้ชุดลำโพง Revel Concerta 2 ประกอบการทดสอบครั้งนี้ด้วย เนื่องจากเป็นลำโพงที่ให้ความเที่ยงตรงสูง ตอบสนองย่านเสียงในทุกๆ ย่านได้ชัดเจน เหมาะที่จะใช้ในการอ้างอิงคุณสมบัติเสียงของ AVR ทั้ง 2 รุ่นนี้

สำหรับการคาลิเบรตเสียงของ 2 รุ่นนี้สามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็น มือใหม่ก็ทำได้ ใช้เวลาปรับแต่งไม่ถึง 10 นาที ด้วยฟีเจอร์ Audyssey MultEQ XT ที่จะปรับแต่งคาลิเบรตให้เสียงที่เหมาะสมแบบอัตโนมัติ ซึ่งวิธีใช้งานง่ายๆ เพียงผู้ใช้งานนำไมโครโฟนรับเสียง พร้อมขาตั้งกระดาษที่ให้มาในชุด ไปติดตั้งในบนโซฟาหรือตำแหน่งนั่งฟัง โดยให้โมโครโฟนอยู่สูงระดับเดียวกับหูของผู้ใช้งานในตำแหน่งนั่งฟัง

หน้าตาอาจคล้ายจรวด แต่นี่แหละผู้ช่วยคาลิเบรทเสียงชั้นยอด!

เมื่อเสียบสายไมโครโฟน Audyssey ไปที่ช่องต่อที่ชื่อ Setup Mic ด้านหน้าเครื่อง หน้าเมนูสำหรับคาลิเบรทจะแสดงขึ้นมาทันที ให้ผู้ใช้งานเลือกเซ็ทอัพตามขนาดลำโพงให้ถูกต้อง ขณะกำลังจะเริ่มคาลิเบรท ควรให้ผู้ใช้งานออกจากบริเวณนั้น เพื่อไม่ให้บังทิศทางเสียง และไม่ควรมีเสียงมารบกวนไมโครโฟน ถึงจะเสียงที่เหมาะสม ใกล้เคียงกับการปรับระดับมืออาชีพเลย

Picture – ภาพ

สำหรับด้านภาพ X1400H และ X2400H สามารถส่งผ่านสัญญาณภาพ 4K HDR ได้อย่างดีเยี่ยม มีสีสันสดใสให้ความเจิดจรัสสมกับเป็น HDR ซึ่งจุดแข็งของทั้ง 2 รุ่น ยังอยู่ที่การรองรับ Dolby Vision ที่ติดเครื่องมาจากโรงงาน ไม่ต้องรออัพเดทเลย ให้ความลึกของสี รวมถึงให้จุดเปรียบต่างของความสว่างและความมืดได้สูงกว่า HDR10 ทั้งคู่สามารถเพิ่มศักยภาพการรับชมด้วยเมนู 4K Signal Format ต้องขอแนะนำเอาไว้เลย เพื่อรับสัญญาณภาพ Ultra HD เต็มรูปแบบที่ 4K 60Hz 4:4:4 10bit

ส่งผ่านสัญญาณราบลื่น ให้แสงเจิดจรัสถูกใจคอหนัง ไม่มีอาการเหลื่อมช้าให้เห็น

ซึ่งจุดเด่นของ X2400H ที่รุ่น X1400H ไม่มี อยู่ที่เครื่องหมาย ISF Certified ที่ไม่ได้มีไว้โก้ๆ เพราะรุ่นนี้ได้เพิ่มความสามารถในการปรับแต่งภาพด้วยเมนูรายละเอียดต่างๆ ปรับแต่งได้มากกว่าทีวีบางรุ่นด้วยซ้ำ เพื่อให้ได้สีสันถูกต้องตามมาตรฐาน ISF สีสดสมจริง ส่วนท่านใดที่ใช้ทีวี 4K แต่ยังเน้นรับชมด้วยแผ่น Full HD Blu-ray ขอแนะนำว่า X2400H จะตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่า เนื่องจากฟีเจอร์อัพสเกลที่สามารถยกระดับภาพจาก Full HD 1080p ให้สูงถึง 4K 2160p 30/25/24Hz ได้ความละเอียดคมชัดมากขึ้น แต่ยังให้ภาพลื่นไหลอย่างต่อเนื่อง

อย่าลืมเปลี่ยนเป็น Enhance เพื่อการส่งสัญญาณภาพแบไม่มีกั๊ก

Sound – เสียง

จุดเด่นจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Denon นั้นอยู่ที่แนวเสียงอันดุนดัน คมชัดหนักแน่น ไม่ว่าใครต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียว ซึ่ง 2 รุ่นนี้มีกำลังขับแตกต่างกันพอสมควร X1400H อยู่ที่ 80W (8โอห์ม) ส่วน X2400H อยู่ที่ 95W (8โอห์ม) โดยการทำสอบด้านเสียงนั้น ได้ทำการจับคู่เข้ากับชุดลำโพง Revel Concerta 2 ใช้คอนเท็นต์ทดสอบเป็นภาพยนตร์เรื่อง Wonder Woman, แผ่นคอนเสิร์ต Simply Redและไฟล์เพลงความละเอียดสูงสกุล DSD

สังเกตที่จอแสดงผล แสดงสถานะระบบเสียงและช่องอินพุตที่เลือกใช้อยู่ด้วย

ในการทดสอบคอนเท็นต์ภาพยนตร์ Wonder Woman ในระบบเสียง Dolby Atmos ได้เลือกใช้ฉากที่ไดอาน่ากำลังเข้าถล่มกองทัพนาซี ซึ่งฉากนี้มีการโยนเสียงที่ค่อนข้างรวดเร็ว ฉวัดเฉวียน และอึกทึกคึกโครม ทั้ง 2 รุ่นสร้างความตื่นเต้นจากการโยนเสียงได้อย่างหมดห่วง เช่น เสียงแฉลบของลูกปืน หรือเสียงต่อสู้ที่คอยสลับหมุนไปรอบตัวตามจังหวะต่อสู้ในภาพยนตร์ ต้องชมฟีเจอร์คาลิเบรทเสียงอัตโนมัติ Audyssey ด้วย ให้การเซอร์ราวด์ไม่แพ้โรงภาพยนตร์ด้วยการเซ็ตอัพไม่กี่นาที

เคยดูหนังแล้วรู้สึกว่ากระสุนแล่นผ่านหูไปไหม ต้องชื่นชมทั้งตัว AVR และชุดลำโพงเลย

ยิ่งได้ Revel Concerta 2 มาเป็นกระบอกเสียง เพิ่มความเจนจัดของการรบได้แบบเนื้อๆ ต้องบอกเลยว่า Denon ยังคงรักษามาตรฐานความรุกเร้าดุดันได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะเป็นแค่รุ่นเริ่มต้นก็ตาม และที่ต้องชมเชยเลยคือการถ่ายทอดกำลังขับ ถึงจะสูงไม่เกิน 100W แต่ก็ถ่ายทอดออกมาเต็มอารมณ์ เอาอยู่ทุกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเสียงเศษดิน หรือเสียงแวดล้อมจากที่ไกลๆ สามารถขับออกมาได้หมดจนสัมผัสแต่ละมิติเสียงได้ไม่ยาก ถูกใจคอหนังแอ็คชั่นแน่นอน

ประกายเสียงแหลมจากเศษกระจกแตก อีกหนึ่งเสียงที่ท้าทดสอบ ต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง ว่าฟังแล้วจะเป็นเศษแก้วประกายใส หรือเศษกระเบื้องแตกแข็งๆ

ทดสอบด้วยภาพยนตร์ไปแล้ว มาต่อกันที่คอนเสิร์ตกันบ้าง แผ่นที่ใช้ทดสอบเป็นการแสดงสดของ Simply Redซึ่งความแตกต่างด้านเสียงของ AVR ทั้ง 2 รุ่น นอกจากกำลังขับและช่องต่อแล้ว ก็แทบจะไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก สุ้มเสียงจึงไม่หนีห่างกันมาก สามารถถ่ายทอดเสียงได้อย่างมีพลัง โดยเฉพาะเสียงร้องที่ถูกเค้นออกมาจากลำโพงเซ็นเตอร์ Revel C25 ตัวลำโพงมีขนาดใหญ่ก็ไม่ใช่ปัญหา แผดเสียงออกมาได้แบบเต็มๆ

อย่าเพิ่งคิดว่า 2 รุ่นเริ่มต้นนี้มีดีแค่ความดุดัน จนแข็งกระด้างบาดหู ความกระจ่างใสของเสียงก็ถ่ายทอดได้ดีไม่แพ้กัน เช่น เสียงกีตาร์โปร่งขณะโซโล่อย่างอ่อนหวาน ให้โทนเสียงคมแต่ยังคงความนวล เสียงใสกังวาลได้อารมณ์กีตาร์โปร่ง ไม่ออกมาเป็นเม็ดเสียงแข็งๆ เติมเต็มความคึกคักกระฉับกระเฉง ไม่แข็งทื่อ หรือหย่อนยานจะรู้สึกว่าคอนเสิร์ตไร้พลัง

เสียงร้อนประสานก็แยกกันออกมาชัดเจน ไม่กลืนหายไปกับเสียงร้องหลัก

ส่วนการเล่นไฟล์ความละเอียดสูงนั้น ได้ใช้ไฟล์ DSD จากอัลบั้มของ Susan Wong และเพลงประกอบภาพยนตร์ Whiplash ฟังกันแบบ 2Ch มีลำโพง Revel F36 ทำหน้าที่ขับขาน ทันทีที่เปิดฟังความประทับใจก็บังเกิด เพราะเสียงร้องของ Susan Wong ที่ได้ยินไม่ได้มาแค่ผิวเผิน แต่มาแบบเนื้อๆ รับรู้ถึงลมหายใจพัดผ่าน ทั้ง Revel และ Denon ประสานงานกันได้อย่างชื่นชม

หน้าจอแสดงผลโชว์ชื่อเพลงชัดเจน มองเห็นได้จากระยะนั่งฟัง

สลับมาฟังอัลบั้มซาวด์แทร็ก Whiplash ไดนามิกเสียงที่ได้นั้นมาน้ำหนักสมดุล ให้ความรุกเร้าสอดคล้องจังหวะ ไม่กระโชกโฮกฮาก เบสกระชับไม่ย้วย เสียงเครื่องเป่าต่างๆ ก็ชัดแจ้ง ซึ่งเสียงเหล่านี้ค่อนข้างท้าทายบรรดาเครื่องเสียงมาก เพราะต้องมีสมดุลในทุกๆ ย่าน ทั้งแหลม กลาง และต่ำ ซึ่งจุดนี้ Denon ทั้ง 2 รุ่นก็สอบผ่าน ตามรอยรุ่นใหญ่ๆ ได้เลย

แสดงปกเพลงด้วยนะ แต่ขอติเล็กน้อยตรงที่ไม่แสดงสกุลไฟล์และรายละเอียดของไฟล์

ความคุ้มค่าอีกอย่างของทั้ง 2 รุ่นอยู่ที่ความสามารถในการฟังเพลงแบบไร้สายผ่าน Bluetooth จับคู่ได้ง่ายรวดเร็ว และ Wi-Fi เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้งาน Media Server ภายในบ้าน สตรีมมิ่งไฟล์ความละเอียดสูงเช่นเดียวกับการเล่นผ่าน USB Drive ได้โดยตรง หรือจะฟังเพลงด้วยบริการสตรีมมิ่งก็ทำได้โดยแอพฯ HEOS ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมี Spotify Connect ให้โยนเพลงจากสมาร์ทโฟนมายัง AVR ได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม ตอบโจทย์ผูใช้งานหลายประเภท ไม่ว่าจะฟังเพลงแบบไหนก็รองรับครอบคลุม

มีปุ่มลัดบนรีโมท เชื่อมต่อง่ายเหมือนลำโพงพกพา ไม่ต้องเปิดทีวีมาดูเมนูเลย
คลิปรีวิว Denon AVR-X 400H Series