28 Aug 2019
Review

รีวิว Hisense 55A91 สัมผัส Dolby Vision OLED TV กับราคาขายสุดเร้าใจเป็นประวัติการณ์ !!


  • ชานม
การเปิดใช้งาน Game Mode เพื่อลดระดับ HDMI Input Lag ลงต่ำที่สุด สำหรับ A91 จะต้องดำเนินการผ่านตัวเลือก Game Mode ตามภาพ โดยหลังดำเนินการค่า Input Lag จะลดต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด จาก 108.7 ms สูงสุดไม่เกิน 124.8 ms เหลือเพียง 37.8 ms สูงสุดไม่เกิน 53.9 ms
ข้อดีของการปรับตัวเลือก Game Mode – On/Off ในเมนู แทนการแยกโหมดภาพ Game ออกมาต่างหากแบบทีวีบางรุ่น คือ การคงดุลสีอิงตามโหมดภาพปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ หากเดิมปรับภาพมาสีตรง (ถูกต้อง) การเปิด-ปิดตัวเลือก Game Mode จะไม่ส่งผลใดๆ กับสมดุลสีและความเป็นธรรมชาติของภาพ

เสียง

ระบบเสียงของ 55A91 แจ้งกำลังขับรวมไว้ที่ 40 วัตต์ แต่ไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดของตัวขับเสียง แต่สามารถบอกได้ว่าติดตั้งอยู่บริเวณส่วนล่างของจอภาพ การถ่ายทอดดุลเสียงถือว่าใช้การได้ น้ำเสียงฟังดีกว่าลำโพงทีวี 2.0 ทั่วๆ ไป ย่านต่ำพอจะมีมวลจับต้องได้ รายละเอียดเสียงโอเคไม่ก้องอุดอู้

ระดับเสียงเมื่อใช้งานรับชมรายการจากดิจิตอลทีวี หรือเล่นเกม ดู YouTube ฟังดังกำลังดีในห้องขนาดมาตรฐาน ทว่าการรับชมภาพยนตร์จากแผ่น 4K/UHD Blu-ray หรือ Netflix โดยเฉพาะที่ต้นฉบับบันทึกเสียงมาในระบบเซอร์ราวด์ เสียงจากลำโพง 55A91 อาจจะเบาไปสักนิด แต่แน่นอนว่าการรับชมภาพยนตร์ให้ได้อรรถรสสูงสุด การเชื่อมต่อระบบเสียงภายนอกอย่างซิสเต็มโฮมเธียเตอร์หรือซาวด์บาร์ เป็นแนวทางที่ควรดำเนินการ
ซึ่งการเชื่อมต่อระบบเสียงภายนอกร่วมกับทีวีโดยเฉพาะทาง HDMI ARC ก็มีข้อดี เพราะกรณีของ 55A91 จะได้รับฟังระบบเสียง Dolby Atmos ด้วย (สัญลักษณ์ Atmos ในแอพ Netflix จะแสดงขึ้นมาเมื่อเชื่อมต่อ HDMI ARC ร่วมกับ Atmos Home Theater/Soundbar)
หากสังเกตเมนูหัวข้อ Sound ของ 55A91 จะพบตัวเลือก Dolby Atmos อยู่ด้วย อย่างไรก็ดีตัวเลือกนี้ไม่ส่งผลกับการจำลองเสียงโอบล้อมเท่าใดนัก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะข้อจำกัดของลำโพงทีวี แต่สิ่งหนึ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงกลับเป็นดุลเสียง กรณีที่ On ตัวเลือกนี้กับลำโพงทีวีของ 55A91 พบว่า น้ำหนักเสียงโดยเฉพาะย่านต่ำมีมวลหนาแน่นขึ้น ฟังแล้วได้อรรถรสกว่า แต่อย่างที่เรียนไปว่าหากต้องการรับฟังบรรยากาศเสียงโอบล้อม โดยเฉพาะจากฟอร์แม็ต Dolby Atmos แนะนำเชื่อมต่อใช้งานกับซิสเต็มโฮมเธียเตอร์ที่ติดตั้ง Top Surround Speakers หรือซาวด์บาร์ที่มี Upward Firing Speakers จะฟินกว่าแน่นอนครับ

สรุป

สมัยก่อนต้องมีเงินแสนถึงจะเล่น OLED TV ได้ แต่ตอนนี้งบ 4 หมื่นบาท ก็ซื้อ 4K OLED TV 55 นิ้ว แถมยังรองรับ HDR10, HLG และ Dolby Vision รวมถึงระบบเสียง Dolby Atmos (ทาง HDMI ARC) ได้ด้วย หลายท่านอาจจะกังวลคุณภาพจากแบรนด์จีน แต่ผลทดสอบยืนยันว่า 55A91 เป็นทีวีประจำปี 2019 ของ Hisense อีก 1 รุ่น ที่มีพัฒนาการด้านภาพดีขึ้นไปอีกขั้น รองรับการปรับภาพละเอียด ในแง่ความเที่ยงตรงของสีสันจึงทำได้เทียบเคียงแบรนด์ดัง แน่นอนว่าอาจมีบางจุดไปจนถึงลูกเล่นบางอย่างที่เป็นรองอยู่บ้าง แต่ก็แลกมาด้วยระดับราคาที่ต่ำกว่า โดยรวม 55A91 ยังคงแสดงศักยภาพอันโดดเด่นของเทคโนโลยี OLED ออกมาได้ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่งบน้อยแต่อยากสัมผัสความยอดเยี่ยมนี้

ข้อดีของ Hisense 55A91

1. แม้เป็น OLED TV ราคาคุ้มค่า แต่ดีไซน์ภายนอกไปจนถึงวัสดุที่ใช้ก็ไม่ได้ลดทอนคุณภาพลง บางจุดอาจดูดีกว่ารุ่นที่มีราคาสูงกว่าด้วยซ้ำ

2. แสดงผล 4K HDR10, HLG, Dolby Vision รองรับระบบเสียง Dolby Atmos เมื่อเชื่อมต่อ Atmos HT/SB

3. Black Level โดดเด่นไร้แสงลอดแสงรั่วตามสไตล์ OLED ความเที่ยงตรงอยู่ในเกณฑ์ดี ผลลัพธ์หลังปรับภาพดี คุ้มค่าคุ้มราคา

4. ระบบปฏิบัติการ VIDAA U ลูกเล่นไม่เยอะมาก แต่ก็พอเพียงครอบคลุมการใช้งานเพื่อความบันเทิงในปัจจุบัน

ข้อเสียของ Hisense 55A91

1. จำเป็นต้องทำการปรับจูนโหมดภาพโรงงานเพิ่มเติม จึงจะถ่ายทอดภาพออกมาได้เต็มศักยภาพ

2. ไม่สามารถกำหนดตั้งค่าโมชั่นแทรกเฟรม หรือทำการปรับภาพในโหมด Dolby Vision

3. ไม่มีช่องต่อ USB 3.0 และ Analog/Headphone Out

4. ปัจจุบันยังไม่เปิดให้ใช้งานฟีเจอร์รับคำสั่งเสียง

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.5
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
8.5
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
8.75
ภาพ 2 มิติ (HDR)
8.75
เสียง (Sound)
8
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.75
ลูกเล่น (Features)
8.5
ความคุ้มค่า (Value)
9.25
ดีไซน์ (Design)
8.6

Hisense 55A91

8.6

หมายเหตุ : มาตรฐานคะแนนปี 2019

ราคาตั้ง Hisense 55A91  45,990 บาท