28 May 2018
Review

รีวิว Hisense 65U7A ทีวี 4K HDR ซีรีส์กลางตัวใหม่ จอใหญ่ ภาพดีงามเกินค่าตัว!!!


  • tormoo

ภาพ

Hisense 65U7A พระเอกรีวิวในครั้งนี้มีความละเอียด 4K (3840 x 2160) รองรับ HDR ขนาด 65” แวบแรกที่เห็นภาพบอกได้เลยว่ามันดีเกินคาด ก่อนอื่นรุ่นนี้ใช้พาเนลแบบ VA จุดเด่นที่สุดคงไม่พ้นการให้ระดับสีดำที่ดำลึก ส่วนในเรื่องของมุมมองก็ถือว่าหายห่วงในระดับหนึ่ง เพราะด้วยขนาดที่เป็นจอใหญ่ถึง 65” ระยะรับชมที่ดีก็ควรจะอยู่ประมาณ 1.8 เมตร ด้วยระยะขนาดนี้ภาพที่ออกมาจึงไม่มีปัญหาอะไร

สไตล์ภาพของ Hisense 65U7A ไม่ได้ออกคมชัดบาดตา ไม่ได้นุ่มนวลชวนฟุ้ง แต่จะอยู่ตรงกลางระหว่างความคมชัด และความนุ่มนวล ดังนั้นภาพที่ออกมาจึงดูสบายตาอย่างมาก สีสันอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ติดขัดเล็กน้อยตรงเรื่องของความสว่าง เพราะจากตัวเลขวัดอย่างเป็นทางการรุ่นนี้มีความสว่างอยู่ราวๆ 300 nits ดังนั้นหากห้องนั่งเล่นมีแสงสว่างส่องมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อภาพพอสมควร ประมาณแสงส่องมาสักสามด้านจังๆ แต่ถ้าน้อยกว่านั้นก็สบายครับ

ทดสอบภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Thor : Ragnarok

นอกจากแผ่น 4K Blu-ray แล้ว ก็ยังจับ Hisense 65U7A มาทดสอบระบบการอัพสเกลภาพกับแผ่น Blu-ray ธรรมดาด้วย โดยเรื่องที่ใช้ทดสอบดูภาพคือเรื่อง Interstellar ภาพที่ออกมาดูดีเลยครับ รายละเอียดเป็นรองภาพแบบ 4K เล็กน้อยเท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะทำออกมาได้ดีขนาดนี้ ถือว่าหน่วยประมวลผลไว้วางใจได้จริงๆ ที่สำคัญรุ่นนี้มีฟีเจอร์ Ultra-Smooth Motion ที่ช่วยเรื่องภาพเคลื่อนไหวในตัวอีกด้วย เพียงแต่ค่ามาตรฐานที่ให้มาจากโรงงานทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ผมขอแนะนำว่าให้เลือกแบบ Custom จากนั้นก็ปรับค่า D-Judder และ D-Blur เป็นระดับ 3 ทั้งคู่ครับ ก็จะได้ภาพเคลื่อนไหวที่ดูลื่นไหลไม่กระโชกโฮกฮาก ไม่ติดผีหลอกหลอนตามคน

อีกจุดเด่นหนึ่งของรุ่นนี้ที่ผมชอบมากก็คือเป็นทีวีที่สามารถปรับภาพได้อย่างละเอียด สำหรับใครที่พอมีพื้นฐานปรับภาพอยู่บ้างสามารถที่จะปรับภาพขุดเอาศักยภาพที่ดีที่สุดของทีวีออกมาได้เลย ซึ่งหลังจากที่ทางทีมงานได้วัดค่าต่างๆ โดยใช้เครื่องมือปรับภาพแล้วค่าอ้างอิงตามสเปคดูดีมากทีเดียวครับ ขอบเขตสีกว้างครอบคลุม 91% ของมาตรฐาน DCI P3 สามารถปรับ White Balance แบบ 2P รวมไปถึง CMS แต่ที่น่าเสียดายคือตัวเครื่องแม้จะแยกโหมดภาพระหว่าง SDR กับ HDR มาก็จริง แต่ว่าไม่มีค่าหน่วยความจำในการบันทึกการตั้งค่าแบบเฉพาะ ดังนั้นค่าที่ปรับในโหมด SDR ก็จะไปกระทบถึง HDR ด้วย ซึ่งแน่นอนสำหรับทีวีซีรีส์คุ้มค่าแบบนี้ ปรับได้ขนาดนี้ ถือว่าเยี่ยมยอดมากแล้ว

ข้อแนะนำ

เมื่อเปิดภาพแบบ HDR ควรเลือกเป็นโหมด HDR Cinema

– ควรปิดฟีเจอร์ Dynamic Contrast เมื่อรับชมภาพแบบ SDR และควรเปิดเมื่อชมภาพแบบ HDR จะได้ภาพที่สว่างขึ้น

ค่าก่อนปรับภาพจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสีออกไปในโทนเย็น แต่เมื่อปรับแล้วบอกได้เลยว่าอยู่ในระดับดีมาก!
อุณหภูมิสีจากโหมด HDR Standard สังเกตได้ว่าสีน้ำเงินโดดขึ้น ทำให้ภาพติดโทนเย็น
ค่าหลังปรับภาพโหมด SDR ดีมาก!

และโหมดภาพระหว่าง HDR กับ SDR นั้นแยกกันอย่างชัดเจน อย่างเช่นถ้าเราเปิดคอนเทนท์ HDR โหมดภาพก็จะมี HDR Dynamic, HDR Standard และ HDR Cinema แต่ถ้าเราเปิดคอนเทนท์แบบ SDR ก็จะมีโหมดภาพให้เลือกใช้มากขึ้น ได้แก่ Standard, Natural, Cinema, Dynamic และ FootBall ถ้าจะให้ผมแนะนำโหมด HDR ควรเลือกเป็น HDR Cinema ครับ ส่วนการรับชมปกติควรเลือกโหมด Cinema แต่ถ้าใครอยากได้สีสันสดใสมากขึ้นจะเป็นโหมด Football ก็ได้ เหมาะแก่การเล่นเกม

โหมดภาพขณะรับชมคอนเทนท์แบบ HDR
โหมดภาพขณะรับชมคอนเทนท์แบบ SDR
โหมดฟุตบอลจะบูสต์สีสันขึ้นมา ไม่ต้องกังวลเรื่องสีผิวคน
ภาพจากทีวีดิจิตอล คมชัด จับใจ