รีวิว JBL L100 Classic ถูกหูนักฟังสายออดิโอไฟล์ ปลุกตำนานลำโพงในอดีตให้กลับมาอีกครั้ง

Sound – เสียง

เริ่มต้นทดสอบด้วยแผ่น Audio CD ธรรมดา ในขณะที่ปิดหน้ากากลำโพงเอาไว้ ด้วยเพลง Another Day Of Sun ซาวด์แทร็กประกอบภาพยนตร์เรื่อง La La Land เป็นดนตรีสไตล์สวิงแจ๊ส เน้นเสียงร้องชายหญิงสลับกับเครื่องดนตรีต่างๆ ให้จังหวะคึกคักสนุกสนาน ซึ่ง JBL L100 Classic สามารถให้ความคึกคักได้ตรงโจทย์ชนิดไม่ผิดหวัง

จุตสังเกตของเพลงนี้อยู่ที่เสียงของดับเบิลเบส คอยเดินจังหวะเร่งเร้า ให้เบสเป็นลูกๆ ซึ่งดอกลำโพงวูฟเฟอร์ในรุ่นนี้ แม้จะใช้วัสดุเป็นเยื่อบริสุทธิ์ หรือเข้าใจง่ายๆ ว่าเป็นกระดาษนี่แหละ ตามปกติจะให้เบสที่บาง ขาดน้ำหนัก แต่ L100 Classic ไม่เป็นเช่นนั้น สามารถให้ไดนามิกของเสียงเบสที่มีน้ำหนักได้อย่างกลมกล่อม มีความกระชับสะอาด ขับเป็นลูกๆ ฟังสบายพอดีคำ

บวกกับผลพวงจากการออกแบบให้ท่อคายเสียงอยู่ทางด้านหน้า ช่วยหนุนเสียงเบสให้มีเนื้อมีหนัง แต่ก็ไม่หนักไปจนเสียเอกลักษณ์เสียงสไตล์วินเทจ ซึ่งความโปร่งกระชับของเสียงเบสนี้ เมื่อมารวมกับเสียงกลางและแหลม บรรเลงเสียงเปียโนกับเครื่องเป่าได้เพลิดเพลิน แยกชิ้นเครื่องดนตรีชัดเจนมีน้ำมีนวล ลบภาพสไตล์เสียงวินเทจแบบเดิมๆ ได้สนิทเลย

ทดสอบเรื่องเสียงร้องกันต่อด้วย แต่คราวนี้ลองถอดหน้ากากดูบ้าง กับแผ่นอัลบั้ม Susan Wong : Best Selection 16 ขอยกเพลง Sway มาใช้ในการอ้างอิง แค่อินโทรเพลงก็ชวนทึ่งในคุณภาพเสียง เพราะเสียงจากเพอร์คัสชั่นต่างๆ มีความคมชัด เสียงเครื่องเคาะมีความโปร่งไม่ทึบ เมื่อเสียงร้องเริ่มขึ้น ยิ่งตอกย้ำในความโปร่ง ด้วยเวทีเสียงที่มีความกว้าง ให้ปลายเสียงร้องที่โปร่ง น้ำเสียงเปิดสว่างชัดถ้อยชัดคำ ตอบโจทย์สายออดิโอไฟล์ได้แบบตรงประเด็น

สิ่งแตกต่างระหว่างถอดและใส่หน้ากากลำโพงนั้น สามารถสัมผัสได้ชัดเจนตรงที่ความเสียดคมและบรรยากาศของเพลง เมื่อฟังแบบปิดหน้ากากเอาไว้ สามารถช่วยเหลาความเสียดให้ลดความคมน้อยลง ขณะเดียวกันก็ลดบรรยากาศและรายละเอียดอื่นๆ ลงไปเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ว่าชอบแบบเสียงแบบโปร่งกระจ่าง หรือเสียงที่กระชับฟังง่าย

อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้เสียงมีความใสสะอาดยังอยู่ที่ซิสเต็มที่ใช้ประกอบการทดสอบด้วย ซึ่งคู่เครื่องเล่นและแอมป์จาก Denon ชุดนี้ มีจุดเด่นตรงที่การเกลาเสียงให้มีความคมแต่ไม่จัดจ้าน ให้แรงขับไดนามิกสูง เป็นการจับคู่ที่สมน้ำสมเนื้อเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้ง JBL L100 Classic ใช้โอห์มที่ต่ำเพียง 4 โอห์ม และค่าเซนซิทีฟ 90 dB ลำโพงคู่นี้จึงง่ายต่อการขับ แอมป์ขนาดกลางการสามารถจับคู่กันได้

ถัดมาหยิบแผ่น XRCD ที่ให้บิตเรทสูง เพื่อการทดสอบโดยเฉพาะด้วยแผ่น Best Audiophile Voices V หลังจากที่ฟังแล้ว ต้องย้ำอีกเลยว่าลำโพงรุ่นนี้ถูกผลิตเพื่อเอาใจสายออดิโอไฟล์จริงๆ ยกตัวอย่างด้วยเพลง I Don”t Want To Miss A Thing ลำโพงคู่นี้ก็ถ่ายทอดออกมาชัดเจน เสียงร้องลอยเด่น คุมโทนเสียงที่ติดย่านต่ำมาเล็กน้อยได้แบบเล็กตัว กลืนเป็นเนื้อเดียวกัน จนได้เสียงร้องที่สมจริง ปลายเสียงเผยเสียงลมหายใจและการสะกดคำที่หมดจด สมคำร่ำลือจริงๆ ว่าแล้วอย่ารอชอ ชมคลิปทดสอบเสียงด้านล่างนี้…

Conclusion – สรุป

สรุปได้เลยว่า JBL L100 Classic เป็นลำโพงวินเทจที่คงเอกลักษณ์เสียงยุคเก่าเอาไว้ ปลุกตำนานของ JBL ให้มาโลดแล่นอีกครั้งได้อย่างน่าสนใจ ไม่ใช่แค่ถูกหูนักฟังรุ่นเก๋าเท่านั้น สำหรับนักฟังรุ่นใหม่ที่มักเจอลำโพงจัดๆ เสียงเบสหนักๆ เมื่อได้มาฟังลำโพงรุ่นนี้ที่มีความแฟล็ตสูง ปลายเสียงเปิดโปร่ง เผยรายละเอียดได้ชัดเจน อาจชวนให้เปลี่ยนสไตล์การฟังได้เลย

ไม่เพียงแค่ด้านเสียง รูปลักษณ์ภายนอกก็ยังให้ความโดดเด่น จากหน้ากากโฟมสีสันสดใสที่เป็นลายบล็อกสี่เหลี่ยม รวมถึงตัวตู้ที่ใช้วัสดุเป็นไม้วอลนัทแท้ๆ ย่อมให้ความงามและความหรูหรามากกว่าลำโพงทั่วไป อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งย่านเสียงต่ำและแหลมได้ที่ลำโพงทั้ง 2 ข้าง เพื่อชดเชยย่านเสียงที่ขาดความสมดุลย์ อันเป็นผลมาจากลักษณะที่ติดตั้ง เรียกได้ว่าเข้ากันกับทุกการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านความสวยงามหรือด้านเสียง

หมายเหตุ : มาตรฐานคะแนนปี 2019