20 Sep 2016
Review

รีวิว JBL Pulse 2 ลำโพงมีไฟเอาใจสายปาร์ตี้ เบสมาเน้นๆ แถมยังเด่นเรื่องกันน้ำ


  • lcdtvthailand

Features – ลูกเล่น

มาดูด้านลูกเล่นกันต่อ เป็นที่รู้อยู่แล้วว่า JBL ขึ้นชื่อเรื่องลูกเล่นเป็นอย่างมาก ซึ่ง Pulse 2 นี้ก็เช่นกัน มัดรวมลูกเล่นแปลกใหม่มาไว้ในตัวลำโพงได้อย่างน่าสนใจ เริ่มต้นที่ฟีเจอร์แรก กับแผงไฟ LED บนตัวลำโพง แผงไฟนี้จะแสดงไฟด้วยรูปแบบการเคลื่อนไหวและโทนสีต่างๆ สร้างความโดดเด่นสะดุดตาดูแปลกใหม่ ปลุกเร้าความสนุกได้ไม่ใช่น้อย

สีสันจี๊ดจ๊าด ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ไฟให้เคลื่อนไหวตามจังหวะเพลงได้หลากหลาย

รูปแบบการแสดงลักษณะหรือการเคลื่อนไหวของไฟ LED สามารถเปลี่ยนได้หลายรูปแบบเลยทีเดียว แค่เพียงกดปุ่มรูปดวงอาทิตย์ บริเวณแถมปุ่มคำสั่ง ไฟ LED ก็จะเปลี่ยนรูปแบบการแสดงไปทันที เช่น รูปแบบฝน – ไฟ LED จะแสดงผลด้วยการเคลื่อนที่จากด้านบนลงด้านล่างคล้ายฝน, รูปแบบกองเพลิง – ไฟ LED จะพุ่งขึ้น ปลายของไฟมีการพริ้วไหวดั่งเปลวไฟบนกองเพลิง เป็นต้น

ไฟ LED นี้ สามารถเปลี่ยนสีของไฟได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน โดยนำเซ็นเซอร์ที่อยู่บริเวณแถบปุ่มคำสั่ง ไปจ่อกับวัสดุต่างๆ ที่มีสีที่ต้องการอยู่ เช่น เสื้อผ้า, กระดาษ หรือเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น แล้วกดปุ่มที่เป็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีขาวล้อมรอบด้วยสีต่างๆ บริเวณปากกระบอกลำโพง JBL Pulse 2 นี้ จะทำการดูดซับสี เพื่อเปลี่ยนสีของไฟ LED ให้เป็นสีที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับสีของวัสดุนั้นที่สุดได้

JBL PRISM เลนส์เซ็นเซอร์สำหรับคัดลอกสีของวัสดุที่ต้องการ เพียงแค่นำเซ็นเซอร์ไปจ่อใกล้ๆ แล้วกดปุ่มเปลี่ยนสี
ปุ่มกดเปลี่ยนสีสำหรับคัดลอกสีวัสดุที่นำเซ็นเซอร์ไปจ่อเอาไว้

อย่างที่บอกไปแล้วว่า JBL Pulse 2 เป็นลำโพงสำหรับสายปาร์ตี้ตัวจริง ไม่ได้มีแค่สีสันเท่านั้น ยังมาพร้อมฟีเจอร์การกันน้ำ ดังเช่นพี่น้องซีรี่ส์อื่นๆ ความสามารถการกันน้ำของ Pulse 2 นั้นสามารถกันได้ในระดับหนึ่ง ใช้งานกลางสายฝนหรือโดนน้ำสาดช่วงสงกรานต์ก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่รองรับต่อการจุ่มน้ำ ทำให้ลดความกังวลและใช้งานได้หลากหลายสถานที่มากขึ้น พร้อมลุยให้สมเป็นลำโพงพกพา

ไม่ใช่แค่โชว์กันน้ำ ภาพนี้เห็นชัดถึงพลังการขับเบสของ Passive Radiator กระแทกจนน้ำน้ำกระเด้งออกกันเลย

ลูกเล่นอื่นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ JBL ก็ยังอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นบิลต์อินไมโครโฟน สามารถใช้งานเป็นสปีกเกอร์โฟน สำหรับพูดคุยโทรศัพท์ผ่านลำโพงนี้ ซึ่งตัวไมโครโฟนยังสามารถลดเสียงรบกวนและความก้อง ช่วยให้พูดคุยโทรศัพท์ได้ชัดเจน รวมถึงดอกลำโพงแบบ Passive Radiator เพิ่มศักยภาพการขับเสียงให้มีความหนักแน่น เบสมีมิติกระแทกกระทั้นมากขึ้น

และยังรองรับการใช้ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ด้วย JBL Connect ซึ่งในรุ่น Pulse 2 สามารถใช้งานฟีเจอร์ไฟ LED ผ่านแอพนี้ ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมลูกเล่นไฟ LED ได้มากขึ้นกว่าเดิม หรือใครมีลำโพงพกพาของ JBL ที่รองรับแอพ JBL Connect สามารถนำมาเชื่อมต่อจับคู่กัน ให้เป็นคู่ลำโพงได้อีกด้วย เพิ่มอรรถรสของการรับฟังขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งข้อดีอีกอย่างของ JBL Connect คือ สามารถอัพเดตเฟิร์มแวร์ของลำโพงผ่านแอพนี้ได้

หน้าการใช้งานของแอพพลิเคชั่น JBL Connect

หากจับคู่ลำโพงเครื่องอื่นผ่านปุ่มคำสั่งการจับคู่ลำโพงบนตัวเครื่อง เสียงที่ได้จากคู่ลำโพงจะเป็นเพียงเสียงระบบ Mono ไม่มีการแยกเสียงซ้าย-ขวา แต่หากใช้งานบนแอพ JBL Connect ก็จะสามารถเปลี่ยนจาก Mono เป็น Stereo เพื่อเพิ่มมิติเสียงได้ ทั้งยังเลือกตำแหน่งลำโพงซ้าย-ขวา ได้ตามใจชอบ

แอพพลิเคชั่น JBL Connect สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และระบบ Android

Sound – เสียง

สัมผัสแรกที่รู้สึกหลังจากได้ฟัง สไตล์เสียงของ JBL Pulse 2 มีแนวเสียงคล้ายกับรุ่นอื่นๆ ที่มี Passive Radiator เหมือนกัน นั่นคือความหนักแน่นของเสียงเบส หรือที่เรียกกันว่า “ตึ๊บ” นั่นแหละ รับรู้ถึงเสียงเบสที่ขับออกมาได้เป็นอย่างดี โดดเด่นถูกใจผู้ที่ชอบฟังลำโพงเน้นเบสชัดๆ แน่นอน

ครั้งนี้ได้ทดสอบด้วย อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Sing Street ภาพยนตร์เพลงจากฝีมือการกำกับของ John Carney เคยฝากผลงานไว้จากเรื่อง Once และBegin Again ที่มีเพลงประกอบฮิตติดหูอย่างเพลง “Lost Stars” นั่นเอง ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงสไตล์ของผู้กำกับไว้เช่นเคย พร้อมรวบรวมเพลงเพราะไว้มากมาย เหมาะที่จะมาทดสอบกับ Pulse 2

JBL Pulse 2 สามารถตอบสนองต่อเสียงของเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างไม่บกพร่อง เช่น เพลง The Riddle of The Model ที่มีการสแล๊ปเบส ลำโพงรุ่นนี้กับขับออกมาได้คมชัด เบสเด้งลอยไม่ผิดเพี้ยน เสียงจากคีย์บอร์ดที่มีประกายแหลมฟุ้ง Pulse 2 ก็สร้างความฟุ้งเฟ้อได้ระดับดี หรือเพลง Go Now ที่ Adam Levine แห่ง Maroon5 มาขับร้อง ในช่วงต้นเพลงจะเน้นเสียงร้องและความอะคูสติกของเปียโน Pulse 2 ก็ให้เนื้อเสียงแบบเต็มๆ ช่วงร้องกระชากเสียง สามารถสัมผัสถึงความแผดจากปลายเสียงร้อง อินกับอารมณ์เพลงได้ไม่ยากเลย

เพลงในภาพยนตร์ Sing Street ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์ป็อปยุค 80s ที่มีเอกลักษณ์ด้านเบสต้น และซาวด์ฟุ้งๆ จากคีย์บอร์ดกับกีตาร์ เน้นจังหวะสนุก ชวนขยับโยกย้าย

ในอัลบั้มนี้ก็มีเพลงหนักๆ อย่าง Stay Clean จากวง Motorhead ลำโพงตัวนี้ก็ไม่ยั่น หนักๆ มาก็สู้ได้ไหว แต่แอบให้ความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย อาจเป็นเพราะดีไซน์ที่มีไฟ LED ล้อมรอบตัวเครื่อง เสียงที่ได้จึงอาจยังไม่กระจ่างใสเท่าซีรี่ส์พี่น้องรุ่นอื่น มีความขุ่นให้เห็นบ้าง แต่ไม่มากนัก สามารถฟังกันได้ยาวๆ ซึ่งไดนามิกเรนจ์อยู่ในเกณฑ์เยี่ยมเลย มีระยะการฟังที่ไกล โดยยังคงคุณภาพเสียงไว้อย่างดี

ครบครันทั้งแสง สี เสียง ปลุกเร้าอารมณ์ชวนโยกได้อย่างสนุกสนาน ยิ่งในโหมด Stereo ยิ่งทวีคูณความเพลิดเพลินในการฟังเลยทีเดียว

ในการฟังแบบ Stereo ผ่านการจับคู่ด้วย JBL Connect แล้วเปลี่ยนโหมดเข้าสู่ Stereo บนแอพพลิเคชั่น สามารถสร้างมิติเสียงที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รับรู้ถึงการแยกเสียงออกทางลำโพงทั้งฝั่งซ้ายและขวา แพนเสียงได้ดีไม่แพ้ลำโพงตั้งโต๊ะเลย และอย่างที่บอกในตอนต้นไว้ว่า JBL Pulse 2 เหมาะต่อการปาร์ตี้ ไม่ทดสอบด้วยเพลงตื๊ดๆ ก็คงไม่ได้ หลังจากทดสอบด้วยเพลงแนว EDM แล้ว ต้องบอกเลยว่า มันส์!!! หมดห่วงเรื่องเบสจริงๆ Passive Radiator ของ JBL ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เบสเป็นลูก ได้แรงกระแทกเกินตัว

ทั้งยังมิติเสียงที่กว้างไกลของรุ่นนี้ ทำให้พื้นที่การฟังมีขนาดกว้างและทั่วถึง แม้อยู่ในที่โล่งแจ้งก็ระเบิดพลังสู้เสียงแวดล้อมได้ไม่ยากเย็น ยิ่งฟังคู่กับการเปิดไฟ LED ยิ่งเพิ่มอรรถรสและความสนุกมากขึ้นอีกเท่าตัว โดยเฉพาะการใช้งานช่วงกลางคืน ไม่ทำให้งานปาร์ตี้ต้องกร่อยแน่นอน ลองไปฟังเสียงกันได้จากคลิปทดสอบด้านล่างนี้เลย….

คลิปทดสอบเสียงของ JBL Pulse 2

Conclusion – สรุป

สรุปได้เลยว่า ถ้าต้องการความสนุกในการฟังเพลง JBL Pulse 2 สามารถให้ความสนุกสนานได้อย่างสบายๆ ด้วยลูกเล่นทั้งหมดของ Pulse 2จึงช่วยบวกความตื่นเต้นเร้าใจเข้าไปอีก ตั้งแต่การกันน้ำ ที่มีการซีลปิดสนิท กันได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวเครื่องพังเพราะน้ำ หรือจะเรื่องแบตเตอรี่ มีขนาดถึง 6,000 mAh ชาร์จเต็มๆ หนึ่งครั้งสามารถฟังกันได้ประมาณ 10 ชม. เพลิดเพลินกันยาวๆ

สีสันสดใส ให้เสียงเต็มพลัง นี่แหละคือ JBL Pulse 2 !!

ด้านเสียงก็ถือว่าดีเยี่ยมสมมาตรฐานลำโพงพกพาของ JBL ให้ความหนักแน่นกระแทกกระทั้นออกมาอย่างเต็มเปี่ยม จากดอกลำโพง Passive Radiator เจ้าเก่าที่คุ้นตา แม้เสียงอาจไม่กระจ่างใสเท่ารุ่นอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้ให้อึดอัด ยิ่งใช้งานแบบ Stereo แล้ว ประสิทธิภาพของเสียงก็ขยับจากระดับดีเป็นดีมากเลยทีเดียว ประกอบกับไฟ LED อันโดดเด่น ปรับเปลี่ยนลูกเล่นได้ตามใจ เพิ่มความสวยงามและรสชาติการฟังได้มากกว่าที่คิด คงเอกลักษณ์ความเป็นลำโพงพกพาของ JBL ได้อย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับการพกพายิ่งยวด พร้อมลุยทุกสถานที่ พร้อมปาร์ตี้ทุกช่วงเวลา

ข้อดีของ JBL Pulse 2
1. มีไฟ LED เพิ่มความสวยงามและความเพลิดเพลินในการฟัง เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้เลย
2. ดอกลำโพงแบบ Passive Radiators ของ JBL ยังคงสร้างพลังเสียงที่หนักแน่นชัดเต็มได้ดีเช่นเคย
3. ตัวเครื่องมีการซีลปิดสนิท โดยเฉพาะช่องเชื่อมต่อ ทำให้กันน้ำได้ดีเยี่ยมในระดับหนึ่ง
4. สามารถใช้งานแบบ Stereo และรองรับการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น JBL Connect

ข้อเสียของ JBL Pulse 2
1. เสียงค่อนข้างขุ่นไปนิด เมื่อเทียบกับซีรี่ส์อื่นๆ ของ JBL แต่ความหนักแน่นนั้นมีเต็มเปี่ยม เหมาะกับเพลงสไตล์ EDM อย่างมาก
2. ไม่สามารถตั้งลำโพงในแนวนอนได้ เนื่องจากไม่ฐานกันเขยื้อนในการตั้งลำโพงแนวนอน
3. จะใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบจริงๆ ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก JBL เพื่อใช้ควบคู่กัน

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.00
เสียง (Sound)
7.75
ลูกเล่น (Features)
8.50
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.00
ความคุ้มค่า (Value)
8.25
คะแนนตัดสิน (Total)
8.10

คะแนน JBL Pulse 2 Splashproof Bluetooth Speaker with Light Show

8.1

ขอขอบคุณ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด ที่เอื้อเฟื้อสินค้าในการทดสอบครั้งนี้
สนใจสินค้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด เลขที่ 46 ถ.สุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทร. 02-256-0020-9