เรื่องย่อ : Joy ภาพยตร์ที่ได้แรงบันดาลจากมาจากเรื่องจริง ซึ่งเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับการผจญภัยสุดตื่นเต้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่รักษาครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบของเธออย่างสุดความสามารถเมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ยากจะเอาชนะได้ เธอถูกผลักดันด้วยความจำเป็น ความจริงใจ และความฝันชั่วชีวิต จอยได้รับชัยชนะในที่สุดในฐานะผู้ค้นพบและผู้นำแห่งอาณาจักรหลายหมื่นล้านเหรียญ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอได้เพราะครอบครัวของเธอ
บทวิจารณ์ : ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่อง Joy จะเป็นที่ถูกใจของใครหลายคน แต่สำหรับเราแล้ว วิธีการเล่าเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ดูจะเรียบง่ายเกินไปอยู่สักหน่อย อารมณ์ของหนังก็ยังทำออกมาไม่สุด สำหรับเราแล้ว เราว่าซีนอารมณ์ของเรื่องยังทำอะไรเพิ่มเติมได้อีกหลายอย่าง เช่น ใส่ดนตรีที่ช่วยบิ้วท์อารมณ์ดูมากกว่านี้สักหน่อย อาจจะมีคนหลั่งน้ำตาให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้ จากการหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องจริงของผู้หญิงสู้ชีวิต เธอฝ่าฟันอุปสรรคในชีวิตจนประสบความสำเร็จ เพราะมีคนแนะนำให้เธอรู้จักกับการโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์ในประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ “โอ้ว ซาร่า มันเยี่ยมมาก” หรือทีวีไดเร็ค ที่ทีวีบ้านเราชอบนำมาออกอากาศตอนช่วงดึกๆ ก่อนจะปิดสถานี
ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนจะต้องการสื่อให้คนทำตามความฝันและความคิด ในปั้นปลายนั้นจึงจะประสบความสำเร็จ แต่ในชีวิตจริงนั้น คนสำเร็จมีอยู่น้อยกว่าคนที่ล้มเหลว เหมือนอย่างที่เธอเกือบจะพลาดเสียบ้านไปตอนที่พิธีกรชายใช้ม๊อบถูพื้นของเธอไม่คล่อง และอีกครั้งในช่วงที่มีคนก๊อบปี้ม๊อบของเธอไปขาย ซึ่งก็เข้ากับกระแสที่คนหันมาทำธุรกิจสตาร์ทอัพกันมากขึ้นในปัจจุบัน คนดูน่าจะได้แรงบันดาลในใจการลงมือลงแรงทำธุรกิจของตัวเอง เราเองก็ไม่ได้คัดค้านว่าไม่ควรทำธุรกิจแต่อย่างใด คนเราเกิดมาทั้งที ก็ควรจะมีอะไรเป็นของตัวเอง ทำอะไรด้วยตนเอง สำหรับเราแล้ว เดิมพันที่จอยแลกมานั้นคือบ้าน เราว่ามันเป็นราคาที่สูงและเสี่ยงมาก ถ้าใครอยากจะทำธุรกิจ เราคิดว่าน่าจะลงทุนตามกำลังของตัวเอง อย่าทำอะไรเกินตัว เพราะบางทีคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก คุณยังมีญาติ พ่อ แม่ และลูก ที่ต้องคอยรับผลกระทบของการตัดสินใจของคุณอยู่ เราขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีและร่ำรวยแบบจอย
สรุป : เป็นหนังที่เลือกเหตุการณ์มาสร้างได้ตรงกับกระแสสังคมที่กำลังสนใจธุรกิจสตาร์ทอัพ หนังทำการบ้านมาดีว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร แต่การดูภาพยนตร์ก็ควรต้องใช้วิจารณญาณด้วย อย่ามองอะไรเพียงมุมเดียว และการทำตามคนอื่นก็ไม่ได้แปลว่าผลลัพท์มันจะออกมาเหมือนกันเสมอไป เราควรหาทางที่เหมาะกับตัวเอง และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนน่าจะดีกว่า
คะแนน : 7/10
