19 Mar 2019
Review

รีวิว Klipsch R-41PM ลำโพงจากซีรีส์ Reference ที่เสียบฟังได้ง่าย ๆ ไม่ต้องง้อแอมป์


  • boom

Sound – เสียง

เริ่มทดสอบด้วยการนำลำโพงทั้งสองข้างมาแปะบลูแท็คเพื่อลดแรงปฏิกิริยาก่อน จากนั้นก็วางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์แบบหันหน้าตรงไม่ต้องโทอินเพื่อทดสอบการใช้งานแบบแรก โดยผมเลือกใช้ช่องอินพุต USB Audio โดยลากสายจากหลังคอมพิวเตอร์มาเสียบกับตัวลำโพงในการทดสอบเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการใช้งาน

สำหรับรีวิวนี้คงไม่ต้องพูดถึงความพิเศษของ Tractrix Horn กันอีกต่อไปเพราะน่าจะสามารถหาอ่านได้ในรีวิวเก่า ๆ ของลำโพงยี่ห้อนี้นะครับ รวมถึงวูฟเฟอร์แบบ Spun Copper สีทองแดงที่เห็นปั๊บก็ต้องนึกถึงลำโพงแบรนด์นี้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีดีแค่สีที่โดดเด่น แต่มันยังช่วยให้ส่วนโคนของไดร์เวอร์มีน้ำหนักเบาเพิ่มประสิทธิภาพของเสียงความถี่ต่ำให้ชัดเจนมีคุณภาพ

เพลงแรกที่เรียกมาเปิดฟังจะเป็น When The Lights Go Down งานจากอัลบั้มที่ 22 The Vault: Old Friends 4 Sale ของ Prince โดยเพลงนี้จะมีจังหวะกลาง ๆ แต่ฟังสนุก โดยสิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่เสียงคนร้อง แต่เป็นเสียงกลองบองโกที่ให้จังหวะที่คลอเคลียไหลซ้ายขวาอยู่ตลอดทั้งเพลง ซึ่ง R-41PM ก็สามารถถ่ายทอดมิติตื้นลึกของกลองแต่ละชิ้นได้ชัดเจน 

เปลี่ยนไปฟังเพลงร้องกันบ้างอย่าง Wonderful World เวอร์ชั่นคัฟเวอร์ของ Eva Cassidy เนื้อเสียงถูกถ่ายทอดออกมาได้ชัดเจนไม่มีหม่น และแม้ว่าผมจะนั่งค่อนข้างใกล้กับลำโพงแต่เสียงที่ออกมาก็ไม่มีอาการลดทอนหรือเลือนหายแต่อย่างใด แม้จะไม่ได้วางลำโพงทำมุมบีบเข้ามา โดยเวทีเสียงที่ได้จะเสมือนขับออกมาจากหน้าจอมอนิเตอร์อย่างพอดิบพอดี 

หลังจากผ่านการใช้งานมาสักระยะ ก็สามารถจับคาแร็คเตอร์เสียงของ R-41PM ได้ค่อนข้างชัดเจน คือตัวลำโพงให้ดุลเสียงที่ดี ไม่หนักไปด้านใดด้านหนึ่ง เสียงแหลมใสหมดจดฟังไพเราะ รายละเอียดและเวทีเสียงสอบผ่านไม่มีปัญหา หากแต่ว่าเสียงเบสที่ได้นั้นในความคิดเห็นผมน่าจะต้องเพิ่มอีกสักหน่อยถึงจะสามารถบู๊ได้ทุกแนวเพลงและการใช้งาน แต่กับสิ่งที่ได้ตอนนี้ก็ถือว่าวัดกับคู่แข่งในช่วงราคาเดียวกันได้สบายจริง ๆ

ด้วยความที่อยากได้เบสเพิ่ม ผมจึงลองหันด้านหลังลำโพงเข้าหาผนังห้องดู เผื่อว่าจะช่วยสะท้อนลมให้เข้ามาปะทะมากยิ่งขึ้น เพราะว่าท่อคายลมของลำโพงคู่นี้ยิงออกทางด้านหลัง ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเสียงต่ำดูดีฟังชัดขึ้น แต่ว่าก็ไม่ได้มากนัก ต้องตั้งใจฟังดี ๆ ซึ่งนี่น่าจะเป็นข้อดีว่าลำโพงถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น เข้าได้กับทุกรูปแบบการจัดวาง รวมถึงน่าจะเป็นการบอกอย่างเป็นนัยว่า ถ้าอยากเร้าใจกว่านี้ ไปซื้อซับวูฟเฟอร์ของเรามาต่อเพิ่มเถอะ อุตส่าห์เตรียมช่องต่อมาให้แล้ว!

หลังจากนั้นเราก็ได้ทดสอบด้วยการวางใช้งานกับทีวี โดยนั่งฟังจากระยะประมาณ 3 เมตร เสียงที่ได้นั้นค่อนข้างแตกต่างกับการนั่งฟังที่ระยะประชิดบนโต๊ะคอมพิวเตอร์พอสมควร โดยรู้สึกได้ว่าไดร์เวอร์ทำงานไม่ค่อยประสานกันเท่าไร และประสิทธิภาพที่ได้ดูเหมือนจะลดลงจากการฟังคู่คอมพิวเตอร์อยู่บ้าง เป็นไปได้ว่าตัวลำโพงน่าจะเล็กเกินไปหน่อย และอาจจะไม่ได้ถูกปรับจูนมาให้เหมาะกับการนั่งฟังที่ระยะไกลมากนั่นเอง

Features – ลูกเล่น

R-41PM จะมาพร้อมกับ Dynamic Bass EQ ซึ่งทาง Klipsch ให้ข้อมูลไว้ว่ามันจะช่วยให้เสียงของลำโพงดูทรงพลังมากขึ้น ส่วนตัวผมได้ลองทดสอบกับทั้งการดูภาพยนตร์และฟังเพลง ส่วนตัวคิดว่าใช้ตอนดูหนังจะเห็นผลชัดที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นซีรีส์ Netflix ที่ต้นทางปล่อยเสียงมาแบบ Dolby ด้วย จะยิ่งช่วยให้เสียงพูดและเสียงบรรยากาศโดยรอบชัดขึ้นมาระดับหนึ่ง แน่นอนรวมไปถึงการนำมาใช้งานร่วมกับเกมบนคอมพิวเตอร์อีกด้วย

วิธีเปิดใช้งาน Dynamic Bass EQ คือต้องกดปุ่มบนรีโมทค้างไว้ให้ไฟกระพริบสองที

Conclusion – สรุป

Klipsch R-41PM เซ็ตนี้เป็นลำโพงที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับการใช้งานแทบจะทุกรูปแบบจริง ๆ จะต่อทีวีก็ได้ ต่อคอมก็ดี ไร้สายผ่านบลูทูธก็มีมาให้ หรือถ้าเป็นคนที่เล่นแผ่นไวนิลก็มี Phono มาให้ในตัวลำโพงเลย แค่เสียบสายสัญญาณและหมุนแผ่น เสียงก็ออก ขจัดเอาความรุงรังในการต่อพ่วงกับแอมป์หลายต่อออกไปอย่างหมดจด เรื่องความสะดวกสบายกับลำโพงตัวนี้ผมให้สามผ่าน แม้ว่าขั้นตอนแรกในการจัดวางจะดูยากสำหรับมือใหม่ไปเสียหน่อย กับการให้เราหมุนสายลำโพงเอง แต่เชื่อเถอะ ขอเงินภรรยามาซื้อลำโพงตัวนี้ดูจะยากกว่าเยอะ

สำหรับคาแร็คเตอร์เสียงก็ไม่น้อยหน้า R-41PM เป็นลำโพงที่มีดุลเสียงดีไม่หนักไปด้านใดด้านหนึ่ง เรียกว่าเกือบจะใช้เป็นลำโพงมอนิเตอร์ไว้ทำงานด้านเสียงได้เลย อีกหนึ่งข้อดีของความเป็นกลางนี้ ยังทำให้เราฟังได้ยาวนานต่อเนื่อง ที่สำคัญไม่ต้องนั่งไกลมาก ตัวลำโพงก็ตอบสนองต่อการใช้งานให้เสียงออกมาเต็มประสิทธิภาพ พร้อมกับเวทีเสียงที่ใหญ่เกินตัวแต่ยังคงไว้ซึ่งทิศทางที่แม่นยำ ไม่ฟุ้งกระจายจนเกินไป

อย่างไรก็ตามแม้ตัวลำโพงจะดูเหมือนครบเครื่อง แต่ก็ยังคงมีเพดานของความไม่สมบูรณ์แบบอยู่นิดหน่อย อย่างเช่นเสียงเบสที่ดูจะเร้าใจน้อยไปเสียหน่อย หากนำมาใช้เล่นเกม, ดูหนังอาจจะต้องหาซับวูฟเฟอร์มาช่วย หรือแม้กระทั่งงานดีไซน์ตัวลำโพงที่เก็บงานไม่ค่อยเรียบร้อย ยังคงมีบางจุดที่ผิวไม้ดูหยาบ คนที่ซีเรียสเรื่องนี้อาจจะต้องลองพิจารณาดูเสียหน่อยระหว่างเลือกซื้อ โชคดีที่ตัวบอดี้เป็นสีดำ ทำให้ความไม่เรียบร้อยจะสังเกตุเห็นได้ยาก

ซึ่งถ้าเรามองข้ามรายละเอียดเล็กน้อยแล้วหันกลับมาดูค่าตัว เมื่อเทียบกับความสามารถรอบด้านของมัน ทำให้ Klipsch R-41PM ตัวนี้กลายเป็นอีกหนึ่งลำโพงแอ็คทีฟที่น่าคบหามาวางไว้ข้างคอม หรือหน้าทีวีอยู่ไม่น้อย เพราะมันสามารถเติมเต็มช่องว่างผลิตภัณฑ์ของ Klipsch ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และสร้างความวิตกให้คู่แข่งได้อย่างแน่นอน ของแบบนี้อ่านเอาก็ดูจะไม่น่าเชื่อ แนะนำให้ไปทดลองฟังได้ ที่ร้านขายเครื่องเสียงชั้นนำทั่วไทยครับ

ข้อดี
– การเชื่อมต่อหลากหลาย ครอบคลุมทุกหมวดหมู่การใช้งานใหญ่ ๆ แทบทั้งหมด
– เป็นลำโพงที่ให้เสียงค่อนข้างเที่ยงตรง ไม่หนักเบส ไม่แหลมแสบหู ส่วนตัวผู้รีวิวชอบเสียงตอนที่เปิดหน้ากากฟังมากที่สุด ได้ทั้งความเท่ และคุณภาพเสียง
– สามารถต่อยอดเพื่อเพิ่มคุณภาพเสียงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรดสายลำโพง หรือหาซับวูฟเฟอร์มาเพิ่มในซิสเต็ม

ข้อเสีย
– ด้วยเสียงที่ค่อนข้างแฟล็ตของมัน อาจจะทำให้ขาดความเร้าใจในการใช้งานบางประเภท
– การเก็บงานตัวตู้ดูไม่ค่อยเรียบร้อยในบางจุด
– คุณภาพเสียงตอนทดสอบวางคู่กับทีวีและนั่งฟังจากระยะ 3 เมตร ค่อนข้างแตกต่างกับการนั่งฟังใกล้ ๆ บนโต๊ะคอมพิวเตอร์อย่างชัดเจน

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.50
เสียง (Sound)
8.25
ลูกเล่น (Features)
8.00
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
9.00
ความคุ้มค่า (Value)
8.50
คะแนนตัดสิน (Total)
8.40

คะแนน Klipsch R-41PM

8.4

Klipsch R-41PM Active Monitor Speakerราคาจำหน่าย 16,990 บาท

สนใจสินค้าติดต่อSound Republic (บริษัท โฮม ไฮ ไฟ จำกัด) สำนักงานใหญ่และศูนย์บริการ (ตรงข้ามสายใต้ใหม่): 284, 286 ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 Tel. 02-448-5489, 448-5465-6 Fax. 02-408-8172 www.facebook.com/soundrepublic.th