Picture – ภาพ
LG UF950T เป็น 4K UHD TV ตัวท็อป ให้สเป็คด้านภาพภาพแบบจัดเต็มมา เริ่มที่แผนหน้าจอ IPS 4K ความละเอียด 4K UHD 3840 x 2160 พิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Color Prime (Quantum Dot) หลักคือการใช้หลอด LED สีน้ำเงินส่องแสงผ่านแผ่นฟิล์ม Quantum Dot เพื่อสร้างสีขาวที่บริสุทธิ์ ก่อนที่จะไปผสมกับ Color Filter เพื่อสร้างสีสันต่างๆอีกทอดช่วยยกระดับการแสดงเฉดสีให้กว้างขึ้น สมจริงยิ่งขึ้น และยังมีระบบ TruMotion 200Hz แท้ มาช่วยเรื่องการแสดงภาพเคลื่อนไหว จัดเต็มมาแบบนี้ มาเริ่มทดสอบกันเลย
โหมดภาพสำเร็จรูป ของ LG มีให้เยอะตามสูตร ทั้ง Vivid / Standard / APS / Cinema / Soccer /Photo และ Expert (ISFccc) ผมเลือกใช้โหมด Expert 1 (ISFccc) ในการทดสอบ ซึ่งเป็นโหมดสำเร็จจากโรงงานที่มักให้ค่าถูกต้องที่สุดตั้งแต่ต้น พร้อมตั้งค่า สัดส่วนของภาพ เป็น Just Scan เพื่อให้แสดงภาพแบบ 1:1 Pixel Matching ไม่คร็อปด้านข้างหายไป ครั้งแรกสุดเมื่อเปิดเครื่อง ทีวีจะตั้งโหมดภาพสำเร็จรูปเป็น APS = Auto Power Saving ซึ่งจะทำการปรับระดับความสว่างภาพให้สัมพันธ์กับความมืด-สว่างของห้องอย่างอัตโมนัติ เหมาะกับท่านที่ขี้เกียจปรับภาพ ให้ทีวีมันปรับเองอัตโมัติ จะช่วยทั้งประหยัดพลังงานและถนอมสายตาไปในตัว
เริ่มทดสอบด้วยคอนเทนต์ Full HD จากแผ่น Blu-ray เรื่อง Interstellar ทะยานดาวกู้โลก ฉากดาวภูเขาน้ำแข็ง เจ้า UF950T ถ่ายทอดคาแรกเตอร์ของจอพาแนลแบบ “IPS 4K” ออกมาได้อย่างชัดแจ้ง สีสัน อิ่ม-แน่น-เข้ม สังเกตได้ที่ใบหน้าของพระเอกคูเปอร์ที่เปี่ยมไปด้วยความเครียด…สีสันที่อิ่มแน่นจะช่วยถ่ายทอดอารมณ์ความผิดหวังจนเรารู้สึกได้ ที่สำคัญระยะทดสอบผมนั่งห่าง 3 เมตร กับทีวีขนาด 65″ ในฉากที่ใช้กล้อง IMAX ถ่ายทำ ภาพจะเต็มจอ 16:9 แลดูอลังการมาก อีกหนึ่งเหตุผลของจอใหญ่ = อรรถรสจะใหญ่ตาม ดูแล้วอินกว่าว่างั้นเถอะ !
ทดสอบกับ Captain America : Winter Soldier ฉากที่พระเอก สตีฟ โรเจอร์ส ต่อสู้กับเพื่อรักหักเหลี่ยมโหดเจ้า บักกี้ บาร์นส์ ภาพเคลื่อนไหวไวๆหากไม่เปิด TruMotion ถือว่า “เอาอยู่แล้ว” ในขณะที่ปีที่ผ่านมาอย่างรุ่น UB980T จำเป็นต้องใช้ TruMotion เพื่อพยุงภาพเคลื่อนไหวการเล่นคอนเทนต์ความละเอียด Full HD มิเช่นนั้นภาพเคลื่อนไหวจะดูเฉื่อยๆอ่อนล้า หรือหากอยากเปิด TruMotion ก็แนะนำให้ใช้โหมด Custom และปรับ De-Judder เป็น 2 ถือว่าใช้ได้เช่นกัน ส่วนระดับ Clear และ Clear Plus จะก่อให้เกิดวุ้นเรืองตามขอบวัตถุ ก็ขอให้หลีกเลี่ยง 2 ระดับนี้ สำหรับความคมชัดของการอัพสเกลภาพจาก HD ไปเป็น 4K ก็อยู่ในเกณฑ์ดี เมื่อดูระยะประมาณ 3 เมตรก็ถือว่า “เนียนตา” ไม่ได้มีจุดใดให้ติเป็นพิเศษส่วนมุมมองด้านข้างก็ยังทำได้ดีตามมาตรฐานจอแบบ IPS สีสันยังคงความอิ่มแน่นและถูกต้อง ไม่ซีดจางหรือขาวโพลน ตัวเลขที่เคลมว่ามุมมองครอบคลุม 178 องศา เป็นเรื่องที่จริงใจไม่ไก่กา
ส่วนเรื่องระดับความดำ เนื่องจากโครงสร้างเป็น Edge LED มี Local Dimming จึงสามารถควมคุม เปิด-ปิด-หรี่ หลอดไฟ Backlight ตามขอบภาพด้านบนและด้านล่างเท่านั้น หากหวังว่่าจะดำสนิทเหมือน OLED หรือ Full LED ก็คงยังไม่ใช่ ฟีเจอร์การดิมหลอดไฟกับจอใหญ่มากๆอย่าง 65″ เป็นเรื่องสำคัญมาก แนะนำให้เปิด Local Dimming ให้เป็นระดับ Low หรือ Medium จะช่วยให้ฉากสีดำดำสนิทกว่าแบบไม่เปิด Local Dimming
ทดสอบดูดิจิตอลทีวี ผมลองโหมดภาพอย่าง Standard เพื่อเพิ่มความคึกคักให้กับภาพ ทั้งช่อง HD และ SD โดยช่อง HD ภาพที่ได้ค่อนข้างดี เนียนสะอาดตา สีสันสดใสซาบซ่า ถูกใจวัยโจ๋ หรือจะใช้โหมด APS เพื่อให้ทีวีรับระดับความสว่างอัตโนมัติตามสภาพแสงภายในห้องก็ย่อมได้ ห้องไม่สว่างนักก็จะดิมแสงลงให้สบายตา เป็นการประหยัดไฟไปอีกทอด อีกหนึ่งเคล็ดลับคือเราสามารถบันทึกรายการในช่องดิจิตอลทีวีลงบน 1) หน่วยความจำในตัวเครื่องหรือ 2) External Harddisk ผ่านช่อง USB โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะกดบันทึกสดๆ ณ เดี๋ยวนั้นเลย โดยกดปุ่ม Scroll และเลือกตัวปุ่มสัญลักษณ์ “บันทึก” ซึ่งเป็นรูปวงกลมสีแดง หรือจะตั้งเวลาบันทึกล่วงหน้าก็ได้เช่นกัน
ทดสอบภาพ 4K UHD
หนังเรื่อง Star Trek : Into Darkness แบบ 4K .mkv ถูกใช้ทดสอบผ่าน External Harddisk เชื่อมต่อช่อง USB เวอร์ชั่น 3.0 (จะได้ลื่น) แน่นอนว่าภาพคมชัดกว่าพวก Full HD .mkv ภาพที่ได้มีความคมชัดขึ้นมาก แต่ไม่ถึงกับคมจัดจนต้องตะลึง ส่วนภาเคลื่อนไหวก็จัดว่าดี ไม่ต้องคอยลุ้นเหมือนตอนเล่นคอนเทนต์คแบบ Full HD แต่สิ่งที่ต่างเลยคือเรื่อง “สี” โดยสีของ Super UHD UF950T “สดอิ่มกว่า” แบบเห็นต่างได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับพวก Series 8 ,7, 6 และยิ่งเป็นคอนเทนต์ 4K Demo ของ LG ที่เน้นโชว์เรื่องสีเป็นหลัก ก็ยิ่งเห็นต่างว่าความสามารถในการแสดงเฉดสีและความเอิบอิ่ม…เจ้า Series 9 ตัวนี้ทะยานไปได้ไกลกว่า (ขอบเขตสีกว้างกว่า) ตัวอย่างเช่น ฉากภูเขาสีน้ำตาลอมแดงเข้มในท้องทะเลทราย เจ้า UF950T จะปลดปล่อยสีน้ำตาลแดงออกมาได้สุดกว่า ซึ่งเป็นโทนสีที่เราไม่ได้เห็นกันบ่อยด้วยเพราะทีวีทั่วไปจะแสดงไม่ค่อยได้ ส่วน Series ที่ต่ำกว่าจะแสดงสีได้บางกว่า 1-2 ระดับ ความต่่างของ Super UHD TV VS UHD TV ก็ต่างกันตรงสีนี่แหละ ถึงแม้รุ่นรองลงมาอย่าง Series 8 UF850T ก็เป็น Super UHD เหมือนกัน แต่ Series 9 UF950T ก็แสดงสีสันได้ดีกว่าส่วนเรื่องของจำนวนเม็ดพิกเซลที่เพิ่มขึ้นจาก 2.1 ล้านพิกเซลเป็น 8.29 ล้านพิกเซล ซึ่งหมายถึงรายละเอียดปลีกย่อยจะถูกปลดพันธนาการออกมาได้อย่างครบทุกเม็ด ส่งผลต่อ “มิติเชิงลึก” ที่หลายท่านถวิลหาเมื่อรับชมภาพ 2 มิติ
*แนะนำว่าจอขนาด 65″ ต้อง 4K UHD เท่านั้น หากเผลอไปเล่น Full HD แล้วจะเสียใจ
ทดสอบภาพ 3D
จุดขายของทีวี LG ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือเรื่อง 3D นี่แหละ โดย LG เรียกว่า Cinema 3D ใช้แว่นประเภท Polarized (Passive) เฉกเช่นโรงภาพยนตร์ ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ไม่ต้องเสียบชาร์จ ในชุดจะแถมแว่นมาให้ทั้งหมด 2 อัน (แต่เดิมช่วง 3D ป็อปๆแถมตั้ง 4 อันแหนะ !) ทดสอบกับหนังเรื่อง Step Up Revolution มิติภาพลอยเด้งตามคาด มิติตัวละครลึกลงไปเป็นชั้นๆ จังหวะเต้นยื่นแข้งยื่นขาสู้กล้องก็ออกแนวทะลุจอ ภาพคงความสว่างไว้ได้ดี ไม่มืดดร็อปลงไป การเล่นภาพ Full HD 3D ยังแอบเห็น Crosstalk อยู่บ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่กระทบการรับจริงหากนั่งชมระยะซัก 2.5 เมตรขึ้นไป ส่วน 3D แบบ 4K แท้ๆจากไฟล์ Demo ภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ทั้งชัดและลอย