29 Aug 2016
Review

สบายกระเป๋า ! รีวิว LG 55UH650T 4K HDR TV รุ่นคุ้มค่า ราคาเป็นมิตร


  • lcdtvthailand

Picture – ภาพ

สเป็คด้านภาพของ 55UH650T มีความละเอียดหน้าจอแบบ 4K Ultra HD 3840 x 2160 พิกเซล โครงสร้าง Backlight แบบ Edge LED พร้อมฟีเจอร์ Local Dimming หน้าจอแบบ IPS Panel รองรับภาพแบบ HDR : High Dynamic Range มาตรฐาน HDR 10 ซึ่ง LG ใช้คำเรียกฟีเจอร์นี้ว่า HDR Pro อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นเพียงรุ่นกลางก็เลยยังไม่รองรับ Dolby Vision HDR ดั่งรุ่นท็อป มีโหมดภาพสำเร็จรูปที่หลากหลาย โดยเฉพาะโหมด Expert : ISF ที่มีให้เลือกระหว่างห้อง Bright Room และ ห้อง Dark Room แล้ว เพื่อให้เหมาะกับสภาพแสงภาพในห้องจริงในการรับชม และยังรวมรวมถึงโหมดภาพใหม่ล่าสุดอย่าง HDR Effect ที่เป็นการจำลองอัพเกรดภาพแบบ SDR : Standard Dynamic Range ธรรมดาให้มีความใกล้เคียงกับ HDR ซึ่งมีให้เลือกระดับ ต่ำ ปานกลาง สูง ว่ากันง่ายๆคือการจำลองภาพ HDR ขึ้นมานี่แหละ เป็นของเล่นด้านภาพอีกอย่างที่ถูกเพิ่มขึ้นมาในปีนี้ ทีมงานแนะนำว่าลองเล่นได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในระยะยาว เพราะต้นฉบับภาพมันไม่ใช่ HDR แท้แต่ต้น หากใช้ไปก็เป็นการบิดเบือนต้นฉบับเสียอีก สรุปได้ว่าถึงแม้เป็นรุ่นกลางตาราง แต่ก็ให้สเป็คและฟีเจอร์ด้านภาพหลักๆที่ีรองรับอนาคตไว้เกือบครบทุกสิ่งอย่าง

* ในความหมายของ LG คำว่า HDR Pro = รองรับ HDR 10 (UH650T)
* หากเป็น HDR Super = รองรับ HDR 10 และ Dolby Vision HDR (พวกรุ่นท็อปอย่าง Series 9 และ OLED TV)
* สัดส่วนภาพหากอยากให้ทีวีแสดงภาพจากต้นฉบับครบทุกพิกเซล ให้เลือกสัดส่วนภาพ 16:9 และเลือกเปิด Just Scan
* กระนั้นด้วยโครงสร้างการจัดวางเม็ดพิกเซลแบบ WRGB จึงไม่สามารถทำ 1:1 Pixel Matching ระหว่าง Input และ Output ได้
* โหมดภาพ Game ช่วยลดอาการ Input Lag ได้อย่ามีนัยสำคัญ แต่แสงสีไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต้องปรับภาพพิ่มเติม

โหมดภาพสำเร็จรูปต่างๆพร้อมอุณหภูมสี ระดับความสว่าง
ทีมงานเลือกโหมด Expert ISF : Bright Room ในการปรับภาพ
เลือกใช้โหมด Expert : Bright Room ในการปรับภาพ
อุณหภูมสียังมีติดอมน้ำเงินเกินเล็กน้อย
หลังจาก Calibrate แบบ 2 Point White Balance แล้วค่า สมดุลแสงขาวมีความเที่ยงตรงขึ้น 
ตลอดจนขอบเขตการแสดงสีก็อยู่ในมาตรฐาน Rec 709

** สำหรับนักปรับภาพขั้นสูง : ขอหมายเหตุว่าการปรับภาพทำได้ค่อนข้างลำบากพอตัว เพราะเมนูจะเด้งขึ้นมาตลอด ส่งผลทำให้ค่าเปลี่ยนไปบ้าง ต้องใจเย็นหน่อย

สำหรับการทดสอบคอนเทนต์ 2D ความละเอียด 1080p ผมใช้แผ่นหนังเรื่องโปรดอย่าง Journey 2 : Mysterious Island โดยใช้โหมดภาพอย่าง Expert : Bright Room ในการทดสอบในห้องนั่งเล่นแบบปกติ ด้วยความที่เป็นเพียงรุ่นกลางตารางผมเองก็มิได้คาดหวังว่าคุณภาพของภาพจะดีเลิศดั่งรุ่นหลักแสนอยู่แล้ว แต่ที่ต้องทดสอบให้เยอะเป็นพิเศษก็เพราะว่าจะได้แนะนำแนวทางการเลือกโหมดภาพและรวมถึงการปรับบางค่าภาพบางค่าเพื่อขับศักภาพสูงสุดของทีวีออกมาให้คุ้มเม็ดเงินที่จ่ายไปซักหน่อย

เริ่มด้วยฉากที่กลุ่มนักสำรวจมาพบกันคุณปู่ Alexander ซึ่งตัวละครทุกตัวรายล้อมด้วยแมกไม้อันเขียวขจี UH650T ให้แนวภาพและสีสันที่ออกแนว “เข้มขรึม” ซึ่งเป็นสไตล์ของพาแนล IPS อยู่แล้ว ความสว่างอยู่ในระดับพอเหมาะ อาจมิใช่เแนวสว่างโร่รุกเร้าเข้าหาเรา ฉะนั้นจะมิได้สะดุดตาตั้งแต่แรกพบ ความเนียนของภาพอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง จัดว่ายังด้อยกว่ารุ่นพี่ซีรีส์สูงอยู่บ้างเล็กน้อย แต่เรื่อง “ความลื่นไหล” ของภาพกลับทำได้ดีกว่า UF680T ของปีที่ผ่านมา ระดับความดำสามารถเปิดฟีเจอร์ LED Local Dimming ระดับ Low เพื่อให้ทีวีเปิด-ปิด-หรี่ หลอดไฟ LED เป็นกลุ่มๆให้สัมพันธ์กับฉากมืด-สว่างได้ ช่วยเสริมระดับความดำของภาพแบบเฉพาะจุด ซึ่งโดยปกติฟีเจอร์ Local Dimming นี้ แบรนด์อื่นจะไม่ใจดีผนวกมาให้กับพวกรุ่นกลางอย่างพวก Series 6 นะ บอกไว้ก่อน !

ทดสอบภาพ 1080p จากหนังเรื่อง Journey 2

ทีนี้ผมนำแผ่นหนัง 4K แท้ๆกล่องดำมาประสานพลังกับเครื่องเล่น 4K Blu-ray Player ของ Samsung ซึ่งทั้งหมดผมบินไปถอยมาจากประเทศออสเตรเลียด้วยตัวเอง ต้องยอมรับว่าบ้านเขาพรั่งพร้อมเรื่อง 4K ก่อนบ้านเรามากซักระยะแล้ว ถ้าหากผมยังนั่งรอแผ่นและเครื่องเล่นให้มีขายในบ้านเราอย่างเป็นทางการ มีหวังโปรเจกต์การได้ยลโฉมภาพ 4K HDR แท้ๆภายในปีนี้คงเป็นหมันอย่างแน่นอน (ฮา) โดย HDR นี่ก็มีโหมดภาพเป็นของตัวเองเช่นกัน ได้แก่

1) HDR Vivid : จะออกสว่างสุด ให้ความสว่างสูงสุดได้ 390 nits 
2) HDR Bright : สว่างลดลงมาหน่อย แต่แสงสีค่อนข้างเที่ยงตรง ให้ความสว่างสูงสุดได้ 285.72 nits (แนะนำ)
3) HDR Standard : จะสว่างน้อยสุด ให้ความสว่างสูงสุดได้ 272.68 nit

เริ่มเบิกเนตรด้วยแผ่น Lego Movie แบบ 4K HDR ซึ่งให้สีสันสดสวยตามสไตล์แอนิเมชั่น ทั้งสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์บนผิวตัวละคร รวมถึงบรรยากาศปะทุที่อบอวลไปด้วยแสงสีอมแดง แต่อย่างที่บอกภาพมันมิได้สว่างรุกเร้าเข้าหามากนัก จะออกแนวเล่นแสงเล่นสีอยู่กับที่เสียมากกว่า

แผ่น 4K Blu-ray แท้ๆประจำการที่ LCDTVTHAILAND สำหรับทดสอบเทีวีโดยเฉพาะ
หนัง 4K HDR เรื่อง Lego Movie

ถัดมาลองแผ่น Kingsman : Secret Service หนังบู๊ล้างผลาญ ฆ่าฟันกันเลือดกระเด็น ฉากตะลุมบอนก็ให้อรรถรสความหฤหรรของการห้ำหั่นได้พอประมาณ ฉากกระโดดร่มจากเครื่องบิน ดำเนินด้วยการถ่ายเสยขึ้นไปหาดวงอาทิตย์ที่กำลังสาดแสงพอดี ซึ่งระดับความสว่างที่ฉายเข้าตาเราเพียงเสี้ยววิได้ช่วยปลดปล่อยให้ HDR ได้แสดงพลังของมันออกมาบ้าง ถือว่าช่วยเพิ่มกิมมิคด้วยการเล่นกับระดับความสว่างของภาพให้ใกล้เคียงแสงอาทิตย์ของจริงยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการโฟกัสไปที่เนื้อเรื่องอันเข้มข้นของหนังเพียงอย่างเดียวดั่งเช่นหนัง SDR ทั่วไป

ทีนี้ผมลองเปิด Deapool แบบ 4K HDR เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ผมมิได้นำมาทดสอบแสงสีหรือ HDR แต่อย่างใด ทว่าเป็นเรื่องภาพเคลื่อนไหวว่าจะทำได้ดีขนาดไหน ? ฉากท้ายเรื่องที่พระเอกสุดเกรียน Deadpool ถ่อตัวเองไปยังรังของศัตรูเพื่อช่วยแฟนสาว ภาพเคลื่อนไหวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ลื่นไหลได้ความต่อเนื่อง แบบไม่ต้องใช้ตัวช่วยแทรกเฟรมภาพอย่าง TruMotion เข้าช่วยมากนัก หรือหากจะเล่นฟีเจอร์ TruMotion แบบเจาะลึก ก็สามารถเข้าไปเปิดใช้งานได้ที่หัวข้อ Picture Option ==> TruMotion ซึ่งมีระดับ Clear / Smooth / User แนะนำให้ใช้ แนะนำระดับ Clear ให้ความลื่นไหลไร้อาการวุ้นเรืองแสงไม่เหมือนระดับอื่นๆที่ยังไม่อาการนี้ปรากฎอยู่

สุดท้ายจากเรื่อง Life of Pi แบบ 4K HDR ฉากไม้ตาย “วาฬกระโดด น้ำกระเพื่อม” เป็นตัวบ่งชี้ความเจิดจรัสของ HDR TV ได้เป็นอย่างดี ซึ่ง UH650T ก็อยู่ในเกณฑ์ “ปานกลาง” คือแสดงความเจิดจรัสของแมงกระพรุนทะเลสีน้ำเงินตัดกับพื้นทะเลยามค่ำคืนอันมืดสนิทได้พอประมาณเนื่องจากข้อจำกัดในการแสดงระดับความสว่างสูงสุดหรือ Peak Brightness ยังอยู่แค่ระดับมาตรฐานทีวี LED ทั่วไป ความสว่างไสวและเอิบอิ่มในฉากนี้ต้องยอมให้ OLED TV หรือไม่ก็ LED TV รุ่นท็อปๆที่ได้มาตรฐาน Ultra HD Premium ที่แสดงสีดำได้ดำสนิทและมีระดับความสว่างปรี๊ดกว่า ภาพถึงจะขึ้นจนต้องอุทานร้องว้าวออกมา

เมื่อทีวีตรวจจับสัญญาณ 4K HDR ได้ มุมขวาบนจะแสดงว่า HDR Content has started playing
เป็นการตอกย้ำความมั่นใจว่าคอนเทนต์ของเรานั้นเป็น 4K HDR แท้ๆนะ มิใช่กำมะลอ !
ฉากกระโดดร่มในเรื่อง Kingsman มีฉากพระอาทิตย์สาดแสงให้ HDR ได้ออกโรงบ้าง
ถึงแม้ระดับความสว่างสูงสุดจะสู้พวกทีวี HDR ตัวท็อปๆไม่ค่อยได้ก็ตาม แต่ก็แอบกระชากสายตาได้นิดหน่อย
ในช่วงตะลุมบอนกันในโบสถ์ ซีน “เบิร์นหัว” ก็สร้างความเจิดจรัสได้พอกล้อมแกล้ม
แผ่น Deadpool แบบ 4K HDR มีฉากต่อสู้เยอะทั้งบนทางด่วน และฉากสุดท้ายที่ยกพลไปซัดกันแถวท่าเรือ
Life of Pi 4K HDR ฉากไม้ตาย “วาฬกระโดด น้ำกระเพื่อม” 
เป็นตัวบ่งชี้ความเจิดจรัสของ HDR TV ได้เป็นอย่างดี
ของเล่นใหม่ ! เครื่องมือวัดค่า Input Lag ยิ่งมีค่าน้อยแปลว่ายิ่งดี
ยิ่งตอบสนองต่อคำสั่งของคอนโทรลเลอร์ของเราได้อย่างฉับไว เหมาะสำหรับเล่นเกมส์อย่างยิ่ง
ซึ่งโหมด Game ของ 55UH650T นั้นวัดได้ประมาณ 20.1 milliseconds จัดว่า Lag น้อยมาก = ดีมาก

หมายเหตุ : วัด Input Lag ด้วยเครื่องมือของ Leo Bodnar เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือใหม่ของ LCDTVTHAILAND ที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพของทีวีในเรื่องความเร็วในการตอบสนองของจอภาพกับการเล่นเกมส์ ซึ่งหากค่าต่ำกว่า 40 milliseconds ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี

สรุปได้ว่า 55UH650T ก็ให้คุณภาพของภาพได้สอดคล้องกับระดับ Series 6 ของตัวเอง แสดงภาพกับคอนเทนต์ระดับ HD และ Full HD ได้ตามมาตรฐาน ภาพมิได้เนียนกริ๊บแต่ก็มิได้หยาบกร้านเหมือนพวกทีวี 4K Low Cost ที่ชอบทำราคาเขย่าตลาด ใช้ดูหนัง HD หรือฟรีทีวีแบบปกติได้สบายหายห่วง ส่วนภาพแบบ HDR ก็รองรับมาตรฐานแบบ HDR 10 ซึ่งมักมากกับแผ่่นหนัง 4K Blu-ray Discs และจัดว่าเป็นมาตรฐาน HDR ที่แพร่หลายสุด ณ ตอนนี้ ระดับความสว่างเจิดจรัสอาจจะยังสู้พวกทีวีที่ได้รับมาตรฐาน Ultra HD Premium ไม่ได้ แต่ก็พอมีให้เห็นต่างบ้างแบบพอหอมปากหอมคอ