Connectivity – ช่องต่อ
ด้านหน้ามีฝาปิดซ่อนช่องต่อไมโครโฟนคาราโอเกะ เป็นแจ็คใหญ่ขนาด 6.3 mm. จำนวน 2 ช่อง และ USB เอาไว้อย่างแนบเนียน เหนือขึ้นไปเป็นช่องใส่แผ่น แบบ slot-in ไม่มีถาดยื่นออกมา เหมือนกับที่พบในเครื่องเสียงติดรถยนต์ กลไกดูดแผ่นนุ่มนวลใช้ได้ ตรงนี้จึงแตกต่างจากเครื่องเล่น DVD หรือ Blu-ray ทั่วไป
- พอร์ต HDMI Input x 2 กับ Output x 1
- ขั้วต่อสายอากาศวิทยุ FM
- ช่องต่อ USB และสาย LAN
- Input ทั้งแบบ Optical และ AUX Analog
- ช่องเสียบการ์ดส่งสัญญาณเสียงไร้สายให้กับลำโพงคู่หลัง
ช่องต่อลำโพง 6 แชนเนลสำหรับลำโพงชุดหน้าทั้ง 4 แชนเนล (รวมลำโพง Top) และเซ็นเตอร์ กำกับแยกสีไว้ชัดเจน คอนเน็คเตอร์แบบเฉพาะ ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนสายลำโพงได้ ส่วนสัญญาณสำหรับลำโพงหลังจะเป็นแบบไร้สายผ่านสัญญาณวิทยุ ใช้งานร่วมกับเครื่องรับที่สามารถนำไปวางไว้ด้านหลังโซฟาและลากสายไปยังลำโพงเซอร์ราวด์ได้
Setup – การติดตั้ง
ครั้งแรกในการติดตั้งใช้งาน จะต้องตั้งค่าชดเชยระยะห่างและบาลานซ์ระดับเสียงของลำโพงรอบิทศทางแต่ละตัว ซึ่งต้องดำเนินการเองเนื่องจากไม่มี Mic Setup มาช่วยตั้งค่าอัตโนมัติอย่างที่พบเห็นกับชุดโฮมเธียเตอร์แบบแยกชิ้น
Sound – เสียง
เพื่อเป็นการดึงประสิทธิภาพของโฮมเธียเตอร์ชุดนี้ออกมาให้ถึงขีดสุด ในการรับชมภาพยนตร์ จึงต้องตั้งค่า 3D Sound เป็นโหมด Movie เสียงจะถูกจำลองออกมาครบ 9.1 แชนเนล ด้วยระบบ 3D Surround Processor ของ LG เสียงจะกระจายโอบล้อมทั่วห้อง เกิดเป็นบรรยากาศของสนามเสียงที่สมจริงขึ้น
นส่วนของ Sound Effect มีมากมายให้เลือกใช้ ดังนี้
- 5.1 Bypass ไม่ผ่านการปรับแต่งเสียงใด ๆ ให้เสียงที่บริสุทธิ์ตามต้นฉบับ
- 5.1 Natural ปรุงเสียงเพียงเล็กน้อย ยังคงความสมจริงใกล้เคียงต้นฉบับ
- 9.1 Natural Plus เพิ่มมิติเสียงรอบทิศทาง แต่ยังรักษาความสมจริงให้ใกล้เคียงต้นฉบับ
- 9.1 Bass Blast เพิ่มระดับเสียงย่านเบส
- 9.1 Clear Voice เน้นความคมชัดของเสียงพูด เสียงสนทนา
- 9.1 Game เน้นความสนุกสนาน เพิ่มความสนุกของเกม
- 9.1 Night ลดระดับความอึกทึกครึกโครม เสียงราบเรียบ เหมาะสมกับการฟังแบบเบา ๆ ไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
- 9.1 Loudness เพิ่มระดับเสียงย่านเบสและย่านแหลมไปพร้อมกัน เหมาะสมกับคอนเสิร์ต
- User EQ ปรับได้เอง 4 แบนด์ แบนด์ละ – / + 6 dB
ทดสอบด้วยภาพยนตร์ที่คุ้นเคยกันดีอย่าง Transformers 4 เปิดระบบเสียง 3D ในโหมด Movie ให้เสียงออกครบ 9.1 แชนเนล ต้องยอมรับว่าเสียงที่ได้ยินนั้น น่าทึ่งมาก โดยเปรียบเทียบระหว่าง 9.1 กับ 5.1 แชนเนลที่ปิดเสียงลำโพงยอดเสาที่ยิงขึ้นเพดาน
ระบบเสียง 9.1 Channel Immersive Sound ให้ความรู้สึกที่น่าตื่นเต้น บรรยากาศเสียงโอบล้อม เติมเต็มช่องว่างที่ลำโพงคู่หน้ากับคู่หลังยิงออกมาได้ไม่ทั่วห้อง เพราะข้อจำกัดของขนาดลำโพงที่เล็ก จึงให้เสียงที่เล็กไปสักหน่อย เมื่อมีเสียงบรรยากาศโอบล้อมที่ยิงสะท้อนเพดานลงมาหาผู้ฟัง จึงกลายเป็นความสมบูรณ์ที่พอดีกัน เสียงปืน เสียงรถชนกับวัตถุขนาดใหญ่ในภาพยนตร์ ชนกองขยะกระจัดกระจายไปทั่วถนน ของหล่นกระเด็นรอบผู้ฟัง ฉากการไล่ล่าบนถนน ทั้งหมดนี้ ชุดโฮมเธียเตอร์ 9.1 แชนเนล สามารถถ่ายทอดเสียงออกมาได้ดีทีเดียว ได้อารมณ์ที่สมจริง สนุกสนานมากขึ้นอย่างชัดเจน ถือว่าเสียง 5.1 กับ 9.1 แชนเนล มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
เปลี่ยนมาทดสอบด้วยแผ่นคอนเสิร์ต Simply Red กันบ้าง LG BH9540TW กับระบบเสียง 3D ในโหมด Music ก็ทำได้ดีในด้านของบรรยากาศเสียง ให้ความรู้สึกคล้ายกับอยู่ในคอนเสิร์ต เสียงแฟนเพลงปรบมือและส่งเสียงโอบล้อมรอบตัวเรา มีมิติในทิศทางชัดเจน ไม่ใช่สร้างเสียงมาหลอกหูจนรู้สึกว่าเป็น Surround แบบมั่ว ๆ ต้องยกความดีให้ Audyssey DSX-2 และ 3D Surround Processor ที่ประมวลผลจนได้ผลลัพธ์ที่ดี
ถือว่าโดดเด่นจนน่าประทับใจในเรื่องบรรยากาศเสียง 9.1 แชนเนลที่รู้สึกได้ว่าเหมือนมีลำโพงรายล้อมตัวเราจำนวนมากขึ้น แต่โฮมเธียเตอร์ชุดนี้ มีซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็ก รวมทั้งไดรเวอร์ของลำโพงแต่ละตัวมีขนาดเล็กมาก จึงเหมาะสมกับห้องขนาดเล็ก ประมาณ 4-9 ตารางเมตรเท่านั้น ถ้านำมาใช้กับห้องขนาดใหญ่จะมีปัญหาเสียงเบสย่านลึกมันบางเกินไป เพราะซับวูฟเฟอร์ขับไม่ไหว แรงไม่พอ หากจะเร่งระดับเสียงในแชนเนลของซับวูฟเฟอร์ขึ้นไปจนสุด ก็มีปัญหาเสียงแตกพร่า
เมื่อนำมาใช้ฟังเพลงหรือชมภาพยนตร์ในห้องขนาดเล็ก จัดวางซับวูฟเฟอร์ในตำแหน่งดี ๆ ที่มุมห้องสักมุม แค่เร่งระดับเสียงประมาณ 45-80% ก็ดังกระหึ่ม เบสเยอะสะใจแล้ว ฟังเพลงจังหวะหนัก ๆ หรือภาพยนตร์แอคชั่นระเบิดถล่มเมือง ก็หายห่วง เพราะกำลังขับถือว่าเพียงพออยู่แล้ว ถ้าหากคิดจะอัพเกรดซับวูฟเฟอร์เป็นขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อใช้กับห้องขนาดใหญ่มากขึ้น ก็ต้องขอบอกว่าทำไม่ได้ เนื่องจากตัวเครื่องไม่มี Subwoofer Output สำหรับต่อ Active Subwoofer ตัวอื่นได้