Connectivity – ช่องต่อ
เริ่มจากช่องต่อด้านหน้าก่อนเลยนะครับ จุดสังเกตุง่ายๆในรุ่น 727 ก็คือช่องอะนาล็อควิดีโอที่ถูกโยกย้ายออกไปนอกจากนี้ตรงช่องเสียบ USB ก็ไม่มีคำว่า iPod สกรีนกำกับเสียแล้วซึ่งน่าจะบอกเป็นนัยน์เลยว่าไม่รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตระกูล iOS ที่ด้านหน้าเครื่องแล้ว ให้ใช้ Bluetooth เข้ามาแทนนะอะไรประมาณนี้
ส่วนบริเวณด้านหลังนั้นจะเห็นว่าทาง Onkyo ได้เนรเทศเอาช่องต่ออะนาล็อคแบบมัลติแชนแนลออกไปและลดจำนวนช่องต่อที่ไม่ค่อยอินเทรนด์อย่างอ็อพติคัลและโคแอ็กซ์ พร้อมโยกย้ายช่องเสียบสายลำโพงมาวางสูงขึ้นอีกหน่อย ส่วนตัวผมว่าอย่างเดิมเสียบง่ายกว่ามันไม่กระจุกซ้อนกันแต่แบบนี้ก็ดูแล้วไม่งงดี นานาจิตตังกันไปนะครับผม
Features – ลูกเล่น
ในส่วนของฟีเจอร์เสริมต่างๆหรือลูกเล่นที่ทาง Onkyo ได้จัดมาให้ต้องบอกว่าค่อนข้างจะเยอะแยะพอสมควรเลย ที่ฮ็อตฮิตหน่อยก็จะมีเรื่องของ Internet Radio ที่เป็นการฟังวิทยุออนไลน์นอกจากนี้ตัวเครื่องยัง Built-in Wi-Fi อะแดปเตอร์มาให้แต่แรกเลยอีกด้วย นับว่าเข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง
วิธีการเชื่อมต่อ Wi-Fi แค่กดปุ่ม Home บนรีโมทแล้วเลือกเมนู Setup > Hardware Setup > Network
เมื่อมาถึงหน้านี้ค่าเริ่มต้นเราจะเป็น Wired หรือการเชื่อมต่อผ่านสาย LAN นะครับ ซึ่งถ้าใครสะดวกเสียบสายก็เอาเสียบเข้าหลังเครื่องแล้วก็เล่นได้เลย แต่ถ้าใครจะต่อแบบไร้สายก็ทำตามรูปด้านล่างเลยครับ
เริ่มจากเปลี่ยนค่าตรง Network Connection ให้เป็น Wireless ก่อนแล้วกด Enter
เลือกให้ตัวเครื่องค้นหาเครือข่ายไร้สายภายในบ้าน เราก็จะได้ลิสต์รายชื่อของ Wi-Fi ที่เครื่องเจอแบบนี้ครับ
เลือกรายชื่อเครือข่ายที่ต้องการแล้วก็ใส่รหัสเหมือนที่ท่านใส่บนคอมพิวเตอร์และเครื่องคอม เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมลุยกับคอนเทนต์บนโลกออนไลน์แล้ว
เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จบริเวณหน้าเครื่องจะมีไฟแสดงผลเขียนว่า Wi-Fi ขึ้นโชว์หราเลยเป็นการบอกว่าพร้อมแล้ว
สำหรับเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตไร้สาย
กดปุ่ม NET บนรีโมทเครื่องก็จะพาเรามายังหน้านี้ครับเป็นศูนย์รวมของ Internet Radio
ตัวแอพพลิเคชั่นที่ใช้ได้ดีและใช้ได้จริงก็นี่เลยครับ tunein มีสถานีเพลงหลากหลายแนวทั่วโลกให้เลือกมากมาย
ที่สำคัญมีของไทยด้วยไม่ต้องลากสายจากเสาอากาศมาเสียบหลังเครื่องอีกต่อไป