06 May 2019
Review

รีวิว Oppo UDP-203 Universal Player !!? ก้าวสู่ยุค 4K HDR เต็มตัว กับเพลเยอร์คุณภาพสูงมาพร้อมความอเนกประสงค์


  • ชานม

Connectivity – ช่องต่อ

จุดเชื่อมต่อสัญญาณด้านหลัง ประกอบไปด้วย HDMI 2.0 Out จำนวน 2 ช่อง แยกสัญญาณภาพและเสียงได้ เพื่อคุณภาพสัญญาณสูงสุด รองรับความละเอียดสูงสุด 4K 60Hz และระบบเสียง Dolby Atmos, DTS:X และ Auro-3D (แบบ Bitstream)

กรณีที่ต้องการแยกสัญญาณภาพ-เสียงจาก HDMI Out ทั้ง 2 ช่อง ของ 203 ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใดๆ เพราะระบบฯ จะตรวจจับได้ว่ามีการเชื่อมต่ออุปกรณ์อยู่ที่ช่องใดบ้าง และทำการปรับตั้งค่า HDMI Output ให้เองโดยอัตโนมัติครับ กระนั้น แนะนำว่าควรเชื่อมต่อสัญญาณภาพที่ช่อง HDMI (Main) Out และเสียงที่ช่อง HDMI (Audio Only) Out

HDMI 2.0 In จำนวน 1 ช่อง มีไว้เพื่อเชื่อมต่อสัญญาณวิดีโอจากภายนอก เพื่อทำการ “อัพสเกล” ผ่าน Oppo 203 ได้ความละเอียดสูงสุดถึง 4K 60Hz

ในส่วนช่องสัญญาณออดิโอเอาต์แบบดิจิตอล มีให้ทั้ง Coaxial และ Optical และยังมี อะนาล็อกออดิโอเอาต์แบบ 7.1 แชนเนล ให้ด้วย ซึ่งหาได้ยากสำหรับมาตรฐานเพลเยอร์ในปัจจุบัน ช่องต่อทั้งหมดนี้ได้รับการชุบทองเงาวับ

ช่องต่ออื่นๆ มี USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง, Gigabit Ethernet portRS-232 และ Trigger Input/Output อ้อ ที่ด้านหลังยังมีจุดรับสัญญาณรีโมตคอนโทรล IR ด้วยนะครับ เท่ากับว่า 203 สามารถรับสัญญาณรีโมตได้เกือบรอบด้านเลยทีเดียว

Features – ลูกเล่น

จุดสำคัญที่อัพเกรดขึ้นมาของ 203 คือ ความสามารถเล่นแผ่น 4K UHD HDR Blu-ray Disc นี่เอง จากการทดสอบสามารถตอบสนองกับฟอร์แม็ตนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมสมความตั้งใจ รายละเอียดผลลัพธ์จะกล่าวถึงอีกครั้ง (ช่วงรายงานคุณภาพของภาพและเสียง)

ทดลอง 4K HDR ในรูปแบบไฟล์ (MP4 HEVC) มาตรฐาน HDR10 พบว่า 203 เล่นได้ตามคาด (ทีวีต้องรองรับ HDR ด้วย จึงจะสามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้อง)

และล่าสุดมาตรฐาน Dolby Vision ก็พบว่ารองรับแล้วเช่นเดียวกัน (ต้องอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้ 203 ก่อน)

การรับชมไฟล์วิดีโอผ่าน USB และ Network สามารถ “เลือกเสียง” และ “ซับไตเติล” ได้ (ถ้ามี)

การเล่นไฟล์เพลง 203 ก็รองรับหลากหลาย โดยเฉพาะ Hi-res Formats อาทิ DSD128, WAV, FLAC, ALAC, … พิเศษสำหรับ FLAC และ MP3 นอกจากแสดงข้อมูลชื่อเพลง-ศิลปิน-อัลบั้มได้แล้ว ยังสามารถแสดงภาพปกได้ด้วย (ถ้าไฟล์มีข้อมูลภาพปกอยู่)

ส่วนรูปแบบแผ่นดิสก์ SACD/CD สามารถแสดงข้อมูลในส่วนของ CD Text ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี 203 ไม่สามารถดึงข้อมูลภาพปกของ SACD/CD จากฐานข้อมูลออนไลน์มาได้นะครับ (เดิมความสามารถนี้ รุ่นก่อนๆ ทำได้)

UDP-203 ติดตั้ง 802.11ac Wi-Fi Built-in มาในตัว (ไม่ได้เป็น USB Wi-Fi แบบรุ่นก่อนๆ)

สำหรับท่านที่กังวลว่าสัญญาณ Wi-Fi ที่อยู่ภายในจะรบกวนวงจรภาพ-เสียง สามารถปิดการทำงานได้ ซึ่งรวมถึงปิดระบบ Network ไปเลยก็ได้ครับ

ถึงแม้ 203 จะตัดคุณสมบัติ Online Content ออกไป แต่ฟีเจอร์ที่ยังใช้การได้ดีเช่นเคย คือ ความบันเทิงผ่าน Home Network

ทดสอบเชื่อมต่อกับ NAS รับชมไฟล์ภาพยนตร์ (4K-1080p MKV) ทำได้ลื่นไหลดีครับ สำหรับการเล่นไฟล์เพลงที่ใช้แบนด์วิดธ์น้อยกว่าวิดีโอ ย่อมไม่ต้องกังวล เพราะให้ความต่อเนื่องไม่มีสะดุด รองรับฟอร์แม็ต Hi-res สบายๆ

ดังที่เรียนไปตอนต้นว่า 203 มี HDMI In สำหรับเชื่อมต่อสัญญาณจากแหล่งโปรแกรมวิดีโอภายนอก เพื่อทำการ อัพสเกล ได้ เป็นการดึงศักยภาพของวิดีโอสเกลเลอร์ระดับ 4K ของ 203 ออกมาใช้งานได้หลากหลายคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น วิธีการเลือกใช้งาน HDMI In ให้กดปุ่ม Input ที่รีโมต แล้วเลือกไปที่ HDMI Input

อย่างไรก็ดีการอัพสเกลด้วยการเชื่อมต่อสัญญาณภายนอกผ่าน HDMI In ของ 203 จะทำให้ค่า HDMI Input Lag เพิ่มสูงขึ้นด้วย จึงอาจส่งผลกระทบกับการรับชมบางคอนเทนต์… คำแนะนำ คือ ไม่ควรนำอุปกรณ์อย่าง Game Console หรือ PC มาเชื่อมต่อผ่าน HDMI In ของ 203 ครับ