02 Jan 2016
Review

(มหา)จักรวาล เพลเยอร์ ?? รีวิว Oppo BDP-105 4K Ready Universal Player


  • ชานม

Picture – ภาพ

จุดเด่นทางด้านภาพของรุ่นใหม่ ที่แตกต่างจากเดิม คือ วิดีโอสเกลเลอร์จากชิพ Marvel Qdeo ตัวใหม่
ที่สามารถอัพสเกลได้รายละเอียดที่สูงขึ้นถึงระดับ 4K

หมายเหตุ: 4K Upscale จะใช้งานได้ ต่อเมื่อเชื่อมต่อสัญญาณ HDMI Output จาก Oppo 105/103 ไปยัง 4K TV/Projector เท่านั้น !! หากกำหนด Output Resolution เป็น 4Kx2K ในขณะที่เชื่อมต่อสัญญาณไปยัง 1080p TV/Projector ภาพจะไม่ขึ้น (จอดำ) การแก้ไข ให้ทำการกดปุ่ม Resolution ที่รีโมต Oppo ซ้ำๆ เพื่อเปลี่ยน Resolution เป็นตัวเลือกอื่น ที่จอภาพรองรับ หรือกำหนดเป็น Auto โดยสังเกตตัวเลือกจากจอดิสเพลย์หน้าเครื่องของ 105/103

ในส่วนของการอัพสเกล ที่มาพร้อมกับพารามิเตอร์ช่วยปรับปรุง แก้ไข จุดบกพร่องของคอนเทนต์วิดีโอความละเอียดต่ำ (Standard Definition) สำหรับ 105 ให้ผลลัพธ์ที่โดดเด่นเช่นเคย ซึ่งในจุดนี้ เกี่ยวเนื่องถึงเทคโนโลยีจาก Qdeo Video Processor ผมได้ลงรายละเอียดไปแล้วในบททดสอบ 103 (เป็นเทคโนโลยีจากชิพตัวเดียวกัน)

ถึงแม้พื้นฐานฮาร์ดแวร์ ในส่วนของวิดีโอสเกลเลอร์ จะไม่แตกต่างจากรุ่นเล็ก 103 มากนัก แต่คุณภาพของภาพจาก 105 ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ภาพดูใส สะอาด สีสันอิ่มแน่น สีดำที่เข้มข้นมากขึ้นอีกเล็กน้อย ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลส่งเสริมจากระบบฮาร์ดแวร์ส่วนอื่นๆ ผสมผสานกัน จุดที่น่าจะส่งผลไม่น้อย ก็คือ ภาคจ่ายไฟ และโครงสร้างความมั่นคงของตัวถัง อันเป็นผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกับเจนเนอเรชั่นก่อน (95 vs 93) แต่ถ้าเทียบระหว่าง 105 กับ 95 ถ้าไม่นับเรื่องของ 4K Upscale ความแตกต่างทางด้านคุณภาพของภาพ อาจมิได้มีนัยสำคัญนักครับ

Oppo BDP-105 vs BDP-103

เริ่มด้วยการทดสอบคุณภาพเสียงระหว่าง “รุ่นใหม่” เหมือนกัน แต่เป็น “รุ่นใหญ่” vs “รุ่นเล็ก” เพื่อพิสูจน์ว่าในงบประมาณที่สูงขึ้นนั้น ในรุ่นใหญ่จะได้อะไรเพิ่มขึ้นบ้าง ในแง่ของคุณภาพเสียง การเปรียบเทียบจะใช้สื่ออ็อพติคัลดิสก์ (CD/SACD) และ Digital Files ผ่านทาง USB Storage Devices โดยเน้นใช้งานช่อง USB Input ทางด้านหลังของ 105/103 จากนั้นเชื่อมต่อสายสัญญาณอะนาล็อกไปยัง Analog amplifier ผ่านทาง Balanced XLR และ Unbalanced RCA (2-ch Output) ขณะรับฟังเปิดโหมด Pure Audio ที่ Oppo แน่นอนว่าการเชื่อมต่อลักษณะนี้ จุดที่แตกต่างกันจะเป็นในเรื่องของคุณภาพ DAC ESS SABRE 32 ส่งเสริมด้วยส่วนประกอบปลีกย่อยในระบบฮาร์ดแวร์จุดอื่นๆ ที่พิถีพิถันกว่า ของรุ่นใหญ่ เช่น ภาคจ่ายไฟ ฯลฯ

กับรุ่นเล็กนั้น มาแนวใสๆ แต่ยังจับความกระด้างของเสียงได้บ้าง (ถึงกระนั้นในจุดนี้ 103 ก็ยังทำได้ดีกว่า 93) แต่ 105 ให้เสียงที่สะอาด แต่มีความสุภาพ ไม่เร่งเร้าจนสูญเสียจังหวะจะโคน จึงให้ลีลาที่น่าฟังกว่า เบสย่านต่ำลึกให้น้ำหนักเป็นตัวเป็นตน จับต้องได้ง่ายกว่า

ที่กล่าวไปข้างต้นเป็นผลเปรียบเทียบจากการเชื่อมต่อทางอะนาล็อก (2-ch Output) แล้วถ้าเป็นการเชื่อมต่อในรูปแบบดิจิทัล เช่น การเชื่อมต่อผ่านสาย HDMI ไปยัง AVR ล่ะ? หลายๆ ซิสเต็ม เชื่อว่าจะเชื่อมต่อแบบนี้เป็นหลัก เนื่องจากเป็นแนวทางการใช้งานร่วมกับซิสเต็มโฮมเธียเตอร์ และหลายท่านคงยังคาใจอยู่ว่า 105 คงให้ได้ไม่แตกต่างจาก 103 มากนัก เนื่องจากถ้าดูจากปัจจัยการพัฒนาหลักๆ แล้ว จะเทไปในส่วนของภาคอะนาล็อกเป็นหลัก (โดยเฉพาะผลจาก ESS SABRE 32 DAC Chip) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อแบบดิจิทัล แต่ผลการทดสอบเปรียบเทียบกับการเชื่อมต่อสัญญาณทาง Digital HDMI Out (Split A/V; HDMI 1 Out to TV, HDMI 2 Out to AVR) ระหว่างรุ่นใหญ่ กับรุ่นเล็ก พบว่าแตกต่างกันอย่างชนิดที่สัมผัสได้ไม่ยาก ส่วนใหญ่ให้ผลลัพธ์ไปในทิศทางที่คล้ายคลึงกับการเชื่อมต่อทางอะนาล็อก แต่ความห่างจะไม่มากเท่า โดยให้น้ำเสียงที่อิ่มเอิบมีน้ำมีนวลกว่ามาก ย่านต่ำจะให้ความสะอาด ลึก และจับโฟกัสได้ชัดเจนกว่า

Oppo BDP-105 vs BDP-95

ต่อด้วยการเปรียบเทียบคุณภาพเสียง กับดีกรีความเป็น “รุ่นใหญ่” เหมือนกัน ระหว่าง “รุ่นใหม่” กับ “รุ่นเก่า” คือ BDP-105 และ BDP-95 เพื่อดูว่ามีความแตกต่างกันจากแนวทางการพัฒนา อย่างมีนัยสำคัญหรือไม่? การเปรียบเทียบจะใช้สื่ออ็อพติคัลดิสก์ (CD/SACD) และ Digital Files ผ่านทาง USB Storage Devices โดยเน้นใช้งานช่อง USB Input ทางด้านหลังของ 105/95 จากนั้นเริ่มด้วยเชื่อมต่อสายสัญญาณอะนาล็อก ไปยัง Analog amplifier ผ่านทาง Balanced XLR และ Unbalanced RCA (2-ch Output) ขณะรับฟังเปิดโหมด Pure Audio ที่ Oppo

ความแตกต่างของเสียงดูจะห่างไม่เท่าที่สัมผัสได้ระหว่าง รุ่นใหญ่ กับ รุ่นเล็ก แต่ก็จับดีเทลได้ไม่ยากว่า “รุ่นใหม่” 105 ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า 95 ในประเด็นน้ำเสียงที่น่าฟังขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเสียงที่ชัดเจนขึ้น แต่ให้น้ำเสียงที่ลื่นไหล และอิ่มหนาขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อย อ้อ ที่สำคัญ คือ เสียงที่ “สงัด” ขึ้นครับ (ไม่มีเสียงพัดลม) ปกติตอนใช้งาน 95 บางท่านอาจไม่ได้สังเกต แต่ขณะที่จะเลิกใช้งานลองสังเกต Background Noise ระหว่างเปิด กับปิดเครื่องดูสิ แล้วจะพบว่าเสียง “สงัดกว่า” หมายความว่าอย่างไร…

Oppo BDP-105 กับประเด็นคุณภาพเสียง ด้านการใช้งาน USB DAC ร่วมกับคอมพิวเตอร์

ในอีกมุมหนึ่ง หากจะพิจารณาว่ารุ่นใหม่ น่าเล่นกว่ารุ่นเก่าหรือเปล่า? ลำพังแค่ USB DAC ก็น่าจะเป็นเหตุผลสนับสนุนที่มากเพียงพอ โดยเฉพาะท่านที่อยากสัมผัสกับมาตรฐาน Hi-resolution ระดับ Studio Master โดยที่ไม่ต้องเพิ่มเติมอุปกรณ์ USB DAC ภายนอกต่างหาก ให้ยุ่งยากซับซ้อน ในขณะที่สัมผัสผลลัพธ์ที่เหนือชั้นกว่ามาตรฐาน CD ได้อย่างชัดเจน ประกอบกับศักยภาพ และความยืดหยุ่นของ Computer Audio ยังมีส่วนส่งเสริมให้มาตรฐานการรับฟังดนตรีภายในบ้านสูงขึ้น เมื่อบวกกับหน้าที่หลักในการเป็น 3D Blu-ray + SACD/CD Player, 4K Scaler + HDMI In, Network Media Player และ Headphone Amp… ฯลฯ ที่กล่าวมานี้ ยังมีเพลเยอร์เครื่องอื่นที่ให้ได้ครบครันกว่า Oppo BDP-105 อยู่อีกหรือ?

ต้องขอเรียนตรงๆ ว่า USB DAC ไม่ใช่ “ของประดับ” ที่แถมมางั้นๆ แต่เป็นจุดเด่นที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว และแน่นอนว่าประเด็นนี้จะทำให้ 105 น่าสนใจกว่า CD Player ทั่วไป ที่ยังเน้นแนวทางโบราณ ฟังได้แค่ฟอร์แม็ต CD อย่างเดียว จึงจำกัดรายละเอียดเสียงอยู่ที่ 16-bit/44.1kHz PCM เท่านั้น อนาคตจึงดูตีบตันในเรื่องของการขยับขยายพอสมควร แต่ถ้าหากท่านมี CD Player ระดับไฮเอ็นด์อยู่แล้ว และต้องการเน้นฟังฟอร์แม็ต CD ที่สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นหลัก และไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับคอมพิวเตอร์ หรือมี USB DAC ขั้นเทพอยู่แล้ว ก็คงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะเปลี่ยนมาใช้งาน BDP-105 Universal Player ที่มาพร้อม USB DAC เครื่องนี้ครับ แต่ถ้ายังไม่มี หรือยังไม่เริ่มมอง Hi-resolution Audio นี่จะเป็นเครื่องมือชิ้นแรก สำหรับการก้าวสู่ยุคใหม่ของการรับฟังดนตรี ที่ตอบสนองอรรถรสเหนือฟอร์แม็ต CD ไปอีกหลายขั้น และรองรับหลายรูปแบบ หลายแนวทางด้วยครับ (ไม่เกี่ยงฟอร์แม็ต เพราะ Computer Audio เล่นได้ทุกอย่าง ขอให้หาคอนเทนต์คุณภาพมาได้ก็แล้วกัน)

หากสรุปที่มาที่ไปจาก “อรรถประโยชน์” ทั้งหมด ของ Oppo BDP-105 ก็จะได้ไดอะแกรม ดังภาพ

Conclusion – สรุป

จากผลการทดสอบทั้งหมด จึงสรุปว่า ถ้างบถึง แนะนำให้เล่นรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ไปเลย หากเป้าหมายของท่าน คือ “ความครบครัน” ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของอรรถประโยชน์ที่เอื้อต่อการใช้งาน หรือศักยภาพการถ่ายทอดภาพยนตร์ และเสียงดนตรี

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.25
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
9.00
เสียง (Sound)
9.25
ลูกเล่น (Features)
9.50
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
9.50
ความคุ้มค่า (Value)
9.0
คะแนนตัดสิน (Total)
9.0

คะแนน OPPO BDP-105

9.0

หมายเหตุประกอบการให้คะแนน

  • วัสดุ รูปลักษณ์ตัวถังคล้ายคลึงของเดิม ไม่ได้หรูหราหวือหวา แต่ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมในจุดเล็กๆ เพื่อปรับปรุงศักยภาพ
  • กับคุณสมบัติอัพสเกลถึงระดับ 4K จากชิพ Qdeo Video Processor ตัวใหม่ ในส่วนของการอัพสเกล สามารถปรับปรุงคุณภาพของคอนเทนต์ที่ใช้งานกันในปัจจุบัน (Standard Definition) ให้ดูดีขึ้นได้ ขึ้นกับการปรับพารามิเตอร์ที่ยืดหยุ่นอย่างเหมาะสม พื้นฐานจากระบบฮาร์ดแวร์ที่พิถีพิถันกว่า ให้คุณภาพของภาพโดดเด่นยิ่งขึ้นกว่ารุ่นเล็ก
  • การปรับจูนเล็กน้อยในส่วนของภาคออดิโอ สร้างความแตกต่างทางด้านคุณภาพเสียงได้ดียิ่งขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง USB DAC และ Headphone amp เป็นจุดที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางเสียงของเพลเยอร์เครื่องนี้ได้เด่นชัดกว่าเดิม
  • ลูกเล่นของการเป็น Universal Media Player น่าจะครอบคลุมที่สุดเมื่อเทียบกับ Stand-alone BD Player ด้วยกัน ทั้งรองรับอ็อพติคัลดิสก์หลากหลาย รวมถึงดิจิทัลไฟล์ ครอบคลุมไปถึง USB DAC, Headphone Amp และการสตรีมมิ่งผ่านระบบเน็ตเวิร์ก ส่วนของอ็อพชั่นอุปกรณ์ของแถมก็ยังจัดเต็มเช่นเดิม จะหาครบๆ แบบนี้ที่อื่น คงยาก
  • ในรุ่นเล็ก คือ 103 ก็พิสูจน์ถึงอรรถประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นจาก HDMI/MHL In และ Dual HDMI Out with ARC พลิกโฉมแนวทางของ BD Player ให้ครอบคลุมการใช้งานกว้างขวางกว่าเดิม และยิ่งในรุ่น 105 ที่มาพร้อม USB DAC และ Headphone amp ยังตอกย้ำคำว่า “ครอบจักรวาล” ได้เด่นชัดยิ่ง !
  • คุณสมบัติครอบคลุม ผลลัพธ์การใช้งานกว้างขวางล้ำหน้าบลูเรย์เพลเยอร์ทั่วไป กับราคาค่าตัวที่ไม่แพงจนเกินเอื้อม เป็นจุดหลักของความคุ้มค่าของรุ่นนี้ หรือจะเรียกว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ แต่ความอเนกประสงค์ที่เพิ่มมากขึ้นครั้งนี้ ก็มาพร้อมราคาขายที่สูงขึ้นด้วย

by ชานม ! 2013-02

ราคาตั้ง Oppo BDP-105
42,000 บาท