01 Jan 2014
Review

ระดับไฮเอนด์ !!! รีวิว Panasonic 50VT30 3D NeoPlasma ทีวีของพี่เคน


  • lcdtvthailand

ภาพ

ทดสอบกับเกมส์
PS3 ก็ถูกเลือกมาใช้ในงานนี้เช่นเคยครับ ผมปรับเป็นโหมด Game ลองเล่นเกมส์ต่อสู้ไวๆอย่าง Dragon Ball Z ก็รู้สึกได้อรรถรส แถมแนวภาพยังค่อนข้างสบายตามาก พอลองเปลี่ยนไปเล่นเกมส์ PES 2011 (Winning) ภาพถือว่าลื่นไหลดีเยี่ยม ไม่พบโกสท์แต่อย่างใด ข้อเด่นของ Plasma เวลาเล่นเกมส์ก็คือเรื่อง “สบายตา” นี่แหละครับ ทำให้เราเล่นเกมส์ได้นานถึงแม้จะปิดไฟห้องก็ตาม ผมว่าสำคัญกว่าเรื่อง “ภาพเคลื่อนไหว” ซะอีกนะเนี่ย !!

เกมส์ Dragon Ball ถึงแม้สีสันของต้นฉบับดูฉูดฉาด แต่ภาพที่แสดงออกมาก็สบายตามาก
อัดกันโจ๋งครึ่มแบบนี้เลย
วินนิ่ง ลื่นไหล ไร้โกสท์ !!!


ทดสอบภาพ 3 มิติ
แผ่นการ์ตูน Blu-ray ที่เรามักใช้อ้างอิงเป็นประจำก็ได้แก่เรื่อง Despicable Me และ Cloudy with a Chance of Meatball ครับ โดย Panasonic ใช้เทคโนโลยีแบบ 3D Active แถมแว่น Active Shutter Glasses มาให้ 2 อัน โดยแว่นตาของ Panasonic เป็นแว่นประเภท Active เจ้าเดียวในตอนนี้ที่เอนคอดูแล้วภาพไม่มืดและสีไม่เพี้ยน แต่เสียดายนิดนึงที่การกระพริบ Flickering เมื่อเจอแสงภายนอก ก็ยังคุมได้ไม่ดีนักเมื่อเปรียบเทียบกับ Sony ที่คุมให้แว่นนิ่งไม่กระพริบได้อย่างดีเยี่ยม แต่ Sony ดันเอนคอดูภาพแล้วสีเพี้ยน ภาพเหลื่อมซ้อนกัน  (เอาวะ !!! ได้อย่างเสียอย่าง)  และแว่นก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วยช่องต่อและสาย USB ครับ 

คุณภาพของภาพ 3D จะเน้นไปที่ “ความลึกของภาพ” เป็นหลัก โดยระดับแสงสีก็ถือว่ายังคงความอิ่มเอิบได้ดีหากเราดูในที่คุมแสงได้ แต่ถ้าโดนแสงภายนอกรบกวน ภาพจะดูค่อนข้างมืดไปพอสมควรเลยครับ อาจจะต้องกลับไปดูโหมด Cinema หรือ Normal ที่มีความสว่างขึ้นมาแทน การคุม Crosstalk ทำได้ดีเยี่ยมเช่นเคย โดย 3D แท้ๆเราสามารถปรับระดับ “Effect” ความลึกมีมิติของภาพได้ด้วยตั้งแต่ -3 ถึง +3 แต่ผมไม่แนะนำให้ปรับนะครับ ให้่คงค่ากลางไว้ที่ 0 จะดีที่สุด ไม่มึนหัว ไม่มี Crosstalk

ภาพ 3 มิติหากคุมแสงได้ มิติก็จะได้แนวลึก ภาพ 3 มิติมีความนิ่งดีเยี่ยม และ Crosstalk น้อยมาก
สามารถปรับระดับความมีมิติของภาพ (Effect)
ฉากจรวดพุ่งแบบนี้ได้เห็นมิติใน “เชิงลึก” มาเป็น “เชิงลอย” บ้าง
มิติลึกตื้นและลำดับขั้นก็แสดงออกมาได้ชัดเจนเช่นเคย
หากห้องคุมแสงได้ 100% ภาพจะดีสุดติ่ง หากคุมไม่ค่อยได้ คุณภาพจะดร็อปลงไปเยอะพอควร

ทดสอบกับ 3D ประเภท Side by Side และ Top Bottom
อย่าเพิ่งสับสนกับประเภทของทีวี 3 มิติ และ Content 3 มิตินะครับ ทีวี 3 มิติในปัจจุบันมี 2 ประเภทได้แก่ 1. Active (Panasonic / Samsung / Sony) และ 2. Polarized (LG /ProVision) ส่วนประเภทของ Content 3 มิติที่ฮิตๆกันตอนนี้ก็มี 3 แบบได้แก่ 1. Framepack (3D Blu-ray) 2. Side by Side 3. Top Bottom โดยทีวี 3 มิติทั้ง 2 ประเภทก็สามารถเล่น Content 3D ได้แทบทุกประเภทอยู่แล้วครับ

โดยผมนำ Content 3D แบบ Side by Side กับ Top Bottom มาทดสอบ เริ่มจากฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศปีที่แล้วระหว่าง สเปนกับฮอลแลนด์  ที่เป็น 3D แบบ Side by Side เพียงแค่เรากดปุ่ม 3D บนรีโมทแล้วก็เลือก 3D เท่านั้นเองครับ ภาพก็จะรวมร่างกันเป็น 3 มิติ

3D แบบ Side by Side

เฉกเช่นกับ 3D แบบ Top Bottom ครับ ผมทดสอบกับ Resident Evil : Afterlife ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ไปรับชมที่โรงหนัง 3 มิติมาเช่นกันครับ (Dolby 3D ที่ Major Hollywood) มิติภาพและฉากแอ็คชั่นหลายๆฉากโดยเฉพาะ “ฉากบู๊..ยิง…ทิ่มแทง” และ “ฉากโยนแว่นกระแทกหน้าจอ” สุดแสนคลาสสิคก็ช่วยให้ทีวีเผยศักยภาพของตัวมันเองออกมาได้อย่างหมดเปลือก ภาษาชาวบ้านคือ หากคุณมีทีวี 3 มิติที่ดีแล้ว คุณจะต้องหา Content 3 มิติมาส่งเสริมมันด้วย !!! 

ภาพ 3D แบบ Top Bottom เรื่อง Resident Evil :: Afterlife