Sound – เสียง
เชื่อมต่อกันได้แล้วก็มาเริ่มทดสอบเสียงด้วยการสตรีมมิ่งก่อนเลย ต้องบอกเลยว่า Google Cast นี้ช่วยเพิ่มความสะดวกเป็นอย่างมาก สามารถโยนเพลงขึ้นไปเล่นบนซาวด์บาร์ได้จากทุกอุปกรณ์ที่รองรับ Google Cast และอยู่ภายในวง LAN เดียวกัน ซึ่งครั้งนี้จะทำการแคสต์ผ่านวิธีที่หลายท่านอาจยังไม่รู้ จากแล็ปท็อปสู่ซาวด์บาร์ นั่งทำงานไปฟังเพลงไปแบบชิวๆ ด้วยเบราเซอร์ Google Chrome
หากใครที่ติดตามข่าวจากเพจ HOMETHEATERTHAILAND น่าจะทราบกันดีว่าเบราเซอร์ Google Cast สามารถเล่นไฟล์ Lossless อย่าง FLACแบบเนทีฟได้แล้ว โดยไม่ต้องลงโปรแกรมใดๆ ลากไฟล์มาใส่ในหน้าเบราเซอร์ได้เลย ต่อมาทำการแคสต์ง่ายๆ เพียงคลิกขวาที่หน้าเบราเซอร์ จะมีเมนู “Cast…” คลิกเสร็จ เบราเซอร์จะทำการค้นหาอุปกรณ์ในเครือข่ายที่รองรับให้ผู้ใช้งานทำการเชื่อมต่อนั่นเอง

ทำการทดสอบ MagniFi Mini ด้วยอัลบั้ม Noel Gallagher”s High Flying Birds อัลบั้มของอดีตสมาชิกวงดังก้องโลก Oasis มีจุดเด่นในเรื่องเสียงร้องที่หวานนุ่ม เสียงกีตาร์แตกพร่า เบสนวลต่ำ และคีย์บอร์ดหอนครวญ ผ่านโหมดเสียง Music สำหรับฟังเพลง ซึ่งซาวด์บาร์รุ่นนี้สามารถถ่ายทอดจุดเด่นดังกล่าวออกมาได้ดี ให้องศาการฟังที่กว้างแบบรู้สึกได้ เสียงไม่ได้มาตรงเด่ จนสูญเสียความโปร่ง
ยกตัวอย่างเพลง “If I Had A Gun…“แค่อินโทรก็ชวนอินแล้ว เสียงกีตาร์โปร่งคมชัดเจน รู้สึกถึงการกัดของสายออกมาเป็นเส้นๆ เสียงเครื่องเขย่ามีระยะการฟังที่ห่างจนได้มิติ จากความสามารถของการวางดอกลำโพงแบบ 3 แชนแนล ทำมุมเฉียงสร้างองศา ไม่ได้หันมาแบบตรงๆ สอดคล้องกับเบสที่ออกมาชัดเป็นลูกในระดับที่น่าพึงพอใจ การถ่ายทอดเสียงร้องจัดว่าค่อนข้างดี แอบรู้สึกถึงความกร้านของเสียงร้องเล็กน้อย เสียงโดยรวมมีสมดุลที่ดี ไม่แพ้รุ่นใหญ่อย่าง MagniFi One

การรีวิวคงจะไม่ครบถ้วนหากไม่ได้ทดสอบด้วยการรับชมภาพยนตร์ Polk MagniFi Mini รุ่นนี้รองรับการถอดรหัสเสียง 5.1 Dolby Digital สามารถบิทสตรีมมาโดยตรงผ่าน HDMI ARC โดยภาพยนตร์ที่ใช้ทดสอบคือเรื่อง Pacific Rim ใช้ฉากการต่อสู้ของหุ่นยนต์ Gypsy Danger ที่พระเอกเป็นผู้บังคับ เข้าขับเคี่ยวกับสัตว์ประหลาดไคจู

ความรู้สึกหลังชมฉากนี้จบด้วยโหมดเสียง Movies ต้องทึ่งกับความสามารถในการขับเสียงของ MagniFi Mini มาก ให้พลังสูงท่วมท้นเกินตัวจริงๆ เห็นเล็กๆ เท่าลำโพงพกพา แต่สร้างความกระหึ่มได้อย่างทั่วถึง ไม่ครึ่งๆ กลางๆ ให้ตะหงิดใจ ปล่อยมาเต็มๆ ฉากที่ซัดกันนัวเนีย ซับวูฟเฟอร์สามารถขับเสียงออกมาให้รู้สึกถึงแรงปะทะของหมัด สนองความอยากของคอหนังแอ็คชันได้เยี่ยม
แม้จะให้เซอร์ราวด์เหมือนชุดเต็มระบบไม่ได้ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะซาวด์บาร์ชดเชยด้านมิติเสียง ด้วยการให้เวทีเสียงที่กว้าง ผสานกับการแยกเสียงที่ชัดเจน มีระยะในการรับรู้ เสียงเศษกระจกตึกถล่มคมชัดไม่รกเป็นประกาย แต่เสียงย่านกลางแห้งไปสักนิด ให้เสียงค่อนข้างจัดสำหรับการฟังบางช่วง ส่วนฟีเจอร์ Voice Adjust เองก็ทำงานอย่างดีเยี่ยม ปรับระดับเสียงพูดให้สมดุลกับเสียงอื่นๆ ไม่โดดไปมา ไม่ยากที่ MagniFi Mini จะสร้างความพึงพอใจให้กับคอหนังทุกท่าน
Conclusion – สรุป
นับว่าเป็นซาวด์บาร์ที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น ไม่ใช่แค่เหมาะสำหรับการดูหนังฟังเพลง การรับชมอื่นๆ อย่างคอนเสิร์ต, ฟุตบอล หรือเล่นเกม ซาวด์บาร์รุ่นนี้สามารถให้อรรถรสได้อย่างเต็มเปี่ยม ให้เสียงจัดจ้านคึกคักไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ในราคาที่ถือว่าไม่สูงเลย ขณะเดียวกันก็ได้พื้นที่ในการจัดวางมากขึ้น ไม่กินพื้นที่การติดตั้ง เหลือพื้นที่สำหรับจัดวางอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ ติดตั้งคู่กับทีวีขนาดไหนก็ให้ความสวยงามได้

นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย ทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi ใช้ฟังเพลงสร้างความเพลิดเพลินอย่างไม่ยากเย็นผ่าน Google Cast ที่รองรับการสตรีมมิ่งได้ถึงระดับไฮเรสความละเอียดสูง ยังมีฟีเจอร์ Voice Adjust และโหมดเสียงสำเร็จรูปที่โดดเด่น ช่วยให้การรับชมรับฟังของผู้ใช้งานเป็นไปอย่างราบลื่น ได้เสียงที่ถูกใจตลอดการรับชม
ข้อดีของ Polk MagniFi Mini
1. ขนาดที่เล็ก แต่ให้คุณภาพเสียงในเกณฑ์ดี เหลือพื้นที่สำหรับจัดวางเครื่องเล่น
2. หมดปัญหาเรื่องเสียงพูดของภาพยนตร์เบาด้วยฟีเจอร์ Voice Adjust
3. มีจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อทั้งแบบสาย และไร้สาย รองรับการใช้งานที่หลากหลายเกินขนาดตัว
ข้อเสียของ Polk MagniFi Mini
1. เสียงย่านมีความแห้งแข็งไปนิด การปรับระดับ Voice สามารถช่วยให้มีสมดุลขึ้นได้
2. ไม่มีปุ่มสำหรับใช้งาน Bluetooth บนรีโมท ต้องกดบนตัวเครื่อง
3. ไม่รองรับการเล่นไฟล์ผ่าน USB Drive แต่แทบไม่จำเป็น เพราะใช้งานผ่านการเชื่อมต่ออื่นๆ ที่ครบครันได้