รุ่นใหม่มาแล้ว ! มาอัพเดท Denon AV Receiver รุ่นล่าสุด ประจำปี 2023 กันว่า มีคุณสมบัติอะไรตอบโจทย์ น่าใช้บ้าง…
ขณะนี้ Denon วางจำหน่าย AVR รุ่นใหม่ ประจำปี 2023 เป็นที่เรียบร้อย ทั้งหมด 5 รุ่น ด้วยกัน ซึ่งตัวท็อป AVC-A1H ถือว่าออกมาพลิกโฉมวงการ ด้วยคุณสมบัติแบบจัดเต็ม (หนึ่งในนั้นคือภาคขยาย 150 วัตต์ จำนวน 15 แชนเนล !) หากมีโอกาสคงจะได้กล่าวถึงต่อไป
แต่สำหรับตอนนี้ มาดู 2 รุ่นเล็กล่าสุด ได้แก่ AVR-X580BT และ AVR-X2800H กันก่อน สำหรับใครที่งบจำกัดและกำลังหาข้อมูล 8K AVR เพื่อมาอัพเกรดระบบโฮมเธียเตอร์ น่าจะถูกใจครับ…
Denon AVR-X580BT 8K AV Receiver (5-channel Amplifier)
อุปกรณ์ในกล่อง: 1) เอกสาร Quick Start Guide และคู่มือใช้งานอื่น ๆ, 2) สติกเกอร์ติดชื่อสายลำโพง-สายสัญญาณ, 3) รีโมทคอนโทรล, 4) AAA แบตเตอรี่สำหรับรีโมท, 5) Setup Microphone, 6) สายไฟ AC, 7) สายอากาศวิทยุ FM, 8) สายอากาศวิทยุ AM
ปัจจุบัน AVR-X580BT ถือเป็น AVR รุ่นเล็กสุดของ Denon ที่วางจำหน่ายในปี 2023 จำนวนภาคขยายที่ให้มา คือ 5 แชนเนล สามารถถอดรหัสเสียง Dolby TrueHD/DD+ และ DTS-HD Master Audio/DTS ในแบบ 5.1
หลายคนคงสงสัยว่า X580BT ยังไม่รองรับ Dolby Atmos/DTS:X ถือเป็นจุดอ่อนหรือไม่ ? ปกติ AVR รุ่นเริ่มต้น จะมีจำนวนภาคขยายจำกัด ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างระบบเสียง 5.1 หรือ Dolby Atmos 3.1.2 ซึ่ง Denon เลือกที่จะโฟกัสระบบ 5.1 มาให้เลย เพราะเล็งเห็นว่า ผู้ใช้งานจะได้สัมผัสกับมิติเสียงโอบล้อมแบบ 5.1 ที่ผลลัพธ์การใช้งานจริงโดดเด่นกว่า Dolby Atmos 3.1.2 นั่นเองครับ
แม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่พื้นฐานอุปกรณ์ภายในไม่ธรรมดา ติดตั้งวงจรภาคขยายคลาส AB กำลังขับ 70 วัตต์ (8 ohms, 20 Hz – 20 kHz with 0.08 % T.H.D., 2ch Drive) เท่าเทียมกัน จำนวน 5 แชนเนล ภาคจ่ายไฟ Linear Power Supply จากหม้อแปลง EI ให้กำลังขับต่อเนื่องได้ดี ใช้กับชุดลำโพงทั่วไปในห้องขนาดตั้งแต่ 9 – 20 ตร.ม. เอาอยู่
Setup Microphone พร้อมระบบ Auto Speaker Calibration เพิ่มความสะดวกในการตั้งค่าลำโพงมัลติแชนเนลได้จริง ผลลัพธ์อาจต้องปรับจูนบางจุดบ้าง (รองรับการปรับจูน Distances, Levels และ Crossovers ได้อิสระ) แต่ก็ช่วยร่นเวลา และลดขั้นตอนที่ยุ่งยากลงได้
หลังดำเนินขั้นตอน Auto Speaker Calibration ระบบจะ On ตัวเลือก Room EQ อัตโนมัติ แนะนำให้ฟังเปรียบเทียบระหว่าง On และ Off ดูว่าแบบไหนให้ผลลัพธ์ดีกว่า ก็ใช้อันนั้น
ด้วยมาตรฐาน HDMI 2.1 รุ่นนี้จึงรองรับการส่งผ่านสัญญาณภาพ 8K 60Hz, 4K 120Hz รวมถึงเทคโนโลยี HDR ทั้ง Dolby Vision และ HDR10+, VRR (Variable Refresh Rate), ALLM (Auto Low Latency Mode), QFT (Quick Frame Transport) และ FRL (Fixed Rate Link) ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของ 2023 Denon AVR
ซึ่งช่องต่อ HDMI (In 4 ช่อง/Out 1 ช่อง) ของ X580BT เป็น HDMI 2.1 (40Gbps) with HDCP 2.3 ทั้งหมด นอกจากนี้ มี Digital Optical Input และ Analog RCA Input อย่างละ 2 ช่อง เพิ่มความยืดหยุ่นเมื่อต้องการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงรูปแบบอื่นได้
การใช้งาน X580BT ร่วมกับจอภาพ และเครื่องเกมตามมาตรฐาน HDMI 2.1 จะต้องปรับตัวเลือก 4K/8K Signal Format เป็น “8K Enhanced” ก่อน (หากอุปกรณ์เชื่อมต่อยังไม่รองรับ HDMI 2.1 ไม่มีความจำเป็นต้องปรับตัวเลือกเป็น 8K Enhanced)
ทดสอบเชื่อมต่อสัญญาณกับ Xbox SX ผ่าน HDMI ของ X580BT พบว่า สามารถ Pass-through สัญญาณภาพ 4K 120Hz VRR ได้ไม่มีปัญหา
รุ่นนี้ยังมาพร้อม HDMI Upscaler หากต้องการสามารถอัพสเกลสัญญาณภาพได้ถึง 8K60p
eARC อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของ AVR เพื่อใช้รับสัญญาณเสียงจาก Smart TV ซึ่งรุ่นนี้เพิ่มทางเลือกใช้ฟังก์ชั่น ARC/eARC แม้จะ “ปิด” HDMI Control ได้ (เหมาะกับบางซิสเต็มที่พบปัญหาระบบรวนจาก CEC) แต่เมื่อ Off – HDMI Control แล้ว เวลาจะรับฟังเสียงจาก ARC/eARC จะต้องกดเปลี่ยน Input ของ AVR มาที่ TV Audio แบบแมนนวลเอาเองนะครับ
ช่อง USB Input ของ X580BT เชื่อมต่อ Flash Drive รองรับไฟล์เพลง Lossless Hi-res Formats (up to 24-bit/192kHz) FLAC, WAV, ALAC, AIFF เช่นเดียวกับ Lossy Formats อย่าง MP3, WMA
Bluetooth ของรุ่นนี้ นอกจากใช้รับสัญญาณเสียงแบบไร้สายแล้ว หากเชื่อมต่อกับ Smartphone ที่ติดตั้งแอพ Denon 500 Series Remote จะใช้ควบคุม AVR แทนรีโมทคอนโทรลได้ด้วย
หากเทียบ AVR-X580BT กับ AVR-X550BT (รุ่นก่อน) พบว่า มีจุดเด่นเพิ่มมาดังนี้
- HDMI 2.1 (40Gbps) Input with HDCP 2.3 ทุกช่อง รองรับ 8K60p/4K120p, DV/HDR10+, VRR, etc.
- HDMI eARC รับสัญญาณเสียงจาก Smart TV ได้ถึง Dolby TrueHD, DTS-HD MA
- ขั้วลำโพงแบบ Binding Post ทุกช่อง เชื่อมต่อสายลำโพงได้ยืดหยุ่น และมั่นคง
สรุป Denon AVR-X580BT เหมาะกับใคร ?
X580BT เป็น AVR รุ่นเริ่มต้นราคาไม่แรง เหมาะกับคนที่งบจำกัด ต้องการ AVR สำหรับระบบลำโพงรอบทิศทางแบบ 5.1 แต่ยังไม่พร้อมสำหรับระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งจำเป็นต้องพึ่งลำโพงด้านสูง (จำนวนลำโพงขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับ Atmos คือ 5.1.2)
หรือใครที่มีชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ 5.1 อยู่แล้ว แต่ AVR ตัวเก่าเสีย ก็สามารถนำรุ่นนี้ไปแทนที่ได้ครับ คุณสมบัติรองรับอนาคตอย่าง HDMI 2.1 (8K60p/4K120p, HDR, VRR) หรือระบบ Auto Speaker Calibration และ USB Input รองรับ Hi-res Music Files น่าจะช่วยเติมเต็มการใช้งานโฮมเธียเตอร์ให้สมบูรณ์ขึ้น ในงบประมาณที่ไม่บานปลายครับ
*Link รายละเอียดสินค้า พร้อมราคาล่าสุด Denon AVR-X580BT*
https://www.mahajak.com/th/denon%20avr-x580bt.html
Denon AVR-X2800H 8K AV Receiver (7-channel Amplifier)
อุปกรณ์ในกล่อง: 1) ขาตั้ง Audyssey Microphone, 2) สติกเกอร์ติดชื่อสายลำโพง-สายสัญญาณ, 3) โบรชัวร์ HEOS และ Spotify connect, 4) รีโมทคอนโทรล, 5) AAA แบตเตอรี่สำหรับรีโมท, 6) สายไฟ AC, 7) สายอากาศวิทยุ AM, 8) สายอากาศวิทยุ FM, 9) เสาอากาศ Wi-Fi/Bluetooth, 10) Audyssey Setup Microphone
เขยิบขึ้นจากรุ่นเริ่มต้น AVR-X580BT มาเป็นรุ่น AVR-X2800H นอกจากได้ลูกเล่นอย่าง Network Music Streaming แล้ว จำนวนภาคขยายที่มากขึ้นเป็น 7.1/5.1.2 พร้อมกำลังขับสูงขึ้น เติมเต็มบรรยากาศเสียงโอบล้อมได้เหนือกว่า 5.1 หรือ Dolby Atmos/DTS:X 3.1.2
X2800H ติดตั้งวงจรภาคขยายคลาส AB กำลังขับ 95 วัตต์ (8 ohms, 20 Hz – 20 kHz with 0.08 % T.H.D., 2ch Drive) เท่าเทียมกัน จำนวน 7 แชนเนล จะเห็นว่าภาคจ่ายไฟ วงจรภาคขยาย รวมถึงวงจรประมวลผลดิจิตอล มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ตามสเปคที่สูงขึ้น
จำนวนภาคขยายที่เพิ่มเป็น 7 แชนเนล จึงรองรับรูปแบบลำโพง 7.1 หรือ 5.1.2 ซึ่งเป็นจำนวนขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X สามารถปรับเปลี่ยนลักษณะ Layouts การติดตั้งลำโพงด้านสูง ตามการใช้งานจริงได้ยืดหยุ่น ทั้ง Front Height, Top Front/Middle หรือ Upfiring (Dolby Atmos Enabled Speakers Front/Surround)
ระบบ Auto Speaker Calibration ของ X2800H คือ Audyssey MultEQ XT ซึ่งรองรับฟีเจอร์ตรวจวัดและปรับจูนแก้ไข Room EQ ได้ละเอียดแอดวานซ์ขึ้นกว่ารุ่นเล็ก โดยเฉพาะหากใช้งานร่วมกับ Audyssey MultEQ Editor app (แอพมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
ตัวเลือก Audio ที่แนะนำให้ทดลองสลับปรับเปลี่ยน เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์หลังทำ Audyssey Auto Calibration คือ หัวข้อ Audyssey และ Surround Parameter ตามภาพ
ด้วยมาตรฐาน HDMI 2.1 ส่งผลให้ X2800H รองรับการส่งผ่านสัญญาณภาพ 8K 60Hz, 4K 120Hz รวมถึงเทคโนโลยี HDR ทั้ง Dolby Vision และ HDR10+, VRR (Variable Refresh Rate), ALLM (Auto Low Latency Mode), QFT (Quick Frame Transport) และ FRL (Fixed Rate Link) เช่นเดียวกับ 2023 AVR รุ่นอื่น ๆ ของ Denon
โดย HDMI In 3 ช่อง/Out 2 ช่อง ของ X2800H เป็น HDMI 2.1 (40Gbps) และรองรับ HDCP 2.3 ทุกช่อง
การใช้งาน X2800H ร่วมกับจอภาพ และเครื่องเกมตามมาตรฐาน HDMI 2.1 จะต้องปรับตัวเลือก 4K/8K Signal Format เป็น “8K Enhanced” ก่อน (หากอุปกรณ์เชื่อมต่อยังไม่รองรับ HDMI 2.1 ก็ไม่มีความจำเป็นต้องปรับเป็น 8K Enhanced)
รุ่นนี้ยังมาพร้อม HDMI Upscaler หากต้องการสามารถอัพสเกลสัญญาณภาพได้ถึง 8K60p และเพิ่มเติมคุณสมบัติเชื่อมต่อจอภาพได้ 2 จอ พร้อมกัน ผ่าน Dual HDMI Out
eARC อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของ AVR เพื่อใช้รับสัญญาณเสียงจาก Smart TV ซึ่งรุ่นนี้เพิ่มทางเลือกใช้ฟังก์ชั่น ARC/eARC แม้จะ “ปิด” HDMI Control ได้ (เหมาะกับบางซิสเต็มที่พบปัญหาระบบรวนจาก CEC) แต่เมื่อ Off – HDMI Control แล้ว เวลาจะรับฟังเสียงจาก ARC/eARC จะต้องกดเปลี่ยน Input ของ AVR มาที่ TV Audio แบบแมนนวลเอาเองนะครับ
ด้วย Ethernet และ Wi-Fi Built-in ส่งผลให้ X2800H ออนไลน์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ฟัง Internet Radio หรือ Music Streaming อย่าง Tidal, Spotify, Deezer, Amazon Music ได้ในตัว จะเล่นผ่าน AVR โดยตรง หรือสตรีมผ่านแอพ HEOS ก็ได้ รุ่นนี้ยังรองรับ AirPlay 2, Chromecast และ Roon tested ด้วย
ความสามารถรองรับ Lossless Hi-res Formats ผ่านทาง USB และ Local Network Streaming ของรุ่นนี้ ทำได้ครอบคลุมรวมไปถึง DSD (DSF/DFF up to 5.6MHz) เพิ่มเติมจาก FLAC, WAV และ ALAC (up to 24-bit/192kHz)
MM Phono Input ของ X2800H เพิ่มทางเลือกในการเล่นแผ่นเสียง สามารถเชื่อมต่อใช้งานร่วมกับ Turntable รุ่นที่ไม่มีภาคโฟโนขยายสัญญาณหัวเข็มในตัวได้
Bluetooth ของ AVR รุ่นนี้ นอกจาก “รับ” สัญญาณเสียงได้แล้ว ยังปรับเปลี่ยนหน้าที่เป็น ตัวส่งสัญญาณ (Bluetooth Transmitter) ได้ด้วย กล่าวคือ นำเสียงจากช่องสัญญาณเสียงใด ๆ ของ AVR “ส่ง” ไปฟังกับอุปกรณ์ Bluetooth อื่น เช่น นำเสียงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงส่งไปฟังกับลำโพง Bluetooth หรือหูฟังไร้สาย แบบนี้เป็นต้น
สรุป Denon AVR-X2800H เหมาะกับใคร ?
ด้วยคุณสมบัติของ X2800H ถือเป็น AVR ระดับกลาง ราคาไม่แรงแต่รองรับคุณสมบัติ-ลูกเล่นต่าง ๆ ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ อาทิ HDMI 2.1 ถึง 3 ช่อง รองรับ 8K60p/4K120p, HDR, VRR Pass-through, ถอดรหัสเสียง Dolby Atmos/DTS:X, รองรับฟอร์แม็ต Hi-res ผ่าน USB/Network Streaming มี Phono รับสัญญาณจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงโดยตรงได้ ส่วน Bluetooth ก็ปรับเปลี่ยนเป็นตัวส่งเสียงไปฟังกับหูฟังไร้สาย หรือ Bluetooth Speaker อันมีส่วนช่วยให้การใช้งานครอบคลุมลงตัวมากยิ่งขึ้น
ภาคขยาย 7 แชนเนล ถือเป็นจำนวนภาคขยายขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับ Dolby Atmos/DTS:X รองรับลำโพงด้านสูงแบบ 5.1.2 จึงเหมาะสำหรับใครที่ต้องการสัมผัสระบบเสียงโอบล้อมรอบทิศทางยุคใหม่ ที่เหนือกว่า 5.1 และ 3.1.2
หากจะอัพเกรดคุณภาพเสียงจากซาวด์บาร์ X2800H ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยคุณสมบัติเด่นของ AVR หลายประการที่ซาวด์บาร์ให้ไม่ได้ ทั้งคุณภาพของภาคขยาย กับ Audyssey MultEQ XT Auto Calibration ที่ละเอียดและมีความยืดหยุ่น ช่วยให้เสียงจากลำโพงรอบทิศทางลงตัวเที่ยงตรงกว่า
*Link รายละเอียดสินค้า พร้อมราคาล่าสุด Denon AVR-X2800H*
https://www.mahajak.com/th/denon%20avr-x2800h.html
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และทดลองใช้งานได้ที่ โชว์รูมมหาจักร, ร้าน Sound City, ร้าน Dream Theater และ ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
เนื้อหาอื่นที่น่าสนใจเกี่ยวกับระบบโฮมเธียเตอร์ และ Denon AV Receiver