21 Apr 2016
Review

รีวิว Epson EH-TW5350 Home Theater Projector กับลูกเล่นแจ่มๆ เทียบชั้น Smart TV !??


  • ชานม

ภาพ

โหมดภาพสำเร็จรูปจากโรงงานของ TH-EW5350 จะมีให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ Dynamic, BrightCinema, Natural และ Cinema

Epson EH-TW5350 Pre Calibration Data

โหมด Dynamic ถึงแม้ตัวเลขอุณหภูมิสีจะดูใกล้เคียงกับระดับอ้างอิง (6500°K) แต่ RGB Balance ไม่ดีนัก ภาพจะติดอมเขียว ดูไม่เป็นธรรมชาติ โหมดภาพที่แนะนำ คือ Natural หรือ Cinema สำหรับการใช้งานทั่วไป และ Bright Cinema สำหรับสถานะที่ต้องการสู้แสง

Natural หรือ Cinema ซึ่งทั้ง 2 โหมดนี้ Power Consumption Mode จะถูกกำหนดเป็น “Eco” อายุการใช้งานหลอดไฟจะยาวนานถึง 7,500 ชม.!

ทดลองเชื่อมต่อรับสัญญาณจาก Digital TV Set-top Box รับชมเวลากลางวันในห้องที่ปิดม่านแต่ก็ยังมีแสงลอดเข้ามาเล็กน้อย ซึ่งด้วยความสามารถในการให้ระดับความสว่างค่อนข้างสูงของ EH-TW5350 จึงสู้ได้แบบสบายๆ ถึงแม้จะใช้งานในโหมด Natural หรือ Cinema (Power Consumption = Eco)

แต่หากต้องการความสว่างเพิ่มมากขึ้นอีก ก็สามารถปรับไปใช้โหมดภาพ Bright Cinema (Power Consumption = Normal) ได้ แต่การใช้งานต่อเนื่องจะทำให้อายุหลอดไฟลดลงอยู่ที่ 4,000 ชม. และระดับเสียงพัดลมระบายความร้อนจะดังขึ้นบ้าง

มาดูในส่วนของสมดุลสีบ้าง ถึงแม้อุณหภูมิสีเฉลี่ยจากโรงงานในโหมด Cinema จะไม่ถึงกับเพอร์เฟ็กต์ โดยวัดได้ที่ราว 7000°K แต่สมดุลสีก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี (ติดฟ้านิดเดียว)
สำหรับรุ่นนี้มีทริกเล็กน้อย หากใช้งานโหมด Cinema สามารถไฟน์จูน Color Temperature แบบง่ายๆ ได้ โดยการปรับลดพารามิเตอร์ Color Temperature จากค่า Default = 5 เป็น 4 เท่านี้สมดุลสีก็จะใกล้เคียงค่าอ้างอิงมากยิ่งขึ้น ค่าอุณหภูมิสีเฉลี่ยจะลงมาอยู่ที่ราว 6800°K ผลลัพธ์ RGB Balance น่าพอใจมากเลยทีเดียว
แต่หากต้องการความเพอร์เฟ็กต์ รุ่นนี้ก็รองรับการไฟน์จูน White Balance แบบ 2-point ด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับความสามารถในการไฟน์จูน Color Gamut (RGBCMY) ให้มีความเที่ยงตรงใกล้เคียงมาตรฐาน Rec.709 มากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถไฟน์จูนในส่วนของ Gamma ครับ
ภายหลัง Calibrate ปรับภาพละเอียด อุณหภูมิสีดีขึ้นอีกเล็กน้อย อยู่ที่ราว 6693°K การไฟน์จูน CMS ช่วยให้ Color Space ใกล้เคียงค่าอ้างอิงขึ้นอีกหน่อย

ด้วยความสามารถในการถ่ายทอดระดับความสว่างสูง หากโปรเจ็คเตอร์ไม่สามารถควบคุมความสว่างของแหล่งกำเนิดแสงที่สูงมากนั้นได้ มันอาจส่งผลกระทบกับระดับ Black Level ทำให้การถ่ายทอดสีดำไม่ดำสนิท โดยเฉพาะกับรุ่นที่ใช้งานแหล่งกำเนิดแสงแบบหลอดไส้ (Metal-halide) ทว่าสำหรับ EH-TW5350 จะมีระบบควบคุมในจุดนี้ผ่าน “Auto Iris” ซึ่งเห็นผลชัดเมื่อพื้นที่แสดงผลส่วนใหญ่เป็นสีดำ

ในขณะที่ระบบ Auto Iris ทำงาน อาจจะได้ยินเสียงการเคลื่อนตัวของม่านบังแสงภายในอยู่บ้าง แต่มิได้ดังรบกวนการรับชมแต่อย่างใด อีกทั้งความรวดเร็วในการตอบสนองก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีการกระชากวูบวาบจนเกินไป

เมื่อดูจากระดับราคา EH-TW5350 ประมาณ 4 หมื่นบาท ถือว่า Epson ใจป้ำมากๆ ที่ใส่ฟังก์ชั่น “Frame Interpolation” หรือระบบประมวลผลแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหวมาด้วย การใช้งานก็ดูจะยืดหยุ่นกว่ารุ่นเรือธง LS10000 เสียอีก เพราะสามารถเปิดใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้กับสัญญาณภาพ 2D ทุกรูปแบบ หากเปิดใช้งานกับคอนเทนต์เฟรมเรตต่ำ (24p) ก็จะช่วยให้ได้ความไหลลื่น อาการสะดุดไม่ต่อเนื่องลดลง ในขณะที่หากเปิดใช้งานกับคอนเทนต์เฟรมเรตสูงขึ้น (50p/60p) ก็จะช่วยลดอาการ Motion Blur ทำให้ภาพเคลื่อนไหวดูคมชัดขึ้นได้

ในแง่ผลลัพธ์เพิ่มความไหลลื่นกับคอนเทนต์เฟรมเรตต่ำ ที่ระดับ Normal และ High อาจจะสังเกตเห็น artifacts ชัดกว่ารุ่นเรือธง LS10000 อยู่บ้าง เช่นเดียวกับการให้ความต่อเนื่อง แต่ก็ยังใช้การได้ดี ในขณะที่ระดับ Low ถึงแม้จะไม่เน้นแทรกปริมาณเฟรมเรตเพิ่มมากนัก แต่ก็ช่วยลดอาการสะดุดลงได้ จุดที่เรียกว่าโดดเด่น คือ ความสามารถในการเพิ่มความคมชัดของภาพเคลื่อนไหว โดยเฉพาะกับคอนเทนต์ 50p/60p ที่ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้มากทีเดียวที่ระดับ Low

หากเป็นรุ่นเรือธง LS10000 จะมีระบบอัพสเกลภาพถึงระดับ 4K ที่เรียกว่า 4K Enhancement แต่กับ TH-EW5350 ที่มีระดับราคาห่างกันมากคงทำได้ไม่ถึงขนาดนั้น ทว่าในส่วนของการอัพสเกล (Full HD) ก็มี Image Enhancement ให้ใช้งานแทน

แนวทางเป็นการบาลานซ์ Detail Enhancement หรือการเพิ่มความคมชัด กับ Noise Reduction ในการลดทอนสัญญาณรบกวนต่างๆ จนได้คุณภาพของภาพที่ดีขึ้นแบบง่ายๆ ไม่ต้องตั้งค่าแต่ละอย่างให้วุ่นวาย แบ่งเป็น 5 ระดับ ซึ่งการใช้งานรับชม Full HD Content อย่างภาพยนตร์บลูเรย์ ระดับ Preset 2 หรือ Preset 3 ให้ความลงตัวดี เห็นได้ชัดว่าขอบวัตถุดูคมชัดขึ้นในขณะที่ภาพไม่แข็งหรือดูหยาบ แต่สำหรับมาตรฐานคอนเทนต์อื่นๆ สามารถทดลองดู Preset อื่นๆ ตามความเหมาะสมครับ

สำหรับโหมดภาพในการรับชมคอนเทนต์ 3D จะมีให้เลือก 2 โหมด คือ 3D Dynamic และ 3D Cinema ทั้ง 2 โหมด ระบบจะปรับในส่วนของ Power Consumption ให้เป็น Normal เพื่อให้อยู่ในสถานะการถ่ายทอดระดับความสว่างสูงที่สุด ชดเชยการสูญเสียแสงบางส่วนจากแว่น 3D Active Glasses

ผลลัพธ์การรับชม 3D จาก EH-TW5350 ให้มิติภาพได้ดีไม่แพ้รุ่นเรือธงอย่าง LS10000 เลยทีเดียว ส่วนหนึ่งเข้าใจว่าศักยภาพของ 3D Glasses คล้ายคลึงกัน การรับชมภาพบนจอไม่กะพริบ ดูสบายตา การรับชมในสภาพห้องที่ไม่มืดสนิท (มีแสงภายนอกเล็ดลอดเข้ามารบกวน) นั้น ด้วยความสว่างที่สูงกว่าของ EH-TW5350 ออกจะได้เปรียบกว่าด้วยซ้ำ แต่รายละเอียด และสีสันความเที่ยงตรงจะเป็นรอง LS10000 อยู่ กระนั้นผลลัพธ์โดยรวมนับว่าน่าพอใจไม่แพ้กัน

มีข้อสังเกต คือ การรับชม 3D หากต้องการมิติภาพที่ดีที่สุด จะมีระยะที่เหมาะสมอยู่ จึงควรทดลองหาระยะรับชมที่เหมาะสมกับขนาดจอฉายที่ใช้งานอยู่ ทั้งนี้หากนั่งห่างจากจอภาพมากเกินไปจะสูญเสียมิติไปครับ

นอกเหนือจากรองรับสัญญาณภาพ 3D แท้ๆ แล้ว รุ่นนี้ยังสามารถจำลอง 2D-to-3D Conversion ได้ด้วยครับ สามารถปรับเปลี่ยนระดับลอยลึกของ 3D Effect ได้ด้วย ทว่าเดิมๆ ให้ความพอดี ดูสบายตาดีแล้วครับ

สรุป

ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่สำหรับวงการโปรเจ็คเตอร์ กับลูกเล่นความสามารถที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับ Smart TV ทั้งการติดตั้ง Wi-Fi Built-in มาพร้อมสรรพ การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อย่าง Smart Phone/Tablet/PC สะดวก ไม่ยุ่งยาก และให้เสถียรภาพที่ดี ลำโพงในตัวสามารถใช้งานได้ครอบคลุมอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับคุณภาพของภาพที่โดดเด่นในแง่ระดับความสว่าง สีสันดูเจิดจ้าสดใสตามแบบฉบับของเทคโนโลยี 3LCD ที่ให้ระดับ Color Brightness ได้สูง ที่สำคัญ คือ ความครบครันนี้ มาพร้อมระดับราคาที่เอื้อมถึงด้วยครับ

จุดเด่นของ Epson EH-TW5350

– โหมดภาพจากโรงงานอยู่ในเกณฑ์ดี หากปรับ Color Temperature อีกเล็กน้อย ผลลัพธ์ด้านความถูกต้องของสมดุลสีที่ได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมเลย

– ความสว่างค่อนข้างสูง สู้แสงได้ดี ในขณะที่ Black Level มี Auto Iris ช่วยคุมระดับสีดำ

– มีระบบแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหว (Frame Interpolation) ซึ่งคู่แข่งระดับราคาใกล้เคียงกันไม่มี และยังสามารถเปิดใช้งานได้กับทุกคอนเทนต์

– ติดตั้ง Wi-Fi Built-in สามารถแชร์ภาพหน้าจอของ Smart Phone/Tablet/Win 8.1 PC ขึ้นฉายบนจอโปรเจ็คเตอร์ขนาดใหญ่ได้เลย พร้อม USB เชื่อมต่อกล้องดิจิทัลและแฟลชไดรฟ์เพื่อดูไฟล์ภาพนิ่งได้

– iProjection App ใช้แชร์คอนเทนต์จาก Smart Phone ขึ้นจอโปรเจ็คเตอร์ได้ และยังใช้งานเป็นรีโมตควบคุมได้ด้วย

– ลำโพงมีระดับเสียงที่ใช้การได้ 

จุดด้อยของ Epson EH-TW5350

– เสียงรบกวนในโหมด Power Consumption – Normal ถึงแม้ไม่ถึงกับหนวกหู แต่ก็ดังกว่าโหมด Eco พอสมควร 

– ยังไม่มี Lens Shift แต่ก็ชดเชยด้วย Keystone แบบ 2 แกน (H & V) ยืดหยุ่นกว่าโปรเจ็คเตอร์ระดับเดียวกัน

– แว่น 3D ต้องซื้อเพิ่ม

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.75
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
8.5
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
8.75
ภาพ 2 มิติ (HDR)
8.75
เสียง (Sound)
8.25
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.5
ลูกเล่น (Features)
8.75
ความคุ้มค่า (Value)
9.0
คะแนนตัดสิน (Total)
8.7

Epson EH-TW5350

8.7

หมายเหตุ : มาตรฐานคะแนนปี 2016

ราคา Epson EH-TW5350

41,900 บาท

สนใจสั่งซื้อสินค้าหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Hi Style HiFi

สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 02646 1874-5

สาขาสยามพารากอน โทร. 02610 9721-2

สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ โทร. 02193 8447

สาขาพาราไดซ์ พาร์ค โทร. 02787 1939

สำนักงานใหญ่ วังบูรพา โทร. 02222 9181-2, 02224 0839, 02225 4380