ภาพ
ด้านภาพถือว่าเป็นจุุดเด่นของ LG Plasma TV PZ570 ครับ ด้วยราคาแบบนี้แต่อัดสเป็คและฟังก์ชั่นมาให้เต็มเหนี่ยวไม่มีกั๊ก เริ่มจากความละเอียดหน้าจอแบบ Full HD 1920 x 1080 รองรับระบบภาพ 3 มิติด้วยเทคโนโลยี 3D Active รวมถึงยังสามารถแปลงคอนเทนต์ 2 มิติธรรมดาให้เป็น 3 มิติได้ ส่วนลูกเล่นการปรับภาพก็มีโหมดอย่าง Expert ที่ได้รับการดีไซน์จากสถาบัน Imaging Science Foundation ไว้ให้ปรับภาพระดับสูง
โหมดภาพสำเร็จรูป :: Picture Mode
โหมดภาพสำเร็จรูปของ LG 50PZ570 ให้มาเยอะครับ ได้แก่ Vivid / Standard / Cinema / Sport / Game / Expert 1 / Expert 2 โดยใช้ใบหน้าของ “ไบรอัน โอคอนเนอร์” จากหนัง Blu-ray เรื่องใหม่แกะกล่องอย่าง Fast & The Furious 5 จากที่ลองวัดอุณภูมิสีดูแล้ว แนะนำโหมด Expert 1 หรือ 2 ก็ได้ โทนสีถูกต้องเป็นธรรมชาติ ความสว่างของภาพอยู่ในระดับปานกลางพอเหมาะ ไม่สว่างจ้าและไม่มืดทึบจนเกินไป ดูนานๆแล้วยังสบายตา ไม่เมื่อยล้า เหมาะกับการรับชมภาพยนตร์ไฮเดฟในห้องที่คุมแสงได้ โดยโหมดที่ใกล้เคียงกับ Expert ก็ได้แก่ โหมด Cinema เพียงแต่ว่าโหมด Cinema นั้นความสว่างจะน้อยกว่านิดหน่อยครับ แต่หากว่าดูทีวีทั่วไปประกอบกับอยากเน้นสีสันให้มันฉูดฉาดขึ้นมาหน่อยโหมด Standard ก็ถือว่าเป็นคำตอบที่ดี เพราะระดับสีน้ำเงินถูกยกสูงขึ้นมาทำให้ภาพสดใส ไม่หม่นหมอง ดูแล้วก็เตะตาให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงในระดับที่ไม่ได้กระเทือนต่อสายตาที่รับชมเป็นระยะเวลานานมากนัก !!!

เบื้องต้นแล้วแทบไม่ต้องปรับภาพอะไรเพิ่มอีกเลยก็ยังได้ !!!

ใกล้เคียงกับ 6500K มากขึ้นไปอีก
สัดส่วนภาพ :: Aspect Ratio
สัดส่วนภาพของ LG PZ570 โดยค่า Defalut มักจะถูกกำหนดให้เป็น 16:9 เต็มจอตั้งแต่เริ่มต้น หากดูหนัง Blu-ray หรือ Hidef ผ่าน HDMI ก็แนะนำปรับไปที่ “Just Scan” เพื่อให้รายละเอียดของ Input และ Output แสดงออกมาได้อย่างถูกต้องแบบ “พิกเซลต่อพิกเซล” เพื่อให้รายละเอียดทุกอย่างอยู่อย่างครบถ้วนตามต้นฉบับครับ ส่วนโหมดภาพสำหรับการดูฟรีทีวีอย่าง 4:3 ก็มีจะแถบสีเทาขึ้นมาด้านซ้ายและขวาเพื่อป้องการอาการ Burn In และรวมถึงเป้นการกระตุ้นให้เม็ดพิกเซลทุกๆเม็ดอีกอายุการใช้งานใกล้เคียงกันเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำกัน ประโยชน์คือระดับความสว่างทั่วบริเวณจอจะได้มีความใกล้เคียงกันมากที่สุดครับ
ทดสอบภาพ 2 มิติ
การทดสอบภาพ 2 มิตินั้นผมได้ใช้แผ่นหนัง Blu-ray ยอดฮิตอย่างเรื่อง Avatar / The Bourne Ultimatum / Iron Man 2 / Fast & The Furious 5 และใช้เครื่องเล่น Blu-ray Player :: Oppo BDP-95 ในการทดสอบครั้งนี้ครับ โหมดภาพคือ Expert 1 – ISF หนังเรื่อง Avartar อย่างตัวพระเอกนางเอกสีฟ้าและฉากป่าสีเขียวเป็นตัวชี้วัดแนวภาพได้อย่างดี สีสันนั้นถือว่า “นุ่มนวล” และมีความเป็น “ธรรมชาติ” สีสันไม่ได้สดโอเวอร์ อยู่ในเกณฑ์สมจริงมากกว่า ภาพสะอาดตาระดับนึง มี Noise บ้างเล็กน้อย (PT350 สะอาดตากว่านิดหน่อยเพราะเป็น HD Ready จึงมีเม็ดพิกเซลน้อยกว่า Pixel noise ซึ่งเกิดจาก High Density จึงน้อยกว่า) ความสว่างของภาพอยู่ในระดับพอเหมาะพอเจาะในโหมดภาพนี้ ดูในห้องที่คุมแสงได้ระดับนึงจะดีต่อทีวีมาก เพราะศักยภาพของทีวีจะถูกรีดออกมาได้มากขึ้นถึงแม้เจ้า PZ570 จะสามารถคุมแสงสะท้อนได้ดีใช้ได้ก็ตาม !!!

หนังที่โชว์สีผิวของคนจริงๆอย่าง IRON MAN 2 และ The Fast & The Furious 5 ก็ถ่ายทอดสีผิวของคนออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความหยาบกร้านของภาพน้อยมากๆ ภาพอาจจะไม่ได้คมชัดสุดขีดแบบ LED TV แต่ผมว่ามันค่อนข้างสมจริงและใกล้เคียงกับพวกจอ Projector ในโรงภาพยนตร์มากกว่า ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลเนียนตา ไม่ได้มีอาการสะดุดหรือหลอกตาให้เห็นแม้แต่น้อย สีดำถึงแม้ตัวจอ Panel จะดำสู้ Plasma TV รุ่นท็อปของค่ายอื่นไม่ได้ แต่โดยส่วนตัวผมว่าเพียงพอแล้วกับความดำระดับนี้ ซึ่งข้อดีกว่าก็คือรายละเอียดภาพในที่มืด Shadow Detail ถูกไล่เรียงออกมาได้ครบถ้วนมากกว่าและรวมถึงระดับความสว่างที่มีมากกว่าเพราะไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องความดำลึกแบบสุดโต่งจนกลายมาเป็นข้อจำกัดไป !!!

รายละเอียดภาพแสดงออกมาได้ครบถ้วน นวลตา ไม่หยาบกร้าน

ถึงแม้ไม่ได้ดำลึกสุดหัวใจเหมือน Plasma TV รุ่นท็อปก็ตาม
ภาพจากฟรีทีวีก็มีความคมชัดอยู่ในระดับปานกลางครับ ถือว่าภาพนวลสบายตา ผมว่า LG รุ่น PT350 จะชัดกว่าหน่อยนึงเพราะมีความละเอียดแค่ HD Ready 1024 x 768 (42″) และ 1365 x 768 (50″) โหมดภาพหากใช้เป็นโหมด Standard กับสัญญาณประเภทนี้ จะได้สีสันที่สดใสและสว่างกว่า คมชัดให้ดีขึ้นจากฟังก์ชั่นตัวช่วยทั้งหลายแหล่ที่พร้อมใจกันถูกเปิด On ใช้งานขึ้นมา แต่ผมเองก็ใช้โหมด Expert 1 – ISF ในการรับชมรายการทีวีทั่วไป บุคลิกของภาพออกแนวธรรมชาติสมจริง สีผิวของคนเป็สีเนื้อจริงๆ ไม่ได้ติดอมแดงเล็กน้อยแบบโหมดภาพสำเร็จรูปโหมดอื่นๆ โดยรวมผมเชื่อว่าทุกท่านจะพอใจกับคุณภาพของภาพจากแหล่งสัญญาณ Analog ครับ
หมายเหตุ :: จากช่องฟรีทีวีหากเลือกรับชมอัตราส่วนแบบ 4:3 ด้านข้างจะถูกเปลี่ยนเป็น Grey bar เพื่อป้องกันการเบิร์นอิน

เพราะแถบนี้มันเอาไว้ป้องกันอาการ Bun-In ไงครับ ตับ ตับ ตับ…ตับบบ

มีความคมชัดและให้ความสบายตาเป็นที่น่าพอใจ
โดยรวมแล้วผมยอมรับว่า “พอใจมาก” กับคุณภาพของภาพของ LG 50PZ570 ให้สรุปสั้นๆคือผมชอบความเป็นธรรมชาติ นุ่มนวลและสบายตา โดยยังมีความสดใสแอบแฝงคอยเติมพลังภาพอยู่นิดๆ โดยผมไม่ได้รู้สึกว่าภาพมันหม่นหรือขาดความกระปรี้กระเปร่าไปเลยแม้แต่น้อย ด้วยระดับราคาเพียงเท่านี้กับคุณภาพของภาพที่ได้ผมกล้าให้คำว่า “คุ้มค่า” กับ LG 50PZ570 ครับ