11 May 2015
Review

คุ้มจัด ชัดจริง ! Samsung 48JU6400 4K UHD รุ่นเริ่มต้น..แต่ภาพเหนือชั้น


  • tormoo

ภาพ

มาถึงไฮไลท์ของรีวิวซึ่งก็คือเรื่องภาพนั่นเอง สเป็คด้านภาพของ Samsung 48JU6400 มีความละเอียดหน้าจอแบบ 4K Ultra HD (3840 x 2160) มีระบบ UHD Upscaling คอยอัพเสเกลภาพ HD / Full HD ให้เทียบเคียง 4K UHD  บอกไว้ก่อนว่ารุ่นนี้ไม่มี 3D นะ ซึ่ง Samsung เองมองว่ากระแส 3D เริ่มล้มหายตายจากไป..ไม่เหมือนซักช่วง 3-4 ปีก่อนที่ฟู่ฟ่ามาก พวก 3D จะเอาไปใส่ในซีรีส์ท็อปๆเท่านั้น ถึงแม้จะเป็น แค่ UHD TV รุ่นเริ่มต้น หลังจากทดสอบภาพแล้วขอบอกเลยว่าภาพไม่ธรรมดาเลย!!

Samsung 48JU6400 Calibration Data 

– ใช้โหมด Movie ซึ่งค่าภาพเที่ยงตรงที่สุดในการปรับภาพ

– ตัวเลือก UHD Deep Color ยังไม่ส่งผลใดๆ กับมาตรฐานคอนเทนต์ปัจจุบัน 

– Color Space ครอบคลุมแค่มาตรฐาน Rec.709 ซึ่งถือเป็นปกติสำหรับ 4K/UHD TV ราคาไม่สูง 

– สามารถปรับภาพให้มีความถูกต้อง เที่ยงตรง คุ้มราคา โดย White Balance และ CMS ให้ได้ผลลัพธ์ดีเยี่ยมเช่นเคย 

– ไม่มีตัวเลือก Local Dimming (ปกติเมนูจะชื่อ Smart LED) แต่สเป็คดันเขียนว่ามี Micro Dimming 

ค่าก่อนปรับภาพ ภาพจะติดน้ำเงินแนวสดชื่นเล็กน้อยตามสไตล์ Samsung
หลังปรับภาพค่า White Balance และ CMS ยอดเยี่ยมมาก เดี๋ยวนี้รุ่นกลางบนค่าหลังปรับภาพทำได้ดีไม่แพ้รุ่นท็อป

โหมดภาพสำเร็จรูปสามารถเลือกได้ด้วยการเข้าไปที่เมนู Picture หรือหากเอาเร็วก็ให้กดปุ่มลัด “P.Mode” บนรีโมทคอนโทรล มีให้เลือกตั้งแต่ Dynamic, Standard, Natural, Movie เริ่มทดสอบคอนเทนต์ 2 มิติแบบ Full HD ด้วยเรื่อง Man of Steel โทนหนังจะมีอารมณ์ประมาณ “ดาร์คๆ หดหู่” หากเซ็ตค่าทีวีถูกต้อง ทีวีก็จะสามารถแสดงภาพดาร์คๆ ดั่งที่ผู้กำกับต้องการถ่ายทอดออกมาได้ หากพูดให้ไพเราะดูดีก็คงกล่าวได้ว่าเราจะได้ เสพเนื้อแท้แห่งภาพดั่งที่ผู้กำกับบรรจงรังสรรค์ขึ้น” วิธีการเลือกโหมดภาพสำเร็จรูปที่ทีมงานแนะนำคือโหมด Movie ซึ่งเป็นโหมดค่าสำเร็จรูปจากโรงงานที่ใกล้เคียงความถูกต้องที่สุด หากรู้สึกว่ามืดไปแนะนำการปรับเพิ่ม Backlight ขึ้นมา 

เจ้า JU6400 แสดงภาพออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี ให้ความสะอาดสะอ้าน สีสันมีความถูกต้องเป็นธรรมชาติ แอบเห็นลายเกล็ดเสื้อน้ำเงินเข้มแบบดาร์คๆ ของพระเอกคลาร์ก เคนท์ได้อย่างชัดเจน จังหวะต่อสู้ฉวัดเฉวียน ทำลายตึกวินาศสันตะโรไป 8 ตลบก็ถือว่าทำได้ประทับใจเกินคาด ภาพเคลื่อนไหวไวๆ เอาอยู่หมัด เหนือชั้นกว่า 4K UHD ระดับเริ่มต้นที่เคยทดสอบมาแทบทั้งหมด แนะนำว่าฟีเจอร์ Motion Plus แทรกเเฟรมภาพแทบ “ไม่ต้องเปิด” เพื่อช่วยพยุงภาพเหมือนรุ่น 1-2 ปีก่อนแล้ว อนึ่งการเปิด Motion Plus ไม่ว่าจะเป็นระดับ Standard หรือ Smooth จะทำให้เกิดอาการวุ้นเรื่องตามขอบภาพ ขอแนะนำว่าให้ปิดซะ

Man of Steel เรื่องสีสันและภาพเคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม

เพื่อความแน่ใจเลยขอหยิบ X-Men 2 มาทดสอบในฉาก “เดินลงบันได” อันเป็นฉากอ้างอิงสุดคลาสสิคของทีมงาน ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่เกริ่นข้างต้นว่าเดี๋๋ยวนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา Motion Plus ในการรับมือกับภาพเคลื่อนไหวของคอนเทนต์ Full HD อีกแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นยังมีฟีเจอร์เด็ดซ่อนอยู่ก็คือ Black Frame Insertion (BFI) หรือการแทรกเฟรมดำซึ่ง Samsung เรียกว่า LED Motion Control เมนูจะถูกซ่อนอยู่ใน Motion Plus : Custom นี่แหละ เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ภาพจะดูมืดลง 1 ระดับเพราะการแทรกเฟรมดำ 1 เฟรมระหว่างภาพเฟรมต้นฉบับ 2 เฟรมเพื่อลดอาการ “ลากและเบลอ” ของภาพ ซึ่งหลังจากทดสอบก็พบว่าภาพเคลื่อนไหวมีความสมูธแบบเป็นธรรมชาติ แม้นภาพจะแลดูทึมไปซักนิด แต่ก็แอบได้กลิ่นอายภาพจาก Plasma TV อยู่เนืองๆ สรุปว่าสามารถเลือกที่จะ “ปิด” Motion Plus หากอยากได้ภาพสว่างกระจ่างแจ้ง หรือเลือกที่จะ “เปิด” LED Motion Control หากอยากได้ภาพลื่นๆแนว Plasma TV ครับ

ฉาก “เดินลงบันได” สุดคลาสสิคจากหนังเรื่อง X-Men 2 เป็นฉากอ้างอิงในการทดสอบภาพเคลื่อนไหว ทีวีตัวไหนไม่แน่จริง..เอาฉากนี้ไม่อยู่แน่ ! ทดสอบเปิดฟีเจอร์ LED Motion Control ภาพจะมืดลงไป 1 ระดับ แลกกับภาพเคลื่อนไหวที่สมูธขึ้น

หลังจากนั้นผมหยิบแผ่นหนังเรื่อง Interstellar ทะยานดาวกู้โลก ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปรับชมในโรง IMAX ที่พารากอน ประทับใจฉากที่ใช้กล้อง IMAX ถ่าย จะเต็มจอ 16:9 พอดี (มักจะเป็นฉากเริ่มต้นของแต่ละ Chapter ตามสไตล์ผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน) โดยเฉพาะฉากที่เหล่านักสำรวจเดินทางมาถึงดาวน้ำแข็ง เจ้า JU6400 สเกลภาพระดับ Full HD ให้เป็น UHD ได้อย่างเนียนตา คือรู้สึกเนียนจนบอกไม่ถูกอะ…ไม่ได้ติดหยาบกร้านเหมือนทีวี UHD TV ราคาถูก ภูเขาน้ำแข็งหลายลูกเรียงรายกันเป็นวิวทิวทัศน์ที่อลังการ…ทว่ากลับส่งความรู้สึกอ้างว้างและสิ้นหวังให้เราสัมผัสได้ ผมนั่งดูในระยะประมาณ 2 เมตรกว่า ยอมรับว่าแอบ ถึงใจ..ถึงอารมณ์” มิใช่น้อย 

ส่วนประเด็นเรื่องความดำของจอ 48JU6400 ไม่ได้มีฟีเจอร์ Smart LED ที่สามารถเลือกเปิด/ปิดการดิมหลอดไฟ LED แบบ Local Dimming มาให้ แต่สเป็คแจ้งว่ามี Micro Dimming ก็เลยแอบบงง (Samsung เรียกว่า Micro Dimming ส่วนศัพท์กลางคือ Local Dimming) น่าจะเป็นการดิมอัตโนมัติในโหมด Dynamic อย่างเดียว ส่วนโหมด Movie จะแช่ไว้ไม่มีดิม ทดสอบเรื่องความดำกับเรื่อง Interstellar นี่แหละ ผลที่ได้ก็น่าพอใจมาก แสงไฟ LED ที่เปล่งออกมามีความสมดุลสูง เกลี่ยแสงอย่างทั่วถึงทั่วจอ ไม่มีรั่วเป็นหย่อมให้รำคาญใจ จึงทำให้ระดับสีดำอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม แม้นจะไม่ดำสุดฤทธิ์เหมือน JS9500 ตัวท็อปที่ใช้หลอดแบบ Full LED Backlight แต่ก็อยู่ระดับหัวแถวของพวก Direct / Edge LED TV เลยเชียวแหละ

ฉากนักสำรวจในดาวน้ำแข็ง ตรึงตราตรึงอารมณ์มาก

ทดสอบคอนเทนต์ 4K UHD กันบ้าง ผมใช้ไฟล์หนัง 4K UHD แท้สกุล mkv เรื่อง Star Trek : Into the Darkness เสียบเข้าช่องต่อ USB ด้านข้างเครื่อง สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาแบบเห็นๆ เลยคือรายละเอียดและความคมชัดที่สูงขึ้นแบบจับต้องได้ ใบหน้าของตัวละครและขอบภาพคมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฉาก “เผ่นเป็นป่าราบ” ในช่วงเริ่มเรื่อง  ที่ชนเผ่าไล่ล่าฝ่ายพระเอกก็ให้โมชั่นภาพเคลื่อนไหวก็ดีขึ้นกว่าการดูด้วยคอนเทนต์แบบ Full HD อยู่พอควร ทดสอบไปเรื่อยๆหากท่านจะคิดว่าหนัง 4K แท้ๆจะมีดีแค่เรื่องความคมชัดที่สูง ขอบอกเลยว่าคิดผิดถนัด สิ่งที่ได้เพิ่มอย่างเหลือเชื่อคือ “มิติของภาพ” จำนวนพิกเซลที่มากขึ้น ละเอียดขึ้น ทำให้ภาพคมขึ้น ส่งเสริมให้มิติชัดตื้น-ชัดลึกให้อัพเกรดขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนสามารถให้มิติภาพกึ่ง 3 มิติได้ในแบบฉบับ 2 มิติ เห็นแบบนี้ก็หวังภาวนาให้หนัง 4K UHD แท้ๆรีบออกมาแบบเป็นทางการเสียทีเถอะ เทคโนโลยีทีวีมันล้ำหน้าเจ้าไป 2-3 ปีแล้ว

ทดสอบหนัง 4K แท้เรื่อง Star Trek : Into the Darkness ดีขึ้นทั้งเรื่องและรายละเอียด, โมชั่นภาพเคลื่อนไหว และที่สำคัญคือมิติภาพลอย+ลึกขึ้นด้วย
อัตราการบริโภคไฟในโหมด Movie เล่นภาพ Full HD เต็มจออยู่ประมาณ 130 Watts บวกลบ จริงๆมีโหมดประหยัดพลังงานหรือ Eco Mode ซ่อนอยู่ในหน้าเมนู จะช่วยประหยัดไฟได้อีกแลกกับการลดระดับความสว่างของภาพลง
ทดสอบการรับชมดิจิตอลทีวีซักหน่อย สามารถกดปุ่ม Record บันทึกรายการลง External Harddisk หรือ USB Flash Drive ได้ด้วยนะ