27 Mar 2021
Review

รีวิว Sharp 4T-C55CJ2X ทีวี 4K HDR ในงบหนึ่งหมื่นบาท ดู Netflix YouTube โหลดแอปฯ ได้


  • Dear_Sir

Picture – ภาพ

Sharp 4T-C55CJ2X เป็นทีวีความละเอียด 4K รองรับ HDR10 ในการใช้งานเบื้องต้น ขอแนะนำว่าควรไปเปิดใช้งาน HDMI 2.0 ที่เมนู Setting > System > HDMI EDID 2.0 ก่อนเป็นลำดับแรก เพราะถ้าหากไม่เปิด เวลาต่อใช้งานกับบางอุปกรณ์ ภาพจะไม่เป็น 4K แถม HDR ก็ไม่ขึ้นอีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมมาตั้งค่าตรงนี้ก่อน

ตั้งค่า HDMI 2.0

โหมดภาพอัตโนมัติมีด้วยกัน 5 โหมดได้แก่ Dynamic, Standard, Movie, User และ Soft จากโหมดภาพทั้งหมด ขอแนะนำว่าให้ใช้โหมด User เพราะค่าโรงงานจากโหมดนี้สมดุลที่สุดกว่าทุกโหมด ทั้งอุณหภูมิสี และความสว่าง แล้วก็อย่าลืมปรับ Color Temperature เป็น Nature ด้วย ซึ่งหากเปิดภาพแบบ HDR ความสว่างภาพโดยรวมจะดรอปกว่าแบบ SDR เล็กน้อย แต่ในโหมด HDR จะได้เรื่องของมิติภาพ, Peak Brightness และ Dynamic Range ที่ทำได้ดีกว่า สังเกตได้เลยจากฉากตัวอย่าง สีของไฟ การไล่แสงเงาจะดีกว่ากัน ส่วนโทนสีก็จะติดอมน้ำเงินเล็กน้อยในฉากมืด

ภาพแบบ HDR
ภาพแบบ SDR

ตัวเครื่องใช้พาเนลแบบ VA จึงให้ระดับสีดำที่ดี มุมมองด้านข้างสีสันดรอปลงเล็กน้อยในระยะใกล้ แต่ถ้าดูถอยไกลออกมาหน่อย จะได้รับผลกระทบน้อยมาก จากที่ได้ลองใช้เครื่องมือวัด พบว่าค่า Peak Brightness ที่ตัวเครื่องทำได้อยู่ที่ 323 nits ในโหมด User และสามารถแสดงสีสันตามมาตรฐาน DCI-P3 ที่ 52.96/61.25% (XY/UV) ขณะที่มาตรฐาน Rec.2020 ทำได้ที่ 73.56/82.76% (XY/UV) ในโหมดภาพ Soft ทั้งคู่

ในการปรับภาพแน่นอนว่าต้องใช้โหมด User ทั้งโหมดภาพ (Picture Mode) และอุณหภูมิสี (Color Temperature) เพราะโหมดนี้เป็นโหมดเดียวที่สามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้ แต่ด้วยความที่ซีรีส์ 4T-C55CJ2X เป็น 4K HDR ตัวเริ่ม จึงทำให้ตัวเลือกในการปรับภาพจึงไม่มีมากนัก ปรับได้แค่อุณหภูมิสีโดยรวม กับค่าแบ็คไลท์ ไม่สามารถจูนค่า White Balance หรือ CMS ได้ ซึ่งหลังจากที่ได้ลองปรับอุณหภูมิสีแล้ว ก็ทำให้ค่าความผิดเพี้ยนของสีลดลงเยอะทีเดียวครับ HDR Grayscale Avg dE : 17.1 > 6, HDR Colorspace Avg dE : 14.4 > 7.7 เรียกได้ว่าครึ่งต่อครึ่ง

*การปรับค่าต่างๆ ในทีวีจะส่งผลทั้งภาพแบบ HDR และ SDR

ก่อนปรับภาพ HDR
หลังปรับจูนอุณหภูมิสี ค่าเฉลี่ยของทั้ง Grayscale และ Colorspace ดีขึ้นเยอะ
หลังปรับภาพสมดุลสีดีขึ้นทีเดียว

ความละเอียดภาพขณะที่ใช้ทดสอบเล่นเกมอยู่ที่ 4K@60Hz ถือว่าเป็นขีดสูงสุดของมาตรฐาน HDMI 2.0 โดยโหมดภาพส่วนใหญ่จะให้ Input lag อยู่ที่ 30ms ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีอยู่ แสดงผลตอบสนองต่อคำสั่งได้อย่างทันท่วงที

ทดสอบกับเกม Gears 5