04 Jun 2019
Review

รีวิว Sharp AQUOS 4K 4T-C70AL1X ทีวี Android ขนาด 70 นิ้ว จอยักษ์ใหญ่ ในราคาจับต้องได้


  • lcdtvthailand

Picture – ภาพ

มาถึงขั้นตอนทดสอบที่ใครๆ ต่างก็อยากรู้แล้ว นั่นคือการทดสอบด้านภาพ สเปคด้านภาพของรุ่นนี้จะเป็นความละเอียด 4K รองรับฟอร์แมตภาพ HDR10 ใช้จอภาพแบบ VA ขับภาพผ่านชิพประมวลผลที่ชื่อว่า X4 Master Engine Pro II ด้วยขนาดจอที่ใหญ่ถึง 70 นิ้ว แนะนำว่าการนั่งรับชม ควรมีระยะห่างขั้นต่ำอยู่ที่ 2.25 ม. ขึ้นไป เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด และเหมาะสมกับสายตา มองภาพได้เต็มจอ

เบื้องต้นที่เห็นจอเปล่าๆ ทีวีรุ่นนี้คุมแสงสะท้อนได้ค่อนข้างดีเลย ช่วยลดแสงสะท้อนบนจอภาพยามรับชมเวลากลางวัน เริ่มทดสอบภาพด้วยคอนเท็นต์ 4K สารคดี BBC : Planet Earth II โหมดภาพสำหรับการรับชมยังคงแนะนำเป็นโหมด Movies จะให้ภาพโทนอุ่นนวลตา ให้ความถูกต้องของสีสันสูงกว่าโหมดอื่น และสบายตาเหมาะต่อการรับชมระยะยาว

ความประทับใจแรกเลยอยู่ที่ขนาดจอที่ใหญ่เต็มตา เมื่อใช้คอนเท็นต์ที่มีสัดส่วนภาพเต็มจอแบบนี้ ยิ่งรู้สึกใหญ่สะใจ

Sharp AQUOS 4K 4T-C70AL1X สามารถเผยรายละเอียดภาพได้อย่างคมชัด จุดสังเกตอย่างขนนก หรือสภาพพื้นผิวแผ่นดิน ให้ภาพชัดคมสมจริงแม้จะเป็นจอขนาดใหญ่ก็ตาม(ทั้งนี้ระยะการรับชมต้อง 2.25 ม. ขึ้นไป) ถึงจะยังไม่ได้ทำการคาลิเบรตปรับแต่งภาพ สีสันที่ได้ก็อยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว แต่บางท่านอาจไม่ชอบนัก เพราะโหมด Movies จะลดแสง Backlight ลงเพื่อลดอาการล้าของสายตา แนะนำว่าให้เพิ่มแสง Backlight ขึ้นมาเล็กน้อยได้

ขอบเขตสีก่อนปรับภาพให้ความถูกต้องเที่ยงตรงค่อนข้างดี

แต่สำหรับการรับชมดิจิตอลทีวีทั่วไปในรูปแบบ SDR แนะนำเป็นโหมด Standard จะให้สีสันสดใสและสว่างมากกว่าโหมด Movies เพื่อขับสีสันของช่องดิจิตอลที่ส่วนใหญ่ภาพจะมีความซีด ให้ดูสดอิ่มขึ้นมา ส่วนเรื่องการคุมความดำนั้น รุ่นนี้ไม่มีลูกเล่น Dimming แต่ด้วยความที่จอภาพลดแสงสะท้อนได้ดีระดับนึง สามารถคุมความดำได้ในระดับพึงพอใจเลย และอาจจะดีกว่าการ Dimming ของทีวีบางรุ่นด้วยซ้ำ เนื่องจากไม่มีแสงโพลนที่เล็ดลอดจากการ Dimming ให้รบกวนสายตา

ค่าภาพจากโรงงานอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจเลยทีเดียว

หลังจากทำการปรับแต่งคาลิเบรตภาพ ทดสอบกันต่อผ่านโหมด Movies ด้วยหนัง 4K เรื่อง Captain America : Winter Soldier คาแรกเตอร์ภาพที่ได้นั้นมีความนวลตามากขึ้นกว่าก่อนหน้าเลย ดูได้จากสีผิวของตัวละครที่มีความเป็นธรรมชาติ อาจจะไม่รุกเร้า แต่ให้ความสบายตาสูง รับชมทีวีเป็นเวลานานๆ ได้โดยไม่ล้าสายเท่าไร

การรับชมภาพยนตร์ต้องโหมด Movies เท่านั้น ให้สีผิวและสีผมไม่ฉูดฉาด ดูเป็นธรรมชาติ

โดยค่าภาพที่ได้นั้น อยู่ในเกณฑ์น่าคบหา ความสว่างสูงสุดในรูปแบบ HDR อยู่ที่ 324 nits สำหรับโหมด Dynamic และ 259 nits สำหรับโหมด Movies หากรู้สึกว่าภาพมีอาการดำจม แนะนำให้ปิดโหมด Active Contrast เอาไว้ เพื่อเผยรายละเอียดในที่มืดให้ดีขึ้น และแม้จะไม่รองรับ Wide Color Gamut แต่ขอบเขตสีที่ได้ก็ถือว่าใช้ได้เลย

ขอบเขตสีในโหมด HDR หลังทำการคาลิเบรต

การปรับโมชั่นของรุ่นนี้ วิธีการปรับนั้นจะมีเมนูที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ สักหน่อย ต้องเข้าไปที่เมนู Picture Setting จากนั้นไปที่ Film Mode สามารถปรับความลื่นไหลได้ 2 ระดับ ได้แก่ Standard กับ Advanced แนะนำว่าระดับ Standard จะดูลื่นไหลสบายตาที่สุด ซึ่งระดับ Advanced นั้นอาจลื่นไหลเกินไปจนเกิดเป็นภาพเหลื่อมนั่นเอง

จอใหญ่ๆ แบบนี้ ไม่ได้มีดีแค่เอาไว้ดูหนังแบบเต็มตาเพียงอย่างเดียว ยังเพิ่มความสะใจในการเล่นเกมด้วย โดยโหมดภาพที่แนะนำก็คงหนีไม่พ้น Game Mode ซึ่งรุ่นนี้ให้ Input Lag ที่ต่ำมากเพียง 36 ms เท่านั้น ต่อเล่นเกมได้สบายหายห่วง แถมโหมดนี้ยังขับสีสันที่สดใส ได้โทนสีฉูดฉาดรุกเร้า เมื่อรวมกับข้อดีทั้งจอใหญ่และ Input Lag ที่ต่ำเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ทีวีรุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์คอเกมได้ดีเยี่ยม

Input Lag ต่ำ โดยที่ยังให้สีสันตระการตา

<<< อ่านต่อหน้า 4 >>>