15 Aug 2019
Review

รีวิว Sharp AQUOS 2T-C50AE1X ทีวี Full HD ไซส์ 50 นิ้ว เล่นอินเทอร์เน็ตได้ ราคาไม่แรง


  • lcdtvthailand

Picture – ภาพ

โหมดภาพของ Sharp AQUOS 2T-C50AE1X ให้มาถึง 7 โหมด ได้แก่ StandardMoviesPCUserDynamicDynamic (Fixed) และ Super Eco ยังมีตัวเลือกปรับภาพในระดับทั่วไปมาให้ปรับเช่นกัน ค่าภาพจากโรงงานจากโรงงานนั้นอยู่ในระดับพอใช้ได้ ซึ่งโหมดภาพที่แนะนำก็คงหนีไม่พ้น Movies ให้อุณหภูมิสีอยู่ที่ 6884K ใกล้เคียงมาตรฐาน D65 หรือแสงธรรมชาตินั่นเอง

ส่วนโหมดภาพท้ายสุด Super Eco นั้น จะเป็นโหมดประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นการใช้งานแบบเปิดทีวีทิ้งไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาระหว่างวัน ซึ่งโหมดนี้จะทำการลดแสง Backlight ลง รวมถึงลดการใช้งานอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น นอกจากจะประหยัดพลังงานแล้ว ยังประหยัดค่าไฟอีกด้วย โดยจะมีปุ่มลัดสีเขียวอยู่บนมุมขวาของรีโมท เพื่อให้เข้าถึงโหมด Super Eco อย่างรวดเร็ว

ค่าขอบเขตสีที่วัดได้ของรุ่นนี้
ค่าภาพจากโรงงาน

ทดสอบด้วยการรับชมผ่านเครื่องเล่น Blu-ray รุ่น Pioneer UDP-LX800 กับภาพยนตร์เรื่อง Fast 3 The Fast and the Furious: Tokyo Drift สีสันของเสื้อผ้า รถซิ่ง และตัวเมืองในเรื่องนั้น มีโทนสีที่ค่อนขาดฉูดฉาด Sharp เครื่องนี้สามารถถ่ายทอดความสดฉ่ำของสีออกมาได้พอตัว รวมถึงการแยกสีผิว ตัวเอกของเรื่องเป็นคนอเมริกัน ส่วนตัวละครอื่นๆ เป็นคนเอเชีย สีผิวย่อมมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว สามารถสังเกตสีผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ

การปรับโมชั่นของทีวีรุ่นนี้ให้เข้าไปที่การตั้งค่าภาพ จากนั้นไปยังเมนู Advance เมื่อเข้าไปจะพบเมนู AquoMotion Lite ซึ่งเมนูนี้จะเป็นการปรับโมชั่นภาพเคลื่อนไหวด้วยการแทรกเฟรมดำเข้าไป แนะนำให้เปิดระดับ Advance ที่เป็นระดับสูงสุดเลย การเปิดขั้นสุดนี้จะทำให้ภาพมืดลงเล็กน้อย ผลจากการแทรกเฟรมดำเข้าไป แต่จะทำให้ภาพลื่นไหลขึ้น อีกทั้งยังช่วยเผยรายละเอียดของภาพมิติอีกด้วย ทำให้การทดสอบด้วยหนังเรื่องนี้ที่เน้นภาพเคลื่อนไหว สามารถรับชมได้อย่างสบายตา

ฉากซิ่งต่างๆ สามารถถ่ายทอดได้อย่างเร้าใจสมราคา

ทดสอบกันต่อด้วยภาพยนตร์ Pacific Rim : Uprising อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่เด่นเรื่องสีสันและรายละเอียดของหุ่นยนต์ต่างๆ ถึงทีวีรุ่นนี้จะไม่มี HDR แต่ในฉากที่มีแสงสีต่างๆ เช่น ห้องคนขับหุ่น, ลำแสงจากอาวุธหุ่นยนต์ เป็นต้น ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีพอตัว แนวภาพของรุ่นนี้จะมีความนวลตา ช่วยเกลาสีสันให้ดูสดโดยที่ยังความสบายไม่ล้าสายตาเอาไว้ได้ อย่างฉากสุดท้ายที่สู้กับไคจูยักษ์ เก็บรายละเอียดหมดจด ภาพเคลื่อนไหวค่อนข้างดี ภาพไม่วูบวาบชวนเวียนหัว ทำได้ดีเกินคาด

สังเกตที่รายละเอียดโครงสร้างของหุ่นยนต์ เป็นทีวี Full HD ที่ไม่ธรรมดาเลย

ในการรับชมผ่านฮาร์ดดิสก์ ไฟล์หนังต่างๆ ที่เป็นสกุลไฟล์ยอดฮิตก็สามารถเล่นได้ไม่กระตุก และที่สำคัญสามารถถอดรหัส Codec H.265 ได้ด้วย ครอบคลุมความต้องการของคอหนังกันเลย ส่วนของการรับชมผ่าน YouTube เองก็ทำได้ดี แต่จะไม่สามารถปรับโหมดภาพได้ระหว่างการใช้งาน YouTube ซึ่งภาพที่ได้นั้นอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ไม่กระทบต่อการรับชมใดๆ

อย่างที่เห็นในข้างต้นแล้วว่าทีวีเครื่องนี้ไม่มีโหมดสำหรับการเล่นเกม แต่จากการวัดค่า Input Lag แล้ว ก็พอทราบเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีให้ เพราะค่าเดิมๆ จากโรงงานนั้น มี Input Lag ต่ำเพียง 29-30 ms อยู่ในระดับที่คอเกมประทับใจเลย ภาพบนจอสัมพันธ์กับการเล่น ไม่มีดีเลย์นแน่นอน เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่เหมาะกับทั้งผู้ที่ต้องการทีวีราคาไม่แรงเอาไว้สำหรับชมภาพยนตร์และเอาไปเล่นเกมคอนโซล

Sound – เสียง

ด้านเสียงของทีวีเครื่องนี้ มีดอกลำโพงฝังอยู่ใต้ทีวีทั้ง 2 ข้าง ให้กำลังขับรวม 20W รองรับการถอดรหัสเสียง Dolby Audio โหมดเสียงของทีวีรุ่นนี้ไม่สามารถปรับได้ โดยโหมดเสียงนั้นจะถูกปรับตามโหมดภาพ เช่น เลือกโหมดภาพ Movies โหมดเสียงก็จะอยู่ที่ Movies เช่นกัน แต่สามารถปรับรายละเอียดลึกๆ อย่างเสียงทุ้มหรือเสียงแหลมได้ตามใจชอบ

ฟังเพลงก็สนุกสนาน ให้เสียงชัดเจน สามารถปรับรายละเอียดเสียงได้

ระหว่างทดสอบด้านภาพก็ได้รับฟังเสียงจากทีวีเครื่องนี้ไปด้วย ซึ่งในห้องที่ใช้ทดสอบนั้น เป็นห้องนั่งเล่นขนาดกลาง เสียงที่ได้ถือว่าสอบผ่าน ได้ระดับความดังที่เหมาะสมต่อการใช้งาน โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มระดับความดังให้ถึง 100% เลย เพราะทาง Sharp ได้ออกแบบแผ่นกั้นเสียงบริเวณดอกลำโพงใต้ทีวี เพื่อให้ทิศทางเสียงตรงมายังตำแหน่งรับชมด้านหน้าทีวีนั่นเอง

หากต้องการอัพเกรดคุณภาพเสียง แนะนำให้เลือกซาวด์บาร์ที่รองรับ HDMI ARC เนื่องจาก 2T-C50AE1X ไม่มีช่องต่อ Optical อันเป็นที่นิยมของซาวด์บาร์ทุกรุ่น แต่ทดแทนด้วย HDMI ARC ที่ให้บิตเรทได้สูงกว่า อีกทั้งทีวีรุ่นนี้สามารถบิตสตรีมสัญญาณเสียงให้ซาวด์บาร์ทำการถอดรหัสเสียงแทนได้ด้วย ส่วนใครที่ฟังเพลงบนสมาร์ทโฟนแล้วไม่จุใจ สามารถเชื่อมต่อกับทีวี ส่งเสียงเพลงให้มาเล่นบนทีวีได้เช่นกัน

เพิ่มเติมความสนุกได้ด้วยซาวด์บาร์หรือซับวูฟเฟอร์

ในการทดสอบครั้งนี้ได้เพิ่มซาวด์บาร์รุ่น HT-SB110 (ราคาเปิดตัว 2,990 บาท) และซับวูฟเฟอร์ไร้สาย CP-SW60A1 (ราคาเปิดตัว 3,490 บาท) มาเป็นตัวเลือกอัพเกรดระบบเสียง หากใครต้องการเสียงที่มีความสมดุลในทุกย่าน แนะนำให้เพิ่มซาวด์บาร์เข้าไป เพราะซาวด์บาร์รุ่นนี้สามารถให้เสียงที่คม ขับรายละเอียดเสียงแหลมได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังมีความนุ่มนวลจากเสียงเบส โดยไม่ต้องใช้ซับวูฟเฟอร์ ให้กำลังขับสูงถึง 90W นอกเหนือจากการเชื่อมต่อผ่าน HDMI ARC แล้ว ยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth เข้ากับทีวีได้ด้วย

แต่เนื่องจากเสียงทีวีอยู่ในเกณฑ์พึงพอใจ ขาดแค่ความกระแทกกระทั้นจากเสียงเบส ก็สามารถเพิ่มด้วยซับวูฟเฟอร์ไร้สาย CP-SW60A1 การเชื่อมต่อนั้นไม่ยากเลย เพียงเปิดการใช้งาน Bluetooth บนทีวี จากนั้นกดค้นหาอุปกรณ์ที่ต้องการจับคู่ ระหว่างนี้ให้กดที่ปุ่มการจับคู่สัญญาณด้านหลังซับวูฟเฟอร์ เมื่อหาเจอแล้วก็ทำการเชื่อมต่อเลย เพียงเท่านี้ก็สามารถรับชมภาพยนตร์ ดูคลิปวีดิโอ หรือฟังเพลงได้เต็มอรรถรส ได้ความหนักแน่นจากเสียงเบสมาเพิ่มความสนุกไปอีกขั้น

ถ้าขึ้น Paired แบบนี้แปลว่าเชื่อมต่อ Bluetooth อยู่

<<< อ่านต่อหน้า 3 >>>