04 Jan 2015
Review

รีวิว Sony KD-55X8500B 4K TV ในระดับเริ่มต้น แต่ประสิทธิภาพเยี่ยมเหมือนรุ่นท็อป!


  • boom

ภาพ

ทดสอบภาพ 3 มิติ

ยังคงป้วนเปี้ยนทดสอบเรื่องภาพกันต่อนะครับ สำหรับในหน้านี้เราจะมาดูเรื่องภาพ 3 มิติ กันดีกว่า อย่างที่ได้เกริ่นไปเมื่อช่วงต้นรีวิว ว่าทีวี Sony ตัวนี้ใช้ระบบ Passive 3D ซึ่งมีข้อดีคือแว่นเบา, ภาพลอย และไม่ต้องชาร์จแบตให้เปลืองอารมณ์ ตัวผมเองขอหยิบเอาภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ Gravity มาเป็นคอนเทนต์หลักในการทดสอบครั้งนี้ สาเหตุก็เพราะว่าฉากต่างๆ ในเรื่องนอกจากจะออกแบบมาได้สื่ออารมณ์และความหมายของเนื้อเรื่องในขณะนั้น ผู้กำกับยังตั้งใจถ่ายทำแบบที่เอื้อต่อการมาทำเป็น 3D อีกด้วย โดยฉากที่เลือกมาดูกันคือช่วงที่นางเอกของเราติดอยู่ในสถานีอวกาศคนเดียว

หากใครเคยดูจะเห็นว่าฉากนี้มีสิ่งของลอยแบบไร้แรงโน้มถ่วงเต็มไปหมด นี่แหละครับทีเด็ดสุดๆ เมื่อนำมาดูแบบ 3 มิติ เพราะมันจะลอยเข้ามากระแทกหน้าเลย นอกจากนี้จังหวะการแพนกล้องเมื่อตัวเอกเคลื่อนไหวไปตามท่อลำเลียง ยังเผยให้เห็นถึงมิติภาพลึกลอยได้ค่อนข้างดี

ไล่ดูกันไปเรื่อยๆ จะเกิดอาการมึนเล็กน้อย เป็นเพราะว่าภาพมีอาการสั่นให้เห็นอยู่ขณะมีการเคลื่อนไหว หรือแพนกล้องไปมา คนที่ไม่เคยดูหนัง 3 มิตินานๆ จะรู้สึกได้ไม่ยาก แน่นอนว่าตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เลยต้องหยิบรีโมทขึ้นมาเช็คฟีเจอร์ Motionflow ปรากฏว่าถูกปิด แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับเมื่อเปิดภาพเป็น 3 มิติ ทีวีจะใช้โหมดภาพอีกโหมดนึง ซึ่งมีการปรับค่าไว้คนละอย่างกัน โดย Motionflow ในฝั่ง 3 มิติ นั้นจะมีด้วยกันสองแบบคือ Standard กับ Smooth

ถ้าอยากดู 3 มิติให้ได้ลึกและเร้าใจที่สุด ทีมงานแนะนำให้ดูในที่มืดสนิทจะดีที่สุดครับ

เริ่มแรกลองปรับเป็นแบบ Standard แล้วเล่นฉากเดิมซ้ำ อาการกระตุกที่พบตอนแรกลดลงอย่างเห็นได้ชัด คราวนี้ช่วยให้เราดูได้นานขึ้น มิติภาพลึกลอยนั้นทำได้ดีเสมอตัว Passive 3D ที่ให้ภาพลอยเด่นกระแทกตาคนดูอยู่ตั้งแต่ต้น พวกชิ้นส่วนเครื่องใช้ต่างๆ ที่ลอยกระจัดกระจายอยู่ในฉากเสมือนว่าเราจะสามารถสัมผัสมันได้จริง และเมื่อลองปรับ Motionflow ให้เป็น Smooth สิ่งที่ได้รับคือความลื่นไหลต่อเนื่องที่มากขึ้นกว่าแบบ Standard ทำให้ดูสามมิติได้สนุกขึ้นกว่าตอนปิดหลายเท่า ฉะนั้นแล้วถ้าดูภาพ 3 มิติแล้วไม่อยากจะเจอภาพสั่นผมก็ขอแนะนำให้ใช้ Motionflow เป็นแบบ Smooth จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าใครคิดว่าเปิดแล้วดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติก็ลดลงมาที่ Standard ได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามผมไม่แนะนำให้เลือกเป็น Off เพราะว่าจะทำให้เรามึนงงจากอาการภาพสั่นจนดูแล้วไม่สนุกได้ครับ

เสียง

มาถึงพาร์ทเกี่ยวกับเสียงที่เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะว่าการรับชมทีวีของหลายท่านอาจจะมีบางเวลาที่ขี้เกียจจะต่อชุดโฮมฯให้มันยุ่งยากเปลืองไฟ เกิดเปิดมาเจอลำโพงทีวีแบนๆ ฟังแล้วก็เสียอารมณ์หมดพอดี ฉะนั้นทาง Sony จึงติดตั้งลำโพง 10W+10W มาให้ โดยมีลักษณะตู้ที่พิเศษกว่าใครโดยจะมีท่อลมที่ค่อนข้างยาวม้วนขดตัวกันอยู่ภายใน ช่วยให้เสียงที่ได้มีความลึกและชัดเจนขึ้นอีกระดับ

ลักษณะตู้ลำโพงที่ออกแบบมาพิเศษ ที่มีชื่อเรียกว่า Bass Reflex Speaker ที่มาการวางท่อยาวขดไปขดมา

เราทดสอบฟังเสียงกันด้วยคอนเสิร์ตของวงดนตรีคันทรี่ร็อคอมตะตลอดกาล The Eagles – Farewell Tour โดยเลือกแทร็ค New Kid In Town ที่มีจังหวะเนิบๆ นาบๆ ไม่รุกเร้า เปิดฟังในโหมดเสียง Standard ก่อน เสียงที่ได้ดูนิ่งไม่มีรสชาติอะไรโดดเด่นออกมา เนื้อเสียงสุขุมไม่เปิดสว่างมากฟังดีฟังเพลินได้เรื่อยๆลองสลับสับเปลี่ยนโหมดเสียงไปมาก็มาโดนที่ Music ที่ฟังแล้วจะรู้สึกซู่ซ่า มีสีสันมากขึ้นกว่าฟังโหมด Standard เดิมๆ ส่วนถ้าใครชอบแบบใสๆ พุ่งๆ Compressed Audio ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี

โดยรวมแล้วระบบเสียงของ X8500B ตัวนี้จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีไม่อู้อี้ ใช้ฟังแก้ขัดหรือยามขี้เกียจต่อชุดโฮมฯได้ดี ถ้าเกิดว่าอยากได้เสียงที่มีความเซอร์ราวด์หน่อย ก็สามารถเลือกเปิดฟีเจอร์ Surround ได้ แต่นั่นจะทำให้เนื้อเสียงขาดการโฟกัส ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานแล้วล่ะครับผม ว่าชอบที่จะฟังเสียงแนวไหน

Standard, Cinema, Sports, Music, Game และ Compressed Audio โหมดเสียงทั้งหมดที่มีให้เลือกใช้งาน