Sony ถือว่าเป็นแบรนด์ต้นตำรับของเทคโนโลยี 4K จะเรียกได้ว่าทั้งอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์มีสินค้า Sony 4K เกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายวีดีโอแบบ 4K, จอมอนิเตอร์แบบ 4K, หนังความละเอียด 4K, โปรเจกเตอร์ 4K, จนกระทั่งทีวีแบบ 4K ที่กำลังเป็นมาตรฐานใหม่ในบ้านของเรา จะเรียกได้ว่า Sony เป็นผู้สร้าง “ระบบนิเวศน์ 4K” (4K Ecosystem) ที่สมบูรณ์ครบถ้วนที่สุดทั้งฮารด์แวร์และซอฟท์แวร์ จึงไม่แปลกหากจะบอกว่า Sony คือเจ้าตำรับ 4K อย่างแท้จริง สำหรับทีวีที่ได้มาทดสอบคือเจ้า Sony KD-65X9000B เป็นตัวท็อปของ Sony ในปีนี้ (จริงๆมีท็อปกว่านี้คือ KD-85X9500B ขนาด 85″ แต่ราคาเหยียบล้าน) มีการปรับปรุงทั้งคุณภาพของภาพ ระบบเสียงและดีไซน์ให้ล้ำขึ้นไปอีกขั้น บอกตามตรงว่าผมอยากทดสอบตัวนี้มากเพราะมีโอกาสทดสอบ 4K TV ของค่ายอื่นไปครบหมดแล้ว ก็เหลือเจ้าตัวนี้นี่แหละ จะได้รู้ดำรู้แดงว่าทีวี 4K ตัวไหนดีที่สุดในปีนี้ ? สนนราคาเปิดตัวก็ 189,990 บาท
Sony KD-65X9000B
- Resolution 3840 x 2160 (4K)
- 4K X-Reality Pro
- X-tended Dynamic Range
- Triluminos Display
- 2.2 Ch Magnetic Fluid Speaker
- Wedge Design
- HDMI x 4
- USB x 3
ดีไซน์
์Sony KD-65X9000B มีการออกแบบแบบ Wedge Design กล่าวคือตรงบริเวณด้านล่างของตัวเครื่องจะมีความหนาขึ้นมาหน่อยเพื่อรองรับการติดตั้งดอกลำโพงที่ต้องใช้พื้นที่ เพื่อให้คุณภาพเสียงที่ดีจริงได้ ส่วนฐานตั้งมีลักษณะเป็น “ขาคู่” สีโครเมี่ยม สามารถเลือกได้ว่าจะติดแบบ “แคบ” หรือ “กว้าง” ซึ่งถือว่าตอบโจทย์เรื่องชั้นวางทีวีของแต่ละบ้านที่มีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ถือว่าได้ใจผผมและทีมงานมาก เพราะชั้นวางทีวีที่ใช้กันอยู่มันตั้งแบบกว้างไม่ได้ ก็ปรับมาติดตั้งแบบ “แคบ” แทน ทีนี้วางได้พอดีเป๊ะและยังมั่นคงมากซะด้วย ตัวจอจะเป็นแผ่นกระจกใสเรียบหรูไปยังสุดขอบ คล้ายๆดีไซน์ Monolithic เมื่อซัก 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนไฮไลท์คือตัวลำโพงแบบ Magnetic Fluid Speaker พร้อมดอกลำโพงครบ 3 ย่านทั้งสูง กลาง ต่ำ บริเวณปีกซ้ายและขวาของทีวี หากท่านไหนเน้นเรื่องคุณภาพของเสียงคงชอบมิใช่น้อย (แต่ท่านไหนเห็นว่ามันแอบเทอะทะ ชอบแบบเรียบหรูไม่มีอะไรยื่นออกมาด้านข้างก็แนะนำลองดูรุ่น X8500B แทน) ตรงกลางด้านล่างโลโก้ Sony จะมีไฟแสดงสถานะเรืองแสงดูหรูสวยงาม ส่วนช่องต่อด้านหลังก็ให้ อุปกรณ์เสริมอย่าง Port Replicator หรือกล่องศูนย์รวมช่องต่อให้มา เหมาะมากหากท่านไหนติดตั้งทีวีแบบแขวน หรือขี้เกียจมุดหัวเข้าไปเสียบสายสัญญาณที่ด้านหลังของเครื่อง สามารถเชื่อมต่อสายสัญญาณอย่าง HDMI จากกล่อง Port Replicator เข้าตัวทีวีและยกหล่อง Port Replicator มาวางด้านหน้าทีวีแทน ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกการเชื่อมต่อได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องอ้อมหรือมุดไปข้างหลังเพื่อเสียบสายสัญญาณ โดยรวมแล้วดีไซน์ของ X9000B ให้ความสำคัญกับการ “การใช้งานจริง” โดยยัง “คงความสวยงามแบบพอดีๆ” ไว้อยู่
ช่องต่อ
สำหรับช่องต่อของ Sony X9000B Series ก็จัดจัดเต็มมาให้สไตล์ตัวท็อปทั้ง HDMI ถึง 4 (Version 2.0 แล้ว ปีที่แล้วยังเป็น 1.4 แล้วต้องอัพเกรดซอฟท์แวร์) ช่อง USB 2 ช่อง มีระบบ WiFi Built-In รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สาย ระบบจูนเนอร์ก็เป็นดิจิตอล ดูได้ทั้งดิจิตอลทีวีและอนาล็อกทีวี ซึ่งหากคิดว่ายังน้อยไปทาง Sony เองก็ใจปล้ำให้ตัวกล่อง Port Replicator หรือกล่องศูนย์รวมช่องต่อมาให้ ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งการที่เราไม่ต้องไปมุดเสียบสายสัญญาณให้เมื่อยหัว รวมถึงการเพิ่มจำนวนช่องต่อไปในตัวด้วย อนึ่งกล่อง Port Replicator คล้ายกล่อง One Connect ของ Samsung
- HDMI x 4
- USB 2.0 x 3
- AV x 2 (ใช้ร่วมกับ Component 1)
- Component x 1
- LAN x 1
- Antenna x 1
- Digital Audio Out x 1
- Audio Out x 1 (ใช้ร่วมกับช่องหูฟัง)
- Headphone Out x 1 (ใช้ร่วมกับ Audio Out)