20 Jul 2018
Review

รีวิว Sony HT-Z9F Soundbar สุดครบเครื่องที่มาพร้อมกับ Dolby Atmos และ DTS:X


  • tormoo

เสียงจากภาพยนตร์ก็ไปแล้ว เสียงจากคอนเสิร์ตก็ไปแล้ว เรามาต่อกันในไฟล์เพลงแบบเพียวๆ ไม่มีภาพมาเกี่ยวข้องกันบ้าง ซึ่งเป็นการเน้นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Sony HT-Z9F ในเรื่องของการเล่นไฟล์เสียงแบบ Hi-res และฟีเจอร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นี่เลย 2 ฟีเจอร์สำหรับการเล่นไฟล์เพลงที่เป็นจุดเด่นของ Sony HT-Z9F

1.Hi-Res Audio : จุดเด่นจุดแรกของ  Sony HT-Z9F  คือ สามารถเล่นไฟล์ที่มีความละเอียดระดับ Hi-Res สูงถึง 24bit/96kHz ซึ่งเป็นความละเอียดที่มากกว่าการฟังผ่านฟอร์แม็ต CD ตอบโจทย์ Audiophile ทั้งหลาย

2.DSEE HX: อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นเอกสิทธ์เฉพาะ Sony นั่นก็คือการปรับปรุงคุณภาพเสียงเพลงจากรูปแบบไฟล์ที่ผ่านการบีบอัดแบบที่มีการสูญเสีย (Lossy: MP3, AAC, etc.) ให้ดีขึ้น ใกล้เคียงกับมาตรฐาน Hi-Res

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Hi-Res Audio และ DSEE HX สามารถอ่านได้ที่นี่ครับ Hi-Res Audio และ   DSEE HX

ทดสอบเพลงแรก Hey Look Ma, I Made It จากศิลปิน Panic! At The Disco โดยอัลบั้มนี้เป็นรูปแบบ Hi-Res เรื่องของคุณภาพเสียงของไฟล์นั้นหายห่วง เมื่อทำการทดสอบกับ HT-Z9F ก็พูดอย่างเต็มปากว่า เสียงไม่ธรรมดา ใครที่เคยพูดว่าซาวด์บาร์ฟังเพลงไม่เพราะ ให้มาลองฟังได้เลย ย่านกลางและสูงที่ทำได้ไม่แหลมบาดหู เสียงนุ่มนวล แต่ก็ชัดเจน ย่านเสียงเบสนั้นออกมาพอดีไม่บวมหรือเบลอแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ควรให้ความสำคัญกับการปรับระดับเสียงของลำโพงซับวูฟเฟอร์ให้มีความสมดุลก่อน

ทดสอบกับไฟล์ Hi-Res ก็ถ่ายทอดเสียงออกมาอย่างดีเยี่ยม

หลังจากที่ทดสอบกับการเล่นเพลงแบบ Hi-Res กันไปแล้ว ก็ถึงคราวมาดูความสามารถของฟีเจอร์ DSEE HX ฟีเจอร์นี้จะช่่วยเพิ่มคุณภาพเสียงของไฟล์เพลงบีบอัดให้ได้ใกล้เคียงกับ Hi-Res สำหรับไฟล์ที่ใช้ทดสอบเป็นนามสกุล .MP3 กับเพลง No One Else Like You จากศิลปิน Adam Levine หนึ่งในเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Begin Again

เมื่อฟังเสียงผ่านฟีเจอร์ DSEE HX ผลที่ออกมาทำน่าพึงพอใจมาก แม้ว่าคุณภาพเสียงที่ได้จะยังแตกต่างจาก Hi-res แท้ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมจากการเติมเต็มบางย่านเสียงที่ขาดหายไป อาทิ เสียงย่านต่ำที่มีปริมาณกลมกล่อมขึ้น เพิ่มฐานเบสให้หนา ยิ่งไปกว่านั้นอาการเสียงแหลมจากไฟล์ MP3 มักมีการแกว่ง ปลายเสียงขาด ฟีเจอร์ DSEE HX ก็สามารถชดเชยอาการเหล่านี้ได้

ฟีเจอร์ DSEE HX เปลี่ยนไฟล์ .MP3 ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ฟังเพลงผ่าน Bluetooth ก็ยังมีฟีเจอร์ DSEE HX มาช่วยเพิ่มคุณภาพของเสียงให้ดีขึ้นแบบรู้สึกได้

ข้อแนะนำสุดท้ายกับการฟังเพลงประเภท Lossy รวมไปถึงการฟังผ่านทาง Bluetooth นั้น ทางเราขอแนะนำให้ เปิดฟีเจอร์ DSEE HX เพราะว่าฟีเจอร์นี้มีส่วนช่วยในการเพิ่มคุณภาพเสียงจากการรับฟังรูปแบบนี้ได้น่าสนใจ เสียงเพลงลื่นหูน่าฟังขึ้น ไม่จำกัดว่าต้องเป็นไฟล์ Hi-Res เท่านั้น

Conclusion – สรุป

ข้อดีของ  Sony HT-Z9F
1. คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมตอบรับการใช้งานทั้งรับชมภาพยนตร์ และฟังเพลง มีกำลังและมวลเสียงที่ใหญ่เกินตัวเหนือกว่าซาวด์บาร์ทั่วไป
2. การเชื่อมต่อครบครัน Wi-Fi,LAN, BluetoothLDAC และ USB
3. รองรับไฟล์แบบ Hi-Res และฟีเจอร์ DESEE HX ช่วยชดเชยคุณภาพเสียงไฟล์ประเภท Lossy ได้
4. ภาคถอดรหัสเสียงรอบทิศทางทั้ง Dolby Atmos, DTS:X
5. รองรับ Google Assistant และมี Chromecast Built-in มาให้ในตัว
6. Interface แสดงการตั้งค่าบนทีวี ไม่ว่าผู้ใช้มือใหม่-มือเก่า ก็ตั้งค่าได้ง่าย
7. ขนาดตัวเครื่องออกแบบมาให้พอดีกับทีวี Z9F โดยเฉพาะ แต่ทีวีรุ่นอื่นก็สามารถวางได้อย่างลงตัว
8. Vertical Surround Engine และ S-Force Pro Front Surround ช่วยขยายบรรยากาศเสียง เพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ได้

ข้อเสียของ  Sony HT-Z9F
1. พอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังมีความลาดเอียง ถ้าหากผู้ใช้งานใช้สาย HDMI ที่มีขนาดใหญ่อาจจะลำบากในการเสียบสายบ้างเล็กน้อย แนะนำให้จัดสาย HDMI ให้เรียบร้อยในขั้นตอนติดตั้ง หรือใช้สาย HDMI ที่มีขนาดเล็กลงก็จะเพิ่มความสะดวกในการเสียบสายได้เช่นเดียวกัน
2. ถ้าห้องที่ทำการติดตั้งมีขนาดใหญ่ เพดานห้องสูงเกินไป หรือการรับชมไม่อยู่ในตำแหน่ง Sweet spot จะทำให้ประสิทธิภาพของการถ่ายทอดเสียงเซอร์ราวด์จาก Vertical Surround Engine ลดลงไปบ้าง

สรุป
Sony HT-Z9F มีความโดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบ ขนาดของตัวเครื่องไม่กินพื้นที่ชั้นวาง พอเหมาะกับทีวี รองรับคอนเทนต์หลากหลายทั้งภาพยนตร์ และฟังเพลง หากเซ็ตอัพลงตัวจะให้ความเต็มอิ่มในทุกๆ ย่านเสียง และสามารถถอดรหัสเสียง Dolby Atmos และ DTS:X สร้างความโอบล้อมของเสียงที่โดดเด่นแตกต่างจากซาวด์บาร์ทั่วไป รองรับไฟล์เสียงแบบ Hi-Res และยังมีฟีเจอร์ DESEE HX ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงไฟล์ประเภท Lossy แถมยังมี LDAC ที่สามารถเล่นเพลงแบบคุณภาพสูง ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ เท่านั้นยังไม่พอ มี Chromecast Built-in และ รองรับ Google Assistant ครบครันทุกความบันเทิงตามใจต้องการ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกสบายในการติดตั้ง และผู้ใช้งานที่มีพื้นที่จำกัด ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์การรับฟังเสียงที่ใกล้เคียงกับชุด Home Theater เต็มรูปแบบ

ราคาเปิดตัว 26,990 บาท

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.25
เสียง (Sound)
8.75
ลูกเล่น (Features)
9.00
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.50
ความคุ้มค่า (Value)
8.50
คะแนนตัดสิน (Total)
8.60

คะแนน Sony HT-Z9F

8.6

*มาตรฐานคะแนนประจำปี 2018*